ขอคำปรึกษาการจัดการหนี้ครับ ว่าควรปรับตรงไหนบ้างครับ

4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #110380 โดย cupidbas
สวัสดีอาจารย์ (ขออนุญาตเรียกนะครับ) และเพื่อนๆ ชมรมหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลทุกๆ ท่านนะครับ
ผมเป็นสมาชิกใหม่ ... แต่ได้อ่านและเสพข้อมูลในเว็บบอร์ดมาสักระยะเวลาสั้นๆ แล้วก่อนจะมาตั้งกระทู้เพื่อขอคำแนะนำและหาแนวทางที่ดีที่สุด

ปัจจุบันผมอายุย่างเข้า 32 ปี และประสบปัญหาการเป็นหนี้ในระดับเกือบ 6 ล้านบาท ณ วันนี้ ... ซึ่ง 2-3 วันก่อนหน้านี้ผมค่อนข้างเครียด เนื่องจากอยู่ในฐานะลูกหนี้ชั้นดีมาตลอดและไม่เคยผิดนัดชำระหนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ... และมันกำลังจะกลายเป็นอดีตสำหรับผม

ขออนุญาตเข้าเรื่องเลย ... ผมกำลังจะแจกแจงมูลหนี้ที่ผมถือครองอยู่ และตามด้วยแผนการที่ผมวางเอาไว้ รบกวนอาจารย์และเพื่อนที่มีประสบการณ์ได้ชี้แนะผมด้วยนะครับ ซึ่งผมเป็นพวก ESFP ฉะนั้นผมจะสนใจประสบการณ์ที่ค่อนข้างสำเร็จแล้วเป็นพิเศษ

มูลเหตุของการเป็นหนี้: Support ครอบครัว / ลงทุน / สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต (และขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดในจุดนี้ แต่ส่วนหนึ่งเกิดจากแผนการที่ผิดพลาด / เหตุที่ไม่คาดฝัน และไม่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อเกินความจำเป็น)
นิสัย: เป็นคนง่ายๆ และอดทนต่อการดูถูกเหยียดหยามได้มาก (จุดนี้ต้องการบอกว่า การลดระดับการใช้จ่ายและการใช้ชีวิต ตลอดจนการถูกติดตามทวงถามหนี้ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับผมในขั้นถัดไป เพียงแต่ผมต้องควบคุมการทวงหนี้ไม่ให้กระทบกับการทำงาน)

สภาพ ณ ปัจจุบัน: ยังไม่มีค้างชำระแม้แต่เจ้าเดียว แต่กำลังจะเริ่มค้างชำระสิ้นเดือนหน้า

คร่าวๆ: ผมวางแผนหมดหนี้ในระยะเวลา 10 ปีครับ (ทั้งแบบ Short-term และ Long-term) แต่ผมจะเน้นหนักไปที่ 2 ปีต่อจากนี้ ซึ่งท่านๆ คงเดาไม่ยาก เพราะมันคือหนี้ “บัตรเครดิต” และ “สินเชื่อส่วนบุคคล” ... โชคยังดี (ในมุมมองผม) ที่ผมไม่มีบัตรกดเงินสด

รายการหนี้ที่ผมมีอยู่ เป็นตามรายละเอียดด้านล่าง

สินเชื่อเคหะธนาคารออมสิน ยอด 2,350,000 บาท ขั้นต่ำ 22,400 บาท
สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยอด 1,400,000 บาท ขั้นต่ำ 9,800 บาท
สินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยอด 980,000 บาท ขั้นต่ำ 17,341 บาท
สินเชื่อ JMONEY ยอด 205,000 บาท ขั้นต่ำ 5,250 บาท
สินเชื่อ CITI ADVANCE ยอด 150,000 บาท ขั้นต่ำ 7,562 บาท
สินเชื่อ SPEEDY LOAN SCB ยอด 125,000 บาท ขั้นต่ำ 3,650 บาท
สินเชื่อบุคคล SUMMIT CAPITAL ยอด 122,000 บาท ขั้นต่ำ 3,864 บาท
บัตรกรุงศรีโฮมโปร ยอด 120,000 บาท ขั้นต่ำ 12,000 บาท
บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ยอด 96,000 บาท ขั้นต่ำ 6,800 บาท
บัตรกรุงศรีโฮมโปร (ชื่อน้องสาว) ยอด 55,000 บาท ขั้นต่ำ 5,500 บาท
บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ยอด 52,000 บาท ขั้นต่ำ 5,200 บาท
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ยอด 40,031.59 บาท ขั้นต่ำ 4,003 บาท
บัตรเครดิตธนาคารธนชาต ยอด 12,000 บาท ขั้นต่ำ 600 บาท

โดยประมาณรายจ่ายต่อเดือน คือ 103,970 บาท
รายจ่ายยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ

รายได้ผม ณ ปัจจุบัน
เงินเดือน 51,000 บาท
ธุรกิจส่วนตัว 15,000 บาท
ค่าเช่าบ้าน 6,000 บาท
โดยประมาณรายได้ต่อเดือนคือ 72,000 บาท

หมายเหตุ รายได้ไม่รวม Fixed Bonus, Performance Bonus, ได้ค่าสินไหมจากคดีแพ่ง 1 คดี (ตัวเลขไม่น้อยกว่า 50,000 บาท) และจากธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่ม (ธุรกิจนี้ไม่น่ากังวล เพียงแต่รายได้ ณ ปัจจุบันเพียงพอแค่ค่าใช้จ่าย ยังไม่เกิดกำไร)

ดังนั้น สัดส่วนการเป็นหนี้ของผมคือ 148% ซึ่งผมมองว่า จริงๆ แล้วมันไม่ยากที่จะจบใน 2 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี เพียงแต่มันต้องใช้ “แผน” และ “ความอดทน”

ขอเริ่มการปรึกษาเลย ณ ครับ

1. กลุ่มที่ผมจะหยุดจ่ายแน่ๆ ก่อน เพื่อจะเอา H/C ให้ได้ ดังนี้ครับ
สินเชื่อ JMONEY ยอด 205,000 บาท ขั้นต่ำ 5,250 บาท
สินเชื่อ CITI ADVANCE ยอด 150,000 บาท ขั้นต่ำ 7,562 บาท
สินเชื่อ SPEEDY LOAN SCB ยอด 125,000 บาท ขั้นต่ำ 3,650 บาท
สินเชื่อบุคคล SUMMIT CAPITAL ยอด 122,000 บาท ขั้นต่ำ 3,864 บาท
ปล. แต่ JMONEY กับ SPEEDY LOAN SCB ผมยังผ่อนไม่ถึงปี ไม่แน่ใจว่าประสบผลสำเร็จในการ H/C ไหม?

2. กลุ่มที่ผมยังก้ำกึ่ง เนื่องจากเดิมทีผมค่อนข้างมีระเบียบในการใช้จ่าย และได้ประโยชน์มาก เพียงแต่ต่อมาต้องแก้ปัญหาให้คนอื่น (หนี้เปลี่ยนมากองที่ผมคนเดียว) แต่แนวโน้มผม 80% ผมน่าจะหยุดจ่าย เนื่องจากวิเคราะห์ขั้นต้นแล้วว่าการปรับโครงสร้างหนี้ของกลุ่มที่ 2 นี้อาจจะทำให้การเก็บเงินเพื่อ H/C ของกลุ่มที่ 1 ไม่ประสบความสำเร็จ
บัตรกรุงศรีโฮมโปร ยอด 120,000 บาท ขั้นต่ำ 12,000 บาท
บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ยอด 96,000 บาท ขั้นต่ำ 6,800 บาท
บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ยอด 52,000 บาท ขั้นต่ำ 5,200 บาท
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ยอด 40,031.59 บาท ขั้นต่ำ 4,003 บาท

3. กลุ่มที่น่าจะผ่อนต่อไปแบบปกติ
บัตรกรุงศรีโฮมโปร (ชื่อน้องสาว) ยอด 55,000 บาท ขั้นต่ำ 5,500 บาท
บัตรเครดิตธนาคารธนชาต ยอด 12,000 บาท ขั้นต่ำ 600 บาท
ปล. เนื่องจากเป็นชื่อน้องสาว เลยไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน และส่วนธนชาตผมอยากเหลือบัตรไว้เติมน้ำมันเอา Cash Back

4. กลุ่มที่ผมคิดว่าจะขอปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อผ่อนให้น้อยลงในช่วง 3 ปีนี้
สินเชื่อเคหะธนาคารออมสิน ยอด 2,350,000 บาท ขั้นต่ำ 22,400 บาท
สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยอด 1,400,000 บาท ขั้นต่ำ 9,800 บาท
สินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยอด 980,000 บาท ขั้นต่ำ 17,341 บาท
กลุ่มนี้ค่อนข้างมีปัญหาในการวางแผนสำหรับผมมาก เลยอยากจะขอคำชี้แนะแบบเป็นกรณีๆ ไป

4.1 สินเชื่อเคหะธนาคารออมสิน ยอด 2,350,000 บาท ขั้นต่ำ 22,400 บาท
ตัวนี้ผมคิดว่า จะขอปรับโครงสร้างหนี้ แต่ก็กังวลว่ามันจะติดบูโรยาวเกินไป ซึ่งผมคาดเดาว่าอีก 10 ปีหนี้ก้อนนี้น่าจะหมดลง แต่พอคิดว่าจะถูๆไถๆ ขาดๆ ไปก่อนช่วงสองปีนี้ แล้วค่อยเข้าโหมดปกติช่วงปีที่สามน่าจะดีกว่าไหม? เพราะผมเองก็ยังเหลือสิทธิ์รีไฟแนนซ์ที่จะคุ้มการทำอีกครั้งหนึ่ง อีกอย่างธนาคารนี้ผมขอลดดอกเบี้ยค่อนข้างง่าย เนื่องจากมีความสัมพันธ์อันดีกับธนาคารค่อนข้างมาก และธนาคารค่อนข้างตอบสนองผมได้ตลอด ใจเลยเอียงไปทางปรับโครงสร้างหนี้ให้เบาลง แต่ถ้าปรับโครงสร้างหนี้ ผมก็น่าจะหมดสิทธิ์รีไฟแนนซ์สัญญานี้ไปโดยปริยาย เลยอยากได้คำชี้แนะมากครับ
4.2 สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยอด 1,400,000 บาท ขั้นต่ำ 9,800 บาท
ตัวนี้ก็เป็นอีกอันที่ผมมีความสัมพันธ์อันดีกับธนาคาร เลยค่อนข้างกังวล และบ้านหลังนี้ยังไม่เคยรีไฟแนนซ์เลย กลัวว่าถ้าปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วจะเสียสิทธิ์การรีไฟแนนซ์ที่คุ้มค่าถึงสองครั้ง เลยอยากขอคำชี้แนะมากครับ
4.3 สินเชื่อรถยนต์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยอด 980,000 บาท ขั้นต่ำ 17,341 บาท
ตัวนี้เป็นหนึ่งในตัวที่ผมกังวล หลายท่านอาจจะคิดว่าผมมีภาระเกินตัวใช้รถแพง จริงๆ แล้วตัวนี้เป็นตัวที่ได้รับผลกระทบจากแผนที่พลาด พูดง่ายๆ ผมมีรายได้หลักหายไปเกิน 50,000 บาท (จากรายได้ 122,000 บาท เหลือ 72,000 บาท) ทำให้รถคันนี้เลยเป็นตัวที่ได้รับผลกระทบและกลายเป็นภาระ และรถเพิ่งซื้อมาได้แค่ครึ่งปี และผมต้องใช้รถทำงาน...ผมขอตัดการขายทิ้งออกไปเลยนะครับ
ผมอยากปรึกษาว่ารถคันนี้ผมจะขอเข้าปรับโครงสร้างหนี้ได้เลยไหม? (ผมผ่อน 60 งวดอยู่) เลยคิดว่าจะขยายออกเป็น 96 งวด อาจจะทำให้ค่าผ่อนต่ำลงเหลือ 13,000 บาท (หรือต่ำกว่านี้...ไม่แน่ใจครับ)

ยังไงรบกวนอาจารย์ และเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ชี้แนะด้วยครับ ว่าควรปรับเปลี่ยนยังไงและเพราะอะไรครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้าที่เสียสละเวลาอ่านมาจนถึงตอนนี้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #110381 โดย cartoon10825

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #110382 โดย cupidbas

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #110386 โดย ponzaa987
สวัสดีครับ

ผมมั่นใจได้เลยว่า พี่ชายได้เข้าไปอ่านในกระทู้ปักหมุดมาแล้ว และผมก็มั่นใจว่าพี่ชายเลือกวิธี HC ในการปิดจบหนี้บัตรเคดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เริ่มลุยครับ

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ตัวตั้ง รายได้ ของพี่ชาย 72,000 บ/ด คราวๆตามที่พี่ชายแจ้งมา

- กลุ่มที่ 1 และ 2 ของพี่ชาย เอายอดจ่ายขั้นต่ำทั้ง 2 กลุ่มนี้มารวมกันจะได้ยอด = 48,333 บ/ด
- กลุ่มที่ 3 ผ่อนต่อปกติ ยอดรวม = 6,100 บ/ด
- กลุ่มที่ 4 ยอดที่ต้องจ่าย ณ ปัจจบัน ยอดรวม = 49,541 บ/ด
ยอดรวมที่ต้องจ่าย 103,974 บ/ด

วิธี (จำนวนเงิน หน่วย บาท ต่อ 1 เดือน บ/ด)
1.หยุดจ่าย กลุ่มที่ 1 และ 2 ยอดที่ต้องจ่ายต่อเดือนจะเหลือ 55,641 บ/ด
รายรับ 72,000 - รายจ่าย กลุ่ม 3,4 55,641 = เหลือเงิน 16,359 บ/ด ลองคิดดูครับหลังจาก กินใช้แล้ว จะมียอดเงินเหลือเก็บเพื่อไป HC ต่อเดือนได้เท่าไหร

2.จัดการกับกลุ่มที่ 4
- รถถ้าใช้มือสองได้ไหม
- บ้าน ออมสินขอลดดอกเบี้ยได้ ตอนนี้ออมสินดอกสินเชื่อบ้าน 4.5% 3 ปี ( เงื่อนไขแบงค์เพื่อขอลดดอกเบี้ยบ้านผมว่าพี่ชายน่าจะทราบนะครับ )
- บ้าน กรุงศรี ผมเดาว่าน่าจะปล่อยเช่าอยู่

ถ้าพร้อมก็ลุยเลยครับ หยุดจ่ายขั้นต่ำ ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในสภาวะแบบนี้ออก เก็บเงินไว้ หารายได้เสริมถ้าทำได้ รอเวลา ปิดจบหนี้เมื่อพร้อม ถ้าไม่เริ่มแล้วเมื่อไหรจะหมดหนี้ครับ ขอให้โชคดีครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #110390 โดย cupidbas

ponzaa987 เขียน: สวัสดีครับ

ผมมั่นใจได้เลยว่า พี่ชายได้เข้าไปอ่านในกระทู้ปักหมุดมาแล้ว และผมก็มั่นใจว่าพี่ชายเลือกวิธี HC ในการปิดจบหนี้บัตรเคดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เริ่มลุยครับ

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ตัวตั้ง รายได้ ของพี่ชาย 72,000 บ/ด คราวๆตามที่พี่ชายแจ้งมา

- กลุ่มที่ 1 และ 2 ของพี่ชาย เอายอดจ่ายขั้นต่ำทั้ง 2 กลุ่มนี้มารวมกันจะได้ยอด = 48,333 บ/ด
- กลุ่มที่ 3 ผ่อนต่อปกติ ยอดรวม = 6,100 บ/ด
- กลุ่มที่ 4 ยอดที่ต้องจ่าย ณ ปัจจบัน ยอดรวม = 49,541 บ/ด
ยอดรวมที่ต้องจ่าย 103,974 บ/ด

วิธี (จำนวนเงิน หน่วย บาท ต่อ 1 เดือน บ/ด)
1.หยุดจ่าย กลุ่มที่ 1 และ 2 ยอดที่ต้องจ่ายต่อเดือนจะเหลือ 55,641 บ/ด
รายรับ 72,000 - รายจ่าย กลุ่ม 3,4 55,641 = เหลือเงิน 16,359 บ/ด ลองคิดดูครับหลังจาก กินใช้แล้ว จะมียอดเงินเหลือเก็บเพื่อไป HC ต่อเดือนได้เท่าไหร

2.จัดการกับกลุ่มที่ 4
- รถถ้าใช้มือสองได้ไหม
- บ้าน ออมสินขอลดดอกเบี้ยได้ ตอนนี้ออมสินดอกสินเชื่อบ้าน 4.5% 3 ปี ( เงื่อนไขแบงค์เพื่อขอลดดอกเบี้ยบ้านผมว่าพี่ชายน่าจะทราบนะครับ )
- บ้าน กรุงศรี ผมเดาว่าน่าจะปล่อยเช่าอยู่

ถ้าพร้อมก็ลุยเลยครับ หยุดจ่ายขั้นต่ำ ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในสภาวะแบบนี้ออก เก็บเงินไว้ หารายได้เสริมถ้าทำได้ รอเวลา ปิดจบหนี้เมื่อพร้อม ถ้าไม่เริ่มแล้วเมื่อไหรจะหมดหนี้ครับ ขอให้โชคดีครับ


ขอบคุณครับน้อง ponzaa987
ถูกต้องครับ...ผมเทใจไป HC
ตอนนี้ผมคุยกับที่บ้านหมดแล้ว ทั้งพ่อ แม่ และแฟน เพราะไม่อยากให้พวกเขาคิดมาก และแจ้งแผนการแล้วก็ Timeline ให้เขาทราบคร่าวๆ

พรุ่งนี้...ผมจะติดต่อไปที่ธนาคารออมสิน เพื่อขอลดวงเงินการผ่อนลงสัก 50% เป็นเวลา 3 ปี ... โดยแจ้งปัญหาให้ธนาคารทราบ แล้วค่อยกลับมาผ่อนแบบปกติปีที่ 4 เป็นต้นไป (แนวคิดผมคือ ปีที่ 4-6 ผมจะผ่อนปกติและเพิ่มส่วนที่ขาดของ 3 ปีก่อนหน้าอีกเดือนละ 50%) ... ผมคาดหวังว่า 10 ปีถัดจากนี้น่าจะหมดบ้านหลังนี้

และก็ติดต่อไปธนาคารกรุงศรีอยุธยาครับ เพื่อขอจัดระบบการผ่อนบ้านและรถลง 50% เป็นเวลา 3 ปี เช่นเดียวกับออมสิน ใช้ Concept เดียวกันครับ (บ้านหลังนี้เพิ่งปล่อยเช่าครับ...เดิมทีตั้งใจซื้อไว้เป็นสมบัติ แต่ด้วยเหตุการณ์ปัจจุบัน ต้องเอาตัวให้รอดก่อนครับ ไม่งั้นบ้านจะไม่พัง...แต่ผมจะพังไปซะก่อน) แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจเรื่องสินเชื่อรถยนต์ ... ว่าจะทำได้แค่ไหน แต่ต้องลองดู

ส่วนการเตรียมเงิน HC ผมวางแผนไว้คร่าวๆ แล้ว ... ภาพรวมผมน่าจะจบหนี้สินพวกนี้ตอนเดือน Aug-2020 แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะดึงได้ไปถึงขนาดนั้นไหม เพราะหยุดจ่ายพร้อมกันหมด...ระยะเวลากับการเก็บเงินค่อนข้างบีบหัวใจผมมาก และผมไม่ต้องการดึงเงินใครมา Support HC เว้นแต่ได้ Option ที่ดีมากๆ จากเจ้าหนี้

แต่ปีนี้อาจจะปิดได้ 4 บัตรตามแผนการ ตั้งแต่ Sep-19 ถึง Dec-19
คิวแรกน่าจะ
Krungsri FC คาดหวังที่ 50% เป็นอย่างน้อย
คิวสองน่าจะบัตรเครดิตกรุงเทพ
คิวสามน่าจะบัตรกสิกร
คิวสี่น่าจะ Krungsri Homepro
พวกนี้คาดหวังที่ Option 50% เป็นอย่างน้อย...ไม่แน่ใจว่าพอจะเป็นไปได้ไหม?

กังวล Citi Advance ... กลัวมันจะรีบฟ้องแล้วมาชนกับพวก 4 บัตรที่ผมวางแผนปิด ... ตัวนี้ถ้าผมหยอดไปเล่นๆ ก่อน เพื่อให้ได้ปิดตอน Mar-2020 มันจะเวิร์คไหม? แต่ถ้ามันฟ้องเร็ว...ถ้าไม่ทันอาจจะต้องประนอมหนี้ เพราะผมอ่านผ่านๆ ว่า Citi Advance 6 เดือนก็ฟ้องละ (ถ้าจำไม่ผิด)

จริงๆ ทุกเจ้าผมหวังที่ 50% เป็นขั้นต่ำ ... แต่ได้ข่าวว่า SCB เริ่มจะโหด...เผลอๆ อาจให้ได้แค่เหลือต้น

ส่วน JMoney กับ Summit Capital อันนี้ผมเดาว่าอาจจะนานสักระยะหนึ่ง เพราะเขาเพิ่งลงมาเล่นตลาดสินเชื่อบุคคล อาจจะใช้เวลาในกระบวนการต่างๆ นานกว่าพวกเจ้าที่ชำนาญตลาด (อันนี้เดาในแง่ดี) แต่สำหรับสองเจ้าหนี้ผมยินดีขึ้นศาลเพื่อต่อสู้กับกรณีดอกเบี้ยโหด โดยเฉพาะ JMoney

ยังไงรบกวนแชร์ข้อมูลให้ผมหน่อยนะครับ...ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมหรือแนวทางที่เหมาะสม

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #110393 โดย cartoon10825

cupidbas เขียน: @cartoon10825
ขอบคุณมากๆ ครับ

เปนหนี้สามแสนกว่าค่ะ ตอนนี้เพิ่งไม่จ่ายบิลไป1รอบคือ1/4/62เจ้าหนี้โทรตามสุดๆค่ะวันหนึ่งเกือบ20สาย แรกๆก็เครียดค่ะตอนนี้พยายามปลง555อยากหลุดพ้นค่ะ รอhcอย่างเดียวค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #110409 โดย cupidbas

cartoon10825 เขียน: เปนหนี้สามแสนกว่าค่ะ ตอนนี้เพิ่งไม่จ่ายบิลไป1รอบคือ1/4/62เจ้าหนี้โทรตามสุดๆค่ะวันหนึ่งเกือบ20สาย แรกๆก็เครียดค่ะตอนนี้พยายามปลง555อยากหลุดพ้นค่ะ รอhcอย่างเดียวค่ะ


ใจแข็งไว้นะครับ ... เป็นกำลังใจให้ครับ ผมเองพูดอะไรไม่ได้มาก ... เพราะยังไม่เคยโดนทวง ซึ่งน่าจะเริ่มปลายเดือนหน้าแล้วครับ ... ก็คิดว่าตัวเองก็จะผ่านไปให้ได้ และต้องผ่านให้ได้

Update: 29-April-2019

วันนี้ผมแจ้งไปที่ธนาคารออมสิน กับพี่ที่ดูแลเคสผมโดยตรง เขาให้ผมเข้าไปเขียนคำร้องและสาเหตุของการปรับลดยอดผ่อนเพื่อให้กรรมการพิจารณา ... เป้าหมายคือ ผมอยากจะลดยอดผ่อนลง 50% จากปี 2562 - 2565 (ขอผ่อนประมาณ 12,500 บาทต่อเดือน) และไปเพิ่มการผ่อนอีก 50% จากยอดตอนนี้ในปี 2566 - 2569 (เพิ่มการผ่อนเป็น 34,900 บาทต่อเดือน) (อันนี้คือเพื่อทำโทษตัวเอง) และคาดหวังว่า บ้านหลังนี้จะผ่อนหมดในปี 2572 - 2573 (อันนี้คือแผน Short term และ Long Term: ถ้าไม่ดียังไงแนะนำได้นะครับ)

ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่จะขอทำการปรับลดยอดการผ่อนบ้านลง 50% นั้น ... ธนาคารรับเรื่องไว้ แล้วจะติดต่อกลับใน 3-5 วันทำการ แต่เดาว่าน่าจะได้...แผนการที่วางไว้ก็เหมือนธนาคารออมสิน คาดหวังว่าจะหมดในปี 2567 - 2568 (ปี 2562 - 2565 วางแผนผ่อน 5,000 บาทต่อเดือน และปี 2566 - 2569 วางแผนผ่อน 14,600 บาทต่อเดือน)

*แต่ถ้าผมโดนประนอมหนี้บัตรเครดิตบางเจ้าก่อน ... แผนการนี้ก็อาจเปลี่ยนแปลงครับ โดยเฉพาะ SCB กับ Citi Advance ที่ผมกลัวว่าจะโดนประนอมหนี้ก่อน*

สำหรับรถยนต์...ธนาคารกรุงศรีอยุธยาแจ้งว่าผมไม่สามารถขยายระยะเวลาหรือปรับโครงสร้างหนี้ได้เนื่องจากรถผ่อนยังไม่ถึงปี ... สำหรับกรณีนี้ผมมีทางไว้ 3 ทาง
1. ผ่อนเดือนเว้นเดือน ... และรักษาระยะการค้างชำระไว้ที่ 3 เดือน (แต่วิธีการนี้ไม่เวิร์ค ... ผมมองว่ามันจะทำให้ผมเสียเงินเก็บไปเป็นดอกเบี้ยบางส่วน ยังไงช่วย Comment วิธีการนี้ได้นะครับถ้ามันไม่เวิร์คจริงๆ)
2. ผ่อนเต็มปกติ...แล้วไปขอปรับโครงสร้างตอนผ่อนครบหนึ่งปี (อันนี้ก็ยังไม่ให้น้ำหนักซักเท่าไร...เพราะดูแล้วจะไม่ทันการ วิธีที่หนึ่งยังดูดีกว่าเพราะยังเหลือ 17341 * 3 = 51,000 (แต่ยังไม่ตัดดอกเบี้ยค้างชำระออก))
3. พ่อจะช่วยผ่อนเดือนละ 5,000 บาท...วิธีการนี้ดูดี แต่อย่างที่บอกผมไม่อยากให้ครอบครัวต้องมาลำบาก ถึงแม้ว่าการเป็นหนี้ของผมจะข้องเกี่ยวกับพ่อเกิน 50% ... แต่ผมยินดีชดใช้ (อันนี้ผมก็พิจารณาเป็น Priority แรกๆ และอาจจะใช้วิธีนี้ไปเล่นกลกับวิธีค้างชำระ 3 งวดประกอบกัน (ยังไงช่วย Comment ได้นะครับ)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 4 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #110414 โดย ponzaa987
สวัสดีครับ
เรื่องรถ ผ่อนเดือนเว้นเดือน (ระยะค้างไม่เกิน 3 งวด) อันนี้ช่วยได้ในตอนต้นครับ เพราะเราจะเก็บเงินได้มากขึ้นในช่วงเวลานี้ อันนี้ผมก็ใช้ หลังจากเริ่มปิดบัตรต่างๆได้ ผมก็ค่อยๆปรับให้งวดรถกลับมาสถานะปกติ แต่ก็ต้องโดนค่าทวงถามและก็เบี้ยปรับล่าช้าไปด้วย ลองปรับใช้ดูครับพี่ชาย

สู้ๆครับ

( ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะจ่าย น้องลองติดต่อมาใหม่นะ แต่พี่ก็พอมีเงินก้อนอยู่ แต่ไม่มาก ..... )

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #110416 โดย cupidbas

ponzaa987 เขียน: สวัสดีครับ
เรื่องรถ ผ่อนเดือนเว้นเดือน (ระยะค้างไม่เกิน 3 งวด) อันนี้ช่วยได้ในตอนต้นครับ เพราะเราจะเก็บเงินได้มากขึ้นในช่วงเวลานี้ อันนี้ผมก็ใช้ หลังจากเริ่มปิดบัตรต่างๆได้ ผมก็ค่อยๆปรับให้งวดรถกลับมาสถานะปกติ แต่ก็ต้องโดนค่าทวงถามและก็เบี้ยปรับล่าช้าไปด้วย ลองปรับใช้ดูครับพี่ชาย

สู้ๆครับ

( ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะจ่าย น้องลองติดต่อมาใหม่นะ แต่พี่ก็พอมีเงินก้อนอยู่ แต่ไม่มาก ..... )


@ponzaa987
ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจและการแนะแนวทาง...อย่างน้อยก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่าแนวทางที่คิดไว้พอจะทำได้จริง
พรุ่งนี้วางแผนจะโทรไปหาเจ้าหนี้แต่ละราย แจ้งเปลี่ยนเบอร์โทร เพราะเบอร์เก่าเลิกใช้ไปนานแล้ว แต่น่าจะยังแจ้งเจ้าหนี้ไม่หมด (ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องอยู่ในสภาพนี้) ... จะได้เตรียมเริ่ม War ตั้งแต่สิ้นเดือนนี้

ชอบใจ JMoney มากครับ...แอบอ่านตามกระทู้เพื่อนๆ ... อยากจะขอ War ด้วย รู้สึกว่าปากดีมากครับ...ว่าหลักเกณฑ์ไม่เหมือนที่อื่น แถมจะลงหน้างานด้วย (โทษนะ...ไม่กลัว ถ้าหลุดด่า จะด่ากลับให้สำนึกไม่ทันเลย และไม่อายชาวบ้านด้วย...เพราะอยู่หมู่บ้านจัดสรร ไม่ได้มี Close Relationship กับใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว รู้สึกฮึดมาก) สำหรับเคส JMoney นี่ขอแบบตายไปข้างครับ ... และสัญญาว่าจะมาอัพเดทตลอดจนจบการเคลียร์หนี้ และคอยช่วยแนะนำสำหรับเจ้าหนี้ที่ผมมีประสบการณ์

ส่วนเจ้าอื่นๆ ก็รอ HC ปกติ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #110418 โดย ponzaa987
ผมว่าพี่ชายผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ อย่างแน่นอนครับ เพราะพี่ชายมีการเตรียมตัวรับมือที่ดีมาก ข้อมูลต่างๆ ที่แห่งนี้ มีไว้ให้ทั้งหมดแล้วครับ แค่เข้าไปอ่านและนำไปปรับใช้กับสถานะการณ์ของตัวเราเองครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #110421 โดย cupidbas

ponzaa987 เขียน: ผมว่าพี่ชายผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ อย่างแน่นอนครับ เพราะพี่ชายมีการเตรียมตัวรับมือที่ดีมาก ข้อมูลต่างๆ ที่แห่งนี้ มีไว้ให้ทั้งหมดแล้วครับ แค่เข้าไปอ่านและนำไปปรับใช้กับสถานะการณ์ของตัวเราเองครับ


ขอบคุณมากครับน้องชาย...
ยอมรับว่าสัปดาห์ที่แล้วเครียดมาก...หาทางออกไม่ได้ โชคดี Search Google มาเจอเว็ปนี้ ได้เห็นแนวทางการแก้ปัญหาและความอดทนของเพื่อนๆ ... อยากจะทำให้ได้ครับ

ผมเลยเอาแผนการ HC ผมมาแชร์...ส่วนใครอยากได้ Excel ก็บอกผมนะครับ...ยินดีให้ ส่วนใครจะลองไปปรับทำตามแบบของตัวเองผมก็ยินดีครับ...คาดหวังว่า Aug-2020 ผมต้องหมดหนี้สินเชื่อและบัตรเครดิต

มาคอยติดตามกันครับว่าแผนการที่วางไว้จะทำได้ดีแค่ไหน
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #110438 โดย cupidbas
Update 30-Apr-2019

ได้รับโทรศัพท์จากธนาคารกรุงศรีเรื่องสินเชื่อบ้าน...ว่าสามารถปรับลดดอกเบี้ยการผ่อนลงได้ไม่มาก ... และได้ในระยะเวลาเพียง 1 ปีเนื่องจากบ้านเพิ่งผ่อนมาปีกว่าๆ (จาก 9,800 เหลือ 8,500) แล้วหลังจากนั้นก็จะผ่อนปกติ และไม่มีการปรับดอกเบี้ยเพิ่ม คงสัญญาผ่อนที่ 30 ปีเช่นเดิม (พอบอกถึงสาเหตุว่าทำไมต้องปรับยอดผ่อน...ธนาคารก็ทำเสียงค่อนข้างเห็นใจ แล้วก็มีแนะแนวทางการจ่ายให้ค่อยๆ จ่าย...เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ)

จริงๆ ผมวางแผนที่จะผ่อน 5,000 บาท เป็นเวลาสามปีติด

เงื่อนไขต่อไป ... จะขอผ่อนที่ 5,000 บาท 3 ปี...และผ่อนเพิ่มเป็น 14,600 บาท ปีที่ 4-6 ... แต่ไม่แน่ใจว่าธนาคารจะยอมไหม? (เดาว่าน่าจะไม่ได้)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #110536 โดย cupidbas
Update 9-5-2019

เนื่องจากผมเปลี่ยนแผนมาหยุดจ่ายกะทันหัน เนื่องจากขี้เกียจรอเวลา เลยได้หยุดสินเชื่อทุกตัวตั้งแต่เดือน เมษายน 2562 (ยกเว้น บ้าน รถ FC และ Homepro แต่เดือนหน้าก็หยุด FC และ Homepro)

วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหนี้ในฝัน JMoney โทรเข้าบริษัท

ซึ่งผมตั้งใจแต่แรกแล้วว่า ไม่ว่าเจ้าหนี้รายไหนๆ ก็ตาม ที่โทรเข้าบริษัท ... ผมจะด่าไม่ให้เหลือซากทุกคน

ทำไมผมถึงทำแบบนี้

1. คุณมีปัญญาไปซื้อข้อมูลจากประกันสังคมมาได้ ในนั้นมีชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์อันใหม่ ... ฉะนั้น ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องโทรเข้าบริษัท เจตนาคือกดดันและทำให้อับอาย ฉะนั้น...ผมด่าไม่ไว้หน้า ไม่ว่าจะโหด จะสบถถากถางแค่ไหน ... ผมก็จะด่า (เพราะผมไม่ต้องการความปราณี...ผมแค่ต้องการเวลาเก็บเงินและชำระหนี้ ส่วนถ้าได้ส่วนลดก็คือเป็นเรื่องที่ดี)
2. ยุคนี้ 4G / 5G ทะเบียนบ้าน อีเมลล์ อะไรก็ได้ สาระพัดวิธีการตามยุคเทคโนโลยี (เพราะเห็นบางเจ้าก็ไปถึงบ้าน) ... ไม่มีปัญญาทำเลยว่างั้น? (โทษนะครับ ... ผมไม่อายถ้าจะมาทวงหนี้ที่ทำงาน แต่เวลางาน ผมก็จะทำงาน ... และเขาจ้างผมมาทำงาน ถ้ารบกวนเวลาทำงาน...ผมด่าแบบไม่คิดชีวิตและไม่เกรงใจเพื่อนร่วมงานด้วย ผมเป็นหนี้เพราะตัวเอง ฉะนั้นผมไม่อายที่ใครจะรู้ว่าผมเป็นหนี้ แต่เป็นหนี้ผมก็จะชดใช้)
3. ไม่สนับสนุนการทวงหนี้ที่บริษัท ในลักษณะกดดันและเจตนาให้เกิดความอับอาย ซึ่งเจ้าหนี้ลักษณะนี้ผมจะปล่อยให้ฟ้องศาลไปเลย เพราะถือว่าไม่มีความเป็นมนุษย์ และผมจะด่าทุกเจ้าที่ทำแบบนี้โดยที่ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ผมไม่คาดหวังความเมตตาปราณีจากเจ้าหนี้ที่มีลักษณะ "ใจหมา"

เข้าเรื่องดีกว่า...
เจ้าแรกในฝันของผม JMoney

ฝ่ายเจ้าหนี้: สวัสดีค่ะ ... คุณ (ชื่อ-นามสกุล) ใช่ไหมครับ?
ผม: ครับ...ว่าไงครับ
ฝ่ายเจ้าหนี้: พอดีค้างชำระ JMoney ตั้งแต่วันที่ ...
ผม: โทรเข้าเบอร์บริษัทได้ยังไง ... ไปเอาเบอร์มาจากไหน?
ฝ่ายเจ้าหนี้: ค่ะ? พอดีขึ้นที่หน้าสัญญานะค่ะ
ผม: เป็นไปไม่ได้ ... ผมทำงานที่นี่ 4 เดือน และยังไม่เคยให้เบอร์ที่ทำงานไปกับเจ้าหนี้ไหนเลย
ฝ่ายเจ้าหนี้: จริงๆ ค่ะ
ผม: ไม่มีทาง ... ถ่ายหน้าสัญญามา ส่งเมลล์มาให้ผมดู
ฝ่ายเจ้าหนี้: (อึ้ง!) ไม่ได้จริงๆ ค่ะ

หลังจากนี้ ... ให้คุณจินตนาการถึงผู้ชายคนหนึ่ง ที่กำลังทำงานเครียดๆ (ผมไม่เครียดเรื่องหนี้นะ ... อยากให้งานเสร็จตามแผน) แล้วมีคนโทรมากวนเวลาทำงาน ... แถมมาตอแหลใส่ผมอีก ... เท่านั้นแหละ

ด่าลั่นห้องเลยครับ!!! แต่ไม่ได้ด่าไม่สุภาพนะ ... แค่ใส่อารมณ์เต็ม Max กับประโยคข้างล่าง
1.มีปัญญาไปเอาเบอร์ผมมาจากประกันสังคมได้ ไม่ว่าจะซื้อมาหรือด้วยอะไรก็ตาม เบอร์มือถือส่วนตัวก็มี โทรมาเบอร์บริษัททำไม? แล้วแจ้งไปส่วนงานพวกคุณด้วยว่า ถ้าครั้งหน้ายังโทรเข้ามาเบอร์บริษัทผมอีก...ผมจะด่าแบบไม่มี Limit ให้อ้าปากไม่ทันแม้แต่คำเดียว...!!!

วางสาย...และเงียบไป

ผมเองก็ไม่ชอบการด่าอะไรแบบนี้ ... ก็เกรงใจในความรู้สึกของทุกคน และเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องกระทำ แต่คุณจะทวงหนี้ผมด้วยเบอร์บริษัทในขณะที่คุณมีเบอร์ส่วนตัวผมไม่ได้ และผมจะโกรธมาก!! และด่ากลับแบบไฟแล็บชนิดที่ไม่เหลือช่องว่างให้คุณเลย...

ผมอยากจะแชร์ความรู้สึกเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ อ่านเล่นๆ แค่นั้นครับ ... ในตอนนี้เรามีชีวิตหนักหนามากพอในการจัดการหนี้สินมากพอแล้ว ... ผมเชื่อว่าไม่มีใครหนี แต่ด้วยหลายๆ เหตุผลทั้งที่บอกได้และบอกไม่ได้ในการเป็นหนี้ ... เราจึงไม่ควรรับความกดดันจากพวกทวงหนี้มาไว้ในหัวสมองอีก ... สู้เอาเวลาไปคิดหาเงินเพิ่มและปิดหนี้ไวไวดีกว่า

ปล. ถ้าเจ้าหนี้ไหนโทรเข้าบริษัท ... ผมตั้งใจไว้เลยครับว่า จะไม่คุยดี และจะด่าทุกครั้ง (อันนี้เป็นพฤติกรรมส่วนตัว...ไม่ได้หมายความว่าควรทำ และต้องทำ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและสถานะของแต่ละท่านนะครับ) และจะยื้อไปเรื่อยๆ ฟ้องก็ฟ้อง ... กฎหมายมี ระยะเวลามี ... แค่เป็นหนี้ มันคงไม่ตาย

ถ้าความคิดผมมีอะไรไม่เหมาะสม...ก็ตักเตือนได้นะครับ ... แค่อยากแชร์ เพื่อใครสักคนอยากได้กำลังใจที่จะต่อสู้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #111267 โดย maytee
อีกสักพักเดียวมันจะส่งคนมาหาที่บริษัท รอตั้งรับไว้นะครับ ละถ้าเห็นมันจับโทรศัพท์แบบจะถ่ายบอกมันว่าไม่ต้องถ่าย ไม่รู้ว่ามันจะเอาไปทำไร

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #111287 โดย skyskoi
o_) o_)

cupidbas เขียน: Update 9-5-2019

เนื่องจากผมเปลี่ยนแผนมาหยุดจ่ายกะทันหัน เนื่องจากขี้เกียจรอเวลา เลยได้หยุดสินเชื่อทุกตัวตั้งแต่เดือน เมษายน 2562 (ยกเว้น บ้าน รถ FC และ Homepro แต่เดือนหน้าก็หยุด FC และ Homepro)

วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหนี้ในฝัน JMoney โทรเข้าบริษัท

ซึ่งผมตั้งใจแต่แรกแล้วว่า ไม่ว่าเจ้าหนี้รายไหนๆ ก็ตาม ที่โทรเข้าบริษัท ... ผมจะด่าไม่ให้เหลือซากทุกคน

ทำไมผมถึงทำแบบนี้

1. คุณมีปัญญาไปซื้อข้อมูลจากประกันสังคมมาได้ ในนั้นมีชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์อันใหม่ ... ฉะนั้น ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องโทรเข้าบริษัท เจตนาคือกดดันและทำให้อับอาย ฉะนั้น...ผมด่าไม่ไว้หน้า ไม่ว่าจะโหด จะสบถถากถางแค่ไหน ... ผมก็จะด่า (เพราะผมไม่ต้องการความปราณี...ผมแค่ต้องการเวลาเก็บเงินและชำระหนี้ ส่วนถ้าได้ส่วนลดก็คือเป็นเรื่องที่ดี)
2. ยุคนี้ 4G / 5G ทะเบียนบ้าน อีเมลล์ อะไรก็ได้ สาระพัดวิธีการตามยุคเทคโนโลยี (เพราะเห็นบางเจ้าก็ไปถึงบ้าน) ... ไม่มีปัญญาทำเลยว่างั้น? (โทษนะครับ ... ผมไม่อายถ้าจะมาทวงหนี้ที่ทำงาน แต่เวลางาน ผมก็จะทำงาน ... และเขาจ้างผมมาทำงาน ถ้ารบกวนเวลาทำงาน...ผมด่าแบบไม่คิดชีวิตและไม่เกรงใจเพื่อนร่วมงานด้วย ผมเป็นหนี้เพราะตัวเอง ฉะนั้นผมไม่อายที่ใครจะรู้ว่าผมเป็นหนี้ แต่เป็นหนี้ผมก็จะชดใช้)
3. ไม่สนับสนุนการทวงหนี้ที่บริษัท ในลักษณะกดดันและเจตนาให้เกิดความอับอาย ซึ่งเจ้าหนี้ลักษณะนี้ผมจะปล่อยให้ฟ้องศาลไปเลย เพราะถือว่าไม่มีความเป็นมนุษย์ และผมจะด่าทุกเจ้าที่ทำแบบนี้โดยที่ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ผมไม่คาดหวังความเมตตาปราณีจากเจ้าหนี้ที่มีลักษณะ "ใจหมา"

เข้าเรื่องดีกว่า...
เจ้าแรกในฝันของผม JMoney

ฝ่ายเจ้าหนี้: สวัสดีค่ะ ... คุณ (ชื่อ-นามสกุล) ใช่ไหมครับ?
ผม: ครับ...ว่าไงครับ
ฝ่ายเจ้าหนี้: พอดีค้างชำระ JMoney ตั้งแต่วันที่ ...
ผม: โทรเข้าเบอร์บริษัทได้ยังไง ... ไปเอาเบอร์มาจากไหน?
ฝ่ายเจ้าหนี้: ค่ะ? พอดีขึ้นที่หน้าสัญญานะค่ะ
ผม: เป็นไปไม่ได้ ... ผมทำงานที่นี่ 4 เดือน และยังไม่เคยให้เบอร์ที่ทำงานไปกับเจ้าหนี้ไหนเลย
ฝ่ายเจ้าหนี้: จริงๆ ค่ะ
ผม: ไม่มีทาง ... ถ่ายหน้าสัญญามา ส่งเมลล์มาให้ผมดู
ฝ่ายเจ้าหนี้: (อึ้ง!) ไม่ได้จริงๆ ค่ะ

หลังจากนี้ ... ให้คุณจินตนาการถึงผู้ชายคนหนึ่ง ที่กำลังทำงานเครียดๆ (ผมไม่เครียดเรื่องหนี้นะ ... อยากให้งานเสร็จตามแผน) แล้วมีคนโทรมากวนเวลาทำงาน ... แถมมาตอแหลใส่ผมอีก ... เท่านั้นแหละ

ด่าลั่นห้องเลยครับ!!! แต่ไม่ได้ด่าไม่สุภาพนะ ... แค่ใส่อารมณ์เต็ม Max กับประโยคข้างล่าง
1.มีปัญญาไปเอาเบอร์ผมมาจากประกันสังคมได้ ไม่ว่าจะซื้อมาหรือด้วยอะไรก็ตาม เบอร์มือถือส่วนตัวก็มี โทรมาเบอร์บริษัททำไม? แล้วแจ้งไปส่วนงานพวกคุณด้วยว่า ถ้าครั้งหน้ายังโทรเข้ามาเบอร์บริษัทผมอีก...ผมจะด่าแบบไม่มี Limit ให้อ้าปากไม่ทันแม้แต่คำเดียว...!!!

วางสาย...และเงียบไป

ผมเองก็ไม่ชอบการด่าอะไรแบบนี้ ... ก็เกรงใจในความรู้สึกของทุกคน และเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องกระทำ แต่คุณจะทวงหนี้ผมด้วยเบอร์บริษัทในขณะที่คุณมีเบอร์ส่วนตัวผมไม่ได้ และผมจะโกรธมาก!! และด่ากลับแบบไฟแล็บชนิดที่ไม่เหลือช่องว่างให้คุณเลย...

ผมอยากจะแชร์ความรู้สึกเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ อ่านเล่นๆ แค่นั้นครับ ... ในตอนนี้เรามีชีวิตหนักหนามากพอในการจัดการหนี้สินมากพอแล้ว ... ผมเชื่อว่าไม่มีใครหนี แต่ด้วยหลายๆ เหตุผลทั้งที่บอกได้และบอกไม่ได้ในการเป็นหนี้ ... เราจึงไม่ควรรับความกดดันจากพวกทวงหนี้มาไว้ในหัวสมองอีก ... สู้เอาเวลาไปคิดหาเงินเพิ่มและปิดหนี้ไวไวดีกว่า

ปล. ถ้าเจ้าหนี้ไหนโทรเข้าบริษัท ... ผมตั้งใจไว้เลยครับว่า จะไม่คุยดี และจะด่าทุกครั้ง (อันนี้เป็นพฤติกรรมส่วนตัว...ไม่ได้หมายความว่าควรทำ และต้องทำ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและสถานะของแต่ละท่านนะครับ) และจะยื้อไปเรื่อยๆ ฟ้องก็ฟ้อง ... กฎหมายมี ระยะเวลามี ... แค่เป็นหนี้ มันคงไม่ตาย

ถ้าความคิดผมมีอะไรไม่เหมาะสม...ก็ตักเตือนได้นะครับ ... แค่อยากแชร์ เพื่อใครสักคนอยากได้กำลังใจที่จะต่อสู้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.203 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena