สภาพัฒน์จับตาหนี้ ส่งสัญญาณเตือนยอดค้างชำระเกิน3เดือนขยับ สินเชื่อบ้าน-รถยนต์-บริโภคพุ่ง

4 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #111482 โดย Pheonix
สศช.เกาะติดสถานการณ์หนี้ครัวเรือน ยอดสินเชื่อบริโภคเพิ่ม แห่กู้ซื้อบ้าน-รถยนต์ ยอดค้างชำระเริ่มขยับ
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภาวะสังคมไทย ไตรมาส 4 และตลอดปี 2561 ว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนเริ่มมีสัญญาณที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อส่วนบุคคลในไตรมาส 4/2561 อยู่ที่ 2.66% เทียบกับ 2.73% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนยอดค้างชำระหนี้เกิน 3 เดือน อยู่ที่ 9.9% เทียบกับ 9.6% ในไตรมาส 3 ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตค้างชำระเกินเดือนเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจาก หดตัวต่อเนื่องในปี 2559
สำหรับข้อมูลหนี้ครัวเรือนที่ สศช.มีล่าสุด ณ ไตรมาส 3 ปี 2561 อยู่ที่ 12.56 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เทียบกับช่วงเดียวกัน ขณะที่สินเชื่อเพื่อการบริโภคของธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 9.4% จึงต้องติดตามแนวโน้มการก่อหนี้เพื่อการบริโภคอื่นๆ ด้วย
"มีบางส่วนเกิดการจูงใจและส่งเสริมการตลาดจากหลายปัจจัย ทั้งกรณีที่มาตรการรถยนต์คันแรกสิ้นสุดระยะ 5 ปี คนซื้อเริ่มเปลี่ยนมือได้ รวมถึงมาตรการ LTV ที่แบงก์ชาติ ออกมาคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ทำให้คนเร่งซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น" นายทศพร กล่าว
ด้านภาคแรงงานพบว่า ไตรมาส 4/2561การจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.9% และ ทั้งปีเพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่การว่างงาน ณ สิ้นปีอยู่ที่ 0.9% ต่ำที่สุดในรอบ 12 ไตรมาส แต่ภาวการณ์มีงานทำภาพรวมจะดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง ทั้งสภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร อาจส่งผลต่อการจ้างงานและรายได้เกษตรกร ความผันผวนเศรษฐกิจโลกจากสงครามการค้าอาจกระทบต่อการจ้างงานภาคส่งออกบางกลุ่ม การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่นำเครื่องมือเครื่องจักรเข้ามาแทนกำลังคน
ขณะเดียวกันต้องเตรียมกำลังคนให้ตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ หรืองานที่ทดแทนไม่ได้ด้วยเทคโนโลยี ขณะนี้ ที่เริ่มเห็นผลกระทบแล้วคือพนักงานธนาคาร พนักงานด้านการพิมพ์ ส่วนสาขาที่ต้องการแรงงานคือนักเขียน แอพพลิเคชั่น และยูทูบเบอร์
นายทศพร กล่าวอีกว่า การพัฒนาทุนมนุษย์จำเป็นจะต้องเร่งยกระดับคุณภาพการศึกษา ลดปัจจัยเสี่ยงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนอายุ 15-25 ปี
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ • วันที่ 02 มี.ค. 2562 เวลา 06:12 น.

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

4 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #111483 โดย Pheonix
ข้อ 6. ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2562 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 4 จำนวนบัญชีทั้งสิ้น 13.21 ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง 525,504 ล้านบาท ถ้าคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยปีละ 147,141.12 ล้านบาท ถ้าคิดไปอีก 5 ปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยสะสม 735,706.05 ล้านบาท คิดเป็น 140% ของต้นเงิน 525,504 ล้านบาท ถึงวันนั้น เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ทุกอย่างคงจบสิ้นเพราะประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ และหนี้ครัวเรือนของประชาชนผู้บริโภคจะสูงขิ้นเป็นอันมาก

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.354 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena