จะขอปิดบัญชีกับ citibank ค่ะ

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #13108 โดย Pych
แผนพิทักษ์สินเชื่อ เครดิตชีลด์ พลัส


แผนพิทักษ์สินเชื่อเครดิตชีลด์ พลัส จะให้ความคุ้มครองยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงก์/ซิตี้แบงก์ เรดดี้เครดิต/ไดเนอร์สคลับ ในวงเงินสูงสุด 300,000 บาท หากท่านไม่สามารถจ่ายคืน ด้วยสาเหตุ: สูญเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร หรือเจ็บป่วยด้วย 6 โรคร้ายแรง - โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรือหัวใจวายครั้งแรก/ โรคหลอดเลือดสมองแขนงใหญ่แตกหรืออุดตันแบบสมบูรณ์/ โรคไตวายเรื้อรัง/ โรคมะเร็งระยะลุกลาม/ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน/ การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะสำคัญ (ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบรับรองการประกัน ซึ่งออกโดย: บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต ด้วยอัตราเบี้ยประกันเพียง 0.53% ของยอดที่เรียกเก็บทั้งหมดในแต่ละเดือน)

ในกรณีที่ท่านสมัคร ท่านยืนยันว่าท่านมีอายุไม่เกิน 60 ปี ไม่เคยเจ็บป่วยจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วงระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา ท่านมีสุขภาพสมบูรณ์ทุกประการและไม่มีส่วนใดพิการหรือทุพพลภาพ ท่านจะได้รับใบรับประกันซึ่งจะบอกถึงรายละเอียดและข้อจำกัดของการประกัน หากท่านไม่พอใจในเงื่อนไข ของการทำประกัน ท่านสามารถยกเลิกความคุ้มครองของท่าน โดยจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรมาที่ธนาคารซิตี้แบงก์/บริษัท ไดเนอร์สคลับ (ประเทศไทย) จำกัด ทันที

ในกรณีที่ท่านไม่สมัคร ท่านจะเป็นผู้รับผิดชอบยอดใช้จ่ายทั้งหมดที่ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงก์/ซิตี้ แบงก์ เรดดี้เครดิต/ไดเนอร์สคลับ เอง หากท่านไม่สามารถจ่ายคืนได้ ในกรณีสูญเสียชีวิตทุพพลภาพบางส่วน, ทุพพลภาพถาวร หรือกรณีเจ็บป่วยด้วย 6 โรคร้ายแรง

คำเตือนของกรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ ผู้เอาประกันชีวิตต้องตอบแบบสอบถามตามความเป็นจริงทุกข้อ หากปกปิดข้อเท็จจริงใดๆ อาจเป็นเหตุให้บริษัทผู้รับประกันชีวิตปฏิเสธไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 865

ที่มา: www.citibank.co.th/global_docs/creditsh/credsh_t.htm

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Nok2865, Mommyangel

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #13109 โดย Ping_Ping
ขอบคุณ คุณ Anakin มากๆค่ะ

แล้วอย่างนี้มีกำหนดระยะเวลาในการแจ้งว่าเจ้าของบัตรเสียชีวิตกับซิตี้แบงค์ไหมค่ะ

เพราะว่า แม่เสียตั้งแต่วันที่ 6/5/55 Fax.ใบมรณะบัตรไป 26/5/55 จนวันนี้สอบถามเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าข้อมูลยังไม่เปลี่ยน สถานะของแม่ยังปกติอยู่ และก็ตรวจสอบเอกสารที่ Fax. ให้ไม่ได้ ต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่จะติดต่อไปเอง

ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #13110 โดย Ping_Ping
ขอบคุณ คุณchaowalert มากค่ะ
แม่มีบ้านวางโอดีแบงค์ไว้อยู่ 1 หลัง ใช้เต็มวงเงิน จ่ายดอกเบี้ยอยู่ทุกเดือนค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 6 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #13173 โดย jackTs
.
คุณแม่ของคุณมีการมอบทรัพย์ หรือมอบมรดกให้กับคุณหรือไม่?

มรดกที่ว่านี้ หมายถึง ทรัพย์สินต่างๆที่มอบให้หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว เช่นพินัยกรรม เป็นต้น

ไม่ได้หมายถึงทรัพย์ที่มอบหรือยกให้ก่อนเสียชีวิตนะครับ ...เพราะนั่นไม่จัดว่าเป็นมรดก

ขอแนะนำว่า...คุณควรเก็บหลักฐานต่างๆ ที่คุณเคยแจ้งต่อเจ้าหนี้ว่า...เจ้าหนี้ได้รับทราบแล้วว่าลูกหนี้เสียชีวิต
เช่นกระดาษหัว Fax ใบมรณะบัตรที่คุณได้ส่งไปเมื่อวันที่ 26/5/55 เป็นต้น หรือหลักฐานอื่นๆที่สามารถระบุได้ว่าเจ้าหนี้ได้รับทราบแล้ว
เผื่อภายภาคหน้าในอีกหลายปี เกิดมีการตุกติกหรือมีปัญหาฟ้องร้องกัน คุณจะได้เอาเรื่อง"อายุความ"มาสู้คดีในชั้นศาลได้

ลองไปอ่านหัวข้อเรื่อง"การฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิต" ได้จากในกระทู้นี้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29



หากเจ้าหนี้มันฟ้องคุณแม่ของคุณ(ซึ่งภาษาชาวบ้านเขาเรียกกันว่า"ฟ้องผี") เกินกว่า 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มันรู้ว่าคุณแม่ของคุณได้เสียชีวิตไปแล้ว
คุณก็สามารถไปสู้คดีว่าด้วยเรื่อง"อายุความ"ได้ โดยใช้หลักฐานดังกล่าว(กระดาษหัว Fax)
โดยไม่ต้องไปรับผิดชอบใดๆที่เกี่ยวข้องกับหนี้ของคุณแม่...ไม่ว่าคุณจะได้รับมรดกหรือไม่ก็ตาม

ดังนั้น...จงอย่าไปเซ็นต์รับสภาพหนี้เป็นอันขาด
.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Nok2865, Mommyangel, Pych

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #13374 โดย Ping_Ping

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16423 โดย Ping_Ping
จากเดิมที่คุณแม่เสียชีวิตแล้วแม่มีประกันแผนพิทักษ์สินเชื่อไว้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ติดต่อมาเลยฯ
ทางเราติดต่อกับทางประกันจนเคลียร์ยอดตามใบแจ้งหนี้ยอดเดือนสุดท้ายที่คุณแม่เสียชีวิตแล้วค่ะ
(ยอดหนี้เดือนสุดท้ายตามใบแจ้งยอด ณ วันที่ 31/5/55 คือยอด 122,665.38)

แต่มีปัญหาอยู่ตรงที่ว่า
ทางฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของแบงค์โทรมาว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 5,399.-
โดยคำนวณจากยอดเงินคงค้างคือ 122,665.38 (ซึ่งยอดนี้ประกันเคลียร์ให้วันที่5/7/55)
เป็นค่า ดอกเบี้ย, เบี้ยปรับล่าช้า , ค่าทวงถาม , ฯลฯ นับจากวันที่แม่เสียชีวิตและรอประกันเคลียร์ยอดให้ซึ่งผ่านมาเป็นระยะเวลาเกือบ40วัน และถ้ายังไม่ชำระระบบก็จะคิดดอกเบี้ยกับค่าปรับค่าทวงถามไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะชำระให้หมดและจะทำเรื่องปิดบัญชีให้

เราก็ตอบกลับไปว่า ส่งใบมรณะให้ก่อนถึงวันครบกำหนดชำระด้วยยังไม่หยุดคิดดอกเบี้ยอีกหรอ และอีกอย่างทางเจ้าหน้าที่แบงค์ก็เป็นคนบอกเองว่าระหว่างรอประกันยังไม่ต้องจ่ายอะไรให้ประกันเคลียร์ก่อน ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาถ้าประกันจ่ายครอบคลุม ต้องมาทำเรื่องเงินคืนอีก เรายังว่าเลยว่าแล้วอย่ามาคิดดอกเบี้ยเพิ่มหล่ะ
ระหว่างรอประกันเคลียร์ยอดโทรตามเราแทบทุกวันไม่ซ้ำเสียงกันเลย พอตอนนี้เราบอกให้ไปเช็คว่าใครเป็นคนโทรมาหาเราบ้าง จะได้รู้ว่ามีเจ้าหน้าที่คนไหนคุยกับเราแล้วบอกเราแบบนี้เพราะเราจำชื่อไม่ได้ แต่เราจดเวลาไว้ทุกคร้งที่มีการคุยกัน ไปเปิดเทปบันทึกเสียงก็ได้ให้เอาเวลาไป ดันตอบว่ามันคงเช็คยากมาก

อยากทราบว่ากรณีแบบนี้เราต้องชำระให้เพิ่มใช่หรือเปล่าค่ะ
หรือว่ามีวิธีไหนบ้างค่ะที่สามารถเจรจาให้ทางแบงค์ปิดบัญชีให้

ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16459 โดย Pych
เป็นการคุยกันทางโทรศัพท์ ไม่มีจดหมายหรือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร

ผมว่ายากครับที่คุณจะต่อรองไม่จ่ายดอกเบี้ยตรงนี้ได้ นอกเสียจากว่า คุณจะปล่อยให้ฟ้อง

แล้วค่อยไปต่อสู้คดี โดยเอาหลักฐานต่างๆ รวมทั้งหลักฐานว่าส่งใบมรณบัตรไปตั้งแต่วันที่เท่าไหร่

ซึ่งยอด 5,399.- บาท ผมว่า เขาน่าจะไม่ฟ้องหรอกครับ ไม่คุ้ม

อีกอย่าง ชื่อบัญชีก็เป็นของคุณแม่คุณ ปล่อยให้มันทวงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็หมดอายุความครับ

เครดิตบูโรอะไรก็ไม่ต้องกลัวอยู่แล้วนี่ครับ

แต่ถ้าอยากตัดความรำคาญจากการทวงหนี้ ก็ยอมจ่ายมันไป หรือจะไล่ให้มันไปฟ้องก็ได้ครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16508 โดย jackTs

Ping_Ping เขียน: ทางฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของแบงค์โทรมาว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 5,399.-
โดยคำนวณจากยอดเงินคงค้างคือ 122,665.38 (ซึ่งยอดนี้ประกันเคลียร์ให้วันที่5/7/55)
เป็นค่า ดอกเบี้ย, เบี้ยปรับล่าช้า , ค่าทวงถาม , ฯลฯ นับจากวันที่แม่เสียชีวิตและรอประกันเคลียร์ยอดให้ซึ่งผ่านมาเป็นระยะเวลาเกือบ40วัน และถ้ายังไม่ชำระระบบก็จะคิดดอกเบี้ยกับค่าปรับค่าทวงถามไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะชำระให้หมดและจะทำเรื่องปิดบัญชีให้

เราก็ตอบกลับไปว่า ส่งใบมรณะให้ก่อนถึงวันครบกำหนดชำระด้วยยังไม่หยุดคิดดอกเบี้ยอีกหรอ และอีกอย่างทางเจ้าหน้าที่แบงค์ก็เป็นคนบอกเองว่าระหว่างรอประกันยังไม่ต้องจ่ายอะไรให้ประกันเคลียร์ก่อน ไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาถ้าประกันจ่ายครอบคลุม ต้องมาทำเรื่องเงินคืนอีก เรายังว่าเลยว่าแล้วอย่ามาคิดดอกเบี้ยเพิ่มหล่ะ

อยากทราบว่ากรณีแบบนี้เราต้องชำระให้เพิ่มใช่หรือเปล่าค่ะ
หรือว่ามีวิธีไหนบ้างค่ะที่สามารถเจรจาให้ทางแบงค์ปิดบัญชีให้


มีวิธีครับ...อยู่ในด้านล่างของกระทู้นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1301&Itemid=29

ในบทความที่ผมเขียนเอาไว้ว่า

เคยมีหลายกรณี ที่ผู้เป็นหนี้(ลูกหนี้)ได้เสียชีวิต แต่ไอ้บรรดา"พวกทวงหนี้หน้ามืด" ได้ใช้วิธีการทวงหนี้และขมขู่ เอากับลูกหลานหรือญาติของผู้ตายที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยที่บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตเหล่านั้น ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับ "หนี้" เหล่านั้นด้วยเลย

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16520 โดย Nok2865
อยากจะขออ้างอิงคำตอบของประธานชมรมฯ ให้คุณได้อ่านทวนอีกครั้ง และอีกหลายๆครั้งตรงนี้

นกกระจอกเทศ เขียน: คุณแม่ของคุณมีการมอบทรัพย์ หรือมอบมรดกให้กับคุณหรือไม่?

มรดกที่ว่านี้ หมายถึง ทรัพย์สินต่างๆที่มอบให้หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว เช่นพินัยกรรม เป็นต้น

ไม่ได้หมายถึงทรัพย์ที่มอบหรือยกให้ก่อนเสียชีวิตนะครับ ...เพราะนั่นไม่จัดว่าเป็นมรดก

ขอแนะนำว่า...คุณควรเก็บหลักฐานต่างๆ ที่คุณเคยแจ้งต่อเจ้าหนี้ว่า...เจ้าหนี้ได้รับทราบแล้วว่าลูกหนี้เสียชีวิต
เช่นกระดาษหัว Fax ใบมรณะบัตรที่คุณได้ส่งไปเมื่อวันที่ 26/5/55 เป็นต้น หรือหลักฐานอื่นๆที่สามารถระบุได้ว่าเจ้าหนี้ได้รับทราบแล้ว
เผื่อภายภาคหน้าในอีกหลายปี เกิดมีการตุกติกหรือมีปัญหาฟ้องร้องกัน คุณจะได้เอาเรื่อง"อายุความ"มาสู้คดีในชั้นศาลได้

ลองไปอ่านหัวข้อเรื่อง"การฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิต" ได้จากในกระทู้นี้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29



หากเจ้าหนี้มันฟ้องคุณแม่ของคุณ(ซึ่งภาษาชาวบ้านเขาเรียกกันว่า"ฟ้องผี") เกินกว่า 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มันรู้ว่าคุณแม่ของคุณได้เสียชีวิตไปแล้ว
คุณก็สามารถไปสู้คดีว่าด้วยเรื่อง"อายุความ"ได้ โดยใช้หลักฐานดังกล่าว(กระดาษหัว Fax)
โดยไม่ต้องไปรับผิดชอบใดๆที่เกี่ยวข้องกับหนี้ของคุณแม่...ไม่ว่าคุณจะได้รับมรดกหรือไม่ก็ตาม

ดังนั้น...จงอย่าไปเซ็นต์รับสภาพหนี้เป็นอันขาด
.


หัว FAX คุณเก็บเอาไว้ไหม? เก็บเอาไว้ให้ดี ถ้าเป็นไปตามประธานชมรมฯ บอก หากมันฟ้องไอ้เศษเงินห้าพันเกินกว่า 1 ปี
ให้เอากระดาษ FAX ใส่กรอบวิทยาศาตร์ ไปฟาดกระโหลกมันสักทีสองที
แต่ถ้ามันฟ้องเศษเงินห้าพันกว่าบาท ภายในหนึ่งปี
กอบัวก็จะพาคุณไปออกสื่อ ไปหาคุณสอรายู๊ด ไปแฉแต่ดึกแต่ดื่นเลยว่า
แม่ของกรูใช้บริการบัตรพลาสติกกับพวกเมิง พวกเมิงขายประกัน เพื่อเอาเงินซ้อนเงินไปประกันหนี้ของมรึงเองแท้ๆจะสูญหาย
พอแม่กรูตาย พวงหรีดสักพวงพวกมรึงก็ไม่เคยให้กรู
ประกันในเครือเดียวกันกับบริษัทพวกเมิง ยังเสือกฟ้องแม่กรู ซ้ำอีก กะอีกแค่เงินห้าพันกว่าบาท
ซึ่งมันเกิดจากความล่าช้าของตัวพวกสุนัขรับใช้ต่างชาติพวกมรึงเอง
อย่าว่าแต่เงินห้าพัน ห้าบาทกูก็ไม่จ่ายเว้ย..สันฝาย
ฟ้องมาเลย ท้ามันไปเลย แน่จริงมรึงฟ้อง ถ้าไม่ฟ้อง พ่อเมิงเป็นหมา แม่เมิงเป็นหมา หมาทั้งตระกูล :upset:

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16521 โดย Ly89

Ping_Ping เขียน: อยากทราบว่ากรณีแบบนี้เราต้องชำระให้เพิ่มใช่หรือเปล่าค่ะ
หรือว่ามีวิธีไหนบ้างค่ะที่สามารถเจรจาให้ทางแบงค์ปิดบัญชีให้


ให้บอกมันไปว่า...
ถ้าอยากได้เงินคืนมากขนาดนั้น...กรุณาไปฆ่าตัวตายตาม เพื่อไปทวงหนี้กับ "เจ้าตัว" เขาเอาเอง
และถ้าตามไปทวงแล้ว ยังเก็บหนี้ได้ไม่พอกับมูลค่าที่จะต้องชดใช้อีก กรุณามาเข้าฝันบอกด้วย จะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปเพิ่มให้

ตอบโดย : นกกระจอกเทศ
อ้างอิงจากกระทู้เดียวกันกับที่พี่นกวางลิงค์ให้

เอาตรงๆแบบนี้เลยครับ....สะใจดี กับไอ้พวกหน้ามืด ชอบทำนาบนหลังคน หากินกับคนที่ไม่มีความรู้ทางกฏหมาย คนสูญเสียญาติพี่น้องก็ทุกข์ใจพออยู่แล้ว ยังจะมาซ้ำเติมกันอีก....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16524 โดย Nok2865
.

น้องแบด ขอ...พี่บัวจัดให้...

บอกมัน

มีแต่ "เงินกงเต็ก" เอาไหม ไอ้ฟราย...








มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16536 โดย Ping_Ping
ขอบคุณ คุณAnakin , คุณนกกระจอกเทศ , คุณกอบัว , คุณbatk มากค่ะ

วันนี้ก็บอกเค้าไปแล้วค่ะว่าไม่จ่าย
เจ้าหน้าที่ก็บอกว่างั้นก็คงต้องตามไปเรื่อยๆ อาจจะโทรหรือส่งจดหมายไปที่บ้าน
เราก็บอกว่าก็ได้ค่ะ
พอเราไม่ยอมจ่ายกลับบอกว่าลดให้ครึ่งนึงจ่าย 2700 เอาไหมจะได้ปิดบัญชีไปเลยเพราะเดือนกว่าที่ผ่านมาทางแบงค์ก็ไม่ได้อะไรเหมือนกัน โดยให้faxสำเนาบัตรมาแล้วจะทำเรื่องปิดให้ ไหนๆเจ้าของบัตรก็เสียชีวิตคุณเป็นทายาทขาดอีกนิดเดียวก็ควรชำระให้หมดนะ

สุดยอด...เกินคำบรรยาย แบงค์นี้แสวงหาแต่ผลกำไรจริงๆ

มีญาติบอกญาติ มีน้องบอกน้อง มีเพื่อนบอกเพื่อน ว่าอย่าได้คิดทำธุรกรรมทางการเงินกับแบงค์นี้เลย วันนึงถ้าเกิดพลาดขึ้นมา คำว่ามนุษยธรรมไม่มี

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #27244 โดย Ping_Ping
เป็นหนี้สินชื่อส่วนบุคคลของสแตนดาร์ดค่ะ ยอดประมาณ 180,000. ต้นปี2011 ได้ตกลงกับสำนักงานกฏหมายว่า หยุดคิดดอกเบี้ยแล้วให้ชำระงวดละ 1000 บาท เพราะเราประสบอุับัติเหตุทางจักรยานยนต์ ทำงานไม่ได้ เราก็ชำระทุกเดือน วันนี้เจ้าหนี้โทรมาแจ้งให้ชำระค่างวดเราเลยถามยอดคงค้างว่ายังเหลืออีกประมาณเท่าไหร่เพราะชำระไปเกือบสองปีแล้วเป็นเงินประมาณ24000 ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเราค้างยอดอยู่ที่ประมาณ 210000 เราบอกว่าเคยตกลงกันกับสำนักงานกฏหมายแล้วว่าหยุดคิดดอกเบี้ยแล้วทำไมเป็นแบบนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ใช่้สำนักงานกฏหมายเป็นบ.ไอคอน อะไรนี่แหละ ซื้อหนี้เรามาจากธนาคารตั้งแต่เดือน มี.ค จะต้องเริ่มคิดใหม่จากยอด 180,000.- รวมกับดอกเบี้ยที่ผ่านมาสองปี ปีละ 15% คือปี 2010 , 2011 ถ้าไม่อยากให้คิดดอกเบี้ยตรงทำเรื่องหยุด โดยการแฟกเอกสารเข้ามาว่าต้องการหยุดดอกเบี้ยและทำการผ่อน60งวด งวดละ3400.- หรือไม่ก็จ่ายก้อนเดียวลด20% หรือจะจ่ายแบบขันบันไดก็ได้ ไม่ยังงั้นดอกเบี้ยก็จะถูกคิดไปเืรื่อยๆจนกว่าจะมีการทำหนังสือเข้ามา
รบกวน..หน่อยคะ
เรายังมีวิธีแก้ไขอีกไหมค่ะ
ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #27245 โดย Nok2865
คุณตั้งกระทู้ใหม่ทุกครั้งที่เกิดคำถาม
โดยที่คุณไม่เสาะแสวงหาคำตอบด้วยตัวเองเลย
กระทู้คุณตั้งสามครั้งแล้วนะคะ
เราเคยบอกแล้วว่า "หนึ่งคน หนึ่งกระทู้"
เพื่อนๆ จะได้รู้ที่ไปที่มาของปัญหาหนี้คุณ จะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาหนี้ได้ถูก แนะนำได้ตรงจุด
คราวหน้า บัวจะแบนความเป็นสมาชิกคุณ หากตั้งกระทู้ใหม่อีก โอเคไหมคะ
เป็นหนี่้ก็ต้องใช้สติ ในการแก้ปัญหาด้วยค่ะ



ในเมื่อคุณไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือนประจำ มีบ้านอย่างเดียวที่ต้องห่วง
คุณก็ไปอ่านลิงค์ที่พวกเราแชร์ให้อ่านตั้งแต่ต้น
(นี่ไง...ผลของการมีกระทู้เดียว มันจะได้รู้ที่ไปที่มา)
จะชำระหนี้ ต้องมีหนังสือยืนยันทุกครั้ง ว่าเขาจะหยุดดอกให้
ไม่ใช่มีแต่ "ลมปากเจ้าหนี้" ซึ่งไม่ต่างอะไรกับ "สัจจะในหมู่โจร"
จะทำอะไรต้องมีหนังสือยืนยันทุกครั้ง อย่าได้จ่ายก่อนมีหนังสือ จำไว้นะคะ


คุณจะจ่ายหนี้อะไร ดูตัวเองก่อนว่า จ่ายหนี้แล้ว ตัวเองจะ "อดตาย" ไหม
ครอบครัวจะอยู่รอดไหม
เราไม่ได้สอนให้ชักดาบก็จริง แต่เราก็อยากให้ลูกหนี้และสมาชิกที่ชีวิตอยู่ได้
โดยไม่ต้องไปหยิบยืมเงินคนอื่นมากินอยู่ หรือทำให้คนในครอบครัวต้องอดอยากปากแห้ง
ไปอ่านย้อนทวนไปด้านบน มีคำตอบในนั้นหมดแล้ว

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #27246 โดย Ping_Ping
ขอโทษค่ะ..

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.747 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena