ช่วยพิจารณาหน่อยครับ รีไฟแนนรถมาปิดสินเชื่อส่วนบุคคลคุ้มไหม

ช่วยพิจารณาหน่อยครับ รีไฟแนนรถมาปิดสินเชื่อส่วนบุคคลคุ้มไหม หรือมีแนวทางไหนแนะนำบ้างครับ
ยอดหนี้ สินเชื่อส่วนบุคคล
ออมสิน แจ้งยอด 106797 ปิดหมดลด 99000 บาท ดอกเบี้ย 0.7%ต่อเดือน (โทรถามเพราะลืมตอนทำสัญญา ) อันนี้ไม่ทราบยอดว่าขึ้นศาลยอดจะเพิ่มไปเท่าไหร่
TMB แจ้งยอด 53000 บาท ปิดหมดลด 42000 บาท ดอกเบี้ย 28 %ต่อปี (โทรถามเพราะลืมตอนทำสัญญา)มีแจ้งเราอีกว่าถ้าขึ้นศาลยอดอาจขึ้น 60000 70000 บาท ไหนจะค่าทนายค่าธรรมเนียมต่างๆ

รถยนต์ที่จ่ายทุกเดือนเหลือ ยอด 144000 บาท ถ้ารีไฟแนนซ์มาปิดได้ยอด 299000 บาท เหลือเงินมาชำระหนี้ 155000 บาท
จ่ายเดือนละ 6986 บาท จำนวน 60 งวด คิดดอกเบี้ย 5.25% ต่อปี คำนวณดอกเบี้ยตก 120000 บาท 5 ปี

---

โทรสอบถามทาง ออมสิน ถ้าขึ้นศาลเขาจะคิดดอกที่ 15% ต่อปี (ให้ผ่อนสูงสุดยังไม่แจ้งต้องดูสัญญาเก่า)
โทรสอบถามทาง TMB ถ้าขึ้นศาลเขาจะคิดดอกที่ 12% ต่อปี (ให้ผ่อนสูงสุดไม่เกิน 20 งวด)
**********ยอดหนี้เบื้องต้นเขาน่าจะรวมเงินดอกเบี้ยที่ผมค้างประมาณ 6 เดือน จนถึง วันที่ 8/25/62***********
ผมเลยคำนวณทั้งหมดดูแล้ว ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายต่อเดือนเมื่อขึ้นศาล และชำระหนี้กับทางธนาคาร
TMB 3324 บาท ต่อเดือน จำนวน 20 งวด
ออมสิน 2616 บาท ต่อเดือน จำนวน 60 งวด (อันนี้ไม่ทราบเขาจะให้เรากี่งวด)
ค่าใช้จ่าย ที่จ่ายงวดรถปัจจุบัน 5000 บาท จำนวน 28 งวด
รวมค่าใช้จ่าย 3324+2616+5000= 10940 บาท โดยประมาณ

ถ้ารีไฟแนนซ์ ผมจะต้องจ่ายค่างวดรถเพิ่ม 7000 บาท จำนวน 60 งวด
ลองคำนวณส่วนลดจาก ถ้ารีไฟแนนซ์มาปิด
ออมสิน 106797-99000 =7797 บาท
TMB 53000-42000=11000 บาท
รวม 7797+11000=18797 คือส่วนลด ที่ปิดยอดทั้งหมด
นำมาลบกับดอกเบี้ยไฟแนนซ์ 120000 – 18797 =101203 บาท ยอดโดยประมาณ
เงินเดือนผม 15000 บาท
(รถยนต์เป็นชื่อพี่ชายแต่ผมส่ง เขาให้ตัดสินใจเอา)
ถ้าไม่รีไฟแนนและขึ้นศาลไกล่เกลี่ยคำนวณดอกเบี้ย ที่คิดจาก
ออมสิน 15% ต่อปี 110000 60 งวดเป็นเงิน 36946 บาท
TMB 12% ต่อปี 53000 20 งวดเป็นเงิน 12293 บาท
สรุปยอดรวม ถ้ารีไฟแนนซ์ครั้งนี้ เท่ากับ 101203-36946-12293=51964 บาท
ดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้จะลดจาก 120000 บาท เหลือ 51964 บาท
1.อยากจะทราบว่าขึ้นศาลเราจะจ่ายให้เขาน้อยลงหรือตามที่ผมคำนวณโดยประมาณครับเพราะถ้าจ่ายเยอะขนาดนี้ไม่น่าจะไหวหรือสามารถเจรจาต่อรองได้เพิ่มเติมไหม
2.พี่ๆมีแนวทางหรือวิธีไหนแนะนำบ้างตอนนี้น่าจะกำลังทำเรื่องส่งฟ้อง
3.ถ้าขึ้นศาลแล้วผมส่งตรงตลอด 3 ปี เครดิตจะหายไหม หรือยอดหนี้ต้องหมดเครดิตถึงจะเคียร์
4.ผมควรรีไฟแนนซ์ หรือไม่ควรรีดี รอหมายไปขึ้นศาลเลย
5.ถ้าเลือกไปขึ้นศาลสามารถเช็คกับศาลได้ไหมกลัวจดหมายส่งมาไม่ถึง
6.แนวทางที่ 3. ไปศาลเพื่อร้องขอความเมตตากรุณาจากศาล ผมได้อ่านมาบ้างแต่ยังไม่เข้าใจความหมายตรงนี้คือจะให้ศาลช่วยตัดสินไม่ให้ให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยเราเกินกฏหมายกำหนดถูกไหมครับ แล้วถ้าศาลกำหนดมาแล้ว ระยะเวลาชำระคือเราต้องไปตกลงทีหลังกับธนาคารหรอครับ หรือ ว่าต้องจ่ายเงินก้อนอย่างเดียวถ้าเลือกแบบนี้ และต่างจากสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่จะเซ็นต์ต่อหน้าศาล ยังไงครับ

*********เมื่อก่อนทำงานมาก่อนเลยกู้ได้ครับ ตอนนี้พึ่งเริ่มทำงานใหม่ พึงเรียนจบ *******************
**************มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมอีกรบกวนหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ********************

โดยความคิดเห็นส่วนตัวผมนะครับ
1.การรีไฟแนนท์รถ เป็นวิธีนึงที่สามารถแก้หนี้ได้ และไม่ทำให้ติดเครดิตบูโร แต่ต้องสามารถจ่ายไปให้ตลอดรอดฝั่งนะครับ ไม่งั้นก็จะกลับมาติดเครดิตบูโรอีก ก็จะไม่มีประโยชน์ (คุณต้องคิดถึงอนาคต ค่าใช้จ่ายรายวัน และอื่นๆ เพราะคุณต้องชำระผ่อน 7000 บาท ในการรีไฟแนนท์ แลถ้าต้องหมุนเงินด้วยบัตรเครดิตอีก ก็กลับที่เดิมครับ)
2.ส่วนตัวผมนะ ออมสินไม่ค่อยมีส่วนลดเลย ผมจะรอขึ้นศาล (ถ้าข้อเสนอดีก็เจรจาหน้าศาลเขาให้ผ่อนชำระได้) แต่ต้องให้ศาลรับทราบนะครับ อย่าไปถึงศาลแล้วคุยกับทราบตกลงได้แล้วกลับเลยนะ เราต้องอยู่ให้ศาลรับทราบและลงนามต่อหน้าศาลกันทนายเจ้าเล่ แถมเงินเดือนคุณก็ไม่ถึง 20,000 ไม่สามารถอายัดเงินเดือนได้ รถก็ไม่ใช่ชื่อคุณ ส่วน TMB อาจจะมีส่วนลดบ้างแต่ไม่ค่อยเยอะ ช่วงไม่จ่ายเก็บเงินรถ
3.สุดท้ายสมควรเล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านทราบ เพราะหมายศาลจะส่งไปที่บ้านของคุณ แต่ก็มีวิธีพอได้ผมเคยทำแต่สุดท้ายก็หลุดมีส่งไปที่บ้าน
บ้านแทบแตก 555 (คุณต้องหมั่นโทรไปเช็คที่ศาล บอกเลขบัตรประชาชนว่าพอดีมีเรื่องรอฟ้อง อยากโทรมาเช็ค ถ้าพบเราก็บอกกับ จนท. ว่าเราจะไปรับที่ศาลเอง) แต่ของคุณ 2 ใบเอง มีลุ้นนะครับ ผม 10 กว่าใบ ไม่ไหวครับ โดนด่าเรียบร้อย 555

ลองประยุกวิธีการดูนะครับ ขอให้โชคดี

อ่อ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
หนี้ส่วนนี้เป็นหนี้กู้สินเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ไม่ใช่บัตรเครดิต
1.ถ้า 7000 ต่อเดือนคิดว่าไหวครับผมเลยอยากรู้ว่าถ้าขึ้นศาลจะเป็นไปได้ไหมที่ทั้ง สองธนาคารจะจ่ายได้ขั้นต่ำไม่เกิน 3000 บาท รวม เพราะ ตอนนี้ผมจ่ายค่ารถ 5000 บาท ถ้า จ่าย ทั้ง 2 ธนาคารจบที่ 3000 บาททุกเดือน ก็จะเพิ่มขึ้น 8000 บาทต่อเดือนผมว่าไหวอยู่ แต่กลัวจะเป็นยอดแบบที่ผมคำนวณ หมื่นกว่าบาท
2.คือถ้าไปศาลจะได้ส่วนลดกว่าที่เขาแจ้งใช่ไหมครับ
3.ที่บ้านทราบแล้วครับว่าเป็นหนี้เขาให้ตัดสินใจเอง

ที่ผมอยากรุ้ตอนนี้ข้อคำถามที่ผมถามเพิ่มเติมด้านบนใครทราบรบกวนหน่อยครับ
จะได้นำมาพิจารณาเพิ่มเติม ขอบคุณพี่ด้วยครับผมที่แนะนำ

จากที่เคยผ่านมา
1. ส่วนลดส่วนมากจะได้ก่อนขึ้นศาล แต่ถ้าหมายศาลออกแล้ว จะได้น้อยลงเนื่องจาก ต้นทุนเพิ่ม ค่าฤชาศาล ค่าทนาย โน่นนี้นั่น
2. ศาลไม่มีหน้าที่ให้กำหนดยอดเงินผ่อน ส่วนลดใดๆ แล้วแต่ นโยบายธนาคาร บางธนาคารก็ดีให้ชำระ 36 เดือน บางธนาคารเคี้ยวต้องจ่าย 1 ปี เท่านั้น สุดท้ายเราคิดว่าไม่ไหว ก็ให้ศาลตัดสิน หลังจากศาลตัดสินก็จะบังคับเอาเงินก้อนให้ได้ถ้าไม่ได้ก็จะส่งเรื่องบังคับคดี ซึ่งกรณีคุณ เงินเดือนไม่ถึง 20,000 บ. ก็บังคับไม่ได้ เขาก็จะไปสืบทรัพย์อย่างอื่น และส่วนลดก็จะน้อยลง แต่พอเขาอายัดไม่ได้ หรือสืบไม่เจอทรัพย์ ก็จะแขวนลอยไว้มีอายุความ 10 ปี
แต่ถ้าเป็นผมนะเงินเดือนเท่านี้และไม่มีทรัพย์สินชื่อตัวเอง ผมก็จะเก็บเงิน 3000 ที่คุณบอกว่าไหวถือไว้สะสมไว้แฮร์คัด ซึ่งแฮร์คัดได้
ตลอด ก่อนขึ้นศาล หลังศาลตัดสิน สืบหาทรัพย์ไม่เจอ อายุัดไม่ได้ 555 จะเอาอะไรละทีนี้ ก็ต้องหาขอเสนอให้คุณจ่าย ก็เข้ากรณีเรา
มีเงินในมือเสียงดัง 555 ขอให้โชคดีครับ

อ่อผมลืมแจ้งไป ธนาคาร ออมสิน มีชื่อ พ่อและแม่ เป็นผู้ค้ำประกันครับ ซึ่ง พ่อกับแม่ มีทรัพย์สินเป็นชื่อตนเองคือ บ้าน (ของออมสิน) ซึ่งจ่ายยังไม่หมดจนทุกวันนี้

ส่วนเรื่องที่ว่าเก็บเงินไปรอจ่ายทีเดียวผมจะลองเก็บดูแต่ไม่รู้ว่าทันไหมเพราะไม่รู้ว่าจะส่งฟ้องวันไหน ผมผิดนัดชำระช่วง มกราคม2562 จนถึงปัจจุบันครับ

กรณีผม ผู้ค้ำต้องไปไหมถ้าเลือกขึ้นศาล

และถ้าผมเลือกกู้มาปิด ผมจะเป็นหนี้ เพิ่ม 50000 บาท เครดิตเคียรใน 3 ปี ถูกต้องไหมครับ และ ถ้าผมเลือกเคียรแล้วจ่ายรายเดือน อันนี้ต้องรอจ่ายหมดก่อนไหมเครดิตถึงจะเคียรเมื่อถึง 3 ปี หรือว่า ประวัติใหม่เราจะเข้ามา 3 ปี ถึงยอดจะยังไม่หมดประวัติก็ไม่เสีย
ตอนนี้ตัดสินใจตรงนี้ครับ อยากรู้ว่าถ้ายังไม่ปิดหนี้แต่ผมจ่ายรายเดือนไป 3 ปีนี้ ประวัติผมจะปกติใช่ไหมหรือว่าต้องปิดหนี้หมดถึงเริ่มนับ 1 ไปอีก 3 ปี

ขอบคุณพี่มากครับที่แนะนำ

1.ดูที่หมายศาลครับ ฟ้องคนกู้ คนกู้ก็ไป ฟ้องคนค้ำคนค้ำก็ต้องไปด้วยครับ
2.เครดิตบูโรติดตั้งแต่หยุดจ่ายแล้วครับ ถ้าจ่ายสถานะมันก็จะเปลี่ยนไปตามอักษรย่อที่แสดง
3 เครดิตบูโรจะหายออกจากระบบแบบไม่เห็นเลย คือ หลังจากเราปิดหนี้เป็น 0 นับไปอีก 3 ปี ครับ
ข้อมูลบูโรตรงนี้ก็จะหายไปเลยครับ ถ้ายังไม่ถึง 3 ปี มันก็จะบอกว่ายอดเป็น 0 ครับ บูโรคือ หนี้ทั้งหมดของเรา
ประวัติการชำระของเราครับ

อ่อ ขอบคุณมากครับพี่ที่ช่วยแนะนำ ผมขอถามอีกนิดถ้าเป็นพี่จะเลือกแบบไหนหรืออยากแนะนำให้ผมทำยังไงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ตอนนี้คิดมาหลายวันแล้ว

1. กู้มาปิดเลย ยอดหนี้ก็จะส่งต่อเดือนให้กับรถ จาก 5000 บาท เป็น 7000 สรุปเป็นหนี้เพิ่มราวๆ 51964 บาท ระยะเวลา 60 งวด(หักลบยอดหนี้ที่คำนวณยอดเต็มและคิดว่าโดนค่าทนายฝั่งเจ้าหนี้ด้วย)ประวัติจะหายอีก 3 ปี

2.ให้ส่งฟ้องและไปพูดบนศาลให้ช่วยดูเรื่องดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฏหมาย(มีคำถามตรงนี้เพิ่มเติมครับผมไม่เข้าใจส่วนนี้เห็นในเว็ปบอร์ดเขียนว่า ไปศาลเพื่อร้องขอความเมตตากรุณาจากศาล ผมได้อ่านมาบ้างแต่ยังไม่เข้าใจความหมายตรงนี้คือจะให้ศาลช่วยตัดสินไม่ให้ให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยเราเกินกฏหมายกำหนดถูกไหมครับ แล้วถ้าศาลกำหนดมาแล้ว ระยะเวลาชำระคือเราต้องไปตกลงทีหลังกับธนาคารหรอครับ หรือ ว่าต้องจ่ายเงินก้อนอย่างเดียวถ้าเลือกแบบนี้ และต่างจากสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่จะเซ็นต์ต่อหน้าศาล ยังไงครับ) และค่าใช้จ่ายต่อเดือนผม จาก 5000 บาทค่ารถ ผมเลยคำนวณทั้งหมดดูแล้ว ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายต่อเดือนเมื่อขึ้นศาล และชำระหนี้กับทางธนาคาร
TMB 3324 บาท ต่อเดือน จำนวน 20 งวด
ออมสิน 2616 บาท ต่อเดือน จำนวน 60 งวด (อันนี้ไม่ทราบเขาจะให้เรากี่งวด)
ค่าใช้จ่าย ที่จ่ายงวดรถปัจจุบัน 5000 บาท จำนวน 28 งวด
รวมค่าใช้จ่าย 3324+2616+5000= 10940 บาท โดยประมาณ

ค่าใช้จ่ายต่างกันที่ 7000 -10940=3940 บาท ต่อเดือน
สรุปถ้าไปขึ้นศาลผมต้องจ่ายเพิ่มคำนวณแบบขั้นต่ำ 3490 บาท

ยังไงช่วยแนะนำหน่อยครับจะได้ตัดสินใจไปเลย พี่ชายก็รอคำตอบจากผม เพราะยอดรีไฟแนนอนุมัติแล้วเหลือเอาเต็นไปปิด หรือถ้าเลือกแบบขึ้นศาลจะได้บอกพี่ชายไปว่า ไม่รีไฟแนนซ์

ยังไงขอบคุณพี่มากนะครับที่ให้คำแนะนำตลอด -/\-

คุณต้องตัดสินใจเองครับ มันดีเสียต่างกัน
1. การที่ไปรีไฟแนนท์ มาปิดบัตรเป็นการแก้ปัญหาอีกทางหนึ่ง ซึ่งทางนี้จะไม่ทำให้คุณติดบูโร ครับ แต่อาจจะช้าหน่อย
2. กรณีหยุดจ่าย TMB คิดว่ามีส่วนลดถ้าเก็บเงินได้หน้าจะปิดได้ก่อนขึ้นศาลนะครับ เอาเงินที่ส่งมาเก็บก่อน ส่วนออมสิน ผมคิดว่า
ไม่มีส่วนลดนะครับ หากขึ้นศาลต้องลองเจรจาหน้าศาล แต่ปกติจะมีผ่อนจ่ายหน้าศาล และถ้าให้เขาตัดสิน ก็จะเอาเงินก่อน
และนำให้หักคอจ่าย เท่าที่ไหวดอกไม่หน้าเกิน 15% ต่อปีเพราะส่งบังคับคดีเงินเดือนก็คงไม่ได้อะไร

ถ้าไม่ติดบูโร เลือก 1 แต่ถ้าติดบูโร ข้อ 2 ครั้ง ยอดคุณไม่เยอะต้องตัดสินใจดูครับ

แล้วถ้าเลือกข้อ 2 นี่คือ ถ้าส่งบังคับคดี ถึงแม้ผมเงินไม่ถึง 20000 บาท แล้วคนค้ำล่ะครับ เขาจะโดนอะไรบ้างไหมพี่ คนค้ำเงินก็ไม่ถึง 20000 เช่นกันครับ มีทรัพย์สินก็คือบ้านที่กำลังผ่อนกับ ออมสินยังไม่หมด (เป็นสาขาเดียวกันกับที่กู้) กังวลตรงนี้ว่าเขาจะโดนอะไรด้วยไหม หรือ ส่งบังคับคดี มีแต่เราที่โดนครับ

คนค้ำประกันเปรียบเสมือนลูกหนี้นะครับ ถ้าเขาไล่เราไม่ได้เขาก็ไปไล่กับคนค้ำ ผมคิดว่าเป็นหนี้สมควรชดใช่ แต่ชดใช้แบบให้ชีวิต
เราเดินไปได้ด้วย หนี้ของคุณไม่เยอะผมคิดว่าไปจบที่ศาลหักคอจ่ายเอาก็หน้าจะจบครับ

ผมตัดสินใจแล้วน่าจะให้เขาส่งฟ้องครับ คงจะได้หมายศาลในอีก เดือน สองเดือนนี้ผมเข้าใจถูกไหม ขาดส่งตั้งแต่ประมาณ มกราคม 2562

1.ผมไม่รู้ความหมายที่พี่บอกว่า หากขึ้นศาลต้องลองเจรจาหน้าศาล แต่ปกติจะมีผ่อนจ่ายหน้าศาล

กับความหมาย

ถ้าให้เขาตัดสิน ก็จะเอาเงินก่อน และนำให้หักคอจ่าย เท่าที่ไหว ขอขยายความตรงนี้หน่อยพี่

2.รอดูหมายว่าฟ้องคนค้ำด้วยไหม กรณีฟ้องเราคนเดียว เราก็ไป

กรณีฟ้องคนค้ำด้วย แต่คนค้ำไม่ไป แต่ผมไป ถือว่าผิดนัดศาลไหมครับ แม่อยู่ต่างจังหวัดจะได้เตรียมตัวถูกกลัวผมจะไปได้คนเดียว

ถามเยอะมากรบกวนหน่อยนะครับใกล้เข้าใจหลายๆอย่างแล้ว ขอบคุณพี่มากๆครับที่แนะนำตลอด

1. ถ้าคุณเก็บเงินได้ผมว่าหน้าจะได้ แฮร์คัด TMB
2. ของออมสิน ส่วนลดไม่ค่อยมีครับ ส่วนมากธนาคารจะมีข้อเสนอในการผ่อนก่อนศาลตัดสิน ถ้าเรารับได้ก็ไปยอมความหน้าศาล
ก็คือตกลงตามข้อเสนอ แต่ย้ำต้องให้ศาลรับรู้นะเซ็นตรงหน้าศาลเลย ไม่ใช้ไปคุยหน้าห้องแล้วแยกย้ายกลับบ้านนะ
3. เวลาเขายื่นฟ้องแล้ว กว่าหมายศาลมาถึงบ้านเรา ก็แล้วแต่จำนวนคดี ปกติหน้าจะ 6 เดือน ถึง 1 ปี กว่าจะได้หมายศาล
4. กรณีถ้าเขาฟ้องคนค้ำ คนค้ำก็ต้องไปศาล ผิดนัดศาลศาลก็ตัดสินตามคำฟ้อง เพราะไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่มาศาลเองครับ
5. พอหลังจากขึ้นศาล กว่าคำตัดสินจะมาถึงบ้านก็มีเวลา 4 , 6 เดือน บางทีเถึงปี ก่อนจะส่งไปบังคับคดี คำนวนงานๆ 2 ปี คุณ
จ่ายไปเรื่อยๆ ถึงตอนนั้นก็เหลือไม่เท่าไหร่ละครับ เขาก็อายัดเงินเดือนคุณก็ไม่ได้สุดท้ายเราจ่ายไปเรื่อยๆ เดียวก็หมดครับ

ผมจะบอกว่าผมถามพี่ในชมรมเยอะกว่าคุณมากๆๆๆ ครับ ขอให้โชคดี

งั้นระหว่างรอฟ้องนี่ ดอกเบี้ยเงินต้นผมก็จะขึ้นเรื่อยๆถูกไหมครับ หรือจะอยู่ที่ยอดเขาฟ้องครับ

ถ้าขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ผมควรเริ่มจ่ายคืนเขาตอนนี้เลยไหมเป็นรายเดือนๆไป หรือพี่ว่าควรเริ่มจ่ายหลังขึ้นศาลเสร็จ ระหว่างนี้ก็เก็บสะสมเงินไว้ปิด TMB ครับ

ส่วนตัวแล้วธนาคารของรัฐ ค่อนข้างลดน้อย น้อยมาก ถึงไม่ได้ลด ถ้าจ่ายไหวก็สมควรจ่ายออมสิน ถ้าจ่ายไม่ไหวก็หยุดไปก่อนทั้ง 2 ตัว
มันอยู่ที่เงินในกระเป๋าคุณนะครับ แต่ถ้าหยุดจ่าย 2 ตัว แล้วทำให้เก็บเงินได้ส่วนลดมาแฮร์คัทมากขึ้น ทุกวิธีดอกเบี้ยเดินตลอดครับ แต่บางครั้งศาลทางตัดสิน เท่าไหร่ดอกเบี้ยตามที่ฟ้องมันก็จะลดเหลือเท่าที่ศาลตัดสินครับ

อัพเดตล่าสุดครับ ตอนนี้ได้หมายศาลเรียบร้อยแล้วผมสอบถามหน่อยครับ

ของธนาคารออมสิน นัดแล้ว เดือนมกราคม กลางเดือนครับผม 
ส่วน TMB ยังไม่มีหมายศาล

ขอสอบถามหน่อยครับ กรณีนี้ มีผู้ค้ำคือ พ่อและแม่
1.ออมสิน พ่อแม่เป็นคนค้ำเห็นส่งฟ้อง 3 คนคือ ผมและพ่อแม่ ต้องไปกันหมดทุกคนถูกต้องไหมครับ ถ้าผมไปคนเดียวได้ไหมหรือต้องไปหมดพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด
2.ผมไปหาข้อมูลมาอยากรู้ว่า ถ้าผมเลือกทางออกคือให้ศาลตัดสิน ในความเข้าใจผมคือ ผมจะต้องจ่ายเงินหนี้ทั้งหมด ตามวันเวลาที่ศาลจะกำหนดมาถูกต้องไหมครับ หรือศาลจะบอกแค่ยอดหนี้ฟ้อง ไม่ได้กำหนดว่าต้องจ่ายภายในวันที่เท่าไหร่
3.กรณีศาลตัดสินแล้วเขาจะส่งเรื่องบังคับคดี แล้วทีนี้ พ่อแม่ผมมีทรัพย์สินอยู่ คือ บ้านที่ผ่อนกับออมสิน และที่นา ต่างจังหวัด จะโดนขายทอดตลาดไหม หรือว่าผมสามารถไปเจรจากับออมสินหลังจากศาลตัดสินได้ทันทีว่า ขอผ่อนเท่านี้ต่อเดือนได้รึ่ป่าว(หักคอจ่ายและหักจากเงินเดือน) ประมาณนี้ครับ หรือว่า เขาจะไม่รับฟังแล้วส่งบังคับคดีอย่างเดียวเลยครับ ใครมีความรู้ตรงนี้บ้าง (เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารออมสินนะครับ ไม่ใช่ บัตรเครดิต)
4.TMB คงปล่อยรอฟ้องแล้ว ส่งบังคับคดีได้เพราะเป็นชื่อผมคนเดียว คงใช้หลักการหักคอจ่ายได้ ที่อยากรู้คือ ออมสิน ถ้าศาลตัดสินแล้ว ผมจะใช้หลักการนี้ได้ไหมกลัวเขาจะยึดสินทรัพย์ขายทอดตลาด 

มีใครแนะนำได้เพิ่มเติมไหมครับผมมม -/\-

สวัสดีครับตอนนี้มาขอคำปรึกษาจากพี่ๆในกลุ่มครับ
ขอเกริ่นก่อนนะครับติดต่อธนาคารโทรไปสอบถามมาวันนี้ ทางศาลนัดมาวันที่ 14 มกราคา 2563 นี้ครับ ผมเลยโทรไปทางธนาคารออมสิน ทางธนาคารแจ้งว่าถ้าประนอมหนี้เข้ามาที่ธนาคารภายในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 นี้ครับ(แม่อยู่อีกจังหวัดต้องไปรับมาไม่สามารถเซนผ่าน Fax ได้) ผมจึงถามต่อว่า พ่อกับแม่ผมเป็นคนค้ำ ซึ่งตอนนี้แยกทางกันไม่สามารถเจอหน้ากันได้ทำยังไงได้บ้าง ธนาคารบอกว่า ให้พ่อกับแม่มาแยกกันมาเซนที่ธนาคาร แล้ววัน ที่ 14 มกราคม 2563 ก็ทำมอบอำนาจแม่ไม่ต้องมาก็ได้
จากนั้น ผมจึงถามว่า แล้วถ้าให้พิพากษา จะเป็นยังไงบ้าง ทางธนาคารก็แจ้งว่า สืบทรัพย์ แล้วขายทอดตลาด หักเงินเดือนต่างๆ ทีนี้บ้านเป็นชื่อพ่อและแม่เลยถาม ธนาคารต่อ กรณีผ่อนไม่หมดล่ะ ธนาคารขายทอดตลาดได้ไหม เขาแจ้งว่าสามารถ ขายทอดตลาดได้ 

คำถามคือ ผมเลือกแบบไหนดีครับ ประนอมหนี้หรือให้พิพากษา (แต่กลัวว่าเขาจะขาย)
1.ถ้าทำประนอมหนี้ผมก็ต้องไปรับแม่มาเซนเอกสารซึ่งตอนนี้อยู่คนละจังหวัดกันจะยุ่งยากนิดนึงเพราะไม่สามารถเซนผ่าน Fax ได้ และต้องเซนใบมอบอำนาจไปศาล (สามารถให้ผมไปแทนได้ไหมหรือต้องเป็นบุคคลอื่นที่ไม่โดนเรียกไปครับ เพราะตอนนี้ มีชื่อ ผม พ่อ แม่ เป็นคนค้ำ)

2.ถ้าผมเลือกพิพากษาไปเลยแปลว่าผมไม่ต้องไปศาลวันที่ 14 มกราคม 2563 นี้ถูกต้องไหมครับ แล้วผมจะทยอยจ่ายเงินรายเดือนให้ธนาคารได้ไหม ไม่อยากให้เดือดร้อนไปถึงขั้นสืบทรัพย์ขายทอดตลาด(บ้านเป็นชื่อพ่อ กับ แม่ ผ่อนยังไม่หมด) หรือมีวิธีไหนที่ไม่ต้องโดนบังคับคดี ขายทอดตลาด ผมให้เขาหักเงินเดือนได้บางเดือนผมได้ 20000 กว่าบาท แต่เงินเดือนจริงอยู่ที่ 14500 บาท ตอนนี้เท่าวิเคราะห์ดูสามารถจ่ายได้เดือนละ 4000-5000 บาท 

พี่ๆ ท่านไหนมีวิธีแนะนำบ้างครับ รบกวนหน่อยครับ เครียดหนักเลยตอนนี้ ไม่รู้จะเอายังไง ใจก็อยากให้พิพากษาไปเลย แต่ก็กลัวโดนขายของทอดตลาดไม่มีที่อยู่เดือดร้อนไปอีก รบกวนผู้รู้หรือเคยผ่านประสบการณ์กับธนาคาร ออมสินมาแนะนำหน่อยครับ มืดแปดด้าน  
ปล.ยอดราวๆ เงินต้น 89994 รวมดอกเบี้ย 18470 เท่ากับ 108464 โดยประมาณครับ (สินเชื่อเป็นประเภท เงินกู้ส่วนบุคคล คนค้ำ พ่อและแม่)  

พี่ยังอยู่ไหมครับ ขอเบอร์ติดต่อได้รึป่าวครับ...

kengza เขียน: ส่วนตัวแล้วธนาคารของรัฐ ค่อนข้างลดน้อย น้อยมาก ถึงไม่ได้ลด ถ้าจ่ายไหวก็สมควรจ่ายออมสิน ถ้าจ่ายไม่ไหวก็หยุดไปก่อนทั้ง 2 ตัว
มันอยู่ที่เงินในกระเป๋าคุณนะครับ แต่ถ้าหยุดจ่าย 2 ตัว แล้วทำให้เก็บเงินได้ส่วนลดมาแฮร์คัทมากขึ้น ทุกวิธีดอกเบี้ยเดินตลอดครับ แต่บางครั้งศาลทางตัดสิน เท่าไหร่ดอกเบี้ยตามที่ฟ้องมันก็จะลดเหลือเท่าที่ศาลตัดสินครับ

อยู่ไหมหนอ...ขอเบอร์ติดต่อเพิ่มเติมหน่อยครับ