ไปศาลมาเมื่อเช้า ครั้งแรกของชีวิต (10 กค. 55)

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16210 โดย yoongkhing
:im_here:
สวัสดีครับ

ผมเป็นคนนึงที่มีครอบครัวที่อบอุ่น
มีบ้าน มีรถ มีภรรยาที่น่ารักและลูกสาววัยซน
หลังจากลูกสาวคนที่ 2 ผมคลอด เมื่อกลางปีที่แล้ว ผมควรจะได้ดื่มด่ำกับความสุข
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ประสบปัญหาทางธุรกิจ

ผมใช้วิธีกู้หนี้ปิดหนี้ โดยคาดว่าธุรกิจจะฟื้นในไม่กี่เดือน
แต่ไม่เป็นดั่งคิด หนี้พอกพูนขึ้นทุกวัน แต่ละเดือนไม่พอใช้
บัตรเครดิตทุกใบถูกใช้จนหมด สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ
ภรรยาต้องพาลูกๆ กลับบ้านต่างจังหวัด (จ.น่าน) ซึ่งที่นั่นก็มีอาชีพเกษตรกรรมพอหาเลี้ยง
แต่ก็ยังดีกว่าอยู่กรุงเทพที่ใช้ชีวิตลำบากและค่าครองชีพสูง

ผมตัดสินใจกู้เงินก้อนใหญ่เพื่อให้ทางภรรยาไปลงทุนซื้อเครื่องจักรเหลาไม้เป็นอาชีพที่นั่น
ซึ่งก็ทำให้พวกเค้าเลี้ยงตัวอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก แต่ก็ไม่อาจมากพอที่จะเหลือผ่อนได้

ผมทำงานอยู่กรุงเทพและต้องเลี้ยงดูแม่อีกคนด้วยตัวคนเดียวมาปีกว่าแล้ว
เจอหน้าลูกสาวเพียง 3 ครั้ง ตอนนี้คนเล็กขวบกว่าแล้ว
ภรรยาโทรมาเล่าพัฒนาการให้ฟัง ผมก็ได้แต่จินตนาการตามเท่านั้น
เพราะทำงานหลักวันหยุดก็หารายได้เสริม ดีบ้าง เจ๊งบ้างตลอด
กดดันมากๆ สั่งงานลูกน้องเสร็จ ก็แอบไปร้องไห้ในลานจอดรถ
ปัญหาส่วนตัวก็ล้นตัว ปัญหางานในแต่ละวันก็เต็มกลืน
แต่ต้องฝืนใจปั้นหน้าให้ภรรยาเห็นว่าเราเข้มแข็ง ยังหัวเราะได้
เพราะถ้าเราอ่อนแอไปเสียคนนึงแล้ว เขาก็จะเสียขวัญ

หาเงินจ่ายขั้นต่ำเขาไปไม่กี่เดือน จนรู้ตัวอีกทีว่ากู้ที่ไหนก็ไม่ผ่านแล้ว
และผมก็ไม่มีเหลือเงินที่จะจ่ายขั้นต่ำทุกใบได้อีก

รวมทั้งสิ้น 8 สถาบัน รวมยอดเงินกว่า 800,000 บาท

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16217 โดย Ly89
ยินดีต้อนรับนะครับ....

คุณโชคดีมากๆ....วันนี้คุณเจอชมรมหนี้ฯ เหมือนคุณพบทางออกแล้วครับ....

เป็นกำลังใจให้ครับ...พวกเราจะยิ้มสู้หนี้กันครับ...
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: yoongkhing

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16220 โดย yoongkhing
ชีวิตเหมือนมาทางตันครั้งใหญ่

บ้านผมก็กำลังประกาศขาย
เหลือแต่รถยนต์ที่ผมพอเอาทำมาค้าขายมีรายได้มาบ้าง
ช่วงเวลาปีเดียวผมหมดสิ้นแทบทุกอย่างในทรัพย์สมบัติ

ปัญหาธุรกิจล้มเหลวไม่สำคัญเท่ากับการแก้ปัญหาโดยการกู้หนี้ปิดหนี้ไปเรื่อยๆ

ผมเป็นคนทั่วไปที่กลัวศาล และรู้กฏหมายแพ่งผิวเผิน
รู้ว่าเป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ตามสัญญา ผ่อนเท่าไหร่ก็ต้องทำตามนั้น
ไม่งั้นถือเป็นความผิดมหันต์ ติดคุก กลัวเป็นคดีความ กลัวต้องขึ้นโรงศาล
กลัวการทวงหนี้ กลัวความอับอาย หาเงินมาจ่ายขั้นต่ำให้ได้
ห่อข้าวไปกินก็แล้ว กินวันละมื้อก็ทำมาแล้ว
แต่ดูเหมือนยอดเงินต้นของแต่ละที่แทบไม่ลดลงมาเลย

ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 54 ผมจ่ายได้แค่บางสถาบัน
เพราะโยกโน้น ปิดหนี้ ผลัดนั่น จนถึงจุดตันแล้ว
เริ่มโดนทวงหนี้จากสถาบันที่ผมไม่ได้จ่าย
ผมร้อนรน ไม่กล้ารับโทรศัพท์แปลกๆ อีก

วันนึงเจอปัญหาหนัก ที่ทำงานมีปัญหาหนักๆ เข้ามา
แต่ไม่มีสติในการทำงาน เจ้านายเรียกเข้าไปเอ็ด
เดินออกมาตัวลอยๆ เหมือนคนไร้วิญญาณ
ในหัวคิดอยู่อย่างเดียวจะหาเงินมาจ่ายขั้นต่ำจากที่ไหนได้อีกบ้าง
จะกู้เงินคนข้างบ้าน หรือรับขายยาบ้าดี (คิดจริงๆ)

วันนั้นน่าจะเป็นวันเลวร้ายที่สุดของชีวิต
แต่ก็นำพาความโชคดีที่สุดในชีวิตเหมือนกัน

ผมตัดสินใจเดินออกนอกบริษัทไปขึ้นมอร์ไซค์รับจ้างอย่างไม่มีเหตุผล
เพื่อจะหาที่สงบสติอารมณ์ที่ไหนก็ได้ที่สามารถทำให้ผมมีสติมาแก้ปัญหางานตรงหน้าก่อน
มอร์ไซค์มาส่งผมที่ห้างเดอะมอลล์ใกล้ๆ ที่ทำงาน ผมพุ่งไปร้านขายหนังสือ
อยากหาตำราอะไรก็ได้ที่สร้างรายได้เสริมได้ ปลูกผัก ปลูกหญ้า อะไรได้ทั้งนั้น

แต่ชะงักตรงหนังสือขายดีที่เขียนว่า "ล้างหนี้บัตรเครดิตขั้นเทพ"

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16221 โดย เอี้ยก้วย
ขอหยืมสโลแกนคุณอังมา

ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี สู้ๆๆ เป็นกำลังใจ

หาเวลาอ่านกระทู้ข้างล่างนี้นะครับ



**วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน**



**สิ่งที่สมาชิกทั้งเก่าและใหม่ควรทำ**



**กิจกรรมให้คำปรึกษานอกสถานที่ของชมรมทุกวันอาทิตย์ที่สวนลุม**


ขอให้กำใจและความเข้มแข็งจงเป็นของคุณ

ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16225 โดย ntps


คงเป็นพรหมลิขิต ให้เรามาพบกันนะค่ะ ไม่สายเกินแก้ไขค่ะ

มารอค่ะ

:pray:

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: yoongkhing

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16229 โดย Skynine
พี่อังก็เป็นหนี้ 800,000 เท่ากับคุณ การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
น่าอดสูอะไร เราแค่พลาด แต่มันแก้ไขได้
หนี้มันอยู่กับเราไม่นานหรอก เดี๋ยวมันก็จากเราไป
เพียงเราหลบเลียแผลหนี้ที่มีสักพัก ....อดทน อดกลั้น อดออม
ไม่นานวิกฤติหนี้ต้องผ่านไปได้ นำสิ่งที่ได้อ่านมานำมาใช้ให้
เกิดประโยชน์ด้วย...

ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้

สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร


สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: yoongkhing

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16230 โดย yoongkhing
ตอนแรกที่เห็นหนังสือ "ล้างหนี้บัตรเครดิตขั้นเทพ"
จะรู้สึกแต่เพียงว่า คงเป็นหนังสือแนะนำให้เราประหยัดอย่างไรบ้าง
เกือบจะเดินผ่านไปแต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินซื้อหนังสือเล่มนี้ก็ตรงคำว่า

"แบบที่เจ้าหนี้ต้องยอม (ถูกกฏหมายด้วย)"

ผมอ่านคำนิยม คำโปรย แล้วเกิดแสงความหวังวูบวาบเข้ามาอย่างประหลาด
เพราะแต่ละข้อความที่เขียนโปรยมานั้น มันคือชีวิตผมในตอนนี้ทั้งสิ้น

ผมตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้เข้าบ้าน และอ่านจบในคืนนั้น

ตอนเช้า..
ผมโทรหาภรรยาเพื่อคุยสารทุกข์สุขดิบทั่วไป
แต่ภรรยาจับน้ำเสียงผมได้ว่าน้ำเสียงผมแจ่มใสเป็นพิเศษ
ผมเล่าถึงทางออกของชีวิต หลังจากที่โง่มานานแสนนาน
ผมขอโทษที่รู้ตัวช้าและแก้ปัญหาผิดๆ จนทำให้ครอบครัวต้องลำบาก

จากวันนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ผมบอกกับตัวเองว่าผมทนเสียงหัวเราะเยาะได้ ทนเสียงขู่คุกคามได้
ทนความอับอายได้ทุกรูปแบบได้ แต่ลูกเมียอด ผมยอมไม่ได้

หลังจากวางสาย
ผมไปหิ้งพระเพื่อจุดธุปไหว้พระในเช้าของวันใหม่
ไหว้พระไปพร้อมๆ กับหนังสือเล่มที่ผมซื้อเมื่อวาน

"ที่ผมวางไว้ใต้แท่นองค์พระ"

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16232 โดย น้ำมนต์
สวัสดีค่ะ คุณ Yoongkhing

ชีวิตของจุดเริ่มแห่งหนี้ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ความคิดไม่ถึง ในความสามารถของการจัดการระบบการเงิน
และไม่สามารถประเมินความเข้มแข็งทางธุรกิจของเรา .......

หนี้ของน้ำมนต์ (ยังไม่รวมของสามีนะคะ) ก็ราวๆ สองล้านแปด ก็มีแหล่งกำเนิดเหมือนๆ กับ คุณ Yoongkhing อย่าสิ้นหวังนะคะ เมื่อเรามาอยู่ ณ ตรงนี้ เราเจอหนทางที่ถูกต้องแล้วค่ะ......

แม้มันจะมีขวากหนามบ้าง แต่เราก็มีเกาะความรู้จากที่นี่ ที่จะนำพาเราออกจากหนทางแห่งทุกข์ได้.....

เมื่อมีจุดขึ้นสูงสุดของชีวิต......มันย่อมมีจุดตกลงต่ำสุดเช่นกัน......

และ ณ ตอนนี้ เมื่อถึงจุดต่ำสุดแห่งการดำเนินชีวิต ......เราก็ต้องอดทน รอคอย ให้ถึงวันของการเริ่มต้นที่สดใสอีกครั้ง... แล้วเราต้องสัญญากับตัวเองว่า เราจะไม่ก้าวพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง....

เป็นกำลังใจให้นะคะ พร้อมกับคติธรรม ของโลกธรรม แปด ค่ะ

มีลาภ เสื่อมลาภ

มียศ เสื่อมยศ

มีสรรเสริญ มีนินทา

มีสุข มีทุกข์
[/size][/color]

:bye:

ปล. หากสบายใจขึ้นแล้ว และ พอมีเวลา ก็มาเล่าเรื่องการไปศาลมาให้พวกเราได้ฟังเป็นแนวทางและความรู้นะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16237 โดย yoongkhing
ผมหยุดจ่ายทุกอย่างตั้งแต่เดือนธันวาคม 54 จนถึงกรกฏาคม 55 (ที่ผมพิมพ์อยู่ในขณะนี้)

การโทรมาทวงหนี้มีมาไม่ขาดสาย
ผมก็รับสายบ้าง ไม่รับสายบ้าง
ครั้งแรกประหม่า อายที่จะต้องตอบว่าไม่มี

เขาส่งคนมาบ้าน เอาจดหมายมาให้แม่
ขับรถผ่านตะโกนบอกให้ไปติดต่อ Bank
ให้ชาวบ้านระแวกนั้นได้ยิน
ส่งคนมาที่ทำงาน บอกมาเก็บค่างวด

จากความอายพอนานเข้ากลายเป็นความเคยชิน
ความเคยชินกลายด้านชา และมีภูมิต้านทานที่สามารถต่อสู้กลับไป

จากที่ผมต้องเงียบตลอดเมื่อได้จดหมายทางกฏหมายให้ติดต่อกลับ
กลายเป็นโทรไปต่อว่าจะส่งมาทำซากอะไร โทรมาก็ได้เปลืองกระดาษ
โทรไปขู่ฟ้องฐานมีเจตนาทำให้อับอายในกรณีมาตะโกน หรือมาที่บริษัท
บางที่โทรมาสิ้นเดือนบอกเงินเดือนคุณออกแล้วจ่ายได้แล้ว
ผมสวนกลับไปว่า คุณทำหน้าที่ของคุณแค่ทวงค่างวดก็พอ นอกเหนือจากนี้คือ "เกินหน้าที่"

ผมอยากจะบอกกับคนที่กำลังจะเริ่มต้น "หยุดจ่าย"
อย่าได้กังวลเหมือนอย่างที่ผมเป็นในที่แรก
ไม่มีอะไรเลวร้ายเกินกว่าที่คิด ปัญหาจะสร้างปัญญาให้เราแข็งแกร่ง
ประสบการณ์หลายๆ ครั้ง จะทำให้มีทักษะมากขึ้นเองโดยวิสัยมนุษย์

สุดท้ายเราเสียเองที่เป็นฝ่ายควบคุมคนทวงหนี้
ไม่ใช่คนทวงหนี้มาควบคุมเรา

การหยุดจ่ายทำให้ผมแก้ปัญหาได้คล่องตัวขึ้น
อาจจะยังไม่สามารถเก็บเงินก้อนมาปิดตัวใดได้ในทันที
แต่ก็ทำให้ผมไม่ต้องไปสร้างหนี้เพิ่มอีก

และวันที่ผมรอคอยก็มาถึง

"หมายศาลของบริษัทซิตี้แอดวานซ์ก็ส่งมาถึงหน้าบ้าน"

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16238 โดย ntps
โอ การเล่าเรื่องคุณ สุดยอดค่ะ อ่านแล้วได้หลายอารมณ์ มีครบรสค่ะ




หวังว่า หนังสือคงไม่ประทับวางไว้เฉยๆ นะค่ะ ว่างๆ อาจนำมา
อ่านเพื่อทบทวนก็ได้นะค่ะ



ดีใจที่คุณผ่านมาได้ แบบดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็หลุดจนมาถึงวันนี้ด้วย
สติของคุณเองค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: yoongkhing

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16239 โดย Ly89

kaewja เขียน: โอ การเล่าเรื่องคุณ สุดยอดค่ะ อ่านแล้วได้หลายอารมณ์ มีครบรสค่ะ

เห็นด้วยกับพี่แก้วครับ...ผมยังรู้สึกขนลุกในบางประโยคเลยครับ...

ภูมิใจแทนหนังสือมั๊งครับ....(เหมือนพระเอกขี่ม้าขาว)

ที่ได้ช่วยคนที่คิดว่าตัวเองกำลังหมดหนทาง

ให้กลับมาเดินบนแนวทาง(ออก)ของปัญหาหนี้ได้เป็นอย่างดี....

ทำให้ผู้อ่าน (คุณ yoongkhing และครอบครัว) ได้พบกับความสุขบนกองหนี้ได้...
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: yoongkhing

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16241 โดย yoongkhing
ผมได้รับหมายศาลประมาณเดือนพฤษภาคม
นัดวันที่ 10 กรกฏาคม 2555
ที่ศาลรัชดา (พระนครเหนือ) เวลา 09.00 น.

แม่โทรมาหาว่าหมายศาลมาแล้วนะ
เรื่องวิธีจัดการหนี้ผมเล่าวิธีการให้แม่ฟังมาตลอด
ซึ่งแม่ก็เข้าใจและช่วยผมกำราบพวกมาทวงหนี้จนไม่กล้ามา
บอกไม่รับฝากอะไรทั้งนั้น ใครติดหนี้คุณก็ไปคุยกับเค้าเอง ชั้นไม่ได้ติดหนี้คุณ
น้ำเสียงแม่ตอนโทรมาว่าได้หมายศาลจึงเป็นน้ำเสียงปกติไม่ได้ตื่นเต้นอะไร

แต่ผมเสียอีกที่เตรียมใจเรื่องนี้มาตลอดแต่พอรู้ว่าได้หมายศาลมา กลับจิตตกทันที
ผมไม่เคยเห็นหมายศาลของจริง ไม่รู้ว่ามันมีอะไรให้อ่านบ้าง เค้าเขียนพูดถึงเรายังไงบ้าง

พอถึงบ้านรีบขอหมายศาลมาดู เห็นคำว่าเลขคดีดำก็หดหู่ซ้ำไปอีก
ความที่ตลอดชีวิตเราไม่เคยต้องคดีอะไรที่ขึ้นโรงขึ้นศาล
แต่พออ่านๆ ไป หมายศาลแผ่นนั้นมันก็ไม่มีอะไร
มันคือกระดาษ A4 ที่เรียกให้เราไปไกล่เกลี่ยต่อหน้าใครสักคนว่าจะเอายังไง

ตกลงได้ก็เซ็นต์ ตกลงไม่ได้ก็เลื่อนไปก่อน

ตรวจเช็คตัวเลขทุกอย่างถูกต้อง (ตามความคิดเรา)
ก็ตั้งเป้าหมายว่าจะไปขอความเมตตาจากศาลไม่ขอเลื่อนก็ขอจ่ายเป็นงวดรายปี
แต่ไม่ผ่อนรายเดือน ไม่ปรับปรุงโครงสร้างใดๆ
เพราะผ่อนรายเดือนสิ่งที่ตามมาเราก็จะช็อตอีก ปัญหาคนที่มีหนี้แล้วไม่มีกำลังจ่าย
เพราะเงินมันเดือนชนเดือน หรือไม่พอจ่ายในแต่ละเดือนอยู่แล้ว

ผมเข้ามาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์นี้อีก บางกระทู้อ่านซ้ำ บางกระทู้อ่านใหม่
แต่สิ่งที่ได้กลับไปทุกครั้งที่มาอ่านก็คือ...

กำลังใจ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16246 โดย vivi
สวัสดีค่ะ..วีเป็นหนี้กว่า 1.4 ล้านบาท เพิ่งหยุดจ่ายเดือนนี้เองค่ะ (แต่ของ Citi หยุดได้ 2 เดือนแล้ว) ไม่รู้เมื่อไรหมายศาลจะมา คงประมาณปีหน้า อิอิ :ลั่ลล้า:
ช่วงนี้ก็ประหยัด และเก็บเงินให้ได้มากที่สุด จะได้ทำ H/C ก่อนไปศาล (ถ้าทำได้) เกิดมาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้ขึ้นศาลหรอกคะ แต่ทำไงได้เนอะ
ตอนนี้สบายใจขึ้นมาก ไม่ต้องเครียดว่าจะหาเงินจากไหนมาจ่ายขั้นต่ำอีกต่อไป ไม่ต้องคำนวณเงินในกระเป๋าตลอดเวลาว่าจะจ่ายเจ้าไหนก่อน สุขภาพจิตดีขึ้นมากกก
สู้ๆ นะคะ เรามาถึงตรงนี้แล้ว หมดหนี้แน่นอนค่ะ :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16249 โดย yoongkhing
วันที่ 10 กรกฏาคม
ภรรยาโทรมาให้กำลังใจตั้งแต่เช้าตรู่
บอกถ้าคุยไม่รู้เรื่องให้หนีกรุงเทพมาเลย
มาหลบอยู่ป่าอยู่เขา หลวงเข้าไม่ถึง เราก็หัวเราะขิกกัน

วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกสาววัย 1 ขวบพูดคำว่าฮัลโหลกับพ่ออีกด้วย
คุยกันว่าตั้งใจว่าสิ้นเดือนนี้จะลางานไปหา
ไปจัดงานวันเกิดรวมกันทีเดียวเลย 4 คนพ่อแม่ลูก

วางสายจากภรรยา แม่ก็เรียกไปกินข้าว
แม่ถามว่าอาหารมื้อสุดท้ายอยากกินอะไร
เอาเสื้อผ้าไปสัก 2-3 ตัวเผื่อเขาให้นอนเล่นที่นั่น
เอาข้าวผัดมั๊ย ให้แม่ไปเยี่ยมเดือนละกี่ครั้ง

ในเวลาแบบนี้ อารมณ์ขันของคนรอบข้าง
สร้างความผ่อนคลายได้อย่างดีมากจริงๆ

เช้าวันที่ต้องไปศาลครั้งแรกในชีวิต
เป็นเช้าวันที่ผมหัวเราะมากที่สุดในรอบปี

ผมเลือกเสื้อเชิ๊ตสีชมพูไปในวันนี้
เดินออกจากหมู่บ้าน ตั้งใจจะโบกวินมอร์ไซค์ไปหน้าปากซอย
เสียงแม่ขับรถตามมาบอกว่าจะไปส่งหน้าปากซอยให้
ผมดูหน้าแม่แล้ว จริงๆ เค้าก็มีความกังวล เป็นห่วงเรา
แต่พยายามซ่อนสีหน้าไว้เหมือนกับที่ผมทำ

แม่ส่งถึงหน้าปากซอย ลงจากรถผมก็เรียกวินหน้าปากซอยทันที
จากลาดพร้าว 71 ไปถึงศาลรัชดาในราคา 50 บาท

* ผมเคยคิดว่าไปศาลต้องมีเสียค่าทนาย ค่าศาล
แต่ก็ศึกษากระทู้เรื่องค่าใช้จ่ายไปศาลของคุณนกกระจอกเทศ
ก็ได้รู้ว่าไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรที่ผมคิดเลย แต่เค้าบอกว่าอาจจะมีค่าบุหรี่กับค่าล็อตเตอรี่เพิ่มเติม
ซึ่งผมโชคดีที่ไม่ได้สูบบุหรี่และมาวันที่หวยยังไม่ออกก็เลยไม่เจอคนขาย ก็เลยมีแค่เดินทางเท่านั้น

วินมาส่งผมฝั่งตรงกันข้าม ถึงประมาณ 08.45 น.
ผมไม่เคยมาที่นี่มาก่อน มันใหญ่โตมาก
ตึกศาลเรียงรายทั้งศาลอาญา ศาลแพ่ง ศาลยุติธรรมฯลฯ

ผมข้ามถนนไปที่ศาลแพ่งทันที คนไม่เยอะมากเท่าไหร่
เดินไปแบบไม่รู้ว่าจะต้องดูบอร์ดอะไรยังไง ที่ไหน
ตั้งใจไปหาจุดประชาสัมพันธ์ หรือยามสักคนเพื่อที่จะถามอย่างเดียวเท่านั้น

พอเข้าไปที่ศาลแพ่ง เจอจุดประชาสัมพันธ์หน้าทางเข้าเลย
ผมก็แจ้งไปหรูว่า "ศาลมานัดไกล่เกลี่ยครับ"
เจ้าหน้าที่ "ขอเลขค่ะ"
ผมส่งตัวเลขให้ เจ้าหน้าที่เอาไปพิมพ์ ปรากฏหน้าจอขึ้นว่าไม่มีเลขบัญชีนี้
ผมก็อ้าว เจ้าหน้าที่ก็เอ๊ะ ตอนนั้นคิดในใจว่า "เฮ้ยทนายทำเอกสารปลอมหลอกตู ฟ้องๆๆ"

เจ้าหน้าที่ก็เลยขอดูหมายศาล พอดูปั๊บจึงพูดว่า "คุณมาผิดที่ค่ะ"

"เดินไปอีก 2 ตึกค่ะ ศาลพระนครเหนือ"

จริงๆ เรื่องนี้สำหรับคนที่ไปศาลครั้งแรกนะครับ อาจจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างผมก็ได้
คือผมเข้าใจว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับคดีเรื่องเงินให้มาศาลแพ่ง
เพราะจริงๆ ในหมายศาลเค้าก็เขียนชัดว่าไป "ศาลพระนครเหนือ"
ซึ่งมันมีตึกศาลพระนครเหนือจริงๆ ไม่ใช่เป็นการระบุที่ตั้งศาลแพ่งเหนือ-ใต้อย่างที่ผมเข้าใจไปเอง

ผมหัวเราะเยาะตัวเองนิดหน่อย
อย่างน้อยการไปศาลในชีวิตนี้ผมคงไม่ขึ้นผิดศาลอีกแน่นอน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16254 โดย yoongkhing
พอไปถึงศาลพระนครเหนือ
ค่อนข้างเก่าและโทรมกว่าศาลแพ่งเมื่อกี้มาก
พอไปถึงก็ค่อนข้างเห็นบอร์ดชัดเลยว่าอยู่ด้านในฝั่งซ้าย

ไปถึงก็มีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆ บอร์ด
เราไปยืนทำหน้าตาโง่ๆ ให้เค้าเห็น
เค้าก็ถามว่าเลขคดีอะไรคะ

พอดูตัวเลขเค้าก็แจ้งว่าชั้น 4 ห้อง...
ตอนนั้นผมก็รีบครับๆ รีบขึ้นบันไดไปชั้น 4 ทันที
พอไปถึงภาพที่ผมเคยจินตนาการไว้ตอนดูหนังร่วงกราวทันที

ที่ผมคิดไว้ว่าจะต้องขึ้นศาลใหญ่ๆ มีบัลลังค์ศาลหน้ากว้างๆ
มีเก้าอี้ด้านหลังเยอะๆ พอๆ กับโบสถ์คริสต์ และก็มีคนหลายคนนั่งดูเรา

กลับกลายเป็นห้องเล็กๆ หลายๆ ห้อง คล้ายๆ ห้องเรียนโรงเรียนประถมแต่เล็กกว่า
ในแต่ละห้องก็มีบัลลังค์ศาลเล็กๆ โต๊ะพับพร้อมเก้าอี้สำหรับโจทย์-จำเลย หันหน้าฝั่งตรงข้ามกัน
โต๊ะเจ้าหน้าที่พิมพ์ดีด (ผมไม่รู้เรียกว่าตำแหน่งอะไร) และโต๊ะไม้ยาวๆ สองโต๊ะด้านหลังสำหรับคนมาฟัง

ผมไปถึง 09.00 น.พอดีเป๊ะ นึกเจ็บใจตัวเองว่าไม่ทันฟังว่าห้องเลขที่เท่าไหร่
ก็เลยต้องเดินหาชื่อตัวเองทีละห้อง อารมณ์เหมือนเช็คห้องสอบตอนมหาวิทยาลัย
ก็ปรากฏว่าผมได้ที่ห้อง 10 นัดมาทั้งหมด 5 คดีในเวลาเดียวกัน
มีคนนั่งรออยู่หน้าห้อง 1 คน ผมก็ไปนั่งข้างๆ เขา
ระหว่างรอผมก็ถามเค้าว่า พี่มาไกล่เกลี่ยเหมือนกันเหรอครับ
เค้ามองผมแว้บนึงแล้วก็ส่ายหน้า ก็เลยไม่ได้คุยอะไรกันต่อ

ระหว่างรอทนายมา ผมก็สังเกตคนที่มาไกล่เกลี่ยศาล
เกือบทุกคนมีบุคคลิกและดูหน้าที่การงานดีพอสมควรทั้งหญิง-ชาย
คงเป็นเพราะคนมีปัญหาเรื่องบัตรเครดิตส่วนใหญ่
ก็จะเป็นพนักงานเอกชนที่มีการงานที่ดีจึงมีเครดิตเหล่านี้

สักพักมีทนายเดินมาถึงเข้าห้องพิจารณาทันที
ผมก็เดินตามเข้าไปยืนมองหน้าเขา
เพื่อให้เขารู้ว่าผมมาแล้วนะ อย่ามาโยกโย้หรือหลอกล่อศาลว่าผมไม่มา
เรื่องนี้ผมศึกษามาดีมาก อ่านกระทู้ซ้ำๆ วันละหลายหน

เขาก็ถามผมว่าคุณคดีอะไรครับ
ผมตอบ "ซิตี้แอดวานครับ คุยเลยมั๊ยครับ"
เขาตอบกลับมา "ไม่ใช่ของผมครับ ผมกสิกร"

ผมเดินออกมารอด้านหน้าใหม่อีกครั้ง
ความรู้สึกคล้ายๆ ตอนเข้าไปศาลแพ่ง

ประมาณ 09.10 นาที ทนายอีกคนก็เข้ามา
และพูดหน้าห้องให้ทุกคนได้ยินว่า
"ซิตี้แอดวานซ์ครับ"

คู่กรณีผมมาแล้ว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16258 โดย momay
ตั้งใจอ่านค่ะ เพิ่งรู้สึก ชมรมนี้ได้ก่อนหน้านี้ไม่นาน ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เข้ามาแต่ก็รู้สึกขอบคุณกับน้ำใจของทุกคนที่มีให้กันมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16259 โดย yoongkhing
ผมกลับเข้าไปในห้องพิจารณาอีกครั้ง
ซึ่งทราบว่าเป็นช่วงคู่ความไกล่เกลี่ยกันเองก่อน
ทนายเค้าถามผมว่า "พี่จะเอายังไง"

ผมถามว่า "คุณมีอะไรมาบ้าง"
ทนายยื่นเอกสาร "ผ่อนเดือนละ 4,100 ต่อเดือน 24 งวด..."
ทนายกำลังจะพูดต่อ ผมพูดสวนขึ้นมาทันที

"ถ้าผมมีกำลังจ่ายต่อเดือนละสี่พัน วันนี้ผมคงไม่ได้มาที่นี่"

ทนาย "แล้วพี่จะเอายังไง"
ผม "ขอจ่าย 2 งวดๆ ละครึ่ง ภายใน 2 ปี"
ทนาย "โอย ไม่ได้หรอกครับ"
ผม "งั้นเอางี้ครับ"
ทนาย "ครับ"
ผม "ภายใน 2 ปีผมจ่ายหมด ด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ แต่ไม่ผ่อนรายเดือน"
ทนาย "(หัวเราะแหยๆ) โอยไม่ได้หรอกครับ พี่คุยกับแบ็งค์เองดูละกัน" กดหมายเลขจะให้เบอร์
ผม "งั้นเดี๋ยวคุยกับศาลก่อน หรือไม่ก็ขอเลื่อนนัด"
ทนาย "เลื่อนทำไมล่ะครับ"
ผม "ผมจะได้คำนวนแล้วคุยกับแบ็งค์ใหม่ได้ว่าผมจะจ่ายได้หมดภายในกี่ปี 2 ปี หรือ 3 ปี หรือ 5 ปี"
ทนาย "เค้าให้เลื่อนอย่างมากก็แค่เดือนเดียวนะครับ"
ผม "ครับ..."
ทนาย "งั้นรอผมสักครู่ครับ"

ผมนั่งรอสักพัก เจ้าหน้าที่พิมพ์ดีดก็เชิญผมไปด้านล่างพร้อมทนาย
ผมถามว่าไปไหน เค้าก็บอกว่าเห็นว่าเลื่อนนัด จะพาไปห้องเจ้าหน้าที่ออกเอกสารเลื่อน

ผมก็เดินตามไป ทั้งโล่งใจที่มีเวลาเพิ่ม และเอะใจนิดหน่อยว่าผมเสนอว่าคุยกับศาลด้วยนี่นา
ไม่ได้เสนอว่าขอเลื่อนอย่างเดียว แต่ทนายเลือกที่จะให้ผมเลื่อน

เข้าไปในห้องชั้น 2 ที่เขียนว่า "ห้องไกล่เกลี่ย"
ข้างในที่เจ้าหน้าที่ 4 คน แบ่งเป็นโต๊ะละ 2 คน

มีคู่ความอยู่ 2 คู่ความนั่งพูดคุยกันอยู่ในห้องนั้น

ทนายแจ้งว่าผมขอเลื่อนนัด
เจ้าหน้าที่ศาลที่เป็นผู้หญิงรุ่นป้าตะเบ็งเสียงขึ้นมา "เลื่อนทำไม"

ผม "เลื่อนไปคุยกับแบ็งค์ใหม่"

เจ้าหน้าที่อีกคนเป็นผู้หญิงวัยกลางคนก็สวนผมว่า "ก็คุยกันวันนี้สิ จะเลื่อนทำไม"

ผม "วันนี้คุยกันแล้วไม่ลงตัว"

เจ้าหน้าที่ป้า "เลื่อนอย่างมากไม่เกิน 17 สิงหา"

ทนายหันมาถามผม ได้มั๊ยพี่

"ได้ ไม่มีปัญหา"

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16260 โดย น้ำมนต์
สวัสดีค่ะ คุณ Yoongkhing

โอ้โห.... บรรยายได้เห็นเหตุการณ์จริงมากๆ เหมือนกำลังดูหนังเลย มีภาค ๑, ๒ และ ๓......

คล้ายหนัง ซีรี่ย์ เกาหลี ..... เพียงแต่มันคือ เหตุการณ์จริงที่กำลังเกิดขึ้น....

น้ำมนต์ก็ต้องไปศาลที่นี่เหมือนกันค่ะ แต่ยอดหนี้ตั้งแต่ ๓๐๐,๐๐๐ คงจะต้องขึ้น ศาลแพ่ง....
บอกได้คำเดียว สุดยอดของสติ ค่ะ

:bye:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16262 โดย yoongkhing
ระหว่างที่นั่งรอ
ผมได้มีโอกาสสังเกตคู่ความทั้ง 2 คน
คนนึงมาเป็นกลุ่มเหมือนเป็นครอบครัว

อีกคนเป็นยายอายุมากแล้ว แต่งตัวโทรมๆ
กำลังเจรจากับทนาย ผมได้ยินแว่วๆ จากทนายตอนเข้ามาทีแรกว่า
"ไม่ได้ครับป้า นี่ก็เลื่อนมา 3 นัดแล้ว ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย"

ยาย "ป้าขอให้ลูกชายทำงานก่อนได้มั๊ย"
ทนาย "เมื่อไหร่ครับ
ยาย "เจ้านายเค้าบอกจะให้ทำงานเดือนธันวาคม"
ทนาย "โอย นานไปครับ อย่างมากก็สิ้นเดือนสิงหาคม"
ยาย "ตอนนี้ไม่มี ลูกชายก็ยังหางานไม่ได้"
ทนาย "xxxxxxxxxxxxxx"

ผมนั่งฟังตลอดระหว่างที่รอ ยายดูหดหู่และทอดถอนใจอย่างเห็นได้ชัด
ในความคิดแกคงมีคำถามในใจมากมายว่าจะหาเงินที่ไหน ยืมใครได้อีก ขายอะไรได้บ้าง
ผมอยากจะลุกขึ้นไปบอกแกตอนนั้นว่า "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายครับยาย บอกทนายให้แจ้งกรมบังคับคดีเอาตะหลิวไปขายทอดตลาดได้เลย ถ้ามันจะเอา" แต่ก็ได้แค่คิด

ผมไม่เข้าใจอาชีพที่ทนายที่รับหน้าที่ทวงหนี้ให้แบ็งค์กับคนจนๆ เลย
ว่าเค้าทำใจไม่ให้สะเทือนใจกับสีหน้าของคนหมดสิ้นหนทางได้ยังไง
เค้ามีวิธีการฝึกมาจากไหน หรือถูกหล่อหลอมความคิดแบบไหนมาจึงทำงานอย่างนี้ได้
เป็นเราคนธรรมดาเดินดินต่อให้เป็นทนายโจทย์คงต้องแอบกระซิบบอกทางออกที่ถูกต้องให้ได้แล้ว
คงไม่ได้มาบีบเค้น ซ่อนเร้นทางออกเพื่อให้ได้ผลงานและกลับไปนั่งนับเงินที่ได้มาจากน้ำตาของคน


ระหว่างนั่งฟังทางเจ้าหน้าที่ก็ส่งเอกสารมาให้ผมเซ็นต์
เป็นเอกสารเรื่องการขอเลื่อนนัด ผมอ่านหมดทุกตัวอักษร
ไปสะดุดใจกับคำว่า จำเลยมีความประสงค์จะขอปิดบัญชี โดยเจรจากับโจทย์..
ด้วยประสบการณ์เกี่ยวกับสำนวนคดีความอันน้อยนิด
ผมก็เลยถามทนายว่า เอ๊ะ ปิดบัญชีในที่นี้หมายถึงวิธีการปิด หรือการปิดบัญชีรวดเดียวหรือยังไง?
ทนายส่ายหน้าทำหน้าตาเหนื่อยหน่ายแล้วให้ผมไปถามเจ้าหน้าที่ป้า

เจ้าหน้าที่ป้าตะเบ็งขึ้นมา "อะไรคะ มีอะไร มาดูซิ"
ผมก็ถือเอกสารเข้าไปบอกว่า ผมเจรจากับทนายว่าผมจะจ่ายเป็น 2 งวดภายใน 2 ปี
แต่ทีนี้ในเอกสารบอกว่าจะปิดบัญชีก็เลยถามเพื่อความแน่ชัด ว่าความหมายปิดบัญชีในทีนี้คืออะไร

เจ้าหน้าที่ป้าแผดเสียงขึ้นมา "ก็คุณมาทำอะไรล่ะคะ ไกล่เกลี่ยเพื่อจะจ่ายหนี้เพื่อปิดบัญชีไง ทำไมไม่อ่าน กรุณาอ่าน อ่าน อ่าน ให้ดีๆ (พูดๆๆ)"

ผมยกนิ้วชี้ขึ้นฟ้า แล้วจ้องหน้าป้าจนแกหยุดพูด

"ผมแค่ถาม คุณแค่ตอบ"

ยอมรับว่าโกรธมากที่เจ้าหน้าที่รัฐมีพฤติกรรมแบบนี้
ที่แกอธิบายมาผมพอเข้าใจ แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาพูดกับประชาชนอย่างนี้

แล้วผมก็หันหลังไปหาทนาย เซ็นต์เอกสารแล้วถามว่าเสร็จหรือยัง?
ทนายบอกเสร็จแล้ว ก็เลยเดินแยกย้าย

ผมเดินออกมาจากหน้าศาลเวลา 09.28 น.
ใช้เวลาเพียง 28 นาทีสำหรับการพูดคุยกับทนายและขอเลื่อนนัดในครั้งแรก

ผมยังขาดประสบการณ์การเจอศาลตัวเป็นๆ
แต่รอบหน้าผมคงได้เจอ หรืออาจจะเจอเร็วกว่านี้
ถ้ามีหมายศาลของเจ้าใหม่มาทันควัน

ผมเดินออกมาข้ามสะพานลอยฝั่งตรงข้าม
โทรหาภรรยาเล่าถึงประสบการณ์ตั้งแต่เข้าผิดศาล
จนเซ็นต์เอกสารขอเลื่อน ก็ยังได้กำลังใจดีๆ เช่นเดิม

ผมแอบย่องมาถึงหน้าบ้าน
โทรหาแม่แล้วบอกให้มาประกันตัว
บอกว่าโดนข้อหาต่อยทนาย แม่ตกใจรีบเดินผลุนผลันมาคุยนอกบ้าน
ก็จ๊ะเอ๋กับผมพอดี ก็ชุดใหญ่ไปโทษฐานที่หลอกแก

ผมกลับมานั่งพิมพ์ประสบการณ์เกี่ยวกับการไปศาล
ผมพยายามเขียนลงรายละเอียดให้มากพอ
ที่จะทำให้คนที่ไม่เคยไปศาลพอจะเห็นภาพตาม
และรู้ว่า ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยอย่างที่คิดจริงๆ

ขอบคุณกำลังใจที่พิมพ์มาให้ในขณะที่ผมกำลังเขียนอยู่

คนที่เขียนหนังสือ มีส่วนร่วม สำนักพิมพ์
รวมถึงคนที่มีประสบการณ์ที่มาแชร์เรื่องราวที่แห่งนี้
ล้วนมีบุญคุณกับผม และผมหวังว่าวันหนึ่งที่ผมพ้นทุกข์ตรงนี้ไปได้

ผมจะใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีช่วยคนเป็นหนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16263 โดย yoongkhing
พอดีภรรยาเคยติดหนังซี่รีย์ เราก็จำเป็นต้องดูด้วยน่ะครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ ;)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.961 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena