สอบถามเรื่องอายุความบัตร KTC ค่ะ

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5958 โดย smilegirl
สวัสดีค่ะ
เนื่องจากแม่เราเป็นลูกหนี้บัตร KTC
ยอดฟ้อง 108,000 บาท
เงินต้น 68,000 บาท

จ่ายเงินครั้งสุดท้ายเมื่อ 26/02/2010
ปิดหมาย 25/12/2011
นัดขึ้นศาล 27/02/2012

เราเลยไม่เข้าใจที่ว่า บัตรเครดิตจะหมดอายุความ 2 ปี
แต่กรณีนี้ เป็น 2ปี 1วัน ถือว่าหมดอายุความหรือไม่ค่ะ

วันจันทร์นี้เราจะไปศาลแทนคุณแม่ค่ะ
เนื่องจากแม่เรา 66 ปีแล้ว ไม่มีงานทำ
กลัวการขึ้นศาล เราเลยจะไปแทน
เราควรเจรจาอย่างไรบ้างค่ะ

ทางฝ่าย KTC ให้ข้อเสนอมา 2 อย่าง คือ
1. ปิดลด 50% ชำระ 2 งวด (ซึ่งงวดนึงประมาณ 27,000 บาท)
2. ประนอมหนี้ เดือนละ 1,500 บาท เป็นเวลา 36 งวด และมีต่อจากนั้นจนกว่าจะครบ 108,000 บาทค่ะ

รบกวนเพื่อนๆ ด้วยนะค่ะ
เราไม่รู้จะทำยังไงดี
คิดว่าอยากจะไปเจรจาขอเลื่อน
แต่เราไม่รู้ว่าการไปศาล จะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรจากนี้หรือไม่

ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5961 โดย Hathaichanok05
ลูกพี่เค้าอาจจะนอนกันหมดแล้วอะค่ะ แต่พรุ่งนี้รับรองมีคนมาให้ความกระจ่างแน่นอน

เราก็มือใหม่ คงให้ความกระจ่างไม่ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นให้ข้อมูลผิดพลาด

แต่เท่าที่รู้การไปศาลไม่น่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไร เท่าที่ตามอ่านกระทู้ของลูกพี่ทั้งหลายมา

ถ้านอนไม่หลับ แนะนำให้ไปถามอ่านกระทู้ที่มีหมุดแดงแดง ข้างหน้านะคะ อาจช่วยทำให้นอนหลับได้บ้าง ไม่มากก็น้อย

ใจเย็นๆนะคะ สู้สู้ค่ะ :bye:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5965 โดย Shofrets

smilegirl เขียน: สวัสดีค่ะ
เนื่องจากแม่เราเป็นลูกหนี้บัตร KTC
ยอดฟ้อง 108,000 บาท
เงินต้น 68,000 บาท

จ่ายเงินครั้งสุดท้ายเมื่อ 26/02/2010
ปิดหมาย 25/12/2011
นัดขึ้นศาล 27/02/2012

เราเลยไม่เข้าใจที่ว่า บัตรเครดิตจะหมดอายุความ 2 ปี
แต่กรณีนี้ เป็น 2ปี 1วัน ถือว่าหมดอายุความหรือไม่ค่ะ

วันจันทร์นี้เราจะไปศาลแทนคุณแม่ค่ะ
เนื่องจากแม่เรา 66 ปีแล้ว ไม่มีงานทำ
กลัวการขึ้นศาล เราเลยจะไปแทน
เราควรเจรจาอย่างไรบ้างค่ะ

ทางฝ่าย KTC ให้ข้อเสนอมา 2 อย่าง คือ
1. ปิดลด 50% ชำระ 2 งวด (ซึ่งงวดนึงประมาณ 27,000 บาท)
2. ประนอมหนี้ เดือนละ 1,500 บาท เป็นเวลา 36 งวด และมีต่อจากนั้นจนกว่าจะครบ 108,000 บาทค่ะ

รบกวนเพื่อนๆ ด้วยนะค่ะ
เราไม่รู้จะทำยังไงดี
คิดว่าอยากจะไปเจรจาขอเลื่อน
แต่เราไม่รู้ว่าการไปศาล จะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรจากนี้หรือไม่

ขอบคุณค่ะ


ตอบเจ้าของกระทู้
น้องบอกว่าจ่ายเงินครั้งสุดท้าย 26/02/2010 และปิดหมายศาล ปิดหมาย 25/12/2011ดังนั้นเจ้าหนี้ใช้เวลาที่ฟ้องคุณเพียง หนึ่งปี กับสิบเดือนเท่านั้นเอง
ระยะเวลาที่จะใช้นับอายุความไม่ได้นับจากวันที่จ่ายเงินครั้งสุดท้ายค่ะ แต่นับจากวันที่เราเริ่มผิดนัดชำระ
ถ้าของคุณครบกำหนดทุกวันที่ 26 วันผิดนัดชำระของคุณ คือ 26/03/2010 ไม่ใช่ 26/02/2010
อ้างอิง

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=3743#3771
อายุความตัดไปไม่หมดแน่นอน ส่วนเรื่องไปศาล ต้องดูว่าน้องไปศาลแทนแม่ แล้ว ก็ต้องทำหนังสือมอบอำนาจ และการเจรจาต่อรองหนี้ ข้อเสนอของทางธนาคารที่ให้มา สวนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าสน แต่ว่าถ้าไม่มีเงินก็คงต้องลำบากหน่อย ส่วนแม่อายุมากแล้ว งานก็ไม่ได้ทำ ถ้าเจ้าหนี้เขาจะอายัดเงินเดือนก็คงไม่ได้ ถ้าเราไม่มีงานไม่มีเงินไม่มีทรัพย์สินอื่นเจ้าหนี้เขาก็แขวนหนี้ไว้จนกว่าเราจะไปจ่ายเงินเขา นั่นแหละค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5967 โดย Pych
เรื่องอายุความ ก็ตามที่น้องหยัดตอบไว้
ขอเสริมด้วยว่า เริ่มนับจาก

วันที่ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย...จนถึงวันที่ฟ้องคดี

ของคุณก็น่าจะเป็นวันที่ 26/3/2010 ถึง วันที่ศาลประทับรับฟ้อง ซึ่งย่อมต้องก่อนวันที่ปิดหมาย (25/12/2011) อีกครับ ที่อยู่ในหมายศาล ใต้ตราครุฑ น่ะครับ

ส่วนเรื่องที่คุณจะไปแทนคุณแม่ ด้วยเหตุผลเพียงเพราะกลัวการขึ้นศาล ขอยกคำพูดที่คุณหมูสมิงบอกไว้ในบอร์ดเก่านะครับ

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=view&id=43631&view=flat&catid=2#43631

หมูสมิง เขียน: ศาลสถิตย์ยุติธรรมนะคะ ไม่ใช่ศาลพระกาฬถึงจะให้ญาติไปแทนได้
จำเลยหมายถึงตัวลูกหนี้หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจตามกฎหมายจากลูกหนี้
ซึ่งในที่นี้หมายถึงทนาย ไม่ใช่อยากจะมอบอำนาจให้ลูก ให้ญาติ หรือเพื่อนไปขึ้นศาลแทนได้
ถ้าไม่ไปก็เสียสิทธิ์ในการโต้แย้งหรือฟังข้อเสนอจากทางโจทก์
การที่ตัวจำเลยอ้างว่าไปศาลไม่ได้เพราะเขากลัวหรือเปล่า
ถ้ากลัวบอกเขาว่านี่มันคือคดีแพ่ง ถึงไปศาลแล้วไม่มีเงินจ่ายก็ไม่มีใครมาลากคอเข้าคุก
ถ้าไม่ได้ไปฆ่าใครตายหรือหมิ่นศาลก็ไม่ต้องกลัว


นอกจากจำเลยมีเหตุอัสุดวิสัยจริงๆ เช่นนอนอยู่โรงพยาบาล และย่อมต้องมีใบรับรองแพทย์ไปยืนยันด้วยนะครับ คุณสามารถไปเป็นเพื่อนคุณแม่ได้ครับ ไม่ได้ห้ามพาคนอื่นไปด้วยนี่

การไปศาลด้วยตัวจำเลยเอง ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลยครับ (นอกจากค่าเดินทางหรือค่ารถมาศาล) อ่านเยอะๆ สิครับ จะได้รู้ เข้าใจและไม่กลัวการไปศาล เคสตัวอย่างของพี่ๆ เพื่อนๆ มีเยอะครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=5625&Itemid=29

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=3419&Itemid=29

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=236&Itemid=29

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=117&Itemid=29

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5971 โดย Pych
ขอเพิ่มเติมกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจไว้ด้วย

การเริ่มนับอายุความและอายุความสำหรับคดีบัตรเครดิตนั้นยังคงมีความสับสนอยู่มากในประเด็นว่า อายุความจะเริ่มนับเมื่อใดและมีอายุความกี่ปี ซึ่งถือเป็นประเด็นที่มีความสำคัญยิ่งเนื่องจากสิทธิเรียกร้องใด ๆ ก็ตามถ้ามิได้ใช้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ถือได้ว่าสิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความและลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้ ทั้งนี้ตามมาตรา 193/9 และมาตรา 193/10 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในคดีบัตรเครดิตจะเริ่มนับอายุความเมื่อใดนั้น ศาลฎีกาได้วางแนวไว้ว่า หนี้บัตรเครดิตไม่จำต้องมีการทวงถามหรือบอกเลิกสัญญาก่อน โจทก์สามารถบังคับให้จำเลยชำระหนี้ดังกล่าวได้ทั้งหมดทันที ผลคือ อายุความย่อมเริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 193/12 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น คดีบัตรเครดิตโดยทั่วไปเมื่อเจ้าหนี้ได้แจ้งกำหนดการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ทราบแล้ว ครั้นถึงกำหนดลูกหนี้ไม่ชำระอายุความจะเริ่มนับทันทีในวันถัดไป เว้นแต่ เป็นกรณีที่อายุความสะดุดหยุดลงตามมาตรา 193/14 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้หรือชำระหนี้ให้บางส่วน เป็นต้น ในส่วนระยะเวลาที่ล่วงไปก่อนหน้าที่อายุความสะดุดหยุดลงนั้นไม่นับเข้าในอายุความ และจะเริ่มนับอายุความใหม่ต่อเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงได้สิ้นสุดทั้งนี้ตามมาตรา 193/15 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
อายุความคดีบัตรเครดิตนั้น ศาลฎีกาถือว่าบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตมีวัตถุประสงค์ให้บริการสินเชื่อแก่บุคคลทั่วไปในรูปของบัตรเครดิต ซึ่งจะออกบัตรให้แก่สมาชิกเพื่อให้สมาชิกนำบัตรไปซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ตกลงรับบัตร โดยไม่ต้องชำระราคาสินค้าเป็นเงินสดเพราะบริษัทจะเป็น ผู้ชำระเงินแทนสมาชิกไปก่อนแล้วเรียกเก็บเงินในภายหลัง ประกอบกับการที่บริษัทได้เรียกเก็บ ค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมรายปีจากสมาชิก บริษัทจึงเป็นผู้ค้ารับทำการงานต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกและได้เรียกเอาค่าที่บริษัทได้ออกเงินทดรองไป จึงเป็นกรณีตามมาตรา 193/34 (7) ซึ่งกำหนดให้สิทธิเรียกร้องในกรณีดังกล่าว มีอายุความสองปี และเพื่อให้เกิดความชัดเจนขอยกคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5092/2547 ประกอบการพิจารณาในประเด็นนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2547

“ จำเลยที่ 1 ใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2539 และชำระหนี้ให้โจทก์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 สิงหาคม 2539 ซึ่งตามใบแจ้งยอดการใช้บัตรเครดิตได้กำหนดให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้แก่โจทก์ภายในวันที่ 7 ตุลาคม 2539 แต่จำเลยที่ 1 ไม่ชำระ โจทก์ย่อมบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ได้ทั้งหมดทันที โดยไม่ต้องมีการทวงถามหรือบอกเลิกสัญญาก่อน อายุความจึงเริ่มนับแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2539 เป็นต้นไป
จำเลยที่ 2 ใช้บัตรเสริมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2540 หลังจากนั้นจำเลยที่ 2 ไม่ได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ตามใบแจ้งยอดการใช้บัตรเครดิตกำหนดให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้แก่โจทก์ภายในวันที่ 5 มีนาคม 2540 แต่จำเลยที่ 2 ไม่ชำระ โจทก์ย่อมบังคับให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ได้ทันที โดยไม่จำต้องทวงถามหรือบอกเลิกสัญญาก่อน อายุความสำหรับจำเลยที่ 2 จึงเริ่มนับแต่วันที่ 6 มีนาคม 2540 เป็นต้นไป
โจทก์มีวัตถุประสงค์ให้บริการสินเชื่อแก่บุคคลทั่วไปในรูปของบัตรเครดิตโดยออกบัตรให้แก่สมาชิก แล้วสมาชิกสามารถนำบัตรไปซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ตกลงรับบัตร โดยไม่ต้องชำระราคาสินค้าเป็นเงินสด โจทก์จะเป็นผู้ชำระเงินแทนสมาชิกไปก่อนแล้วเรียกเก็บเงินจากสมาชิกภายหลัง ซึ่งโจทก์ได้เรียกเก็บค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมรายปีด้วย โจทก์จึงเป็นผู้ค้ารับทำการงานต่าง ๆ ให้แก่สมาชิก การที่โจทก์ชำระเงินแก่เจ้าหนี้ของสมาชิกแทนสมาชิกไปก่อนแล้วเรียกเก็บเงินจากสมาชิกภายหลัง เป็นการเรียกเอาค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไป จึงมีอายุความสองปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 (7)

ตามสัญญาการใช้บัตรเครดิตจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดร่วมกับ

จำเลยที่ 2 จำเลยทั้งสองจึงเป็นลูกหนี้ร่วม มูลความแห่งคดี

เป็นการชำระหนี้ซึ่งแบ่งแยกจากกันมิได้
การที่จำเลยที่ 1 ยก

อายุความขึ้นต่อสู้ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้

แล้วเช่นกัน ศาลจึงพิพากษายกฟ้องไปถึงจำเลยที่ 2 ด้วยได้


"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: meawpung

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5972 โดย smilegirl
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านมากนะค่ะ
พรุ่งนี้เราจะพาคุณแม่ไปศาลค่ะ
และจะทำตามคำแนะนำ + แนวทางนะค่ะ

คิดว่าพรุ่งนี้คงเป็นการขอเลื่อนการพิจารณานะค่ะ

ขอบคุณค่ะ
^^

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5973 โดย Skynine
บอกกับคุณแม่นะคะว่าการไปศาลไม่น่ากลัว หรือต้องกังวลอะไร
เป็นคดีแพ่ง ไม่ติดคุก เราไปใช้สิทธิแสดงว่าเราไม่ได้หนีศาล ใช้สิทธิที่มี เลื่อนคดีเพื่อเข้าสู่
กระบวนการไกล่เกลี่ย เลื่อนไกล่เกลี่ย สู้คดี ฯลฯ
พรุ่งนี้คุณกับคุณแม่ไปศาล พี่อังจะส่งกำลังใจไปให้นะคะ..แล้วกลับมาจากศาลแล้วมาพิมพ์เล่าเหตุ
การณ์ให้ฟังบ้างนะ
ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: smilegirl

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5974 โดย Skynine
บอกกับคุณแม่นะคะว่าการไปศาลไม่น่ากลัว หรือต้องกังวลอะไร
เป็นคดีแพ่ง ไม่ติดคุก เราไปใช้สิทธิแสดงว่าเราไม่ได้หนีศาล ใช้สิทธิที่มี เลื่อนคดีเพื่อเข้าสู่
กระบวนการไกล่เกลี่ย เลื่อนไกล่เกลี่ย สู้คดี ฯลฯ
พรุ่งนี้คุณกับคุณแม่ไปศาล พี่อังจะส่งกำลังใจไปให้นะคะ..แล้วกลับมาจากศาลแล้วมาพิมพ์เล่าเหตุ
การณ์ให้ฟังบ้างนะ
ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร
[/color]
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: smilegirl

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5977 โดย smilegirl
ขอบคุณมากนะค่ะพี่อัง
กำลังใจมาเยอะล้นหลามเลยค่ะ

:love: :love: :love:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5986 โดย Nok2865

smilegirl เขียน: ทางฝ่าย KTC ให้ข้อเสนอมา 2 อย่าง คือ
1. ปิดลด 50% ชำระ 2 งวด (ซึ่งงวดนึงประมาณ 27,000 บาท)
2. ประนอมหนี้ เดือนละ 1,500 บาท เป็นเวลา 36 งวด และมีต่อจากนั้นจนกว่าจะครบ 108,000 บาทค่ะ

รบกวนเพื่อนๆ ด้วยนะค่ะ
เราไม่รู้จะทำยังไงดี
คิดว่าอยากจะไปเจรจาขอเลื่อน
แต่เราไม่รู้ว่าการไปศาล จะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรจากนี้หรือไม่

ขอบคุณค่ะ


น้องอนาคิน กับน้องหยัด ให้ความรู้เรื่องอายุความ ได้กระจ่างมาก คุณมีความเข้าใจตรงนี้ใช่ไหมค่ะ
ไปศาล นอกจาก "กำลังใจ" แล้ว คุณต้องมี "กำลังขุมความรู้" ด้วย
KTC ขึ้นชื่อว่า พอฟ้องแล้ว "เขี้ยว คุยยาก" พอๆกับ UOB
แต่เขาทวงไม่โหด และมีข้อเสนอช่วงนี้หลายรายที่ได้รับการผ่อนแบบปลอดดอก
กอบัวในฐานะอดีตลูกหนี้ชั้นดี ครอบครองบัตรมาเป็นสิบปี และผันตัวเองมาเป็นลูกหนี้ชั้นเลวเมื่อสองปีก่อน เจอมาทุกรูปแบบ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=1099&Itemid=29
บอกไปหลายคนแล้วว่า "ประเมินเงินและกำลัง" ของตัวเองก่อน
คุณยิ้ม ประเมินตัวเองแล้วหรือยังว่า มีเงินเหลือในแต่ละเดือนที่จะจ่ายเขาได้ที่เท่าไหร่?
ทำบัญชีประเมินคร่าวๆออกมา แล้วจดตัวเลขตัวนี้ ลองไปคุยหน้าศาลกับเขาว่า เขาจะให้ที่เท่าไหร่
ถ้าคิดว่า อีกสองสามเดือนข้างหน้า จะมีเงินก้อน ก็ลองไป "เลื่อน"
ศาลจะให้เลื่อนหรือไม่ให้เลื่อน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล เพราะคดีมันล้น ถ้าไกล่เกลี่ยได้ ศาลท่านก็อยากให้จบๆไป คุณต้องมีเหตุผลที่ "ฟังขึ้น"
ถ้าเลื่อนแล้ว คราวหน้าก็ต้องจบให้ลง ยิ่งจบดี จบสวย และจบเร็วเท่าไหร่ แม่คุณก็ยิ่งสบายใจ
ค่าใช้จ่ายในการไปศาลไม่มีค่ะ นอกจากค่ารถ ค่าอาหารที่ศาล ค่าล๊อตตาลี่หากอยากเสี่ยงโชค หรือค่าพวงมาลัยถวายบนบานศาลกล่าว :P
ถ้าเงินก้อนไม่มี ผ่อนจ่ายไม่ไหว ก็ลองผ่อนจ่ายแบบยาวๆไปก่อน ระหว่างนี้ก็เก็บเงินส่วนหนึ่งทำแฮร์คัท อย่าลืมว่าแฮร์คัททำได้ตลอดชีพ...

คุณทำหน้าที่ลูกกตัญญูถูกต้องแล้ว และต้องทำ "ให้ดีที่สุด" ด้วย
ขออวยพรให้คุณโชคดี...อย่าลืมพกเบอร์โทรกรรมการไปด้วย มีอะไรกรรมการทุกท่านเต็มใจช่วยเสมอค่ะ (ถ้าไม่ติดประชุม)


มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: 3190400254488B

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6018 โดย jackTs

smilegirl เขียน: วันจันทร์นี้เราจะไปศาลแทนคุณแม่ค่ะ
เนื่องจากแม่เรา 66 ปีแล้ว ไม่มีงานทำ
กลัวการขึ้นศาล เราเลยจะไปแทน
เราควรเจรจาอย่างไรบ้างค่ะ

คำถามแบบนี้ ผมเคยตอบไปแล้วอยู่ในหัวข้อเรื่อง

"มอบอำนาจให้ผู้อื่นไปศาลแทนได้หรือไม่"

การมอบอำนาจให้ผู้อื่น(ที่มิใช่ทนายความ) เพื่อให้ติดต่อกระทำนิติกรรมใดๆ แทนตัวจำเลยนั้น...สามารถกระทำได้
โดยการทำเป็นหนังสือมอบอำนาจให้แก่บุคคลผู้นั้นไป และที่สำคัญ "ต้องติดอาการสแตมป์" เป็นจำนวนเงิน 30 บาทด้วย (อันที่จริงติดอาการสแตมป์เพียงแค่ 10 บาทก็ได้ แต่จะเป็นการมอบอำนาจได้เพียงแค่ ชั่วครั้ง-ชั่วคราว แบบเป็น ครั้ง-ต่อครั้ง เท่านั้น...แต่ถ้าติดอาการสแตมป์ 30 บาท จะเป็นการมอบอำนาจในระยะยาว ตลอดจนกว่านิติกรรมนั้นจะเสร็จสิ้น)

แต่การมอบอำนาจเช่นนี้ มีข้อจำกัดอยู่ว่า...ให้สามารถกระทำนิติกรรมแทนจำเลยได้เพียงแค่บางอย่างเท่านั้น เช่น

- ขอถ่ายเอกสารคดีที่เกี่ยวข้องกับจำเลย แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมาไกล่เกลี่ยกับโจทก์(โดยไม่ได้พบกับผู้พิพากษา) แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมายื่นเอกสาร “คำให้การ ในการต่อสู้คดี” แทนตัวจำเลย (ยื่นเอกสารอย่างเดียวเท่านั้น ยื่นเสร็จแล้วกลับบ้านไปเลย)
- ขอมาฟังคำพิพากษาของศาล แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมาส่งเอกสารให้กับศาล ว่าจำเลยไม่สามารถเดินทางมาศาลตามนัด ในวันนี้ได้ จึงขอมาเป็นตัวแทนจำเลยในวันนี้ เพื่อขอความเมตตาจากศาล ให้ช่วยเลื่อนคดีออกไปก่อน...ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
เช่น...จำเลยประสบอุบัติเหตุถูกรถชน(โดยมีหลักฐานเป็นใบแจ้งความ หรือใบบันทึกประจำวันของตำรวจ มาแสดงให้เห็นด้วย) หรือ จำเลย ป่วย , ไม่สบาย ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล(โดยมีหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ มาแสดงให้เห็นด้วย)...เป็นต้น

แต่ถ้าเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่น ให้มาขึ้นศาลแทนตัวจำเลย เพื่อการสืบพยาน(หรือที่เรียกกันว่าสู้คดีความ)นั้น...ไม่สามารถทำได้ครับ

ต่อให้จ้างทนายความมาขึ้นศาลแทน แต่ตัวจำเลยกลับไม่ยอมมาศาลในวันที่สืบพยาน(หรือที่เรียกกันว่าสู้คดีความ)...ยังทำไม่ได้เลยนะครับ

ถ้าสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่น(ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือแม้กระทั่งทนายความก็ตาม) ให้สามารถสู้คดีแทนตัวจำเลยได้ทุกประการ...ป่านนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงมอบหมายอำนาจให้ ทนายความ , คนขับรถ , คนสวน มาขึ้นศาลแทนไปนานแล้วล่ะครับ


smilegirl เขียน: คิดว่าอยากจะไปเจรจาขอเลื่อน
แต่เราไม่รู้ว่าการไปศาล จะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรจากนี้หรือไม่

ค่าใช้จ่ายในการไปขึ้นศาล มีดังนี้ครับ

- ค่าเดินทางในการไปศาล (เช่น ค่ารถเมล์ , ค่ารถแท๊กซี่ , ค่าจ้างวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง...ฯลฯ)
- ค่าอาหารกลางวัน ถ้าบังเอิญติดช่วงพักเที่ยง (เช่น ค่าข้าวราดแกง , ค่าก๋วยเตี๋ยว , ค่าอาหารตามสั่ง ที่สามารถซื้อได้จากในโรงอาหารของศาล)...ยกเว้น คุณจะหิ้วปิ่นโตไปเอง อันนี้ ก็ไม่ต้องเสีย
- ค่าขนม/ของกินเล่น หลังจากทานอาหารแล้ว หากคุณเป็นคนที่ชอบกินของหวานหลังจากกินข้าว (เช่น น้ำแข็งใส , ลอดช่อง , เฉาก๊วย , ผลไม้ต่างๆ)...ยกเว้น คุณจะหอบหิ้วเอา ขนม/ผลไม้ ไปกินเอง อันนี้ ก็ไม่ต้องเสีย
- ค่าน้ำดื่มเวลากระหายน้ำ (เช่น น้ำโอเลี้ยง , กาแฟเย็น , น้ำอัดลม , น้ำขวดต่างๆ...ฯลฯ ที่สามารถซื้อได้จากในโรงอาหารของศาลเช่นกัน)...ยกเว้น คุณจะหิ้วกระติกน้ำไปเอง อันนี้ ก็ไม่ต้องเสีย
- ค่าซื้อบุหรี่ หากคุณเป็นคนที่ชอบสูบบุหรี่ในยามว่างหรือยามเหงาปาก แล้วบุหรี่ดันหมดพอดี
- ค่าเบี้ยปรับในการสูบบุหรี่ หากคุณเป็นคนที่ชอบ"สูบบุหรี่"ไม่เป็นที่เป็นทาง แล้วดันไปสูบในอาคารที่เขามีป้านเขียนเอาไว้ว่า"ห้ามสูบบุหรี่" คุณก็จะต้องเสียค่าปรับในส่วนนี้ด้วย
- ค่าซื้อล็อตเตอรี่ หากเป็นคนที่ชอบเล่นหวย (จะมีพวกที่ขายล็อตเตอรรี่ เดินขายกันเพ่นพล่านอยู่หน้าศาลเต็มไปหมด ตั้งแต่ประตูทางเข้า-ออก , ลานจอดรถ ไปจนถึงบันไดทางขึ้นศาล) ถ้าหากคุณใจอ่อน และเป็นคนประเภท"คอหวย"อยู่แล้ว คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาด้วย



ค่าใช้จ่ายต่างๆในการไปขึ้นศาล...ก็มีประมาณนี้แหละครับ

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pych, Shofrets, Aevy123, juthatip.jj

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6032 โดย juthatip.jj
ห้ามนั่งไขว่ห้างด้วยค่ะ โดนมาแล้วกับตัวเอง ขอให้โชคดีนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6045 โดย Hathaichanok05

แสนดี เขียน: ห้ามนั่งไขว่ห้างด้วยค่ะ โดนมาแล้วกับตัวเอง ขอให้โชคดีนะคะ



ศาลไหนเนี่ย :laughing: :laughing: :laughing:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6053 โดย smilegirl
กลับมาแล้วค่ะ

วันนี้เดินทางไปศาลมีนบุรี ตั้งแต่ 11.00 น.
แต่ขึ้นศาลตอน 13.30 น. ไปเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมค่ะ

ตอนไปถึง ก็ง๊ะๆ เงิ่นๆ ไม่รู้ติดต่อตรงไหน เพราะไปถึงตอนช่วงพักเที่ยงพอดี
เดินเตร่ไป เตร่มา และแล้วก็โทรหาทนายของ KTC
เค้าก็บอกว่าให้มาที่ชั้น 2 บังลังค์ 4 ขึ้นมาตอนบ่ายก็ได้
หรือถ้าขึ้นตอนนี้ก็ได้ แต่จะไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่

เราเห็นหน้าคุณแม่ รู้ทันทีว่าท่านกังวล และ กลัวมาก
เราได้แต่ปลอบใจและคอยอยู่ใกล้ๆ ท่านตลอด
บอกกับท่านว่า เรามาด้วย ไม่ต้องกลัว เราจะอยู่ด้วยตลอด

แล้วเราก็พาท่านขึ้นไปข้างบน นั่งรอหน้าห้อง
ท่านก็ขอไปนั่งห่างออกไป เพราะความกลัวมาก
ขนาดอากาศร้อนๆ แต่ตัวท่านเย็นมาก หน้าซีด

เราก็เลยพาท่านออกมานั่งอีกที่นึง แล้วเราก็เดินไปรอที่หน้าห้อง
เห็นมีพี่ผู้ชายนั่งรออยู่หน้าห้องเหมือนกัน ก็เลยเข้าไปคุย
คิดว่าสร้างมิตรไว้ก่อน แล้วก็พูดคุยซักถามข้อมูล
เราเองก็ไม่กล้าเข้าไปรอในห้องพิจารณา
แต่พี่ผู้ชายบอกว่ามีทนายมาแล้ว ลองเข้าไปดูก่อน

เราก็เลยเข้าไป เห็นทนายนั่งอยู่ 3 คน จัดเตรียมเอกสารอยู่
เราเข้าไปก็เลยบอกว่า เรามาในนามของคุณแม่ กับ KTC
แล้วก็เจอทนายเราพอดี เราก็เลยบอกว่าเราคุยกับคุณแม่แล้ว
สรุปว่า เราอยากปิดเลย แต่ขอเลื่อนการพิจารณาไปก่อน
เนื่องจากจะมีงานใหญ่เข้ามา อาจจะสามารถชำระหนี้ได้ทันที

แล้วเราก็เลยพาคุณแม่เข้ามาที่ห้อง เพื่อคุยกับทนาย
ตกลงกันได้ว่า ขอเลื่อน แล้วเค้าก็จัดการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ขอเลื่อนวัน
ทนายก็เลยบอกให้เรารอเซ็นเอกสารเลื่อนวันก่อน แล้วค่อยกลับ

แต่พอดี๊ ถึงเวลาท่านผู้พิพากษาเข้ามาพิจารณาคดีในห้อง
แม่เราหน้าถอดสีอย่างแรง และแล้วท่านผู้พิพากษาก็เรียกชื่อแม่เรา

เอาแล้วไง....แม่เราเดินไปหน้าศาลอย่างกลัว และ งง
ท่านถามว่าได้ติดต่อกับทางแบงค์บ้างไม๊
แม่เราก็เหมือนตอนนั้นหูไม่ค่อยได้ยิน ตอบไม่ค่อยถูก
ทนายคงเห็นหน้าแม่เราซีดมาก ก็เลยตอบแทนไป
ว่าติดต่อทนายตลอด โทรสอบถามตลอดครับ
อีกฝ่ายต้องการปิดชำระหนี้ แต่จะมี่งานเข้ามา
ที่จะสามารถจ่ายได้ อีก 1-2 เดือนข้างหน้า
จึงขอเลื่อนระยะเวลาไปก่อน

น๊าน....ทนายฝ่ายKTC ช่วยแม่เราซะงั้น 5555+
แล้วท่านผู้พิพากษา ก็บอกแม่เราว่า
ตกลงตามนั้น เลื่อนไปก่อน แต่อย่าลืมติดต่อแบงค์บ้าง
เผื่อได้ส่วนลดเพิ่มเติม

แล้วทนายก็จัดเตรียมเอกสารมาให้แม่เราเซ็น

แม่เราเซ็นชื่อแทบไม่เป็นตัวเลยค่ะ ด้วยความที่กลัวมาก

ทนายยังบอกอีกว่า ถ้าคุณแม่กลัว คราวหน้าให้ลูกมาแทนก็ได้
ทำใบมอบอำนาจมา แล้วมาติดอากรที่ผม
น๊าน...ทนายความฝ่ายนู้น อำนวยความสะดวกอย่างแรง

และแล้วก็กลับมาโดยสวัสดิภาพค่ะ

อยากบอกว่า การขึ้นศาล ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดจริงๆ
แต่ก่อนขึ้น ต้องเตรียมตัว เตรียมการ เตรียมความพร้อม
ศึกษากรณีตัวอย่างให้มากๆ เพื่อเราจะได้ไม่ประมาท

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านมากนะค่ะ
^^ ^^ ^^

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6054 โดย ntps
เขาเรียกว่า ไม่ลองไม่รู้ค่ะ :สู้ๆ: :สู้ๆ: :สู้ๆ:
ศาลท่านถึงพยายามบอกว่า ไปศาลเพื่อแสดงเจตนา
ดีกว่าปล่อยให้สิทธิเสียไปเปล่าๆ ค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: smilegirl

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6055 โดย smilegirl
ใช่อย่างที่คุณแ้ก้วจ๋า บอกเลยค่ะ

ตอนเราไป มีคนไม่มาขึ้นศาลหลายรายเลยค่ะ

เราเข้าใจนะ ว่าเค้าคงไม่พร้อม ไม่อยากมา ฯลฯ

แต่ถึงยังไง ถ้าจะให้ดี มาด้วยตัวเองจะดีกว่าค่ะ

จะได้ตัดสินใจอะไรได้ทันที

อีกอย่าง ทนายที่ฟ้องเรา เค้าก็ไม่ใช่พวกที่โทรทวงหนี้เรา

(หรือว่า เราเจอคนที่ดี ที่เข้าใจก็ไม่รู้)

เพราะฉะนั้น ขออย่าได้กลัวนะค่ะ

สู้ๆ คะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6059 โดย Pych
ทำดีแล้วครับ ทั้งคุณแม่และคุณลูก โดยเฉพาะ ความกตัญญู สำหรับคนจีนอย่างผม ถือว่า สำคัญที่สุดครับ

เห็นไหมครับ ผลแห่งความกตัญญูส่งผลให้ได้พบทนายโจทก์ใจดี

หวังว่า คุณแม่ของคุณ จะหายหลัว หายกังวลลงไปบ้างนะครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6068 โดย smilegirl
ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ให้มานะค่ะ

ขอบคุณมากจริงๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6083 โดย Skynine
o_) o_) พี่อังเอากำลังใจมาให้ ในที่สุด คุณกับคุณแม่ก็ฝ่าด่านการไปศาลมาได้ ศาลมีนพี่อังไปมาประมาณ 14 ครั้งแล้ว ได้เจอท่านใจดีมากๆ พี่อังได้เจอท่านมาทั้งหมด 4 ท่านด้วยกัน แต่ละท่านนอกจากจะสง่างามแล้ว มีความยุติธรรม และมีเมตตา พร้อมทั้งใจดีมากๆ ทุกท่านเลย และเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยที่ชั้น 8 ดีทุกคนเลย พี่อังมีเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยที่เจอกันบ่อย จนบางครั้งเจ้าหน้าที่คนนั้นบอกว่า เดี๋ยวคดีพี่หนูไกล่เกลี่ยให้เอง บางครั้งพี่อังแทบไม่ต้องกล่าวอะไรเลย น้องคนนั้นช่วยบอกกับทนายโจทก์ให้ว่า พี่เขาหนี้เยอะ พี่เขามาทุกนัด พอจะช่วยอะไรได้บ้างไหม... ข้อดีของการไปศาลข้อหนึ่งคือเขาจำเราได้ คุณได้ทำในสิ่งที่ดี และเป็นมงคลของชีวิตแล้ว ด้วยการทำหน้าที่ของลูกที่ดี ความดีอันนี้จะทำให้คุณรอดพ้นจากสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ พี่อังรักแม่มาก และพี่อังจะรู้สึกยินดีมากๆ ที่เห็นคนรักแม่ และไม่ทอดทิ้งแม่ให้ต้องทุกข์ ยามเด็กสองมือแม่ที่ช่วยประคองเราไม่ให้ล้ม ยามท่านแก่ชราเราก็ต้องดูแลท่านให้ดีเท่าที่เราจะทำได้ ไม่ให้ทุกข์กายและใจ และความดีอันนี้จะเป็นเกราะให้เรารอดปลอดภัย พี่อังได้รับรู้แล้วว่า เกราะแห่งการปฎิบัติต่อบิดามารดา ช่วยให้เรารอดพ้นได้ พี่อังเคยตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเกือบหวิดสิ้นชื่อมาแล้วเมื่อไม่นานนี้ แต่ก็รอดมาได้เพราะเกราะแห่งการปฏิบัติดูแลบิดามารดา สวรรค์ท่านเลยเมตตาพี่อังให้ได้ทำหน้าที่ลูกอีกครา...
ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจทั้งคุณและคุณแม่คุณ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร
[/color] o_)
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps, ngang2538, smilegirl

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6136 โดย smilegirl
ขอบคุณมากคะพี่อัง จ๋าเป็นกำลังใจพี่อังด้วยนะค่ะ
จ๋าเองเป็นห่วงท่านมากค่ะ
เพราะตอนนี้จ๋าเหลือแต่คุณแม่คนเดียวแล้ว

ตอนนี้ทำงานหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่ ให้หมดค่ะ
ส่วนหนี้ของตัวเอง ไว้ทีหลังค่ะ
เพราะยอดไม่เยอะมาก คิดว่ายังมีกำลังหามาจ่ายได้แน่นอน

แต่หนี้ของแม่ ส่วนใหญ่มูลค่าแต่ละตัวหลักเกือบแสน หรือไม่ก็แสนกว่าๆ
พอได้เงินก้อนใหญ่มา ก็รีบเจรจาจ่ายหมดลดหนี้กันไปจากเดิม

1.ธ.กรุงเทพ 70,000 บาท ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยทำประนอมหนี้ จ่ายเดือนละ 2,500 บาท
(ไม่มีลดซักบาท แถมดอกเบี้ยยังมีตลอด) กว่าจะหมด กัดฟันกันซะแตกหมดปาก

2.HSBC 60,000 บาท ได้งานใหญ่มา เลย H/C ได้ 2 งวด งวดละ 20,000 บาท

3.CITY 2 ใบ ใบละประมาณ 60,000 บาท H/C ได้ตัวละประมาณ 15,000 บาท

4.เซ็นทรัลการ์ด ตัวนี้ 120,000 บาท โดนฟ้องเรียบร้อย แต่บุญนำพาได้งานใหญ่อีก เลยเจรจา H/C
ก่อนขึ้นศาล ได้อยู่ที่ 60,000 จ่าย 2 งวด

ระยะเวลาการใช้หนี้ จ๋าเริ่มหยุดจ่ายทุกตัวประมาณปี 49-50 ค่ะ
ตอนนี้หนี้ของคุณแม่เหลือ 2 ตัว คือ KTC (ที่ฟ้อง) และ สแตนดาร์ทค่ะ

สู้กันต่อไป.....เป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านไปให้ได้นะค่ะ
ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.902 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena