หนี้มีพันธะถึงลูกเมียไหม เมื่อเราเสียชีวิต

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1374 โดย Champcyber99

nikom เขียน: ถ้าโดนฟ้องแล้วสู้ ก้อาจชนะแค่ค่าดอกที่เกินกำหนด เพราะไม่มีเงินเก็บให้ H/C รายจ่ายต่อเดือนมาก ลูกเรียน 3 คน ม.5 ม.1 ป.4 เมียตกงาน ตอนนี้กลุ้มมาก นอนไม่หลับเลย คิดถึงวันเก่าๆที่จนๆ ดีกว่ามีหนี้

การไปศาลไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว เมื่อมีหนี้แล้วเราไม่มีจ่าย หรือตกลงประนอมหนี้ก็ไม่ได้ Hair-Cut เจ้าหนี้ก็ไม่เอาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วครับสำหรับเจ้าหนี้และลูกหนี้พึ่งศาลกันอย่างเดียวสิ่งที่ลูกหนี้บัตรเครดิตส่วนใหญ่ไม่รู้ก็คือ นับแต่วันแรกที่เราเบี้ยวไม่จ่าย เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องร้องได้ภายระยะเวลา 2 ปีครับ เลยจากนี้จะฟ้องก็ยังฟ้องได้อยู่แต่โอกาสยกฟ้องก็มีโอกาสสูง เพราะคดีหมดอายุความก่อนจะหยุดจ่ายจดจำวันสุดท้ายหรืองวดสุดท้ายที่เราจ่ายออกไปเพราะหากฟ้องหลังคดีหมดอายุความแล้วใช้ประเด็นนี้ตั้งต้นก่อนนะครับว่าเป็นหนี้แล้วถูกฟ้องมันเป็นคดีแพ่งไม่ใช้คดีอาญาคดีแพ่งไม่มีติดคุกครับสบายใจตรงนี้ก่อน(ไม่เกี่ยวกับตำรวจ) การถูฟ้องไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายก็ดีอย่างที่ชัดเจนแจ่มแจ้งเลยคือการดึงเวลาครับซื้อเวลาได้พักใหญ่นั่นเองการซื้อเวลาให้มองในแง่ดีครับเพียงแต่ของมีเวลาตั้งหลักจะหาเงินมาใช้หนี้หรือหาเงินไว้เพื่อเป็นทุนของครอบครัวไว้ใช้จ่ายต่อฉุกเฉินได้อีกถ้าหมายศาลมาถึงบ้านเราแล้วทำอย่างไรดีเราต้องไปศาลครับในเมื่อไหนๆๆก็ไหนแล้วหมายศาลมาถึงห้องนอนถ้านิ่งเฉยนิ่งเฉยเท่ากับเราแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้วครับบางคนบอกว่าไม่อยากสู้ไม่อยากเสียค่าทนายมองในแง่ดีไว้ก่อนที่เราต้องไปศาลอันนี้เผื่อฟลุ๊คครับกรณีขาดอายุความคือเรื่องผ่านมาแล้วสองปีอันนี้ส้มหล่นครับเพราะเรามีสิทธิ์ร้องให้ศาลยกฟ้องได้เลยเพื่อเราไปเรียกร้องความถูกต้องของยอดหนี้บางครั้งยอดหนี้ฟ้องไม่ถูกต้องคือฟ้องมากเกินความเป็นจริงเกิดขึ้นได้นะครับเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับศาลให้พิจารณาในเรื่องดอกเบี้ยเพื่อเจรจาขอประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลหรือสัญญาผ่อนเมื่อถึงบัลลังก์ศาลแล้วส่วนใหญ่ถึงเวลาที่เจ้าหนี้ของเราจะมีข้อเสนอครั้งสุดท้ายมานำเสนอเราทันทีเลยว่าจะลดให้เราเท่าไหร่ผ่อนกี่เดือนแน่นอนครับที่เจ้าหนี้นำเสนอเพราะต้องการให้เคสจบครับหรือปิดคดีให้เร็วที่สุดเพราะอย่าลืมว่าคดีเหล่านี้มีมากจนคนไม่พองานถ้าเราตกลงก็จบครับถ้าไม่ตกลงก็เท่ากับว่าเปิดศึกรบแล้วครับสู้กันยาวนัดสืบพยานกันต่อไปแต่ก่อนจะถึงหน้าศาลนี้มีการตกลงกันที่เรียกว่าตกลงนอกศาลอีกครับก็คนของแบงค์ก็เดินเร่ขายหรือมานำเสนอส่วนลดหน้าห้องพิจารณาคดีให้เราอีกครั้งหนึ่งถ้าเราอยากจบเร็วๆๆก็จะมาตายตรงนี้กันเยาะเพราะเราได้ส่วนลดที่เราพอใจมากๆๆถ้าเราตกลงตรงนี้ก็เซ็นเอกสารยอมความกันไปเราทราบข้อดีแล้วข้อเสียถ้าเราไม่ไปศาลก็จบเลยครับจบจริงๆๆเพราะว่าศาลก็จะตัดสินคดีตามคำฟ้องที่เจ้าหนี้ยื่นศาลมาทั้งหมด เจ้าหนี้เขียนดอกเบี้ยค่าปรับมาเท่าไหร่เราก็ต้องจ่ายเท่านั้นถ้าเราไม่ไปศาลเราจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เราเสียเปรียบทันทีครับ กฎหมายแพ่งไม่มีการขังคุกโทษสูงสุดคือฟ้องล้มละลาย(กรณีมีมูลหนี้เกิน1ล้านบาท) คดีแพ่งเมื่อจำเลยไม่ไปศาลศาลจะตัดสิทธิ์จำเลยยกผลประโยชน์ให้โจทก์(เพราะจำเลยเพิกเฉยหมายศาล)เมื่อเรื่องถึงศาลแล้วดอกเบี้ยหยุดคิดต่อไม่ได้ โอกาสที่เกิดขึ้นได้เมื่อเราสู้คดีและให้ศาลตัดสินจนถึงที่สุดมี 3 ทาง 1. ลูกหนี้ชนะไม่ต้องจ่าย 2. เจ้าหนี้ชนะลูกหนี้ต้องชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่ศาลสั่ง 3. เจ้าหนี้ชนะลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ได้ตามเงื่อนไขที่ศาลสั่ง เจ้าหนี้ดำเนินการบังคับคดีทำได้ 2 รูปแบบคือ 1. ยึดทรัพย์ 2. อายัดเงินเดือน(มีอายุความบังคับได้ 10 ปี)
ไม่มีคำว่าสายในการคิดเริ่มต้นใหม่

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1608 โดย มิ้งมิ้ง
ผมรับเงินเดือนผ่านแบงค์กสิกร แต่ในสัญญาผมระบุจ่ายเป็นเงินสด
ถ้าจ่ายหนี้ช้าเลยวันกำหนดสัก 1 เดือน เค้าสามารถหัก บ/ช ตอนเงินเข้าได้ไหม
-กสิกร บัตรกดเงินสด กู้ 20000 (จ่ายขั้นต่ำ 2,000)
-กสิกร บัตรรูดซื้อ+กดเงินสด กู้ 20000 (กดเงินสดแล้ว 20000) (จ่ายขั้นต่ำ 2,000)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1610 โดย Champcyber99

nikom เขียน: ผมรับเงินเดือนผ่านแบงค์กสิกร แต่ในสัญญาผมระบุจ่ายเป็นเงินสด
ถ้าจ่ายหนี้ช้าเลยวันกำหนดสัก 1 เดือน เค้าสามารถหัก บ/ช ตอนเงินเข้าได้ไหม
-กสิกร บัตรกดเงินสด กู้ 20000 (จ่ายขั้นต่ำ 2,000)
-กสิกร บัตรรูดซื้อ+กดเงินสด กู้ 20000 (กดเงินสดแล้ว 20000) (จ่ายขั้นต่ำ 2,000)

โดยตามหลักของกฏหมายแล้ว เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์อายัด เงินเดือน , เงินฝาก , หรือเงินใดๆ ของลูกหนี้ได้เลย...หากยังไม่มีการฟ้องร้องกันในชั้นศาลจนถึงขั้น “ศาลพิพากษา” แล้ว...หากฝ่ายลูกหนี้ยังคงเพิกเฉยหรือดื้อแพ่งต่อคำพิพากษาของศาล ทางฝ่ายเจ้าหนี้ก็ต้องเอาเอกสาร “คำพิพากษา” ของศาลฉบับนี้ ...ไปยื่นคำร้องต่อหน่วยงานราชการที่มีชื่อเรียกว่า “กรมบังคดี” เพื่อให้ทำการ อายัดเงินเดือน , อายัดทรัพย์สิน , อายัดใดๆ ของลูกหนี้ที่ถือครองอยู่...โดยจะไม่เกี่ยวข้องกับศาลอีกต่อไปแล้ว เพราะหน้าที่ของศาลได้เสร็จสิ้นลงตั้งแต่มี “คำพิพากษา” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แล้วมันเกิดเหตุการณ์ที่เจ้าหนี้ มันอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้อย่างไร?...ทั้งๆที่เพิ่งหยุดจ่ายมาแค่ไม่กี่เดือน ยังไม่เคยโดนฟ้องเลย , ยังไม่เคยถูกพิพากษาเลย , ไม่เคยได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของ “กรมบังคับคดี” เลยสักครั้ง...แล้วมันทำได้ด้วยหรือ?

จากประสบการใน “วงการหนี้” ที่ผ่านมาหลายปี...ยอมรับครับ ว่าเคยมีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นจริง , หลายครั้ง , หลายหนที่ผ่านมา โดยการกระทำที่ละเมิกฏหมายของฝ่ายเจ้าหนี้ดังกล่าว จะกระทำก็ต่อเมื่อเข้ากฏเกณฑ์เงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ลูกหนี้คนนั้น เป็นหนี้แล้วไม่ยอมชำระ โดยที่ฝ่ายเจ้าหนี้เป็นสถาบันการเงินที่มีการรับโอนเงินเดือนของลูกหนี้ ผ่านระบบบัญชีของสถาบันการเงินนั้นๆ
- ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ (ไม่ยอมจ่ายหนี้) ตั้งแต่ประมาณ 2 – 3 เดือนขึ้นไป...ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อก็ตามแต่...มีสิทธิ์โดน “ดูด” เงินเดือน พร้อมทั้งเงินฝากที่มีอยู่ในบัญชี ทั้งหมด เพื่อนำไปหักชำระหนี้ที่ค้างชำระอยู่ทันที
สถาบันการเงินที่มีการกระทำละเมิดกฏหมายแบบชั่วๆอย่างนี้...จากสถิติที่รวบรวมมาได้ ก็คือ ธนาคารที่ใช้สัญลักษณ์เป็นรูป “ดอกบัวเน่า” ซึ่งจัดว่าเป็นสถาบันการเงิน ที่ครองแชมป์ความชั่วเช่นนี้เป็นอันดับหนึ่ง (ส่วนมากลูกหนี้จะ “โดน” แทบทุกราย ไม่เคยรอด)
ส่วนสถิติรองๆลงมา (ซึ่งพอมีบ้างประปราย)...ก็จะเป็นสถาบันการเงินที่เป็นพวก ธนาคารต่างๆ ที่ใช้ชื่อธนาคารแบบไทยๆ โดยคนไทย , เพื่อคนไทย , และก็ “ดูด” เงินเดือนของคนไทยด้วยกันเอง เพื่อเอาไปหักหนี้แบบไทยๆ

สำหรับสถาบันการเงินที่เป็นพวก ธนาคารต่างๆ ที่ใช้ชื่อธนาคารเป็นภาษาต่างชาติ โดยคนต่างชาติ , เพื่อคนไทย , แต่ก็ “ดูด” เงินเดือนของคนไทยเหมือนกัน...กลับพบว่ายังไม่เคยมีการแจ้งข้อมูลถึงการกระทำดังกล่าว...แต่! ...อย่าเพิ่งชะล่าใจไป ที่ผมบอกไปว่า “ยังไม่เคยได้มีการแจ้งข้อมูลถึงการกระทำดังกล่าว”...ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะไม่เคยทำนะครับ เพียงแต่ว่าผมหมายถึงว่า "ยังไม่เคยได้รับแจ้งให้ทราบ" เท่านั้น...อาจจะเคยมีการทำไปแล้วแต่ไม่ได้มีการร้องเรียนมาที่ผมก็ได้ หรืออาจเป็นเพราะธนาคารต่างชาติพวกนี้ ไม่เป็นที่นิยมจากบริษัท"นายจ้าง"ในประเทศไทย ที่จะมอบหมายความไว้วางใจในการโอนเงินเดือนของ"ลูกจ้าง"ในบริษัทของตนเอง ให้ไปเข้าฝากในบัญชีของธนาคารต่างชาติเหล่านั้น ก็เป็นได้...จึงมักไม่ค่อยมีการร้องเรียนการกระทำละเมิดกฏหมายแบบชั่วๆเช่นนี้

มีบางคนถามว่า...อ้าว!...แล้วกระกระทำชั่วๆของฝ่ายเจ้าหนี้แบบนี้ มันเป็นการละเมิดกฏหมายชัดๆ แล้วมันไม่ผิดเหรอครับ? เพราะศาลก็ยังไม่ได้พิพากษาเลย แล้วอีกอย่าง การที่จะอายัดเงินเดือนของลูกหนี้นั้น...ตามกฏหมายเขาให้อายัดได้แค่ 30% ของเงินเดือนเท่านั้นนี่ครับ แถมผู้ที่จะสามารถออกคำสั่งให้อายัดได้ ก็คือ “กรมบังคับคดี” เท่านั้นไม่ใช่หรือครับ? ถ้าเป็นคนอื่นหรือหน่วยงานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายเจ้าหนี้ , ศาล , ตำรวจ ฯลฯ...ก็ไม่มีอำนาจในการ “ออกคำสั่งอายัด” มิใช่เหรอครับ?...แล้วอย่างงี้ มันทำได้ยังไง?
อะแฮ่ม...ขออนุญาตตอบนะครับ...ที่คุณกล่าวถามมาทั้งหมดนั้น คุณเข้าใจถูกต้องหมดเลยครับตามข้อกฏหมาย

แต่เรื่องของเรื่องมันอยู่ที่ว่า ไอ้ฝ่ายเจ้าหนี้มันเสือกไม่ยอมปฏิบัติตามข้อกฏหมายน่ะสิครับ...นี่แหละคือปัญหา

ถามว่าไอ้ฝ่ายเจ้าหนี้มันรู้ถึงข้อกฏหมายเหล่านี้ไหม?...แท้ที่จริงแล้ว มันรู้เสียยิ่งกว่ารู้ซะอีก แต่ตามสันดานของมันที่คิดจะเอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว กลับคิดไปเองว่า “ตูก็รู้อยู่ว่าการกระทำแบบมันผิดกฏหมาย แต่ตูจะทำอ่ะ ใครจะทำไม? ก็ลูกหนี้อยากไม่จ่ายหนี้ตูเองนี่หว่า ตูก็ต้องใช้วิธีสกปรกแบบนี้แหละวะ ถ้าลูกหนี้อยากได้เงินเดือนที่ตูยึดเอาไว้คืน...ก็ไปฟ้องศาลเอาเองสิโว้ย”

ไอ้ความคิดชั่วๆแบบนี่แหละครับ ที่เป็นต้นตอของปัญหาเหล่านี้

ถามต่อไปอีกว่า...ก็ในเมื่อมันทำผิดกฏหมายอย่างนี้ เราสามารถฟ้องมันเพื่อเอาเงินเดือนที่มันยึดไว้คืน...จะทำได้ไหมครับ?
ขอตอบว่า...ได้สิครับ ฟ้องแล้วยังไงฝ่ายลูกหนี้ก็ชนะคดีอยู่แล้วแหละ...แต่ผู้ที่จะ “เจ็บตัว” มากกว่าในระหว่างที่ฟ้อง จะเป็นฝ่าย “ลูกหนี้” เองนะครับ

ขอสมมุติเหตุการณ์แบบเข้าใจง่ายๆมาให้ดูซักตัวอย่างนึงก็แล้วกัน

นายพอเพียงทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง โดยบริษัทนี้ได้จ้างนายพอเพียงเป็นเงินเดือน 30,000 บาท และได้ให้นายพอเพียงไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ของ ธนาคาร กะ-ลุ๊ก-ปุ๊ก-ไทย เพื่อที่จะได้โอนเงินเดือนของนายพอเพียง ผ่านทางระบบธนาคารตามที่บริษัททั่วๆไปเขาทำกัน

นายพอเพียง เคยทำบัตรเครดิตไว้กับธนาคาร กะ-ลุ๊ก-ปุ๊ก-ไทย โดยได้นำบัตรดังกล่าวไปใช้สอยต่างๆตามปกติ โดยนายพอเพียงได้มีการชำระหนี้ (เป็นการชำระแบบขั้นต่ำ หรือแบบผ่อนชำระ) กับทางบัตรเครดิตด้วยดีเสมอมา

แต่ต่อมาบริษัทที่นายพอเพียงทำงานอยู่ ประสพปัญหาสภาวะเศรษฐกิจ ทางบริษัทจึงจำเป็นต้องใช้มาตราการลดเงินเดือนของลูกจ้างประมาณ 30% เพื่อ ให้บริษัทสามารถประคองตัวอยู่รอดได้...ดังนั้น เงินเดือนของนายพอเพียงจึงถูกลดลงมาเหลือเพียง 20,000 บาท

เมื่อนายพอเพียงถูกลดเงินเดือนลงมา จึงส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้บัตรเครดิตของนายพอเพียงไปด้วย จนไม่สามารถชำระได้แม้กระทั่งการจ่ายขั้นต่ำ เพราะนายพอเพียงยังมีภาระที่ต้องผ่อนบ้านและรถยนต์อยู่อีก ดังนั้นนายพอเพียงจึงหยุดจ่ายชำระหนี้บัตรเครดิตของธนาคาร กะ-ลุ๊ก-ปุ๊ก-ไทย มาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว โดยมีหนี้ค้างชำระในบัตรเครดิตเป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท

พอถึงเดือนที่ 4...วันเงินเดือนออก นายพอเพียงไปกดเงินที่ตู้ ATM กลับพบว่า “เงินในบัญชีเป็นศูนย์”...สอบถามได้ความว่าทางฝ่ายเจ้าหนี้ ก็คือธนาคาร กะ-ลุ๊ก-ปุ๊ก-ไทย ได้ทำการ “ดูด” ยึดเงินที่มีอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ของ ธนาคาร กะ-ลุ๊ก-ปุ๊ก-ไทย ไปซะจนหมดเกลี้ยงเลย

นายพอเพียงรีบโทรติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อขอให้โอนเงินกลับคืนมา...แต่คำตอบที่ได้ก็คือ “ทางธนาคารของเรา มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการดังกล่าวได้โดยถูกต้อง เพื่อไปหักชำระหนี้ที่ค้างชำระอยู่ หากทางคุณพอเพียงคิดว่ามันไม่ยุติธรรม ก็ขอเชิญคุณพอเพียงไปฟ้องร้องต่อศาลได้เลย”

หากนายพอเพียงนำเรื่องดังกล่าวนี้ไปฟ้องต่อศาลคดีผู้บริโภค ทางฝ่ายธนาคารมันก็ต้องฟ้องแย้ง(ฟ้องกลับ)แน่ๆ โดยกล่าวหาว่านายพอเพียงเป็นหนี้ค้างชำระอยู่เป็นจำนวน 80,000 บาท แล้วไม่ยอมจ่าย จึงขอให้ศาลช่วยพิพากษาให้นายพอเพียงชำระหนี้คืนให้ด้วย...ซึ่งแน่นอนครับ...ศาลท่านคงพิพาก���าออกมาในแนวทางประมาณว่า “พิพากษาให้ทางธนาคารฯ คืนเงินที่ยึดมาโดยมิชอบด้วยกฏหมาย คืนให้กับนายพอเพียงตามจำนวนทั้งหมด โดยกำหนดให้ทางธนาคารต้องปฏิบัติตามคำสั่งพิพากษานี้ภายใน 15 วัน นับจากวันพิพากษา

และพิพากษาให้นายพอเพียงต้องชดใช้หนี้คืนให้กับทางธนาคารฯ เป็นเงินจำนวน 80,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ xx ต่อปี นับจากวันที่พิพากษานี้เป็นต้นไป โดยกำหนดให้นายพอเพียงต้องปฏิบัติตามคำสั่งพิพากษานี้ภายใน 15 วัน นับจากวันพิพากษาเช่นกัน”

จะเห็นได้ว่า หากนายพอเพียงนำเรื่องนี้ไปฟ้องต่อศาลคดีผู้บริโภค ก็จะชนะคดีตามที่ศาลสั่ง...แต่สิ่งที่นายพอเพียงจะต้อง “เจ็บตัว” ก็คือ
- ช่วงที่นายพอเพียงโดนธนาคาร “ดูด” เงินออกไปจนเกลี้ยงบัญชี...แล้วนายพอเพียงจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายเป็น ค่าผ่อนบ้าน , ค่าผ่อนรถ , ค่าน้ำ , ค่าไฟฟ้า , ค่าเดินทาง และค่ากินอยู่ต่างๆ (จะพูดว่า ตังค์จะ "แ-d-ก" ก็ยังไม่มีเลย ก็ว่าได้)
- เนื่องจากคดีต่างๆ ที่รอการพิจารณาอยู่ในศาลผู้บริโภค มีปริมาณมากมายมหาศาล ณ.ปัจจุบัน หากนายพอเพียงนำเรื่องขึ้นฟ้องต่อศาล ก็จะต้องรอจนกว่าศาลจะพิจารณคดีให้แล้วเสร็จ จนเป็นกลายเป็น “คำพิพากษา” ออกมา...ซึ่งกว่าจะถึงกระบวนการนั้น...หากทางฝ่ายธนาคารแกล้งใช้วิธี “เตะถ่วงคดี” ให้มีการเลื่อนพิจารณาคดีออกไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะในขั้นตอนการไกล่เกลี่ย หรือในขั้นตอนการสืบพยานก็ตาม...จะทำให้การพิจารณาคดีนั้น ยืดเยื้อนานออกไปอีก อาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี
- ในระหว่างที่กระบวนการของศาลยังยืดเยื้ออยู่นี้ ทางธนาคาร กะ-ลุ๊ก-ปุ๊ก-ไทย มันก็ยังคงทำการ “ดูด” ยึดเงินเดือนในบัญชีออมทรัพย์ไปเรื่อยๆ ทุกๆเดือน (จนกว่าจะหมดหนี้ เงินต้น+ดอกเบี้ย) ดังนั้น...แค่มันดูดเงินเดือนของนายพอเพียงไปทุกๆเดือน เดือนละ 20,000 บาท เพียงแค่ 4 – 5 เดือนก็หมดหนี้ 80,000 บาท+ดอกเบี้ย แล้วล่ะครับ...แล้วในช่วง 4 – 5 เดือนที่ว่านี้...นายพอเพียงจะเอาตังค์ที่ไหนมาหา "แ-d-ก" ล่ะ?

นี่แหละครับ...สิ่งที่ผมอยากจะอธิบายให้เห็นถึงความหมายที่ว่า...ลูกหนี้จะต้องเป็นฝ่ายที่ “เจ็บตัว” มากกว่า
ขอบคุณกระทู้ดีๆๆของท่านประธาน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1611 โดย Skynine

nikom เขียน: ผมรับเงินเดือนผ่านแบงค์กสิกร แต่ในสัญญาผมระบุจ่ายเป็นเงินสด
ถ้าจ่ายหนี้ช้าเลยวันกำหนดสัก 1 เดือน เค้าสามารถหัก บ/ช ตอนเงินเข้าได้ไหม
-กสิกร บัตรกดเงินสด กู้ 20000 (จ่ายขั้นต่ำ 2,000)
-กสิกร บัตรรูดซื้อ+กดเงินสด กู้ 20000 (กดเงินสดแล้ว 20000) (จ่ายขั้นต่ำ 2,000)




แต่หากว่าคุณกังวลนะ พี่อังแนะนำนะจะทำตามหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจ ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่สามารถอายัดเงินเราได้ หากศาลท่านยังไม่ตัดสิน แต่พวกเจ้าหนี้มันเป็นเสือซ่อนเล็บ อย่างไรถ้าคุณจ่ายมันขั้นต่ำได้ก็จ่ายไปและไม่ต้องกดมาใช้อีกนะ จะได้ปลดหนี้ไปเลย หมดศัตรูไปอีกเปลาะหนึ่ง แต่ว่าหากไม่ไหวจริงๆ ต้องเล่นเกมกด กดเงินออกมาให้หมดในวันเงินเดือนออก มันมีอยู่ประมาณ 2-3 แบงก์ที่ชอบดูดเงิน

ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆๆ พี่อัง สวยประหาร

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1625 โดย ntps
:( อยากบอกว่า แม้คุณนิคมคิดจะตาย คุณอาจไม่ได้ตายดั่งใจคิดนะค่ะ
คงแล้วแต่เวรกรรมที่ทำมาค่ะ ใช่ว่า จะตายกันง่ายๆๆ แต่เวลานี้คุณควร
ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างดีที่สุดกับคนที่คุณรัก ลูกๆๆ ค่ะ (เมีย ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ารักหรือไม่ค่ะ)
และอีกอย่าง การฆ่าตัวตายถือว่าเป็นบาปกรรมนะค่ะ มีอีกหลายชีวิตที่เขามี
หนี้มากมาย แต่ไม่มีบ้าน ตกงาน ไม่มีทรัพย์สินให้ยึด เขายังอยู่ได้ คุณก็ต้องอยู่ได้ค่ะ


จากข้อมูลรายจ่ายของคุณ คิดว่า น่าจะลดได้นะค่ะ เช่นค่าไฟ ประหยัดลงกว่านี้
ได้ไหมค่ะ เช่น เปิดใช้เฉพาะที่คนอยู่รวมกัน เพราะค่าบ้านก็คิดว่าถูกแล้ว ค่าเรียน
ลูกก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วมังค่ะ ควรบอกความจริงกับลูกๆ เพื่อพวกเขาได้มีส่วน
ร่วมสู้ด้วยกันค่ะ ไม่ใช่เพื่อให้เขารับภาระ แค่เสียสละบ้างในช่วงหนึ่งของชีวิตที่
วิกฤติ แล้วเมื่อผ่านไป พวกเขาจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนเดิมค่ะ
คุณทำทุกอย่างเพื่อเขามามาก เขาก็โตพอจะรับรู้ว่า ไม่ใช่ความผิดของใคร
การเป็นหนี้ ไม่ใช่อาชญากรค่ะ

ส่วนหนี้บัตรในระบบ อยากให้ใช้วิธี ที่ 2 หยุดหมดค่ะ เก็บเงินไว้แล้วรอจ่ายทีละบัตร
จะคุ้มกว่านะค่ะ อย่าตั้งความหวังกับเงินอนาคตให้มากนักนะค่ะ ถ้าไม่มีเงินตรุษจีน
ขึ้นมา คุณอาจช๊อกค่ะ เช่นกับดิฉันที่ไม่เคยคิดว่า บริษัทฯ จะแย่ขนาดไม่มีเงิน
เดือนขึ้นและโบนัส จนล้มทั้งยืนมาแล้วค่ะ


ส่วนอายัดหลังลูกหนี้เสีย ถ้าบ้านชื่อคุณเป็นเจ้าของนะถูกยึด แต่ไม่ใช่เป็นแค่ผู้อาศัย
ก็รอด แต่ให้เจ้าบ้านยืนยันนะค่ะ และถูกต้องสำหรับเงินสงเคราะห์กรณีตาย และค่า
ทำศพจากประกันสังคมถือเป็นมรดก ดังนั้น เจ้าหนี้มายึดได้เท่ากับมูลหนี้ตามที่บอกค่ะ

สำหรับกสิกรไทย ยังไม่มีข่าวว่ายึดเงินในบัญชีเงินฝาก ถ้าไม่จ่ายหนี้ค่ะ แต่เอาอะไร
แน่นอนไม่ได้ คุณอาจเป็นรายแรกก็ได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยไร้กังวล ควรรับเป็น
เงินสดค่ะ

เสนอว่า คุณควรเล่าปัญหาให้เจ้านายฟังนะค่ะ แล้วค่อยๆคิดแก้หนี้ไปทีละขั้นค่ะ
เวลานี้ คุณควรดูแลลูก ทำเพื่อลูกไม่เสียดายค่ะ เมียปล่อยไปเถิด ถ้าเขาเป็นของ
คุณ เขาไม่ไหนไกลหรอกค่ะ คิดบวกนะค่ะ

การอายัด จะมาหลังจากคุณถูกฟ้อง และยังอีกไกลค่ะ ถ้าจะถูกอายัด ก็สามารถขอ
ลดหย่อนจาก 30% เหลือ ไม่ต่ำกว่า 15% ได้ เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นต้น

ขอให้นอนหลับให้สบาย ทำงานให้ได้โอทีมากๆ แล้วกันนะค่ะ


มีอะไรอยากเล่าก็เล่านะค่ะ เรายินดีรับฟังคุณเสมอค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1627 โดย ntps


ขอฝากข้อคิดดีจากท่าน ว วชิรเมธีนะค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Bphatt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1628 โดย ntps

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Bphatt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1630 โดย มิ้งมิ้ง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1631 โดย มิ้งมิ้ง
เรื่องขอให้ศาลช่วยลดเรื่องดอกเบี้ย ผมสามารถเขียรคำร้องเองได้ไหม แบบว่าทั้งหมดนี้ผมไม่มีทนาย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1632 โดย ntps
การจะถูกฟ้องหรือไหม ไม่มีใครรู้ค่ะ เจ้าหนี้จะฟ้องคุณเขาต้อง
คิดว่า คุ้มไหมค่ะ เพราะเขาเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียม จ้างทนาย
หากเมื่อใดที่คุณได้หมายศาล คุณสามารถนำมาปรึกษาเราได้ค่ะ
ที่สวนลุมนะค่ะ การไปศาลคดีแพ่ง(บัตรเครดิต))คือไปเจรจาค่ะ
กับโจทก์ไม่ใช่ศาลค่ะ ถ้าคุณคุยกับเขา แล้วเขายอมรับเงื่อนไข
คุณก็จบ เซ็นยอมความกัน หรือคุณอาจจบกับเขาก่อนไปศาล
ก็ได้ค่ะ แต่ขอให้มีหนังสือจากเขายืนยันจบหนี้ค่ะ
ส่วนที่จะสู้เรื่องดอกเบี้ย คุณต้องเขียนคำให้การค่ะ และเขียนโดย
ทนายอาชีพ เราเขียนได้แต่คนละภาษาค่ะ เรามีคุณอาที่เป็นทนาย
คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือ เรื่องเงินไม่ต้องห่วงค่ะ ถ้าคุณอาคิดว่า
สมควรยื่นคำให้การ ก็จะจัดการให้ค่ะ ประมาณเจ้าละ 3000บาทค่ะ
แต่บอกว่า ไว้คุยเมื่อมีก็ได้ค่ะ
การไปศาล สามารถหาอ่านได้นะค่ะ ในกระทู้ปักหมุดของชมรมค่ะ
อีกนานอย่าไปเครียดก่อนเกิดค่ะ ตอนนี้คุณตัดสินใจหยุดหรือยังค่ะ
ไปทีละก้าวนะค่ะ ทำใจให้สบาย เพื่องานและลูกค่ะ ปลดหนี้ไม่ยาก
ขอแค่อดทน อดออม อดกลั้นค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1648 โดย มิ้งมิ้ง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1669 โดย ntps


ดีใจ ^^ ที่คุณคิดที่จะสู้ค่ะ ต่อรองไปเรื่อยๆ ค่ะ เมื่อคุณหยุด
อย่าลืมเติมภูมิคุ้มกันมารเจ้าหนี้นะค่ะ ด้วยการอ่านค่ะ เรามี
ห้องเล่าชาวหนี้ เข้าไปอ่านบ้างนะค่ะ ขอให้อดทนกับเสียงนก
เสียงกาให้ได้ค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1686 โดย มิ้งมิ้ง
อีกเรื่องผมลืมเล่า บัตรรูดซื้อที่กดเงินสดได้ของกสิกร วงเงิน 20000 ตอนนั้นผมไปกดแต่ตังค์ไม่ออก กดครั้งละ 3000 บ. 3 ครั้ง ตู้บอกขออภัยเครื่องขัดข้องทั้ง 3 ครั้ง ผมรับโทรไปแจ้ง (รอสายนานมาก) เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบอกว่าเครื่องมันล็อค อีก 10 นาทีไปกดใหม่ได้ปลดล็อคแล้ว ผมไปกดใหม่เป็น 5000 ได้ตังค์ครับ
แต่ที่แย่จริงๆ คือใบเรียกเก็บเงิน แจ้งมี 3 พัน 3 ครั้งรวมอยู่ด้วย ผมก็โทรไปอีก (รอสายนานมาก) เค้าบอกให้จ่ายเท่าที่กดมาก่อน พองวดต่อไปก็ยังแจ้งยอดรวม 3 พัน 3 ครั้งอีก โทรไปเค้าบอกว่าต้องให้เราไปแจ้งความ ไปแจ้งความแล้ว เอาใบแจ้งไปให้ที่ ธ.กสิกรสาขาเดอะมอล์ล ก็ให้ผมไปแจ้งใหม่ต้องที่มีตราครุฑ ผมก็ไปอีก ต้องรอยศใหญ่ทำให้อีก เหนื่อยจริงไปกลับรถเมล์ลด้วย รอเรื่องอีกเป็นเดือน ธ.โทรมาให้ผมไปดู vcd ที่ ส.น.หลักสอง แผ่นน่าจะมาถึง 15 ม.ค. 54 ผมโทรไปแผนกกล้องถามเค้าว่าทำไมไม่ดูไปเลยว่าผมได้เงินหรือเปล่า เค้าบอกว่ากล้องจับไม่เห็นอะไร เห็นแต่หน้า ผมเซ็งมากไเลย เงินจะใช้หนี จะกินก๊แทบไม่รอด ผมจะทำอย่างไรดีกับยอด 9000 ที่ผมได้ได้แต๊ะเลย ทางโน้นก็บอกว่าตรวจสอบแล้วเงินออกจริงๆทั้ง 3 ครั้ง แต่ตอนผมโทรไปครั้งแรกทำไมบอกเครื่องมันล็อค ผมว่างใจเห็นว่าเป็น ธ.ใหญ่ ไม่ได้ถามชื่ออะไรเลย แถมในคอมทางโน้นก็ไม่ระบุว่าคุยกันเรื่องล็อคด้วย ผมจะทำอย่างไรดีครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1687 โดย มิ้งมิ้ง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1688 โดย มิ้งมิ้ง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1690 โดย มิ้งมิ้ง
บัตร TITANIUM
[attachment:1]IMG.jpg[/attachment]

[attachment:2]IMG_0001.jpg[/attachment]

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1692 โดย มิ้งมิ้ง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1707 โดย มิ้งมิ้ง
วันที่ 15 ม.ค. นี้ ผมจะรีบไปดูที่ สน.หลักสอง ทาง ธ. กสิกรเดอะมอล์ลบางแคให้ขอก้อปมาให้ด้วย
เค้าบอกอาจเป็นที่ช่องเก็บเงินขัดข้อง ต้องตรวจสอบนับเงินวันที่เข้า ส่วนเวลากด 3 ครั้งแรก ผมกดตอน ประมาณ 9 โมงเช้า แต่เค้าเช็คตู้ว่าเป็นตี 4 ผมงงจริงๆ ( 3 วันก่อน ผมโทรไปฝ่ายกล้อง ว่าเรื่องหลายวันแล้ว ทำไมยังไม่ส่ง CD ไป ส.น.อีก เค้าบอกว่าคนขอดูกล้องหลายราย มันเยอะ
ทำบัตรมาหลายใบ เพิ่งเจอแบบนี้)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1714 โดย Skynine

nikom เขียน: วันที่ 15 ม.ค. นี้ ผมจะรีบไปดูที่ สน.หลักสอง ทาง ธ. กสิกรเดอะมอล์ลบางแคให้ขอก้อปมาให้ด้วย
เค้าบอกอาจเป็นที่ช่องเก็บเงินขัดข้อง ต้องตรวจสอบนับเงินวันที่เข้า ส่วนเวลากด 3 ครั้งแรก ผมกดตอน ประมาณ 9 โมงเช้า แต่เค้าเช็คตู้ว่าเป็นตี 4 ผมงงจริงๆ ( 3 วันก่อน ผมโทรไปฝ่ายกล้อง ว่าเรื่องหลายวันแล้ว ทำไมยังไม่ส่ง CD ไป ส.น.อีก เค้าบอกว่าคนขอดูกล้องหลายราย มันเยอะ
ทำบัตรมาหลายใบ เพิ่งเจอแบบนี้)


เอาหลักฐานทั้งหมดไปยื่นที่ธนาคารอีกครั้งนะ เราไม่ได้รับเงิน แต่ถ้าต้องมาจ่ายเงินก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน (พี่อังยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้) อย่างไรถ้าได้เรื่องอะไรก็เขียนมาเล่าให้ฟังหน่อยนะ ทุกอย่างต้องมีทางออก...เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ นะ พี่อังสวยประหาร o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1881 โดย มิ้งมิ้ง
ต่อ..บัตร TITANIUM 20000 สัญญาที่ทำคือ กดเงินสด 10000 รูด 10000 ประเด็นอยู่ที่ว่า ผมกดเงินสดอย่างเดียว 3000+3000+3000+5000=14000 มันเกินวงเงิน (ได้เงินที่กดครั้งสุดท้าย 5000 เครื่ิองล็อค 3 ครั้งแรก เจ้าหน้าที่ปลดล็อคให้ไปกดใหม่จึงได้ที่ 5000) ใบนี้ผมยังจ่ายขั้นต่ำอยู่ (รอเคลียไม่ไหว บิลมาบวกค่าช้าค่าปรับตลอดที่ยอด 14000++บวกปรับอีก) ตอนนี้เงินในบัตรยังเหลือ 6000 ผมลองไปกด 1000 ดูซิว่ามันจะออกไหม ไม่ออก ผมโทรไป เค้าบอกว่า 50/50 (10000/10000) เข้าทางผม ผมเลยบอกว่า ถ้า 3พัน 3ครั้ง ออกจริง ผมต้องกดได้อีกแค่ 1พันใช่ไหม (ตอบใช่) แสดงว่าเครื่องมันอ่านตอนผมกด 5 พันว่ายังเหลืออีก 5 พัน เพราะ 3 ครั้งแรกตู้ก็บอก "ขออภัยเครื่องขัดข้ิิอง"ทั้ง 3 ครั้ง เมื่อกี้ผมบอกเค้าว่ามีแต่รับเรื่อง แต่ไม่คิดจะเดินเรื่องอะไรให้ผมเลย ตั้งแต่ ต.ค.54 แล้ว กี่เดือนแล้ว คิดแต่เรียกเก็บผมอย่างเดียว ยอด+ปรับเกือบ 16000 ผมก็จ่ายขั้นต่ำไปตลอด ให้ผมแจ้งความทำอะไรผมก็ทำ ตอนกดตู้วันนี้เครื่องยังบอกเลยว่า จำนวนเงินไม่พอจ่าย แล้วเงิน 3+3+3+5 พัน มันจะจ่ายจริงได้อย่างไร

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.668 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena