เล่าใหม่ Debt Diary หนทางปลดหนี้ 1.2 ล้านบาท

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29021 โดย meawpung

GOKU เขียน: สวัสดีปีใหม่ครับพี่ซิงค์


ขอบคุณครับ ขอให้เจอแต่สิ่งดีดี ตลอดปีตลอดไปนะครับ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ploylyly

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29327 โดย ntps
น้องซิงห์ค่ะ กลับจากเรียนหรือยัง ท่าจะรุ่งกับวิชาพ่อหมอนะค่ะ ^^

ถามความเห็นหน่อยค่ะ อ่านข่าวกองทุนนี้กำลังเปิดต้นเดือนหน้า

เธอคิดว่าไงค่ะ ลงทุนขั้นต่ำ 20000 บาทค่ะ ไปอ่านที่ btsgif.com ค่ะ



BTSGIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะลงทุนครั้งแรก
ใน รายได้ค่าโดยสารสุทธิที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก
ซึ่งประกอบด้วย 2 สาย (หมอชิต – อ่อนนุช และ สะพานตากสิน – สนามกีฬาแห่งชาติ)
มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.5 กม. และมีอายุสัมปทานเหลือประมาณ 17 ปี
(ถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2572) การลงทุนจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

สายสีเขียวหลัก ซึ่งประกอบด้วย 2 สาย ได้แก่ สายหมอชิต – อ่อนนุช และ
สายสะพานตากสิน – สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในกรุงเทพฯ
ที่ผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก จากสถิติการใช้บริการของผู้โดยสารมีอัตราการ
เพิ่มขึ้นเฉลี่ยของจำนวนผู้ โดยสาร (CAGR) 10.9% ต่อปี ตลอด 13 ปี ตั้งแต่เปิด
ให้บริการในปี 2542 แม้ในช่วงปีที่เศรษฐกิจถดถอย รายได้ค่าโดยสารก็ยังเติบโต
อย่างต่อเนื่อง

BTSGIF ให้คุณร่วม "เติบโต" ไปกับกองทุนที่ใหญ่ขึ้น
เมื่อมีการลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงโครงการ
ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ BTSC หรือ BTSG อาจจะพัฒนา ทั้งนี้ BTSG มีแผนที่
จะลงทุนเพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยได้ เตรียมความ
พร้อมในด้านต่างๆ เพื่อลงทุนขยายธุรกิจรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยายใหม่ๆ โดยเฉพาะใน
สายที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบรถไฟฟ้าปัจจุบันของ BTSG เช่น สายสีเขียว
(หมอชิต – สะพานใหม่ และแบริ่ง – สมุทรปราการ) สายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี)
และรถไฟฟ้าขนาดเบา (บางนา – สุวรรณภูมิ)

ลงทุน BTSGIF คุ้มค่ามากขึ้นกับประโยชน์ทางภาษี
โดยบุคคลธรรมดาไม่มีภาษีจากการขายหน่วย และได้รับยกเว้นภาษีเงินปันผลเป็น
ระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน



ขอบคุณค่ะ


ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29332 โดย meawpung

kaewja เขียน: น้องซิงห์ค่ะ กลับจากเรียนหรือยัง ท่าจะรุ่งกับวิชาพ่อหมอนะค่ะ ^^

ถามความเห็นหน่อยค่ะ อ่านข่าวกองทุนนี้กำลังเปิดต้นเดือนหน้า

เธอคิดว่าไงค่ะ ลงทุนขั้นต่ำ 20000 บาทค่ะ ไปอ่านที่ btsgif.com ค่ะ



BTSGIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะลงทุนครั้งแรก
ใน รายได้ค่าโดยสารสุทธิที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก
ซึ่งประกอบด้วย 2 สาย (หมอชิต – อ่อนนุช และ สะพานตากสิน – สนามกีฬาแห่งชาติ)
มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.5 กม. และมีอายุสัมปทานเหลือประมาณ 17 ปี
(ถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2572) การลงทุนจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

สายสีเขียวหลัก ซึ่งประกอบด้วย 2 สาย ได้แก่ สายหมอชิต – อ่อนนุช และ
สายสะพานตากสิน – สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในกรุงเทพฯ
ที่ผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก จากสถิติการใช้บริการของผู้โดยสารมีอัตราการ
เพิ่มขึ้นเฉลี่ยของจำนวนผู้ โดยสาร (CAGR) 10.9% ต่อปี ตลอด 13 ปี ตั้งแต่เปิด
ให้บริการในปี 2542 แม้ในช่วงปีที่เศรษฐกิจถดถอย รายได้ค่าโดยสารก็ยังเติบโต
อย่างต่อเนื่อง

BTSGIF ให้คุณร่วม "เติบโต" ไปกับกองทุนที่ใหญ่ขึ้น
เมื่อมีการลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงโครงการ
ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ BTSC หรือ BTSG อาจจะพัฒนา ทั้งนี้ BTSG มีแผนที่
จะลงทุนเพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยได้ เตรียมความ
พร้อมในด้านต่างๆ เพื่อลงทุนขยายธุรกิจรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยายใหม่ๆ โดยเฉพาะใน
สายที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบรถไฟฟ้าปัจจุบันของ BTSG เช่น สายสีเขียว
(หมอชิต – สะพานใหม่ และแบริ่ง – สมุทรปราการ) สายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี)
และรถไฟฟ้าขนาดเบา (บางนา – สุวรรณภูมิ)

ลงทุน BTSGIF คุ้มค่ามากขึ้นกับประโยชน์ทางภาษี
โดยบุคคลธรรมดาไม่มีภาษีจากการขายหน่วย และได้รับยกเว้นภาษีเงินปันผลเป็น
ระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันจัดตั้งกองทุน



ขอบคุณค่ะ



ซ์ื้อได้ครับ ไว้กินปันผล ถ้าได้เกิน 7% ต่อปี ปันผลปีละ 4 ครั้ง ก็พอได้อาศัยเป็นรายได้ครับพี่แก้ว
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29775 โดย meawpung
ช่วงนี้เริ่มรับสาย hot line

ต้องใจเย็นและเป็นผู้ฟังที่ดี

ระมัดระวังในการให้คำปรึกษา อะไรไม่รู้ หรือ รู้ไม่ลึก ถามทั่นประธานและพี่ๆ

ตอบผิด ทำชีวิตคนอื่นฉิบหาย ใครจะรับผิดชอบ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29898 โดย jackhunter

Narasingh เขียน: ช่วงนี้เริ่มรับสาย hot line

ต้องใจเย็นและเป็นผู้ฟังที่ดี

ระมัดระวังในการให้คำปรึกษา อะไรไม่รู้ หรือ รู้ไม่ลึก ถามทั่นประธานและพี่ๆ

ตอบผิด ทำชีวิตคนอื่นฉิบหาย ใครจะรับผิดชอบ



ยินดีด้วยนะครับ พี่ได้ช่วยเหลือคนเดือดร้อนเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการตอบหน้าบอร์ด
ไว้ผมติดอะไรจะโทรไปปรึกษานะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #30394 โดย meawpung
วันนี้ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖

เจอกันครับ งานอบรม

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #30449 โดย meawpung
หนี้เน่าสินเชื่อบุคคลเพิ่มไตรมาสละ1หมื่นล.

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ออกบทวิเคราะห์โดยระบุว่า ในระยะเวลาเพียง 5-6 ปี สินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคที่เคยมีสัดส่วนในพอร์ตสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ (ที่ไม่รวมสินเชื่อตัวกลางทางการเงิน) ร้อยละ 23 เพิ่มเป็นร้อยละ 33 หรือ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยถึงร้อยละ 16 ต่อปี โดยส่วนประกอบหลักๆของสินเชื่อนี้ มีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเกือบครึ่งหนึ่ง และ สินเชื่อเช่าซื้อรถ กับ สินเชื่อบริโภคส่วนบุคคลอื่นๆ (อาทิ บัตรเครดิต สินเชื่อเงินสด) แบ่งกันไปประเภทละหนึ่งในสี่

จากตัวเลข NPL ของธปท. เห็นได้ชัดว่าหนี้เสียที่มาจากหนี้เสียรายใหม่ ในช่วงไตรมาสสองและสามปีนี้ เพิ่มขึ้น 1.0 และ 1.2 หมื่นล้าน ตามลำดับ จากปริมาณเพิ่มเฉลี่ยที่ 7,500 ล้านบาทต่อไตรมาสในช่วงปี 2553-54 เป็นการกลับไปแตะที่หลักหมื่นล้านอีกครั้งหลังช่วงวิกฤตซับไพร์มเป็นต้นมา ขณะที่หนี้เสียที่เพิ่มขึ้นจากหนี้ที่เคยเจรจาปรับโครงสร้างหนี้มาแล้วเพิ่มขึ้น 3.0 และ 3.2 พันล้านบาท ตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ย 2.3 พันล้านบาทต่อไตรมาส เช่นกัน จึงสรุปได้ว่าหนี้เสียทั้งรายใหม่และเก่า กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

การเพิ่มของหนี้เสียในจำนวนสูงเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นแล้วในช่วงวิกฤติซับไพร์ม ซึ่งในครั้งนั้นเศรษฐกิจไทยถึงกับหดตัวถึงร้อยละ 2.3 ดังนั้น การมีหนี้เสียเพิ่มขึ้นจึงเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ แต่การเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในปัจจุบัน เกิดขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 2.6 ในเก้าเดือนแรกของปี จึงกล่าวได้ว่า การมีหนี้เสียมากขึ้นจากรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และหนี้เสียซ้ำซ้อนจากที่เคยปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วที่เพิ่มขึ้นเช่นกันถึงร้อยละ 60 เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังอย่างยิ่งและควรติดตามดูอย่างใกล้ชิด

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ระบุว่า ถึงแม้การเพิ่มขึ้นของหนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคลจะมาจากทุกๆรายการ ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อการบริโภคอื่นๆ และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เรากลับพบสัญญาณอันตรายในแง่การลดลงของคุณภาพสินเชื่อ ในสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์มากที่สุด โดย สัญญาณดังกล่าววัดจากอัตราส่วนของ “สัดส่วนยอดสินเชื่อที่ปล่อยของสินเชื่อแต่ละประเภทกับสินเชื่อรวม” กับ “สัดส่วนยอด NPL แต่ละประเภทกับ NPL รวม” (หรือ share ของสินเชื่อหารด้วย share ของ NPL นั่นเอง) ถ้าหากอัตราส่วนดังกล่าวของสินเชื่อประเภทใดลดลง ก็หมายความสินเชื่อประเภทนั้น มีการเพิ่มของ NPL ที่เร่งตัวมากกว่าการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ ซึ่งอัตราส่วนดังกล่าวของสินเชื่อเช่าซื้อรถปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญสองครั้ง คือ ช่วงที่เกิดวิกฤติซับไพรม์ที่ลดจากระดับ 4 เท่า เหลือเพียง 2.5 เท่า และ ในช่วงสามไตรมาสปีนี้ ที่ลดลงมาต่ำกว่าระดับ 2 เท่า ขณะที่สินเชื่อบ้าน กับ สินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ มีการลดลงของอัตราส่วนดังกล่าวไม่มากนัก คือจากระดับประมาณ 1.5 เท่า มาเป็น 1 เท่า

โดยรวม ถึงแม้สัดส่วนหนี้เสียต่อปริมาณสินเชื่อของสินเชื่ออุปโภคบริโภคจะยังไม่สูงมาก แต่การลดลงของคุณภาพสินเชื่อดังกล่าวกลับเป็นสัญญาณเสี่ยง ให้หลายๆฝ่ายเฝ้าจับตามองระดับหนี้เสียที่เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดี แล้วถ้าหากเกิดเศรษฐกิจไทยเกิดสะดุดขึ้นมาจริงๆอีกครั้งหนึ่ง จะเกิดความเสียหายมหาศาลเพียงใด
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: jackhunter

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #30453 โดย Lyncns31
เอิ่ม...ก็ยังเสียหายไม่เยอะเท่าไหร่..ยังมีเงินที่จะปล่อยได้อีกเยอะ..

......พวกเราเป็นแค่คนส่วนน้อยนั่นแหละ...

......ที่พากันถูกฟ้องจนไม่หวาดไม่ไหว...ครับ..พณฯท่าน..!!!

และแล้ว...หนี้ข้าก็สิ้นสุด..อิสรภาพมาถึงแล้ว.

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #31487 โดย jackhunter
แวะมาทักทายพี่นะครับ ช่วงนี้ board ดูเหงาๆ(ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)
ไว้ผมจะไปหานะครับ หรือจะโทรไปหาช่วงเปิดสาย HOT Line ดีหว่า ^^

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #31526 โดย fay
พึ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องของคุณนาราซิงค์อย่างจริงจังจบสักทีค่ะ ยินดีด้วยนะค่ะ หมดหนี้หมดสิน กันสักที คุณเก่งมากเลย เดี๋ยวเราจะตามไปบ้างนะค่ะ ตอนนี้ฝ้ายมาได้ครึ่งทางแล้วค่ะ ยอมรับว่าเบาใจลงเยอะเลย แต่ก็ยังชะล่าใจไม่ได้อ่ะค่ะ ตอนนี้กะลังวางแผนจัดการกับเคทีซีว่าจะเดินเกมส์ไหนดี 555

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #31530 โดย meawpung

jackhunter เขียน: แวะมาทักทายพี่นะครับ ช่วงนี้ board ดูเหงาๆ(ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)
ไว้ผมจะไปหานะครับ หรือจะโทรไปหาช่วงเปิดสาย HOT Line ดีหว่า ^^


โทรมาได้น้อง HOT line พี่วันละสายเป็นอย่างมาก สบายๆ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: jackhunter

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #31635 โดย meawpung

fay เขียน: พึ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องของคุณนาราซิงค์อย่างจริงจังจบสักทีค่ะ ยินดีด้วยนะค่ะ หมดหนี้หมดสิน กันสักที คุณเก่งมากเลย เดี๋ยวเราจะตามไปบ้างนะค่ะ ตอนนี้ฝ้ายมาได้ครึ่งทางแล้วค่ะ ยอมรับว่าเบาใจลงเยอะเลย แต่ก็ยังชะล่าใจไม่ได้อ่ะค่ะ ตอนนี้กะลังวางแผนจัดการกับเคทีซีว่าจะเดินเกมส์ไหนดี 555


ยินดีด้วยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #32087 โดย meawpung
เค ที ซวย พลิกกลับมามีกำไร

หลังจากที่มันไม่ยอมลด ฟ้องอย่างเดียว
เคทีซี ประสบความสำเร็จปรับโครงสร้าง พลิกทำกำไรในปี 2555 ที่ 255 ล้านบาท เผยแผนธุรกิจรุกสมาชิกใหม่ คืนกำไรสมาชิกที่มีวินัย


นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเมื่อสิ้นปี 2555 มีอัตราเติบโตที่ดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวนบัตรเครดิต 16.9 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 10.1% มียอดลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 261,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% สำหรับธุรกิจสินเชื่อบุคคลมียอดลูกหนี้ 251,549 ล้านบาท เติบโต 17.9% และในปี 2556 คาดว่า อุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคเติบโตในเชิงบวก หลังภาคส่งออกจะกลับมามีบทบาทต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น และปัจจัยเสริมจากการบังคับใช้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

ส่วนผลการดำเนินงานเคทีซีปี 2555 มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท จาก 5 ปัจจัยหลัก คือ ปรับกระบวนการติดตามหนี้ ปรับปรุงบริการคอนแท็คท์ เซ็นเตอร์ ปรับกระบวนการทำงานแต่ละหน่วยงานให้สอดคล้อง สร้างโปรแกรมการตลาดที่ตรงใจผู้บริโภค และพัฒนาคุณภาพบุคลากรในองค์กร ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมปี 2555 เท่ากับ 12,622 ล้านบาท เพิ่มจาก 12,497 ล้านบาทจากปีก่อนหน้า ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 12,038 ล้านบาท ลดลงกว่า 15% จากการลดลงของหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง ส่งผลให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ลดลงเหลือ 30%

ทำให้ฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 49,138 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 44,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า ฐานสมาชิกรวม 2.16 ล้านบัญชี ประกอบด้วย บัตรเครดิต 1,528,921 บัตร มูลหนี้สุทธิ 32,090 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช” เท่ากับ 626,326 บัญชี มูลหนี้สุทธิ 12,182 ล้านบาท

สำหรับแผนกลยุทธ์ในปี 2556 บริษัทฯ จะมุ่งสร้างฐานสมาชิกใหม่และการบริหารข้อมูลในเชิงลึก โดยเน้นการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างสรรค์ แตกต่าง เพื่อตอบสนองทุกมิติความต้องการของสมาชิกอย่างครอบคลุม ได้แก่ เพิ่มสมาชิกบัตรเครดิต โดยคำนึงถึงปริมาณและคุณภาพเป็นสำคัญ จัดแคมเปญการตลาดบัตรเครดิตที่คุ้มค่าและเข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด ธุรกิจสินเชื่อบุคคล จัดแคมเปญแบ่งเบาภาระเพื่อคืนกำไรให้กับสมาชิกที่มีวินัยในการชำระเงิน การให้บริการผ่านระบบออนไลน์ แบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว และปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของฝ่ายบริการลูกค้า (Contact Center)
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel, jackhunter

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32386 โดย meawpung
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาตอบในบอร์ด

ช่วยสังคมโดนการรับสาย hotline

วันละสาย สองสาย พอแก้เหงา

ไล่ให้มาอ่านในบอร์ดก็หลายรายอยู่

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32727 โดย meawpung
เป็นฮอตไลน์ อันไหนไม่ชัวร์ ถามอาจารย์ป้า อาจารย์ปู่
อันไหนไม่รู้ต้องขวนขวาย ตอบผิดมีผลต่อชีวิตคนอื่น เราต้องระวัง

ช่วงนี้ ก็ไปเช็คเครดิตบูโรที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง เสียเงินหนึ่งร้อยบาท
ปรากฏว่าของ KTC จ่ายปิดไปแล้วแต่ยังขึ้นว่ากำลังผ่อนจ่ายตามที่ทำยอม เลยทำเรื่องให้ปรับสถานะ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pych, Lyncns31

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #35767 โดย meawpung

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #36946 โดย meawpung
ชีวิตช่วงนี้ก็เหมือนปรับสภาพไปสู่อีกสภาพหนึ่ง

ย้ายหน่วยงาน ทำให้เดินทางไกลขึ้น ก้ต้องอดทน

กลางเดือนหน้าจะได้เงินโบนัสอีกก้อน จะเอาไปปิดรถ ลากันทีไฟแนนซ์ เอาไปเข้าตอนปลูกบ้านเช่าเนี่ยแหละ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #40238 โดย meawpung
เรื่อยๆมาเรียงๆ

ตอนนี้หมดหนี้บัตรแต่ก็ยังไม่มีเงินเก็บ

เก็บตังค์กันต่อไป

แต่รู้สึกดีมากที่ทุกสิ้นเดือนไม่ต้องไปเข้าแถวรอจ่ายบัตรที่ในห้าง
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel, Ploylyly, Pych

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #40406 โดย meawpung
ไปทราบมาว่า อี JMT มันมีกำไรจากการซื้อหนี้เน่าแล้วเอาไปทวง 51% ครับพี่น้อง

MT

- JIB จะเริ่ม Run ในไตรมาส 3-4 ปีนี้
- หนี้ก้อนแรกที่ซื้อเข้ามาในปี 2006 ปัจจุบันยังทำยอดเก็บได้เดือนละล้านกว่าบาท
- ได้licenseใหม่2ตัวคือ : Debt acquisition and Insurance broker
-Total debt to be collected 23,000 MB from investment around 1193 MB
- AMC (บริษัทบริหารสินทรัพย์) กำลังเดินหน้า ซึ่งบริษัทประเภทนี้สามารถสวมสิทธ์หนี้คดีความได้
ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านการดำเนินคดี
- Project เช่าซื้อรถยนต์ จะชะลอไปก่อน โดยจะไปเน้นที่การซื้อหนี้มาบริหารแทน
-ปีนี้มีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาในตลาด
- ต้นทุนในการซื้อหนี้สูงขึ้น จากราคาที่ถูกปั่นขึ้นไป เนื่องจากผู้ขายเห็นว่า JMT มี margin สูงมากๆ (ปัจจุบัน 51%)
และบางกรณีผู้ขายทำการแบ่งหนี้ป็นก้อนเล็กๆ เพื่อให้บริษัทเล็กๆสามารถมาประมูลไปแทน
เพราะหนี้ก้อนใหญ่ๆ มีแค่ JMT ที่มีศักยภาพพอที่จะประมูลได้
- หนี้แต่ละก้อน จะมีการคำนวณ IRR ไม่เท่ากัน
- การรับรู้รายได้จะทำการบันทึกโดยให้ตัดเงินลงทุนภายใน 5 ปี แต่หลายๆกรณีตัดหมดที่เวลา 3 ปี
(มีบ้างที่เกิน 5 ปี แต่เกิดขึ้นน้อยมาก)
- วิธีการนี้ ทำให้กระแสเงินสดของบริษัทดีมาก (จนเกินไป) เนื่องจาก กลต บังคับให้ทำการคำนวณแบบนี้
คือให้ Conservative แบบสุดๆ ทำให้ถึงแม้ว่าจะเก็บหนี้ได้เยอะ แต่รายได้ปีแรกๆอาจจะไม่เยอะ
เพราะไปหักลบในส่วนของเงินลงทุนออกไปก่อนเยอะมาก
พอตัดเงินลงทุนหมด ถึงจะรับรู้รายได้ 100%

**ใช้สูตรคำนวณ รายได้ = ยอดหนี้ที่เก็บได้ - (IRR*เงินลงทุนคงเหลือ)

ต้องต่อให้มิดด้ามนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Mommyangel, Pych

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #40481 โดย papa
เป็นความรู้มากเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ :say: :say: เพราะกำลังโดน JMT ทวงอยู่ค่ะของ กรุงศรี (HSBC)
จะได้มีแนวทางในการต่อรองเยอะหน่อย :ลั่ลล้า: :ลั่ลล้า:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.841 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena