บ้านโดนยึดแล้วค่ะ

ตอนนี้บ้านที่สามีเป็นคนผ่อน ชื่อเป็นของสามี ผ่อนคนเดียว แต่สามีมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ตามฟ้อง แล้วฟ้องแล้ว จนล่าสุดถูกยึดแล้ว หนี้ประมาณ 170000 ราคาประเมินบ้านเกือบ 2 ล้าน ผ่อนได้ 4 ปี ยอดหนี้เหลืออีก 2.4 ล้าน ช่วยกันผ่อนมาแต่เริ่มแ้รก แต่มาจดทะเบียนสมรสกันหลังซื้อบ้านแค่ 2 วัน ตอนนี้สามีลาออกจากงานประจำมาได้ 3 ปีแล้ว มาช่วยกันเปิดร้านขายของ ดิฉันทำอาชีพขายของ สามีช่วยขับรถส่งของให้

ตอนนี้กลุ้มใจมาก เพราะยังไงมันก็เป็นบ้านหลังแรก ที่ช่วยกันผ่อน วันนี้ตัดสินใจไปหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ เพื่อจะไปขอขัดทรัพย์ในภายหน้า ถ้าทำได้

แล้วถ้าเราหยุดส่งค่าบ้าน แล้วเรายังคงอาศัยต่อไปได้อีกนานแค่ไหนค่ะ จนกว่าจะมีคนมาซื้อใหม่ใช่ไหม แล้วเราจะถูกตัดน้ำไฟหรือป่าว ถ้าอย่างนั้น ช่วงนี้เราก็อาศัยอยู่ได้ฟรี ๆ แล้วเก็บเงินค่าผ่อนบ้าน เอาไว้ใช้หนี้ หรือว่าไปซื้อหลังใหม่ แ้ล้วใช้ชื่อดิฉันเป็นคนซื้อ แต่จริง ๆ ไม่อยากใช้วิธีหนี้เลย มันเหมือนหนีหนี้ แต่สามีเค้ายอมตกเป็นหนี้ ยอมล้มละลายค่ะ

แต่ถ้าเราใช้หนี้เจ้าหนี้รายหนี้ เพื่อปลดบ้าน แต่เจ้าหนี้รายใหม่ ๆ ก็คงตามมายึดอีกเรื่อย ๆ เป็นแน่ เครียดมากเลยค่ะ ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี ขอกำลังใจด้วยนะคะ

คนไม่ได้สร้างหนี้ แต่ต้องมาช่วยสามีใช้หนี้ ต้องมาไม่มีบ้านอยู่แท้ ๆ

ืคนไม่ได้สร้างหนี้ เขียน: ตอนนี้บ้านที่สามีเป็นคนผ่อน ชื่อเป็นของสามี ผ่อนคนเดียว แต่สามีมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ตามฟ้อง แล้วฟ้องแล้ว จนล่าสุดถูกยึดแล้ว หนี้ประมาณ 170000 ราคาประเมินบ้านเกือบ 2 ล้าน ผ่อนได้ 4 ปี ยอดหนี้เหลืออีก 2.4 ล้าน ช่วยกันผ่อนมาแต่เริ่มแ้รก แต่มาจดทะเบียนสมรสกันหลังซื้อบ้านแค่ 2 วัน ตอนนี้สามีลาออกจากงานประจำมาได้ 3 ปีแล้ว มาช่วยกันเปิดร้านขายของ ดิฉันทำอาชีพขายของ สามีช่วยขับรถส่งของให้

ตอนนี้กลุ้มใจมาก เพราะยังไงมันก็เป็นบ้านหลังแรก ที่ช่วยกันผ่อน วันนี้ตัดสินใจไปหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ เพื่อจะไปขอขัดทรัพย์ในภายหน้า ถ้าทำได้

แล้วถ้าเราหยุดส่งค่าบ้าน แล้วเรายังคงอาศัยต่อไปได้อีกนานแค่ไหนค่ะ จนกว่าจะมีคนมาซื้อใหม่ใช่ไหม แล้วเราจะถูกตัดน้ำไฟหรือป่าว ถ้าอย่างนั้น ช่วงนี้เราก็อาศัยอยู่ได้ฟรี ๆ แล้วเก็บเงินค่าผ่อนบ้าน เอาไว้ใช้หนี้ หรือว่าไปซื้อหลังใหม่ แ้ล้วใช้ชื่อดิฉันเป็นคนซื้อ แต่จริง ๆ ไม่อยากใช้วิธีหนี้เลย มันเหมือนหนีหนี้ แต่สามีเค้ายอมตกเป็นหนี้ ยอมล้มละลายค่ะ

แต่ถ้าเราใช้หนี้เจ้าหนี้รายหนี้ เพื่อปลดบ้าน แต่เจ้าหนี้รายใหม่ ๆ ก็คงตามมายึดอีกเรื่อย ๆ เป็นแน่ เครียดมากเลยค่ะ ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี ขอกำลังใจด้วยนะคะ

คนไม่ได้สร้างหนี้ แต่ต้องมาช่วยสามีใช้หนี้ ต้องมาไม่มีบ้านอยู่แท้ ๆ

เรื่องบ้านพี่อังแนะนำให้คุณโทรฮอตไลน์หาพี่นกกระจอกเทศ และกรุณาโทรในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น

พี่อัง สวยประหาร[/size][/color]

ขอบคุณมากค่ะพี่อัง สวยประหาร ที่แนะนำ แล้วก็โทรไปหาพี่นกกระจอกเทศตามที่พี่แนะนำแล้ว รู้สึกรบกวนพี่เค้ามากเลยทั้ง ๆ ที่พี่เค้าไม่สบายยังพอจะแนะนำให้อีก ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศอีกครั้งค่ะ แล้วก็ขอให้พี่เค้าหายไว ๆ ด้วยนะคะ ขออนุญาติเอาคำแนะนำของพี่เค้ามาบอกต่อให้กับคนที่มีปัญหาเหมือนกันนะคะ

ช่วงที่บ้านโดนยึดแล้ว เรายังคงสามารถอาศัยต่ออยู่ได้อีก จนกว่าจะถูกขายทอดตลาดแล้วมีคนมาซื้อ แล้วคนที่ซื้อเท่านั้นที่จะขับไล่เราได้ เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราก็สามารถอยู่ต่อไปได้เลยโดนไม่ต้องผ่อนบ้านต่อด้วยซ้ำ เท่ากับว่าอยู่ไปฟรี ๆ เลยค่ะ ส่วนระยะเวลาจะนานแค่ไหนก็ตอบไ่ม่ได้

ดังนั้นช่วงนี้ดิฉันก็จะพยายามเก็บเงินค่าที่ต้องผ่อนบ้านเอาไปใช้หนี้ เจ้าหนี้รายอื่น ๆ ที่จะตามมาอีกเป็นแถว แล้วถ้าเค้าประกาศว่าจะขายทอดตลาด เราก็จะได้มีเงินไปซื้อบ้านหลังนี้กลับมาได้อีกครั้ง แต่ต้องเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่(อดีต)สามีดิฉัน (นั่นก็คือดิฉันเองเพราะเราได้หย่ากันเรียบร้อยแล้ว) ซึ่งราคามันจะถูกลงเสียด้วยซ้ำ ถ้าถึงวันนั้น บ้านหลังนี้คงกลับมาเป็นของดิฉันอีกที ถ้ายังพอมีบุญเหลืออยู่บ้าง

คิดในทางที่ดี ทำให้ยังยิ้มได้ก็คือ ต้องขอบคุณเค้ามากเลยค่ะ ที่มายึดบ้าน ทำให้อย่างน้อยเราก็ได้อยู่ฟรี แถมทำให้เจ้าหนี้รายอื่น ๆ ไม่สามารถมายึดบ้านเราได้อีก ก็คงต้องไปสืบทรัพย์อย่างอื่นเราแทน ซึ่งก็ไม่มีแล้ว เมื่อวานไปติดต่อธนาคารที่เราผ่อนบ้านอยู่ เค้าบอกด้วยซ้ำว่าเค้าเองก็ยึดบ้านหลังนี้แล้วไม่ได้เหมือนกัน แล้วก็แนะนำเราเหมือนกันว่าไม่ต้องผ่อนต่อหรอก (แต่ก็พูดไม่เต็มปากเหมือนกัน บอกว่าแล้วแต่เรานะ)

แต่ยังไง คนเป็นหนี้ก็คงจะไม่หมดความกังวล จนกว่าเราจะหมดหนี้อยู่ดี ตอนนี้ยังมีอีกสิ่งที่กลัวอยู่ดีก็คือ เจ้าหนี้รายอื่นจะตามมายึดของในบ้านนี่แหละค่ะ ถึงแม้ว่ามองในบ้านตัวเองแล้วทรัพย์สมบัติมันจะมีไม่มาก ราคาคงไม่เกิน 50000 บาทก็เถอะ เพราะอดีตสามียังคงเป็นเจ้าบ้านอยู่ดี ตอนนี้เลยมีความคิดว่าจะให้เค้าย้ายชื่ออกไป แล้วดิฉันจะใส่เป็นเจ้าบ้านเอง ไม่รู้ว่าจะยังพอทำได้อยู่หรือป่าว หรือว่ามันสายไปเสียแล้ว เพราะก็มีเจ้าหนี้รายเล็ก ๆ ที่เค้ายังไม่ส่งเรื่องฟ้องอยู่ก็มี แต่ที่ฟ้องแล้ว บังคับแล้วก็มี กำลังจะบังคับก็มี ช่วงนี้เราจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์หรือไม่ค่ะ สงสัยอีกแล้ว

สุดท้ายขอให้คนเป็นหนี้หนักอกทุกคนจงผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ เราจะผ่านไปให้ได้ด้วยกันค่ะ ขอบคุณเว็บนี้ืมากเลยค่ะ (หลังจากที่หาข้อมูลอ่านอยู่หลายวัน)

ทำไมก่อนหน้านั้นถึงไม่ประกาศขายบ้านล่ะครับ

เพราะตอนนั้นไม่อยากขายค่ะ แล้วก็กลัวว่าจะไปกู้ซื้อที่อื่นจะไม่ผ่านด้วยค่ะ แต่ตอนนี้คิดว่าจะลองขายดู เผื่ออาจขายได้ แต่คงต้องหาเงินไปถอนบังคับก่อนอยู่ดี

เข้ามาให้กำลังใจนะค่ะ สติ ความมุ่งมั่น และมีวินัย จะทำให้คุณก้าวข้ามปัญหาไปได้

เรื่องของคุณมาถึงหนทางสุดท้ายแล้ว....ขอให้มีสตินะคะ...

อย่าลืมมาเล่า..เหตุการณ์หลังจากนี้นะคะ...

พี่ลี..ก็เป็นคนหนึ่งที่มีบ้านเป็นชื่อของตัวเอง..เหมือนกัน...ไม่มีทางออกด้วย..

ถ้ามันถึงที่สุด..ก็คงต้องใช้วิธีเดียวกับคุณละคะ...ขอให้โชคดี

ฝากให้อ่านครับ...เผื่อจะช่วยได้บ้าง....

พี่นกอธิบายขั้นตอนการขายทรัพย์ทอดตลาด
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=5646&Itemid=29#5830

ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ยังไม่รู้จะทำยังไง ก็ขออยู่มันไปก่อน สิ้นเดือนก็ไม่ต้องจ่ายค่าบ้านแล้ว แล้วก็รอว่ามีเจ้าหนี้รายใหม่ แต่เป็นรายใหญ่ที่สุดมาตามทวงเพิ่มขึ้นอีก เหอ ๆ ๆ

ืคนไม่ได้สร้างหนี้ เขียน: ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ยังไม่รู้จะทำยังไง ก็ขออยู่มันไปก่อน สิ้นเดือนก็ไม่ต้องจ่ายค่าบ้านแล้ว แล้วก็รอว่ามีเจ้าหนี้รายใหม่ แต่เป็นรายใหญ่ที่สุดมาตามทวงเพิ่มขึ้นอีก เหอ ๆ ๆ

อยู่ไปก่อนได้คะ อย่าไปซีเรียสเครียดกับมัน...ให้บ้านช่วยเรา ตราบใดทียังมีลมหายใจ มีหนึ่งสมอง

สองมือ สองเท้า ต้องหาบ้านได้ใหม่แน่นอน...แม้ล้มในวันนี้...ต้องลุกขึ้นยืนให้ได้ในวันหน้า...ไม่ท้อ ไม่ถอย

ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้เสมอ สุ้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร[/size]

ขอบคุณมากค่ะพี่อัง สำหรับกำลังใจ ตอนนี้มีหลายอย่างที่คิดจะทำ แต่ไม่รู้ว่ายังพอจะทำได้บ้างไหม

1. ให้อดีตสามีย้ายทะเบียนบ้านและเปลี่ยนชื่อเรามาเป็นเจ้าบ้านแทน ไอ้ที่เค้าฟ้องแล้ว บังคับแล้วก็ช่างมัน แต่ไอ้ที่กำลังตามทวง จะฟ้อง ก็ยังมีเหลือ

2 ลองประกาศขายบ้านหลังนี้แบบถูก ๆ ดู เอาแค่ไ่ม่มีหนี้เกิดใหม่กับเจ้าหนี้ผ่อนบ้าน หรือโชคดีมีเงินเหลือติดบ้าง

3 หาซื้อบ้านใหม่ใช้ชื่อตัวเอง

4 ดื้อด้านอยู่มันไปฟรี ๆ แบบนี้นี่แหละ อยากมายึดเองนี่ แล้วก็เก็บเงินที่ต้องส่งค่าบ้านทุกเดือนไว้เป็นทุนเอาไว้ทำตามที่พี่นกแนะนำ เอาไว้ช้อนซื้อกลับ หึหึ

ืคนไม่ได้สร้างหนี้ เขียน: 1. ให้อดีตสามีย้ายทะเบียนบ้านและเปลี่ยนชื่อเรามาเป็นเจ้าบ้านแทน ไอ้ที่เค้าฟ้องแล้ว บังคับแล้วก็ช่างมัน แต่ไอ้ที่กำลังตามทวง จะฟ้อง ก็ยังมีเหลือ

ขอแนะนำว่า ให้อดีตสามีย้ายชื่อออกไปจากทะเบียนบ้านหลังนี้ไปเลย
แล้วไปอาศัยชื่อเป็น"ผู้อาศัย"(ลูกบ้าน)ของใครก็ได้ เช่น เพื่อนสนิท หรือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา...ฯลฯ
แต่ไม่ควรใช้ชื่อเป็น"ผู้อาศัย"(ลูกบ้าน)อยู่ในบ้านหลังที่ถูกยึดนี้อีกต่อไป

ืคนไม่ได้สร้างหนี้ เขียน: 2 ลองประกาศขายบ้านหลังนี้แบบถูก ๆ ดู เอาแค่ไ่ม่มีหนี้เกิดใหม่กับเจ้าหนี้ผ่อนบ้าน หรือโชคดีมีเงินเหลือติดบ้าง

บ้านหลังนี้ ได้ถูกอายัดพิทักษ์ทรัพย์โดย"กรมบังคับคดี"เป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ดังนั้นจึงไม่สามารถ ซื้อ-ขาย โดยตรงได้ครับ

หากต้องการจะซื้อขาย ต้องทำดังนี้

- ต้องเอาเงินไปวางทรัพย์(เพื่อไถ่ถอนการจำนอง)กับธนาคารที่เป็น"เจ้าหนี้บ้าน"ตัวจริง(เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์) และต้องชำระหนี้คงค้างที่มีอยู่ทั้งหมดทุกราย(ตามคำพิพากษาของศาล)เสียก่อน จึงจะเกิดการซื้อขายกันได้

- ไปช้อนซื้อ บ้าน+ที่ดิน หลังนี้ จากขั้นตอนการประมูลของกรมบังคดี (ในราคาถูกๆ)

ขอบคุณมากค่ะพี่นกกระจอกเทศ รอคำตอบจากพี่มาหลายวัน โทรไปวันนั้นอยากถามเพิ่ม แต่เกรงใจ แต่ในที่สุดก็ได้รับคำตอบจากพี่จนได้ ขอบคุณค่ะ

ย้ายออกไปเลยคุณอดีตสามี ผู้สร้างปัญหา ชิ้ววววววววววว

สวัสดีค่ะ เห็นกระทู้แล้ว อยากจะเข้ามาร่วมเล่าประสบการณ์ ให้เพื่อนๆ ที่เจอเคสเดียวกัน..........
nine เอง ก็เจอ เจ้าหนี้บัตรเครดิต มาอายัด ทาวน์เฮ้าส์....สมมติให้เป็น ธนาคาร A มีหมายอายัดมาแปะหน้าบ้านตั้งแต่ กลางปี 2554.............ตามด้วย ธนาคาร B (เป็นธนาคารที่ ผ่อน ทาวน์เฮ้าส์อยู่) ฟ้องต่อ ประมาณ เดือน 9 / 2554 เป็นช่วงที่เจอน้ำท่วม.......เพิ่งจะได้รับคำพิพากษา (จากธนาคาร B ที่ฟ้อง)เมื่อ 6/2555..........
ตั้งแต่ธนาคาร B ฟ้อง จนถึง ได้รับคำพิพากษา ยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากธนาคาร B เลยค่ะ
มีแต่ ธนาคาร A ที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมาย โทรฯเข้ามาสอบถามว่า จะเคลียร์ ได้ยังไง และ ให้nineรอเอกสารการขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดี.....และ ให้ nine เข้าไปทำเรื่องคัดค้านการขาย กรณีที่ประกาศราคาขายต่ำเกินไป......
....จนถึงวันนี้ ทุกอย่างก็ยังเงียบค่ะ........ไม่มีอะไรคืบหน้า.......จนตัวเองก็งง...และก็ยังอาศัยอยู่ในทาวน์เฮ้าส์หลังนี้...ไม่ได้จ่ายค่างวดบ้าน........จ่ายแต่ค่าน้ำ ค่าไฟ........
ที่ไม่เข้าใจก็คือ nine ต้องไปค้านราคาขายที่กรมบังคับคดี เหรอคะ ไม่ใช่ ธนาคาร B ที่เป็นเจ้าหนี้บ้านเหรอคะที่ต้องไปค้าน........เพราะnine โดนธนาคาร B ฟ้องแล้ว มีคำพิพากษาออกมาแล้ว.......
และกรณีที่ทาวน์เฮ้าส์ ถูกขายทอดตลาดแล้ว....B หรือ A จะได้เงินก่อนคะ หนี้ที่เหลือ nine ต้องรับต่อใช่มั้ยคะ

ตอบคุณ nine
เป็นเรื่องปกติของเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ หรือเจ้าของบ้านตัวจริง ที่จะเฉยๆกับ หนี้บ้านที่มีการพิพากษาไปแล้ว
เขาจะไม่ติดตามทวงถามคุณให้เสียเวลา เพราะก่อนหน้านั้น การทวงถาม และการผิดนัดชำระค่าบ้านกับคุณ มันผ่านมาเป็นระยะพอสมควร
เขาแค่รอเวลาให้มีการ “บังคับขายทอดตลาด” เพื่อนำเงินมาชำระหนี้บ้าน
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ จะไม่คัดค้านอะไร หากบ้านหลังนั้นได้ราคาซื้อขายดี ยิ่งถ้าได้เกินราคาหนี้ ยิ่งชอบ เขาได้รับเงินคืนเต็มๆ ทั้งค่าบ้าน ค่าดอกเบี้ยตามคำพิพากษา
ส่วนเจ้าหนี้บัตรเครดิต ที่ผ่านการพิพากษา และยื่นเรื่องเพื่ออายัดทรัพย์ ที่กรมบังคับคดีแล้ว จะเข้าแถวเป็นรายต่อไปในจำนวนเงินที่เหลือ

คุณจะไปคัดค้านหรือไม่คัคค้าน มันขึ้นอยู่กับว่า คุณจะคัดค้านเพื่ออะไร เพื่อช้อนซื้อ ให้กลับมาเป็นของคุณ (โดยชื่อคนอื่น)
หรือจะไปคัดค้านเพราะราคาบ้าน ต่ำกว่าที่ประเมิน ซึ่งตรงนั้นธนาคาร B จะทำหน้าที่นั่นอยู่แล้ว
ถ้าคุณคิดว่า จะปล่อยบ้านหลังนี้เพื่อชดใช้หนี้ ไม่ยึดติดกับอะไร ก็ไม่ต้องไปคัดค้านให้เสียเวลา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการทางกฏหมายต่อไป
หากบ้านขายไม่ได้ ราคาต่ำกว่าหนี้ที่มี เจ้าหนี้บ้าน จึงจะฟ้องร้องส่วนที่ขาด จากคุณอีกที
และเจ้าหนี้บัตรต่างๆ ก็จะต้องรอคิวจนกว่าคุณจะมีทรัพย์ใหม่ หรือตามสืบทรัพย์อย่างอื่นๆต่อไปค่ะ
(ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศ ที่ให้ความรู้กอบัวเพิ่มเติมตรงนี้)

ขอบพระคุณ คุณกอบัว มากเลยค่ะ สำหรับข้อมูล
กรณีของ nine เจ้าหนี้บัตรเครดิต เข้ามาอายัดก่อน ตามด้วย เจ้าหนี้บ้าน ฟ้องตามทีหลัง
หนี้บ้าน ณ เวลานี้ เงินต้น 9xx,xxx บวก ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ คงทะลุไป 1,xxx,xxx กว่าแล้ว จะโดนฟ้องล้มละลายได้มั้ยคะ
หนี้บัตรเครดิตที่มาอายัดทาวน์เฮ้าส์ จากยอด 7xx,xxx บวก ดอกเบี้ย ก้อคงเฉียด 1,xxx,xxx แล้วเหมือนกัน
ถ้าหากขายทาวน์เฮ้าส์ (ขายทอดตลาด) ก็คงไม่สามารถปิดหนี้ เจ้าหนี้ปุริมสิทธิ์ ได้.....และก็คงเหลือมาไม่ถึงหนี้บัตรเครดิต.............ตอนนี้ ชีวิตไม่ยึดติด ค่ะ อะไรที่ปล่อยได้ ก็ปล่อย....(เครียดมามากและเครียดมานานแล้วค่ะ).....เพียงแต่ว่า ไม่ค่อยจะทราบขั้นตอนในทางกฏหมายที่ปฏิบัติ........สรุปคือ nine ไม่ต้องทำอะไร ใช่มั้ยคะ.....ให้เจ้าหนี้ เขาจัดการกันเอง....เขาขายกันได้ เราก็เตรียมย้ายออก แค่นั้น

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ สำหรับข้อมูลที่ได้จากที่นี่
ขอบพระคุณท่านประธาน ท่านรองประธาน ท่านคณะกรรมการและสมาชิกทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลาเข้ามาให้ความกระจ่าง ให้ความรู้ ให้ข้อมูล กับสมาชิกใหม่ๆ ได้มีแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้......

ขอบคุณค่ะคุณ nine ที่มาแชร์ข้อมูลให้ฟ้ง เรา 2 คนโดนคล้าย ๆ กันเลยค่ะ แต่อ่านจากที่คุณ nine เขียนแล้ว สบายใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ อย่างน้อยเราก็ยังอยู่ได้นานเป็นปี ๆ เลยนะคะ ในช่วง 1 ปีที่ไม่ต้องจ่ายค่าบ้าน เราคงมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นเยอะเลย

เมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว ก็เป็นเดือนแรกที่ได้อยู่ฟรีโดยไม่ได้จ่ายค่างวดแล้วเหมือนกันค่ะ ช่วงแรก ๆ ก็เครียดเหมือนกันค่ะ แต่ก็เริ่มทำใจแล้วก็มองหาที่อยู่ใหม่ ตอนนี้กำลังทำเรื่องขอกู้ซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ ไปลองยื่นดูว่าจะผ่านหรือป่าว เค้ายื่นให้ฟรีไม่เสียเงินค่ะ ถ้าถามว่าตอนนี้พอมีเงินที่จะจ่ายเจ้าหนี้ที่ยึดบ้านไหม ก็ตอบว่าอาจจะพอมี แต่มันยังมีเจ้าหนี้รายอื่น ๆ อีก ที่เข้าแถวรอ ถ้าจ่ายเจ้าหนี้รายนี้ไป เดี๋ยวเจ้าหนี้อื่นก็คงตามมายึดอีก เลยกำลังตัดสินใจว่า ช่วงนี้คงอยู่ไปฟรี ๆ ก่อน ส่วนเงินที่พอมีอยู่บ้างก็คงไปหาดาวร์บ้านใหม่ดีกว่า คราวนี้คงซื้อเป็นชื่อตัวเอง เพราะหย่ากับสามีแล้ว หรืออีกทีก็คงไปทำเรื่องขอซื้อบ้านหลังนี้ต่อเป็นกรณีบ้านมือ 2 ดูอีกที อาจจะไปซื้อตอนขายทอดตลาดตามที่พี่นกแนะนำแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรอได้หรือป่าว กลัวอยู่เหมือนกัน เผื่อมีคนสู้ราคา หาอ่านข้อมูลดู ก็พวกเจ้าหนี้นี่แหละค่ะ ที่บางทีเค้าซื้อเก็บมันไว้เอง ดันมาแย่งเราช้อนซื้ออีกแหนะ

หรือถ้าเครดิตยังพอมีซื้อบ้านใหม่ได้แล้ว ส่วนบ้านนี้ก็จะให้เช่าค่ะ หรือไม่ก็อยู่มันไปเรื่อย ๆ จะมีคนใหม่มาซื้อแทน

ไปอ่านข้อมูลมา กรรมสิทธิ์ในบ้านนี้ยังเป็นของเรา แม้กระทั่งคนที่อยากซื้อบ้านหลังนี้จากการขายทอดตลาดเองก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาดูบ้านได้ แล้วจะมีใครอยากซื้อของที่ไม่สามารถจะดูรายละเอียดได้หล่ะ แล้วเราเองก็ยังสามารถเอาบ้านหลังนี้ให้คนอื่นเช่าได้อีกด้วยซ้ำไป หารายได้ ได้อีก

ตอนนี้เป็นช่วงกำลังตรวจสอบเครดิตตัวเองอยู่ค่ะ ว่าจะสามารถซื้อบ้านหลังนี้หรือหลังใหม่ได้หรือป่าว เผื่อเกิดว่าเครดิตไม่ผ่านจะได้หาวิธีอื่นต่อไป

ช่วงนี้ก็อยากทำบ้านให้มันโทรม ๆ เข้าไว้ เวลาเค้ามาถ่ายรูปมันจะได้ไม่มีคนอยากซื้อไง อีกอย่างถ้าคนซื้อรู้ว่าบ้านหลังนี้ยังมีเจ้าของเดิมอาศัยอยู่ เค้ายิ่งไม่อยากซื้อหรอก เค้าขี้เกียจมาฟ้องร้องขับไล่มันอีก เพราะตอนขายทอดตลาดมันจะระบุว่าทรัพย์สินมีภาระผูกพัน หรือไงนี่แหละ (จากที่หาอ่านข้อมูลมา)

คิดไปคิดมาบางทีก็ไม่เข้าใจกฏหมายเหมือนกัน ในเมื่อบอกว่าที่ต้องให้เจ้าหนี้สามารถบังคับคดีกับลูกหนี้ได้ จุดประสงค์ก็เพื่อให้ลูกหนี้มีเงินเหลือจากการขายทอดตลาดมาชำระหนี้ แต่หารู้ไม่ว่าบางทีวิธีนี้ก็ไม่ถูกต้องเสมอไป กลับกลายเป็นว่า เพิ่มหนี้ให้กับลูกหนี้เสียด้วยซ้ำ แล้วมันช่วยลูกหนี้ตรงไหน รู้ทั้งรู้ว่ายึดไปตัวเองก็ไม่ได้อะไร ขอแค่ความสะใจว่างั้น

ยังไงก็สู้ ๆ ไปด้วยกันนะคะ มีความคืบหน้าอย่่างไรมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ

ปล. อย่าหาว่าชักดาบเลยนะคะ บังเอิญหนี้นี้เราไม่ได้เป็นคนสร้าง หนี้ใครหนี้มันค่ะ (แต่รายได้ช่วยกันหาได้มาเราเก็บค่ะ เหอ ๆ ๆ)

nine เขียน: ที่ไม่เข้าใจก็คือ nine ต้องไปค้านราคาขายที่กรมบังคับคดี เหรอคะ ไม่ใช่ ธนาคาร B ที่เป็นเจ้าหนี้บ้านเหรอคะที่ต้องไปค้าน........เพราะnine โดนธนาคาร B ฟ้องแล้ว มีคำพิพากษาออกมาแล้ว.......
และกรณีที่ทาวน์เฮ้าส์ ถูกขายทอดตลาดแล้ว....B หรือ A จะได้เงินก่อนคะ หนี้ที่เหลือ nine ต้องรับต่อใช่มั้ยคะ

เรื่องจะไปค้านมันขึ้นอยู่กับคุณแล้วค่ะว่าจะไปหรือป่าว ถ้าคิดว่าอยากจะสู้ต่อ กลัวราคาต่ำ แล้วทำให้เราต้องเป็นหนี้ B เพิ่มขึ้นก็สมควรไปค่ะ อย่างน้อยก็ไปเพื่อใช้สิทธิ์

ส่วนคนที่จะได้เงินก่อนก็คือ B ที่เป็นเจ้าหนี้บ้าน ดังนั้น B เค้าดูจะลอยตัวมากกว่าใคร ยังไงฉันก็ได้เงินอยู่ดีว่างั้น ถ้าขายได้ต่ำกว่าหนี้บ้านที่เหลือ เค้าก็ต้องทวงคุณต่ออยู่ดี ภาษีดีกว่าเพื่อนค่ะ

ส่วน A คงจะเหนื่อยเสียแรงเยอะกว่าใคร เค้าต่างหากที่สมควรคัดค้าน เพราะเค้าก็ลงทุนกะเราไปเยอะแล้ว ทั้งค่าตามทวงหนี้ ค่าขึ้นศาลฟ้อง ค่ายื่นเรื่องบังคับคดี ซึ่งมันมีค่าใช้จ่ายที่เค้าต้องยอมจ่าย (อันนี้ก็ช่วยไม่ได้อยากมายึดเอง ถ้าไม่มายึดก็ไม่ต้องจ่าย) แล้วอย่างนี้ใครละที่ต้องไปคัดค้านมากกว่ากัน ฉันหรือเธอ

เป็นกำลังใจให้ครับ