จะขอปิดบัญชีกับ citibank ค่ะ

จะขอปิดบัญชีกับ citibank ค่ะ

ยอดฟ้อง 230,000.- ผ่อนงวดแรก 10,000.- งวดต่อไปเดือนละ 5,000.- ภายใน 2 ปีต้องชำระให้ครบ

ตอนนี้เราส่งไปทั้งหมด 95,000.-
ยอดหนี้เหลือ 135,000.-

เราหาเงินผ่อนไม่ไหวแล้วเพราะมีหนี้ที่อื่นด้วย
โทรไปเจรจากับเค้าบอกว่าต้องปิดยอดที่ 88,000.- ลดไม่ได้แล้ว

ตอนนี้เรามีบ้านอยู่1หลังวางแบงค์ไว้ 500,000.- ใช้เต็มวงเงิน จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน

อยากทราบว่า
ถ้าเราหาเงินปิดยอดมีวิธีอย่างไรบ้างที่พอจะทำให้ยอดลดกว่านี้ เพราะ 88,000.- ไม่ไหว
หรือถ้าเราหาเงินไม่ได้จริงๆ แล้วยึดทรัพย์เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง

ขอบคุณค่ะ

ถ้าคุณไม่มีจ่าย เขาก็ต้องฟ้องคุณแหละครับ ดูก่อนว่าหน้าตักคุณมีเท่าไหร่

ถ้าปล่อยฟ้องจะดีกว่าไหม ลองอ่านกระทู้ปักหมุดดูนะครับ

คุณยอมความมาใช่ไหมครับ...หรือเจรจาขอผ่อนหลังศาลตัดสิน......


ถ้าหาเงินไม่ไหวแล้วจริงๆ....ก็ต้องปล่อยให้บังคับคดีครับ เจ้าหนี้เขาต้องกลับไปคิดยอดหนี้

ดอกเบี้ย ค่าปรับตามสำนวนฟ้องในครั้งแรกได้นะครับ....ดูก่อนว่าเงินเดือนคุณสูงไหม

อายัด 30% มันมากกว่าที่ผ่อนจ่ายอยู่ไหม มีเจ้าหนี้รายอื่นๆที่กำลังจะฟ้องไหม...มีทรัพย์สินอื่นๆอีกไหม

แล้วบ้านราคาเท่าไหร่ล่ะ....ถ้าจะปล่อยให้ยึด......ลองประเมิณดูครับ

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=3&id=12878เกณฑ์การอายัดทรัพย์-อายัดเงินเดือน หุ้น โบนัสต่างๆ ของพี่กรีนนี่
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=2742 หลักเกณฑ์การอายัดเงินเดือน และการลดอายัดเงินเดือนสามารถทำได้ไหม พี่นกอธิบายละเอียด
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=801&catid=2&limitstart=6 อายัดเงินเดือน คิดจากยอดรายได้ทั้งหมด
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=857&catid=2 สามารถอายัดเงินที่ได้รับจากการถูกเลิกจ้าง และเงินสหกรณ์ได้ไหม?
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=663&catid=2 โดนอายัดซ้ำจากเจ้าหนี้รายเดียวกัน บัญชีธนาคารเดียวกันกับเงินเดือน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=2194&Itemid=29 กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สินภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)

ตอนนี้มีเงินอยู่ 40,000 เองค่ะ หาที่ไหนไม่ได้ไม่มีใครหยิบยื่นให้แล้วเพราะต่างก็มีภาระเหมือนกัน
อยากจะปิดแต่ก็ไม่ได้ จะผ่อนต่อก็ไม่ไหว
ว่าจะให้แบงค์ยึดบ้านเพราะไม่มีเงินจ่ายดอกแล้ว
ไหนจะบัตรอื่นอีก

....เครียดมาก

ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ

หากไม่ไหวก็ไม่ต้องดิ้นรนหายืมหนี้มาปิดหนี้ จะเป็นหนี้ขึ้นมาอีก เก็บเงินเอาไว้ก่อน...
เผื่อฉุกเฉินอะไรขึ้นมาจะได้มีใช้ มีกิน ค่อยๆ เก็บเงินไปเรื่อยๆ พร้อมเมื่อไรว่ากันใหม่
จำไว้ว่า เรา+ครอบครัวต้องอิ่มก่อนหนี้
การอายัดเงินเดือนไม่น่ากลัว พี่อังที่ตอบคุณอยู่นี้ก็ใช้วิธีให้อายัดเงินเดือนสิ้นปีนี้หมดกับเจ้าแรกที่อายัด
ข้อดีของการอายัดคืออายัดได้ทีละเจ้า เมื่อมีเงินเก็บอีกเมื่อไร จะแฮร์คัตร่วมไปด้วย หนี้ก็หมดได้เร็วขึ้น
อย่ากังวล สำหรับบ้านห้ามหยุดจ่าย...
อย่างไรอยากให้คุณศึกษาข้อมูลในห้องต่างๆ ให้ละเอียดอีกรอบนะ จะได้มีภูมิ
ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร

Ping_Ping เขียน: ตอนนี้มีเงินอยู่ 40,000 เองค่ะ หาที่ไหนไม่ได้ไม่มีใครหยิบยื่นให้แล้วเพราะต่างก็มีภาระเหมือนกัน
อยากจะปิดแต่ก็ไม่ได้ จะผ่อนต่อก็ไม่ไหว
ว่าจะให้แบงค์ยึดบ้านเพราะไม่มีเงินจ่ายดอกแล้ว
ไหนจะบัตรอื่นอีก

....เครียดมาก

ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ

เอาเป็นว่า ไม่ไหวเลย ทางไหนก็ไม่ไหว งั้นก็ต้องปล่อยให้หมดครับ..เก็บเงินไว้เลี้ยงดูครอบครัวก่อน

แต่บ้านน่ะ....ขายแล้วเอาไปใช้หนี้จะดีกว่าไหม เพราะถ้าคุณไม่จ่ายบ้าน ดอกเบี้ยอ่วมเลยนะครับ

เพราะถ้าปล่อยให้ยึด กว่าจะฟ้องร้องและยึดขายทอดตลาดได้ ใช้เวลานานพอสมควรนะครับ

อย่าง citibank ถ้าเราจ่ายไม่ไหวแล้ว
เค้าจะยึดทรัพย์บ้านหลังที่ติดแบงค์อยู่ได้ไหมค่ะ
เพราะเราไม่ได้ทำงานไม่มีเงินเดือน

Ping_Ping เขียน: อย่าง citibank ถ้าเราจ่ายไม่ไหวแล้ว
เค้าจะยึดทรัพย์บ้านหลังที่ติดแบงค์อยู่ได้ไหมค่ะ
เพราะเราไม่ได้ทำงานไม่มีเงินเดือน

ได้ครับ...เงินที่ขายทอดตลาดได้ จะนำไปใข้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ที่ติดจำนอง(จำหนี้บุริมสิทธิ์)ก่อน

ส่วนที่เหลือถึงจะเอาไปตัดหนี้กับเจ้าหนี้ที่ยื่นกรมบังคับคดี ถ้าไม่พอ เจ้าหนี้ก็จะสืบหาทรัพย์อย่างอื่นต่อไป

คุณไปตกลงเซ็นประนีประนอมยอมความหน้าศาล กับเจ้าหนี้ไปแล้ว
แล้วส่งไม่ไหว เจ้าหนี้สามารถถือคำพิพากษา เข้าสู่กระบวนการบังคับคดี อายัดเงินเดือนและทรัพย์ได้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำ
หากปล่อยให้มีการยึดบ้าน เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์จะได้สิทธิ์ในการขายทอดตลาดนั่นก่อน ที่เหลือถึงจะมีการแบ่งไปใช้หนี้บัตรต่างๆได้ แล้วแต่ว่าใครยืนเรื่องมาบังคับคดีก่อน
ถ้าคุณประกาศขายบ้านได้ จะเจ็บตัวน้อยกว่า เพราะหากปล่อยให้มีการยึดขายทอดตลาด ราคาอาจจะไม่งาม และคุณต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยต่างๆ
คุณบอกว่าไม่มีเงินเดือน ไม่ได้ทำงานประจำ มีแต่บ้านหลังนี้ใช่ไหม? ไปอ่านในนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8746&Itemid=29 หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือ​นและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?​ By: พี่นกกระจอกเทศ

คุณอาไพโรจน์ เสาหลักและผู้ก่อตั้งชมรมของเรา เคยให้คำพูดหนึ่งในงานมีตติ้งว่า
"การฟื้นฟูทางกาย ไม่ยากเท่าการฟื้นฟูทางใจ" หากเราตัดใจจากทรัพย์สินได้ การแก้ไขปัญหาหนี้จะทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
บัวรู้ว่า คุณผ่านชีวิต ผ่านการต่อสู้มาหลายอย่าง รวมทั้งผ่านการแก้ไขปัญหาหนี้บัตร แบบผิดๆ
สมาชิกในนี้ หลายๆคน หรือจะบอกว่า "แทบทุกคน" ผ่านการหมุนเงินในบัตร เอาบ้านไปรีไฟแนนซ์ เพื่อเอาเงินก้อนใหม่มาปิดหนี้บัตร
เราหยุดตรงนั้น อะไรที่พลาดไปแล้ว เสียไปแล้ว ลองมาดูว่าแก้ไขอะไรได้
หากมันไม่ไหว ไม่ได้ ทำให้ดีที่สุดแล้วก็เกินกว่าบ่าสองข้างเราจะรับไหว "ต้องปล่อย" ค่ะ
กัดฟันบอกตัวเอง แม้น้ำตาจะนองหน้าว่า ไม่ตายหาเอาใหม่
อะไรหมดไปได้ แต่อย่าสิ้นหวังและอย่าหมดกำลังใจ
วันนี้ไม่ใช่วันของเรา แต่ไม่ได้หมายความว่า ตลอดไป
วันนี้เหนื่อย เช็ดน้ำตา แล้วเดินต่อค่ะ
วันหน้าต้องดีกว่านี้แน่นอน...



ทุกๆคนเป็นกำลังใจให้ โทรหาคุณอาไพโรจน์ หรือกรรมการท่านอื่นๆได้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ คุณกอบัว

การไปทำยอมความ หรือประนอมหนี้หน้าศาล ด้วยเงื่อนไขผ่อนน้อย
ปิดจบในงวดสุดท้าย โดยปราศจากดอกเบี้ยนั้น เราสามารถขอส่วนลด
ปิดได้ แต่ไม่ได้ราคาดี เท่ากับ เราจ่ายปิดจบตั้งแต่แรกค่ะ

ส่วนลดที่ซิตี๋เสนอให้คุณมานั้น นับว่าอยู่ในระดับปกติค่ะ สำหรับคนที่
ประนอมหนี้ เขาคงไม่ลดมากกว่านี้ อาจมากกว่านี้ แต่คงลดแค่หลักพัน
ไม่ใช่หลักหมื่นค่ะ

ถ้าไม่มีพอ ก็ต้องปล่อยไป แต่สิ่งที่คุณห่วงคือ บ้าน แก้วจ๋าจึงฝากเรื่อง
การปล่อยวางมาให้ดูค่ะ การจะทำใจปล่อยสิ่งที่เราสู้เก็บเงินสร้างมาไม่
ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ยาก ถ้าใจเราไม่ยึดติด วันนี้เราต้องขอบคุณบ้านที่
เขาช่วยชีวิตเรา สักวันเมื่อเราเป็นไท เราจะสามารถสร้างได้ใหม่ค่ะ

ขอโทษที่ยาวไปหน่อยค่ะ

มาเป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณ...คุณแก้วจ๋า มากๆค่ะ

และขอขอบคุณทุกกำลังใจและข้อคิดดีๆที่นำมาให้อ่านค่ะ

ไม่เป็นอะไรครับตั้งหลักใหม่ คิดใหม่ทำใหม่ เริ่มต้นได้ทุกวัน อะไรที่มันผ่านไปแล้วเราย้อนไม่ได้แต่เราเริ่มต้นใหม่ได้ หาอ่านเพิ่มอีกหน่อยที่นี้มีทางออก โชคดีครับ

Ping_Ping เขียน: จะขอปิดบัญชีกับ citibank ค่ะ

ยอดฟ้อง 230,000.- ผ่อนงวดแรก 10,000.- งวดต่อไปเดือนละ 5,000.- ภายใน 2 ปีต้องชำระให้ครบ

ตอนนี้เราส่งไปทั้งหมด 95,000.-
ยอดหนี้เหลือ 135,000.-

เราหาเงินผ่อนไม่ไหวแล้วเพราะมีหนี้ที่อื่นด้วย
โทรไปเจรจากับเค้าบอกว่าต้องปิดยอดที่ 88,000.- ลดไม่ได้แล้ว

คำตอบอยู่ในนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=29

ตอนนี้เรามีบ้านอยู่1หลังวางแบงค์ไว้ 500,000.- ใช้เต็มวงเงิน จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน

บ้านที่ยังผ่อนอยู่...สามารถยึดได้ครับ
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=9039

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=1842

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=4238

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=14949

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=7238&Itemid=29

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=2194&Itemid=29

ถ้าเราหาเงินปิดยอดมีวิธีอย่างไรบ้างที่พอจะทำให้ยอดลดกว่านี้ เพราะ 88,000.- ไม่ไหว

คุณไปเลือกทำ"แนวทางที่ 2. "ในชั้นศาลใช่ไหมครับ?
ถ้าใช่...ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

หรือถ้าเราหาเงินไม่ได้จริงๆ แล้วยึดทรัพย์เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง

[img][url=http://widget.sanook.com/view-widget/graphic/?widget=248400][img]http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/2400/248400/466f30d68d264f0dce5f0ffb7be3aa67_1227807873.gif[/url][/img]

ขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศ มากๆค่ะ

เป็นกำลังใจค่ะ สู้สู้

แม่จ่ายบัตรเรดดี้เครดิต ของซิตี้แบงค์
ซึ่งปกติแม่จ่ายขั้นต่ำอยู่ทุกเดือนเดือนละ 5000.-

แม่เสียชีวิต วันที่ 6/5/55

ดูจากใบแจ้งยอด ยอดคงค้าง 120,144.93
จำนวนเงินที่ต้องชำระในงวดนี้ เงินต้น + ดอกเบี้ย + ค่าประกันอีก 410.- รวม 4907.-
โทรไปถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าแม่มีประกันแผนพิทักษ์สินเชื่อไว้
แต่ยังบอกอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ทางเราแฟกซ์เอกสารเป็นผู้ดูแลแทนก่อนถึงจะเปิดเผยข้อมูลได้

เราก็แฟกซ์ ใบมรณะบัตร บัตรประชาชนของแม่ของเรา ไปตั้งแต่ก่อนเที่ยงวันที่ 26/5/55
จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบ

เราถามเจ้าหน้าที่ว่า มีประกันแผนพิทักษ์สินเชื่อเราไม่ต้องจ่ายแล้วใช่ไหม เจ้าหนี้ที่ตอบว่ายังไม่แน่ใจค่ต้องดูก่อนว่าแผนพิทักษ์สินเชื่อนี้คุ้มครองแค่ไหน แต่ก็บอกอะไรไม่ได้ต้องรอแก้ไขฐานข้อมูลว่าเราเป็นผู้ดูแลก่อนจึงจะเปิดเผยให้

เราเลยถามว่า ทุกวันที่ 1 ของทุกเดือนเป็นวันที่แม่ต้องจ่ายเงิน
อะไรอะไรก็ให้รอก่อน ไม่ต้องจ่ายหรือจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ต้องรอไปเรื่อยๆ....

ถ้าเกิดแบงค์ไม่ติดต่อมา ข้อมูลก็ให้ไม่ได้ แล้วอย่างนี้จะต้องทำยังไงต่อ
ขอความรู้ด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ดูว่าแม่มีทรัพย์อะไรทีจะขายใช้หนี้บ้าง
แต่ถ้าแม่ไม่มีอะไรเลย
เจ้าหนี้ไม่สามารถทำการอะไรได้อีกต่อไป
ทุกอย่างเป็นศูนย์


เรื่องเล่า "นิทานทวงหนี้" ตอน ความหน้ามืด...ทวงหนี้แบบไม่ลืมหูลืมตา

นาง "ราตรี" เสียชีวิตไปเมื่อเดือนมกราคมปีนี้เอง ธนาคารซิตี้แบงค์ ได้ส่งใบเรียกเงินมาเก็บค่าธรรมเนียมประจำปีของบัตรเครดิต ซึ่งมาถึงเธอในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าปรับที่เธอชำระช้า พร้อมดอกเบี้ยของยอดที่เรียกเก็บ ซึ่งในความเป็นจริง เธอไม่ได้ใช้บัตรนั้นมาตั้งแต่วันที่ตาย
แต่บัดนี้ยอดทั้งหมดที่เรียกเก็บ กลายเป็นจำนวนสองพันกว่าบาทเข้าไปแล้ว ญาติของเธอจึงโทรศัพท์ไปยังธนาคาร

ญาติผู้ตาย : ดิฉันโทร. มาแจ้งว่าคุณราตรีเสียชีวิตแล้วค่ะตั้งแต่เดือนมกราคม
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะคะ ดังนั้นค่าปรับการชำระช้าจึงต้องเรียกเก็บค่ะ
ญาติผู้ตาย : งั้นช่วยยกเลิกบัตรให้ได้ไหมคะ?
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : แต่มันช้ามาสองเดือนแล้วนะคะ ที่เรียกเก็บไม่ได้ และธนาคารได้ออกใบเรียกเก็บไปแล้วค่ะ
ญาติผู้ตาย : ตามปกติถ้าลูกค้าเกิดตายไป ทางธนาคารจะจัดการอย่างไรต่อคะ?
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : เราอาจต้องแจ้งหน่วยคดีฉ้อโกง หรือไม่ก็แจ้งไปยังเครดิตบูโร หรือไม่ก็แจ้งไปทั้งสองที่ค่ะ
ญาติผู้ตาย : แล้วยมบาลจะโกรธเธอไหมคะ?
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : อะไรนะคะ?
ญาติผู้เสียชีวิต : คุณได้ยินหรือเปล่าคะ?...ที่ดิฉันบอกว่าเธอตายไปแล้วน่ะค่ะ
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : รอสักครู่ค่ะ คุยกะหัวหน้าดีกว่าค่ะ
สักครู่หัวหน้ารับโทรศัพท์ไปพูดต่อ
ญาติผู้เสียชีวิต : ดิฉันโทร.มาแจ้งให้ทราบว่า เจ้าของบัตรเสียชีวิตไปตั้งแต่เดือนมกราแล้วค่ะ
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะครับ ดังนั้นค่าปรับ ค่าชำระช้า จึงต้องเรียกเก็บครับ
(เป็นประโยคยอดฮิต ที่ทางธนาคารสอนให้ตอบกับลูกค้า)
ญาติผู้เสียชีวิต : หมายความว่า...จะต้องเรียกเก็บจากที่ดินของเธอหรือคะ?
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : คุณเป็นทนายความของเธอหรือครับ? (ชักเริ่มติดสงสัย)
ญาติผู้เสียชีวิต : เปล่าค่ะ ดิฉันเป็นหลานของเธอน่ะค่ะ
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : งั้น...กรุณาช่วยแฟกซ์ใบมรณบัตรของเธอมาให้ได้ไหมครับ
ญาติผู้เสียชีวิต : ยินดีค่ะ (ทางธนาคารแจ้งเบอร์แฟกซ์)
หลังจากได้รับแฟกซ์เรียบร้อยแล้ว
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ทางระบบของเราไม่ได้บอกว่าจะให้จัดการอย่างไรในกรณีที่ลูกค้าเสียชีวิต ผมก็ไม่ทราบจะช่วยเหลือได้อย่างไร
ญาติผู้เสียชีวิต : อ๋อเหรอ...ค่ะๆๆ...งั้นก็คิดต่อไปนะคะ ถ้ายังคิดไม่ออก ก็เรียกเก็บเงินเธอไปเรื่อยๆก็แล้วกันนะ เธอคงไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ครับ...ค่าปรับการชำระช้าก็ต้องเรียกเก็บต่อไปน่ะครับ
(มันเป็นห่ะอะไรของมันวะ?????)
ญาติผู้เสียชีวิต : ไม่ทราบว่า...ต้องการที่อยู่ใหม่ของคุณน้าราตรีไหมคะ?
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ดีเลยครับ
ญาติผู้เสียชีวิต : ปากน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการค่ะ
เจ้าหน้าที่ธนาคาร : เอ่อ...ขอประทานโทษครับ นั่นมันเป็นแม่น้ำนี่ครับ?
ญาติผู้เสียชีวิต : อ้าว?...แล้วเวลาญาติๆของพวกคุณตาย...คุณเอาอังคารไปลอยในกาละมัง หรือเอาไปลอยในโถส้วมรึไงคะ?

เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ?????



จบแว๊ววววว...
อ้างอิงจากประธานชมรม