เริ่มต้นเคลียร์หนี้ให้จบปีนี้2558

รู้สึกมีเพื่อนที่ร่วมชะตาเดียวกันค่ะ เมื่อได้เข้ามาอ่านประสบการณ์คุณศรีดีมากๆๆเลยจึงต้องสมัครสมาชิกเล่าให้ฟังบ้างค่ะ
ตอนนี้เป็นหนี้บัตรอยู่12 ใบค่ะเยอะมะ ก่อนหน้านี้เป็นลูกค้าชั้นดีมาตลอด จนเมื่อ2ปีที่แล้วคิดว่าจะเริ่มผ่อนหนี้ไม่ไหวแล้วและไม่รู้จะทำยังไงเพราะกลัวเสียเครดิตสามีเลยไปกู้นอกระบบมาให้แย่ไปกว่าเดิมจ่ายได้1 เดือนเท่านั้นเงินไม่พออีกเลยโทรไปปรึกษาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและให้รายละเอียดต่างๆๆ จากนั้นก้อเงียบไปไม่นานธนาคารต่างๆๆก้อโทรมาช่วยให้เราจ่ายเงินลดลงยืดระยะเวลาเพิ่มขึ้นไปอีก(ไม่คิดว่าธปท.จะล่อนจดหมายเราไปให้ธนาคารต่างๆๆ)แต่ยังไม่หยุดจ่ายนะค่ะคงหาเงินมาจ่ายเลื่อยๆๆด้วยเวลานั้นเงินเดือนลดลงรายได้อื่นๆๆชะรอตัวจนหยุดเลยขาดเงินเป็นผลทำให้จำเป็นต้องเริ่มหยุดแต่ก่อนที่จะหยุดได้ไปติดต่อธนาคารหลายแห่งเพื่อรีไฟแนนซ์บ้านหวังว่าจะเอาเงินส่วนต่างมาเคลียร์หนี้แล้วทุกอย่างก้อจะจบ แต่ไม่ได้เป็นดังที่คิดค่ะยื่นเอกสารไปธนาคารบอกไม่มีปัญหาได้แน่นอนให้คอย2 เดือนตามแล้วตามอีกจนได้คำตอยว่าไม่ผ่านเพราะภาระเยอะ เมื่อวิ่งเต้นหลายธนาคารแล้วไม่ได้จึงจำเป็นต้องหยุด(ตอนหาทางยื่นเอกสารยังจ่ายชำหนี้เหมือมเดิมนะค่ะแต่ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่รู้ตัวจากธปท.ค่ะบางธนาคารแจ้งว่าถ้าปรับแล้วไม่สามารถทำได้ถือว่าเป็นหนี้เสีย(พึ่งทราบ)จริงหรือไม่เราไม่เคยขาดส่งเลยจนกระทั้งปรับโครงหนี้จ่ายลดลงเท่านั้นหลังจากนั้นพ.ค57 เริ่มหยุดการจ่ายทุกธนาคารทันทียกเว้นบ้านที่จ่ายปกติเวลาที่จะคิดหาเงินมันลำบากมากสำหรับคนไม่มีค่ะ หลังจากนั้น แค่2เดือนโดนทวงตลอดเลยค่ะเครียดมากๆๆๆ ก้อแจ้งตลอดไม่เคยหนี้นะค่ะแต่เงินไม่พอค่ะให้ขั้นต่ำทุกแบง์รวมกันก้อ2หมื่นกว่าแล้วที่ปรับโครงหนี้ จนมาในปี2558 ได้หมายดำของบริษัทกรุงไทยเจ้าหนี้แรกทำอะไรไม่ถูกไม่เลยโดนจัดเต็มเพราะคิดว่าไปที่ศาลแล้วจะจบโดนเงินต้นบวกดอกเบี้ยไป 2 หมื่นกว่าบาทที่ต้องจ่ายหลังจากนั้นเงินต้นคิดดอกเบี้ยลดดอกเบี้ยให้10% ต่อปีต้องจ่ายจนหมดในระยะเวลา35 งวดเหนื่อยเลยค่ะ จ่ายทุกเม็ดไม่ลดเลย ยังไม่จบค่ะ ยังมีอีก11บัตรจะกลับมาเล่าต่อนะค่ะ

noolek เขียน: หลังจากนั้นพ.ค57 เริ่มหยุดการจ่ายทุกธนาคารทันทียกเว้นบ้านที่จ่ายปกติ

เจ้าหนี้สามารถยึด บ้าน/ที่ดิน ของลูกหนี้

ที่ยังติดผ่อนจำนองอยู่กับธนาคารฯได้หรื​อไม่?


บ้าน/ที่ดิน ที่ยังติดผ่อนอยู่ สามารถถูกยึดได้ เพราะผู้ที่ผ่อนชำระกับธนาคาร

มีชื่อเป็นเจ้าของที่แท้จริงแล้ว ตั้งแต่ทำสัญญาจะซื้อจะขาย บ้าน/โฉนดที่ดิน

ธนาคารเป็นเพียงผู้ให้กู้เงิน ในฐานะ"ผู้รับจำนอง "เท่านั้น...แต่มิใช่เจ้าของ

(สามารถดูชื่อเจ้าของได้จาก สำเนาโฉนดที่ดินฉบับดังกล่าว ซึ่งจะมีรายชื่อ"เจ้าของที่ดิน " อยู่ในด้านหลังของโฉนด)

หากผู้ที่ผ่อนชำระเป็นลูกหนี้(จำเลย)ตามคำพิพากษาของศาล ในคดีบัตรเครดิตหรือคดีหนี้เงินต่างๆ

แล้วเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ในคดีของบัตรเครดิตหรือคดีหนี้เงินต่างๆเหล่านั้น

มันดันไปสืบเจอว่า บ้าน/ที่ดิน ดังกล่าวนี้ มีชื่อของลูกหนี้เป็นเจ้าของ

(ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของในฐานะ "ผู้กู้หลัก" หรือ "ผู้กู้ร่วม" ก็ตาม)

และถึงแม้จะยังคงต้องจ่ายค่าผ่อนจำนองอยู่กับธนาคารใดๆก็ตาม...ก็ไม่สามารถปฏิเสธจากการถูกยึดไปได้

เจ้าหนี้(โจทก์)สามารถไปแจ้งหลักฐานต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี

ให้มายึดเอา บ้าน/โฉนดที่ดิน ไปขายใช้หนี้ได้ตามกฏหมาย


กระทู้ตัวอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับการยึด บ้าน/ที่ดิน

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=view&id=9039&view=flat&catid=2

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&func=view&id=9039&view=flat&catid=2&limitstart=6

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41762&Itemid=64

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41352&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

ขอเสริมของท่านประธานหน่อยนะครับ ที่ท่านประธานเอากระทู้เก่าๆและข้อกฎหมายมาให้ดูเพื่อเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้านะครับสำหรับคนมีบ้าน ตัวอย่างในกระทู้จะเห็นว่าส่วนมากลูกหนี้อย่างเราๆจะเดินพลาด แล้วมาแก้ไขทีหลังมันหมดโอกาสที่จะต่อรอง ฉนั้นควรศึกษา วางแผน อ่านกระทู้เยอะๆ จะเป็นประโยชน์มากๆครับ ขอบคุณท่านประธานอีกครั้งครับ

ก่อนอื่นขอขอบคุณนะค่ะที่ให้คำแนะนำค่ะ
เล่าต่อค่ะหลังจากนั้นผ่านไปต้นปี2558 เริ่มมีจมหมายศาลมาฉบับแรกจนเป็นจุดเริ่มต้นที่เราต้องทำอะไรสักอย่างเลยหาข้อมูลต่างๆๆอ่านประสบการณ์ที่แชร์เลยตัดสินใจโทรไปที่ธนาคารเพื่อขอส่วนลดจึงได้ส่วนลดของธนาคารuobมา50% เป็นช่วงลดของธนาคารพอดีดีใจมากๆๆค่ะ จบไป2ใบในเดือนมี.คเริ่มต่อไปที่ธนาคารกรุงศรีอีก4 ใบมีหมายมา2 รอเคลียร์อีก2 ขอส่วนลดเหมือนเดิมแต่ยังหาขอสรุปไม่ได้หนักใจค่ะฝ่ายกฎหมายไม่ยอม ตกลงด้วยตามยอดที่เราขอแต่เราเงินไม่พอจะให้ทำอย่างไรเราอยากปิดมากๆๆๆโทรหาฝ่ายกฎหมายตลอดค่ะอยากให้เรื่องจบเร็วๆๆไม่เป็นอันทำงานแล้วค่ะจะได้วางแผนเก็บตังจ่ายตัวถัดไป หากจบ4 ตัวนี้ได้เดินหน้าจ่ายสแตนดาร์ดค่ะมีโปรอีกขอส่วนลดและขอแบ่งจ่ายด้วยอยากให้ธนาคารช่วยๆๆกันหน่อยค่ะนึกถึงว่าเราเคยเป็นลูกค้าที่ดีเยี่ยมมาก่อนได้ไหม
และตัวสุดท้ายซิตี้ค่ะจะได้หมดซะทีเหนี่อยมากๆๆค่ะจะขายบ้านใช้หนี้ตั้งแต่สามปีที่แล้วยังขายไม่ได้จะให้ทำยังค่ะตอนนี้สิ่งที่คิดทั้งหมดต้องใช้เงินเดือนส่วนที่เหลืออย่างอื่นก้อต้องปล่อยต้องยอมอดค่ะไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนแล้วและไม่อยากสร้างหนี้อีกหากหมดภาระหนี้สินขอเริ่มต้นชีวิตใหม่จะได้มีเงินให้แม่บ้างพาแม่ไปกินข้าวพาแม่ไปทำบุญซะที่ที่สำคัญหยุดให้แม่ทำงานเพราะท่านอายุจะ70แล้วยังคงทำงานบอกแม่บอกว่าที่ทำจะได้มีเงินมาให้ลูกของนู๋ไงรู้สึกแย่มากๆๆๆที่ทำให้แม่ลำบากวันนี้หนี้สินทั้งหมดไม่คิดจะบอกให้แม่ได้รับรู้ไม่อยากให้แม่เสียใจและกลุ่มใจอีกต่อไปค่ะ อยากขอความเมตากับนักกฏหมายและธนาคารทุกแห่งเห็นใจบ้างไม่เคยคิดหนี้นะค่ะแต่กำลังการจ่ายไม่ได้จิงๆๆค่ะหนี้ที่ค้างอีกประมาณ560,000 ค่ะอยากปลอดภาระหนี้ไวๆๆค่ะ

เห็นข้อความที่เห็นลูกหนี้ด้วยกันก็คงเห็นใจกันละครับ แต่ถ้าเป็นเจ้าหนี้อันนี้ไม่รับประกันนะครับ สู้ๆ

หลังจากที่พูดคุยกับฝ่ายกฎหมายหลายธนาคารเหนื่อยค่ะสำหรบการต่อรอง แต่ก็สามารถตกลงกันได้ไปหลายธนาคารค่ะ ยากสุดๆๆ ธนาคารกรุงศรีค่ะลดยากมาก ๆๆใครเจอบ้างค่ะไม่ยอมช่วยเท่าไหร่ ถ้าพอมีเงินยากปิดค่ะ แค่ทางกรุงศรีสามารถให้ผ่อนได้ ภายใน 1 ปี ค่ะ

ลืมอีกเรื่อที่จะเล่าให้ฟังตัวดิฉันเองได้หมายดำมา 2 ใบค่ะจะต้องไปขึ้นศาลวันที่ 18/5/58 และ 18/6/58 แต่เพราะหมายศาลแรกทำให้ดิฉันต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอกและต้องเสียดอกเบี้ยอีกจนกว่าจะจ่ายหมด เลยต้องหาวิธีใช้หนี้ให้ได้ สุดท้ายก็นึกได้ว่าตัวเองทำประกันชีวิตไว้ เงินเงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ เลยเริ่มการขอส่วนลดธนาคาร UOB มาได้ 50 % ช่วงโปรโมชั่นค่ะ ปิดซะจบใบ 2 ใบ
ต่อไป เฟริสซ้อยส่วนลดน้อยมากๆๆๆ จะได้ขึ้น ศาลวันที่ 18/5/57 ไม่อยากไปเลยกลัวเสียเยอะ จาก 53,xxx ต่อรองยากมาก สรุปได้ 48,000 ปิดจบอีก ใบ
ส่วนเทสโก้ ได้ส่วนลดนิดหน่อย 32,xxx ได้มา 30,000 บาท แบ่งจ่าย 2 งวด
สเตนดาร์ ยอดหนี้ 117,xxx ได้ส่วนลด เกือบ 50 % จ่าย 58,xxx แบ่ง 2 งวด ค่ะ
ยังเหลือกรุงศรีอีก 2 ใบ ไม่ยอดลดตามที่ขอ และซิตี้ ยอดหลักแสน แต่เงินหมดละ รอรอบเดือนทันไป ขอเก็บเงินใหม่นะค่ะ

ทางธนาคารกรุงศรีแจ้งว่า การที่หาข้อมูลใน net มันไม่ตรงกับความจิง และทางธนาคารไม่เคยให้ส่วนลดอยากถามเพื่อน ๆๆว่าจริงหรือไม่ค่ะ

วันนี้ได้ไปขึ้นศาลครั้งแรกมีเรื่องต้องคิดหลายอย่างเราได้ปิดบัญชีเฟริสช้อยแล้วเมื่อ30เมษยน58หมายศาล นัดวันที่18/5/58 ระยะเวลาเกือบครึ่งเดือนทางธนาคารมิได้ดำเนินการยกเลิกการถอนฟ้องคดีแค่อย่างไรและยังเลื่อนนัดการถอนฟ้องคดีออกไปอีกเป็นวันที่18/6/58 ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลื่อนขนาดนั้นแต่ทางศาลแจ้งว่าครั้งต่อไปไม่ต้องมาให้โทรมาถามแทนผู้พิพากษาเรียกชื่อดิฉันยกมือท่านกล่าวว่าโจทย์ขอเลื่อนนัดการสืบคดีดิฉันพูดทันทีเลยว่าทำไมต้องเลื่อนนัดค่ะจ่ายชำระหนี้ครบแล้วทางศาลไม่ขอเอกสารอะได้ดูเลยเพื่อแสดงตัวตนและไม่ขอดูหลักฐานการปิดคดีใดๆๆเลยดิฉันงงมากๆๆให้เซ็นเอกสาร1ใบและบอกว่าเสร็จละกลับได้ท่านผู้พิพากษาพูดน้อยมากๆๆค่ะไม่ปิดงบอะไรให้เลยไม่มีการยืนหน้าบัลลังด้วยมีใครเคยเจอแบบนี้บ้างค่ะรบกวนตอบทีค่ะ

เคยมีกรณีแบบคุณเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วครับ ที่ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันไม่ประสานงานกันเอง เช่น

- ลูกหนี้เพิ่งไปเซ็นต์สัญญาประนอมหนี้(สัญญา นรก)กับเจ้าหนี้ และลูกหนี้ก็ยังผ่อนจ่ายหนี้ตาม"สัญญา นรก"อยู่ตามปกติ แต่ลูกหนี้กลับถูกเจ้าหนี้ฟ้องต่อศาลว่าหยุดจ่ายหนี้ ไม่ยอมชำระหนี้...พอลูกหนี้ไปขึ้นศาลแล้วแสดงหลักฐานว่ายังจ่ายเงินตาม"สัญญา นรก"อยู่เป็นปกติ ทนายโจทก์มันก็ขอเลื่อนคดีไปอีก 1นัด เพื่อกลับไปตรวจสอบหลักฐานและเอกสารดังกล่าว หากเป็นความจริงตามที่ลูกหนี้แย้งมา มันก็จะไปทำการถอนฟ้องให้ (เคยมีสมาชิกมาตั้งกระทู้บอกเล่าเรื่องนี้ด้วย แต่อยู่ในกระทู้ไหนไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว)

- ลูกหนี้ตกลงทำสัญญา Haircut แบบขอผ่อนชำระ 3งวด หลังจากที่ถูกหมายฟ้องมาปิดที่หน้าบ้านแล้ว พอลูกหนี้จ่ายชำระเข้าไป 1งวดแรกแล้ว ลูกหนี้ก็ไปขึ้นศาลตามหมายที่นัด แต่ทางฝ่ายทนายโจทก์มันกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอเอาเอกสาร Haircut พร้อมกับใบเสร็จที่จ่ายชำระไปแล้ว 1งวด ให้ทนายโจทก์มันดู มันก็ขอศาลให้เลื่อนคดีออกไปอีก 2เดือน เพื่อกลับไปตรวจสอบเอกสาร และเพื่อรอให้ลูกหนี้จ่ายชำระหนี้ให้หมดครบ 3งวดเสียก่อน หากลูกหนี้จ่ายหนี้จนครบ 3งวด ตามสัญญาของ Haircut แล้ว มันก็จะทำเรื่องถอนฟ้องให้ต่อไป

- ลูกหนี้ทำ Haircut หลังจากที่ถูกหมายศาลฟ้องแล้ว โดยตกลงจ่ายกันที่ 1งวด(ไม่มีผ่อน) และได้มีการจ่ายชำระเงินกันเสร็จ ก่อนนัดที่จะขึ้นศาล 3วัน พอถึงวันนัด ลูกหนี้ก็ไปขึ้นศาลตามหมายนัดเรียก ทนายโจทก์มันก็ถามลูกหนี้ว่า...จะเอายังไง?...จะผ่อนจ่ายกี่งวด?...สามารถผ่อนจ่ายได้เดือนละกี่บาท?...พอลูกหนี้เอาเอกสาร Haircut พร้อมกับใบเสร็จการชำระเงินให้ทนายโจทก์มันดู มันก็พูดว่า"ปั๊ดโธ่...จ่ายหนี้หมดแล้วก็ไม่ยอมบอก งั้นผมขอเลื่อนคดีออกไปก่อนแล้วกันนะครับ ขอกลับไปตรวจเอกสารก่อน หากจ่ายหนี้จริงแล้วไม่มีหนี้เหลืออยู่อีกแล้ว ผมจะทำเรื่องถอนฟ้องให้นะครับ"


นี่เป็นกรณีตัวอย่างที่ผ่านมาทั้งหมด

ถึงแม้ลูกหนี้จะจ่ายชำระหนี้ตามสัญญาต่างๆที่เคยตกลงกันไว้แล้วก็ตาม แต่ถ้าหากมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นมาแล้ว ลูกหนี้จะต้องไปขึ้นศาลเพื่อไปรักษาสิทธิ์ของตนเองทุกครั้ง อย่าไปคิดเอาเองว่าเจ้าหนี้มันจะปกป้องสิทธิให้เรา

เนื่องจากการฟ้องร้องอันไม่เป็นไปตามความจริงนั้นมันเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ (จะเป็นเพราะเหตุที่ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันทำงานชุ่ย ไม่ยอมประสานงานและข้อมูลกันก็ตาม) ถ้าลูกหนี้ไม่ยอมไปศาลและเอาความจริงไปแฉตามข้อเท็จจริง ลูกหนี้ก็จะถูกศาลพิพากษาให้มีความผิดตามฟ้อง แล้วลูกหนี้จะต้องมาจ่ายหนี้ตามที่ศาลพิพากษาต่อไป

มีเรื่องทุกข์อีกแล้ว ขอส่วนลดสินเชื่อบุคคลกรุงศรีฝ่ายกฎหมายไม่ยอมลดเจรจามาเกือบ2 เดือนแล้วแถมยิ่งเจรายิ่งเพิ่มอีกจากเงินต้น34800 ขอจ่าย23000 ไม่ยอมจะขอ30000 พอจะให้30000 ขอเป็น35500 ไม่เข้าใจว่าเพิ่มเองตามใจชอบหรอจะทำไงดีค่ะพูดเท่าไหร่ก้อไม่ยอมลดฝ่ายกฎหมายอ้างว่าธนาคารไม่ลดให้แล้วจะไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายมีบอกอีกว่าถ้าช้าหนี้จะเพิ่มอีก

นกกระจอกเทศ เขียน: เคยมีกรณีแบบคุณเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วครับ ที่ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันไม่ประสานงานกันเอง เช่น

- ลูกหนี้เพิ่งไปเซ็นต์สัญญาประนอมหนี้(สัญญา นรก)กับเจ้าหนี้ และลูกหนี้ก็ยังผ่อนจ่ายหนี้ตาม"สัญญา นรก"อยู่ตามปกติ แต่ลูกหนี้กลับถูกเจ้าหนี้ฟ้องต่อศาลว่าหยุดจ่ายหนี้ ไม่ยอมชำระหนี้...พอลูกหนี้ไปขึ้นศาลแล้วแสดงหลักฐานว่ายังจ่ายเงินตาม"สัญญา นรก"อยู่เป็นปกติ ทนายโจทก์มันก็ขอเลื่อนคดีไปอีก 1นัด เพื่อกลับไปตรวจสอบหลักฐานและเอกสารดังกล่าว หากเป็นความจริงตามที่ลูกหนี้แย้งมา มันก็จะไปทำการถอนฟ้องให้ (เคยมีสมาชิกมาตั้งกระทู้บอกเล่าเรื่องนี้ด้วย แต่อยู่ในกระทู้ไหนไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว)

- ลูกหนี้ตกลงทำสัญญา Haircut แบบขอผ่อนชำระ 3งวด หลังจากที่ถูกหมายฟ้องมาปิดที่หน้าบ้านแล้ว พอลูกหนี้จ่ายชำระเข้าไป 1งวดแรกแล้ว ลูกหนี้ก็ไปขึ้นศาลตามหมายที่นัด แต่ทางฝ่ายทนายโจทก์มันกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอเอาเอกสาร Haircut พร้อมกับใบเสร็จที่จ่ายชำระไปแล้ว 1งวด ให้ทนายโจทก์มันดู มันก็ขอศาลให้เลื่อนคดีออกไปอีก 2เดือน เพื่อกลับไปตรวจสอบเอกสาร และเพื่อรอให้ลูกหนี้จ่ายชำระหนี้ให้หมดครบ 3งวดเสียก่อน หากลูกหนี้จ่ายหนี้จนครบ 3งวด ตามสัญญาของ Haircut แล้ว มันก็จะทำเรื่องถอนฟ้องให้ต่อไป



- ลูกหนี้ทำ Haircut หลังจากที่ถูกหมายศาลฟ้องแล้ว โดยตกลงจ่ายกันที่ 1งวด(ไม่มีผ่อน) และได้มีการจ่ายชำระเงินกันเสร็จ ก่อนนัดที่จะขึ้นศาล 3วัน พอถึงวันนัด ลูกหนี้ก็ไปขึ้นศาลตามหมายนัดเรียก ทนายโจทก์มันก็ถามลูกหนี้ว่า...จะเอายังไง?...จะผ่อนจ่ายกี่งวด?...สามารถผ่อนจ่ายได้เดือนละกี่บาท?...พอลูกหนี้เอาเอกสาร Haircut พร้อมกับใบเสร็จการชำระเงินให้ทนายโจทก์มันดู มันก็พูดว่า"ปั๊ดโธ่...จ่ายหนี้หมดแล้วก็ไม่ยอมบอก งั้นผมขอเลื่อนคดีออกไปก่อนแล้วกันนะครับ ขอกลับไปตรวจเอกสารก่อน หากจ่ายหนี้จริงแล้วไม่มีหนี้เหลืออยู่อีกแล้ว ผมจะทำเรื่องถอนฟ้องให้นะครับ"


นี่เป็นกรณีตัวอย่างที่ผ่านมาทั้งหมด

ถึงแม้ลูกหนี้จะจ่ายชำระหนี้ตามสัญญาต่างๆที่เคยตกลงกันไว้แล้วก็ตาม แต่ถ้าหากมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นมาแล้ว ลูกหนี้จะต้องไปขึ้นศาลเพื่อไปรักษาสิทธิ์ของตนเองทุกครั้ง อย่าไปคิดเอาเองว่าเจ้าหนี้มันจะปกป้องสิทธิให้เรา

เนื่องจากการฟ้องร้องอันไม่เป็นไปตามความจริงนั้นมันเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ (จะเป็นเพราะเหตุที่ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันทำงานชุ่ย ไม่ยอมประสานงานและข้อมูลกันก็ตาม) ถ้าลูกหนี้ไม่ยอมไปศาลและเอาความจริงไปแฉตามข้อเท็จจริง ลูกหนี้ก็จะถูกศาลพิพากษาให้มีความผิดตามฟ้อง แล้วลูกหนี้จะต้องมาจ่ายหนี้ตามที่ศาลพิพากษาต่อไป

ถามท่านประธานต่ออีกนิดครับถ้าเราชำระจนครบหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้ใบยืนยันหรือได้ก็ตามแตแล้วทนายมันยังดันฟ้องอีกแต่เราก็ไม่ได้ไศาลเพราะถือว่าเราชำระครบแล้ว เมื่ศาลตัดสินให้เรายังต้องชำระอีก แบบนี้เราสามารถฟ้องกลับได้มั้ยครับ

chai202519 เขียน: ถามท่านประธานต่ออีกนิดครับถ้าเราชำระจนครบหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้ใบยืนยันหรือได้ก็ตามแตแล้วทนายมันยังดันฟ้องอีกแต่เราก็ไม่ได้ไศาลเพราะถือว่าเราชำระครบแล้ว เมื่ศาลตัดสินให้เรายังต้องชำระอีก แบบนี้เราสามารถฟ้องกลับได้มั้ยครับ

คุณสามารถฟ้องกลับได้ครับ หรือจะยื่นอุทธรณ์ก็ได้ แต่คุณต้องจ้างทนายให้ช่วยดำเนินการให้ดังกล่าว

แล้วทำไมถึงไม่ไปศาลล่ะครับ...ขอเหตุผลด้วย

ขอ update เรื่องราวค่ะ ตอนนี้ได้เจรของตระกูลกรุงศรีเรียบร้อยไปอีก 2 ใบ ผ่อนไปอีก 6 งวด แต่มาเจอของ ฝ่ายกฎหมายของบริษัท ซิตี้คอร์ป ลีสซิ่งจำกัด คือฝ่ายกฎหมายชื่อ บริษัท เชฏฐ์คอลเลคชั่น แมนเนจเมนท์ จำกัด ได้ให้คำแนะนำในการไปกู้เงินที่อื่นมาเพื่อปิดหนี้ตนเองทั้งจำนวน โดยให้ไปกู้ที่ บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด และการเจรรา 3 เดือนที่ผ่านมาไม่เป็นผล จบไม่ลง ทางฝ่ายกฎหมายแจ้งต่อว่าเรื่องของคุณกำลังขอเลขหมายศาลอยู่ หากไม่ให้ไปศาลต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น ดิฉันแจ้งหลายครั้งแล้วว่าเงินไม่พอเพราะต้องผ่อนกับธนาคารอีกหลายใบ มันไม่ฟังเลย วันนี้ โทรมาอีก บอกทางธนาคารให้จ่ายงวดเดียว 140,000 บาท ภายในวันที่ 30/6/58 จะไปเสกเงินจากไหนมาให้ค่ะ จะขอจ่ายเป็นงวดก็ไม่ยอม หากจะจ่าย ได้แค่ 3 งวด เงินไม่ได้อยู่ดี ลืมแจ้งให้ทราบอีกที หยุดจ่าย พ.ค 57 เงินต้น 139,000 บาท ถึงวันนี้ 160,000 บาท ค่ะ หยุดมา 1 ปี ค่ะ บริษัท กฎหมายกำลังเร่งออกหมายศาลค่ะกลัวไม่ได้ตัง 555 ทำเอกสารขอส่วนลดเข้าไป มันก็ไม่ยอมอีก ส่วน สินเชื่อบุคคล บริษัทอยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิส จำกัด หรือที่รู้จักกันคือเฟริส์ช้อย จ่ายปิดบัญชีตั้งแค่ 30/4/58 นัดสืบ 18/5/58 ไปที่ศาลกับเลื่อนนัดสืบ ไป 18/6/58 ไม่ยอมถอนฟ้องศาล ดู ฝ่ายกฎหมาย บริษัท เชฏฐ์คอลเลคชั่น แมนเนจเมนท์ จำกัด มันทำ เจอที่เดียว 2ใบ 1 กฎหมาย บอกเลย ซวยจิง ๆๆค่ะ ส่ง mail ไปที่ธนาคาร ซิตี้ และที่ บริษัท ซิตี้คอร์ป ลีสซิ่งจำกัด แจ้งพฤติกรรมของฝ่ายกฎหมายตนเองที่จ้างแนะนำให้ไปกู้ที่อื่นมาปิดตนเอง ไม่รู้จะได้เรื่องไหม จะทำไงต่อดีค่ะช่วยเนะนำหน่อยค่ะ

ส่งmailเข้าไปที่ ซิตี้ลีสซื่งหลังจากคุยกับฝ่ายกฎหมายเชฏฐ์ไม่รู้เรื่องเจ้าหน้าที่ซิตี้ตอบ อีก3วันทำการจะติดต่อกลับขอตรวจสอบการ ไม่ทันไรฝ่ายกฎหมายหมายโทรมาทันทีค่ะ ทางธนาคารแจ้งว่าคุณต้องจ่ายงวดเดียว 140,000 บาท ดิฉันบอกคุณไปแล้วหลายครั้งว่ากำลังจ่ายไม่มีขอส่วนลดและผ่อน 12 งวด สรุปมันไม่ให้ค่ะ จะให้จ่ายงวดเดียว และก่อนวันนัดสืบ ไม่รู้จะพูดภาษาอะไรไรมันฟังไม่รู้เรื่องจะเอาแต่เงินอย่างเดียวแล้วเราจะไปหาที่ไหน ต้องไปกู้นอกระบบให้มัน หรือไม่ก็ทำตามที่มันแนะนำบริษัท รีโซลูชั่น เวย์ ก็คงต้องปล่อยมันไปไม่คุยละและไม่คิดจะไปกู้ที่อื่นมาเพิ่อปิดมันแน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกจะทำอย่างไรต่อไปเพราะวงเงินการจ่ายเต็มละ

และแล้วมันก้อมาหมายศาลใบสุดท้าย บริษัท ซิตี้คอร์ลิสซิ่ง จำกัด คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้วค่ะ คุยกันไม่รู้เรื่อง

หลังจากที่เวลาผ่านไปหนี้ทุกอย่างก็เคลียร์จบไปใบสุดท้าย กุมภาพันธ์ 59 จบสิ้นกันที แต่ปัจจุบันอยากรีไฟแนน์บ้านตั้งแต่ยังไม่เสียเครดิต จน เสียเครดิต และตอนนี้เริ่มจ่ายปกติ แต่มีประวัติชำระล่าช้าเลยไม่สามารถกู้ที่ไหนได้อีกต่อไปต้องรอจนครบ 3 ปี แย่เลย ทำไงดี มีใครพอแนะนำได้ไหมตอนนี้เจอดอกเบี้ยสูงมากค่ะ

ปลดหนี้สำเร็จไปอีกราย ยินดีด้วยค่ะ

ว่าแต่เรื่องซิตี้จบยังไงคะที่ปีที่แล้วเรียกเป็นแสน แล้วให้ขึ้นศาล ขอความรู้หน่อยค่ะ