ตอนนี้ได้หมายศาลแล้วค่ะแต่ยังไม่มีเงินเลย

สวัสดีค่ะ เริ่มจากตัวดิฉันเองมีหนี้ ปัจจุบันอยู่สามบัตร คือ เฟิสช้อย อิออน และอีซีบาย ตอนนี้ เฟิสช้อยส์มีหมายศาลมาแล้วให้ไปขึ้นศาลวันที่ 22/5/55 ค่ะ ยอดหนี้ประมาณ 110000 บาท ตอนนี้เพิ่งได้งานทำแค่ 9 เดือน เงินเดือนเพียง 15000 บาท ภาระเพียบค่ะ 1.ค่าเลี้ยงดูบุตร 2. ต้องดูแลแม่ 3. ต้องใช้หนี้เนื่องจากเอารถไปเข้าเพื่อปิดยอดบัตรเครดิตร และใช้เงินตอนช่วงที่ตกงาน โดยตอนเอารถไปเข้าใช้ชื่อน้องสาวค่ะเอาเงินออกมา 250000 และผ่อนเดือนละ 5600 บาท ค่ะ สามีก็ให้เงินค่ะ แต่ให้แค่เพียง 3000-4000 บาทเท่านั้นเืนื่องจากตัวเค้าเองก็มีภาระ ค่ะ เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ เม่อวานไปซื้อหนังสือมาอ่านค่ะ เลยคิดว่าจะแฮร์คัตในตัวที่ยังไม่มีหมายศาล คืออิออน และอีซีบาย โดยจะพยามเก็บเงินให้ได้ เดือนละ 5000 แต่ประเ็ด็นคือ ตัวที่มีหมายศาลสิคะ ตอนนี้ดิฉันไม่มีเงินก้อน เงินที่มีเพียงแค่กินให้พ้นเดือน ไหนจะต้องเลี้ยงลูก เงินกินของลูกใช้หนี้ที่เอารถไปเข้า อีกตอนนี้ไม่มีปัญญาที่จะทำอะไรได้หากไปขึ้นศาล จะขอเค้าผ่อนเดือนละ 500-1000 เค้าจะยอมหรือไม่คะ เพราะหากเอาเงินก้อนมาก็ไม่รู้จะเอาปัญญาที่ไหนไปให้เค้า ใจก็กลัวว่าหากไม่ไปศาลจะอายัดเงินเดือนหรือไม่ ใจจริงๆ แล้วอยากจะรอสัก 1-2 ปีค่ะ เก็บเงินสักก้อนและโป๊ะ แต่มันเก็บไม่ทันแล้วหมายศาลมาแล้วอ่ะค่ะ สอบถามนะคะว่า เราสมวครจะไปศาลวันที่ 22/5/55 นี้หรือไม่ หากไม่ไปจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ และถ้าไปเราควรจะบอกเค้ายังไงว่าตอนนี้เราไม่มีทางที่จะจ่ายเค้าได้ไม่ว่าจะเป็นก้อนหรือโดยบังคับให้จ่าย เพราะหนี้มันก็มากอยู่ค่ะ ก่อนหน้าหนี้ เฟิสช้อยโทรมาถามได้หมายศาลหรือยัง ดิฉันบอกว่าได้แล้ว เค้าบอกว่าหากมีเงิน 78000 มาปิดก็จะยกเลิกฟ้องให้ แต่ตัวดิฉันไม่มีเงินขนาดนั้นค่ะ ตอนนี้ก็เครียดใกล้วันมาทุกวัน ยังไม่ได้บอกแม่ เลยเพราะแม่อายุมากแล้วกลัวว่าจะเครียดท่านเพิ่งผ่าตัดสะโพกมาเนื่องจากล้ม ด้วย เครียดสุดๆ ถ้ายังไงรบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ ตอนนี้เป็นกังวลจริงๆกับตัวที่มีหมายศาลนี่แระค่ะ

อ่อ ส่วน อิออนกะอีซีบาย ยอดหนี้อิออน 45000 ยอดอีซีบาย 20000 สองตัวนี้เพิ่งจะหยุดชำระ คิดว่าหากเก็บเงินสัก 6 เดือนจะทำแฮร์คัทตาที่ได้อ่านหนังสือมาได้หรือไม่คะ

ไปอ่านกระทู้ปักหมุดข้างบนนะ...

หนังสือก็มี..อ่านดู..คล้ายๆกัน...

เรื่องศาล..ต้องไป...นัดแรก..ไปขอเลื่อนเพื่อซื้อเวลาไปก่อน..เดือน สองเดือน..

เค้าไม่รอเราเป็นปีปีหรอก...ข้อมูลมีหมดในบอร์ดนี่แหละ....

ไปหาอ่านดูก่อน..วิธีมันมีอยู่แล้ว..ไม่ต้องร้อนรนเกินไป...ตั้งสติ...

ตัวอย่างการใช้หนี้ที่ดีจะนานแค่ไหนเราก็จะเก็บเงินจ่ายเจ้าหนี้คุณเข้าใจที่ผมสื่อนะครับ


คุณยายชาวปกาเกอะญอ วัย 66 ปี เก็บเงินค่ารักษาพยาบาล 3 พันบาท

ส่งคืนรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ หลังค้างมานาน 43 ปี

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าวาน นี้(18ส.ค.) นายสิริ เจริญธรรม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 9 ต.ท่าตอน อ.ท่าตอน จ.เชียงใหม่ เดินทางมาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อเข้าพบ น.พ.วัฒนา สินธุนาวา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มหาราชนครเชียงใหม่ โดยนายสิรินำซองจดหมายที่บรรจุเงิน 3,000 บาทมามอบให้ โดยระบุว่า เป็นเงินค่ารักษาพยาบาลของ นางส่าพอ พาคลึ คุณยายชาวปกาเกอะญอ วัย 66 ปี ในหมู่บ้านเมืองงาม ต.ท่าตอน อ.แม่อาย ที่เคยติดค้างกับทางโรงพยาบาลไว้เมื่อ 43 ปี ก่อน

นายสิริ เล่าว่า ในปี 2510 หลังจากนางส่าพอ คลอดบุตรสาวได้ป่วยด้วยอาการมดลูกอักเสบ ด้วยความ เจ็บปวดและทรมานทำให้ตัดสินใจเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนคร เชียงใหม่ แต่เนื่องจากใน ขณะนั้นครอบครัวของนางส่าพอ มีฐานะยากจนจึงต้องยืมเงินจากเพื่อนบ้านจำนวน 23 บาท เพื่อเป็นค่าเดินทาง และค่าอาหาร

หลังจากรับการรักษาในดรงพยาบาลเป็เวลา 2สัปดาห์ จนอาการดีขึ้น แพทย์จึงอนุญาตให้กลับไป รักษาตัวที่บ้านพร้อมแจ้งค่ารักษาพยาบาล แต่นางส่าพอ ไม่มีเงินจ่าย แพทย์จึงบอกว่าให้กลับบ้านได้มีเงินเมื่อไหร่ ค่อยนำมาจ่าย หลังจากเดินทางกลับบ้านนางส่าพอ มีอาการดีขึ้นตามลำดับ กระทั่งสามารถมีบุตรได้อีก 6 คน ระหว่างนั้นก็ได้ประกอบอาชีพรับจ้าง และทำสวนผักขายผลผลิตเพื่อเก็บเงินมาชดใช้หนี้


นายสิริ เล่าว่า ตนเป็นลูกหลานที่อาศัยในหมู่บ้านเดียวกันกับนางส่าพอ โดยเมื่อไม่นานมานี้นางส่าพอ ได้เล่าเรื่องให้ฟังพร้อมไหว้วานให้นำเงินไปจ่ายให้กับโรงพยาบาล แต่เนื่องจากการสื่อสารทางภาษาทำให้ นางส่าพอ ไม่ทราบจำนวนเงินค่ารักษาพยาบาล จึงมอบเงินเงินจำนวน 3,000 บาท โดยนางส่าพอ ให้เหตุผลที่ต้องการจ่าย ค่ารักษาพยาบาลทั้งที่ผ่านมานานกว่า 43 ปี ว่า แม้โรงพยาบาลจะไม่เคยทวง แต่เมื่อเราเป็นหนี้เขาแล้วหากไม่ชด ใช้คงไม่สบายใจ ปู่ย่าตายายก็สอนมาตลอดให้เป็นคนซื่อสัตย์ หากคดโกงก็จะตกนรก ขณะที่ตนเองก็อายุมากแล้ว หากยังมีหนี้ที่คั่งค้างอยู่ก็คงนอนตายตาไม่หลับ


น.พ.วัฒนา กล่าวว่า ขอชื่นชมนางส่าพอ ที่แม้จะยากจน แต่ก็มีความซื่อสัตย์ ซึ่งกรณีเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มาก่อน ในตอนนี้เวชระเบียนคงถูกลบไปหมดแล้ว ทำให้ไม่ทราบว่า แพทย์ที่ รักษาเป็นท่านใด และค้างชำระเท่าไหร่ แต่จำนวนเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งมีเจตนารมย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นสำคัญ ส่วนเงินของนางส่าพอ จะถูกนำเข้าสมทบกองทุนราชสมาทร เพื่อช่วยเหลือผู้ ป่วยยากไร่รายอื่น ๆ ต่อไป
น.พ.วัฒนา กล่าวว่า หลายปีก่อนหน้านี้โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ให้การรักษาผู้ป่วยยากไร้ที่ไม่มีเงินรักษาเป็นเงินกว่า ปีละ 100 ล้านบาท แต่หลังจากมีหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรายจ่ายส่วนก็ลดลง ล่าสุดทางโรงพยาบาลกำลังจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังสองปีเพื่อดูว่าได้ช่วยเหลือ รักษาฟรีไปแล้วเท่าไหร่ ซึ่งกรณีของนางส่าพอ ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม

เบื่อหนี้ เขียน: สวัสดีค่ะ เริ่มจากตัวดิฉันเองมีหนี้ ปัจจุบันอยู่สามบัตร คือ เฟิสช้อย อิออน และอีซีบาย ตอนนี้ เฟิสช้อยส์มีหมายศาลมาแล้วให้ไปขึ้นศาลวันที่ 22/5/55 ค่ะ ยอดหนี้ประมาณ 110000 บาท ตอนนี้เพิ่งได้งานทำแค่ 9 เดือน เงินเดือนเพียง 15000 บาท ภาระเพียบค่ะ 1.ค่าเลี้ยงดูบุตร 2. ต้องดูแลแม่ 3. ต้องใช้หนี้เนื่องจากเอารถไปเข้าเพื่อปิดยอดบัตรเครดิตร และใช้เงินตอนช่วงที่ตกงาน โดยตอนเอารถไปเข้าใช้ชื่อน้องสาวค่ะเอาเงินออกมา 250000 และผ่อนเดือนละ 5600 บาท ค่ะ สามีก็ให้เงินค่ะ แต่ให้แค่เพียง 3000-4000 บาทเท่านั้นเืนื่องจากตัวเค้าเองก็มีภาระ ค่ะ เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ เม่อวานไปซื้อหนังสือมาอ่านค่ะ เลยคิดว่าจะแฮร์คัตในตัวที่ยังไม่มีหมายศาล คืออิออน และอีซีบาย โดยจะพยามเก็บเงินให้ได้ เดือนละ 5000 แต่ประเ็ด็นคือ ตัวที่มีหมายศาลสิคะ ตอนนี้ดิฉันไม่มีเงินก้อน เงินที่มีเพียงแค่กินให้พ้นเดือน ไหนจะต้องเลี้ยงลูก เงินกินของลูกใช้หนี้ที่เอารถไปเข้า อีกตอนนี้ไม่มีปัญญาที่จะทำอะไรได้หากไปขึ้นศาล จะขอเค้าผ่อนเดือนละ 500-1000 เค้าจะยอมหรือไม่คะ เพราะหากเอาเงินก้อนมาก็ไม่รู้จะเอาปัญญาที่ไหนไปให้เค้า ใจก็กลัวว่าหากไม่ไปศาลจะอายัดเงินเดือนหรือไม่ ใจจริงๆ แล้วอยากจะรอสัก 1-2 ปีค่ะ เก็บเงินสักก้อนและโป๊ะ แต่มันเก็บไม่ทันแล้วหมายศาลมาแล้วอ่ะค่ะ สอบถามนะคะว่า เราสมวครจะไปศาลวันที่ 22/5/55 นี้หรือไม่ หากไม่ไปจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ และถ้าไปเราควรจะบอกเค้ายังไงว่าตอนนี้เราไม่มีทางที่จะจ่ายเค้าได้ไม่ว่าจะเป็นก้อนหรือโดยบังคับให้จ่าย เพราะหนี้มันก็มากอยู่ค่ะ ก่อนหน้าหนี้ เฟิสช้อยโทรมาถามได้หมายศาลหรือยัง ดิฉันบอกว่าได้แล้ว เค้าบอกว่าหากมีเงิน 78000 มาปิดก็จะยกเลิกฟ้องให้ แต่ตัวดิฉันไม่มีเงินขนาดนั้นค่ะ ตอนนี้ก็เครียดใกล้วันมาทุกวัน ยังไม่ได้บอกแม่ เลยเพราะแม่อายุมากแล้วกลัวว่าจะเครียดท่านเพิ่งผ่าตัดสะโพกมาเนื่องจากล้ม ด้วย เครียดสุดๆ ถ้ายังไงรบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ ตอนนี้เป็นกังวลจริงๆกับตัวที่มีหมายศาลนี่แระค่ะ

อ่อ ส่วน อิออนกะอีซีบาย ยอดหนี้อิออน 45000 ยอดอีซีบาย 20000 สองตัวนี้เพิ่งจะหยุดชำระ คิดว่าหากเก็บเงินสัก 6 เดือนจะทำแฮร์คัทตาที่ได้อ่านหนังสือมาได้หรือไม่คะ

ลองโทรไปปรึกษาดูก่อน

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_content&view=article&id=70:hotline-new&catid=4:2008-12-16-19-39-10&Itemid=21

ให้จิตใจสงบแล้วค่อยกลับมาศึกษาต่อในเวป

ไปอ่านเรื่องเล่าของเพื่อนๆ ดูตัวอย่างของหลายๆท่านดู

มันไม่น่ากลัวอย่าที่คิดหรอก ไม่ผิดที่จะกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้

แต่ถ้าเรามัวแต่กลัวก็จะทำให้มันยิ่งแย่ เราต้องศึกษาหาความรู้มาสู้กับสิ่งที่เรากลัว

เมื่อเรารู้มากพอแล้ว เราจะรู้ว่าสิ่งที่เรากลัวนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย

.
ก่อนอื่น ให้เข้าไปที่"หน้าแรก"เสียก่อน





แล้วเลื่อนลงมาล่างสุด

เข้าไปหาอ่านความรู้ใน ห้องรู้ทันกฏหมายหนี้





แล้วก็กระทู้นี้

ใจเย็นๆ ครับคุณเบื่อหนี้

เข้ามาเป็นกำลังใจนะคะ สู้สู้ค่ะ ค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ ทุกอย่างมีทางออกที่ดีค่ะ อยู่ที่เราด้วยว่าศึกษาวิธีอย่างไร อย่าเพิ่งท้อนะคะ

เข้าใจว่าคุณกลุ้มใจ จนเหมือนมันประเดประดังเข้ามาเต็มหัวใจไปหมด
การแก้ไขหนี้ที่ผ่านๆมา ก็เหมือนคนอื่นๆ กู้ตรงโน้นมาปิดตรงนี้ เอารถ เอาบ้านไปรีไฟแนนซ์ เพื่อเอาเงินมาปิดหนี้บัตร แล้วก็ไปกดมาใช้ใหม่ หนี้ใหม่ก็งอกออกมา ผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น
ตัวที่กำลังจะขึ้นศาล ก็ไม่ต้องไปวิตกกังวล ถ้าตรองแล้ว พิจารณาแล้ว เลื่อนแล้ว ได้เลื่อนกี่เดือน ถ้าได้น้อยเดือน จะเก็บเงินใช้หนี้ทันไหม?
ถ้าเก็บเงินยังไงก็ไม่ทัน เราก็ยังไกล่เกลี่ย ผ่อนจ่ายเขาได้
ปากเจ้าหนี้ หรือทนายจะบอกเราว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น อย่าไปฟังมัน ต่อรองมันเข้าไป อยากได้ยอดเท่าไหร่ ผ่อนจ่ายแค่ไหน ไปคิดดูสิว่า เราจะผ่อนจ่ายได้เดือนละเท่าไหร่
หากคำนวนแล้ว ไม่ไหว ต่อให้ผ่อนจ่ายไม่ไหว ก็ "หักคอจ่าย" เอา
โดยต้องให้ศาลพิพากษาไปเลย โดยขอความเมตตากับท่านเรื่องดอกเบี้ย และอาจจะเอาค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาพยาบาลแม่ (ที่เป็นไปเพื่อความกตัญญู หรือเลี้ยงดูบุตร) ให้ท่านดู
แต่ศาลไม่สามารถลดหนี้ให้ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่่ของศาล ศาลต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
หลังจากคุณให้ศาลพิพากษาไปแล้ว ไปรอคำพิพากษาที่บ้าน ไม่ต้องรีบ ประมาณ 15-30 วันคำพิพากษาจึงจะส่งไปถึงบ้าน
จากนั้นคุณดูยอดที่ศาลท่านสั่งให้ชำระ แล้วเอายอดทั้งหมด รวมดอกเบี้ย รวมค่าต่างๆที่มีในคำพิพากษา หารด้วย 60 จะเป็นยอด "หักคอจ่าย" ที่สมน้ำสมเนื่้อ
ถ้าน้อยกว่านี้ เจ้าหนี้จะอายัดเงินเดือนได้
เป็นหนี้เราเอาเงินเขามาจริง เราก็ต้องชดใช้ ไอ้เรื่องเจ็บตัวไม่ใช่ไม่มี แต่พยายามให้เจ็บตัวน้อยที่สุด
สงสัยอะไร Hotline หากรรมการได้ค่ะ

เข้ามาอ่านเป็นกำลังใจให้นะคะ เรื่องหมายศาลมีกระทู้ปักหมุดเยอะแยะเลย ลองอ่านดูนะคะ