-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
ย้ายที่ทํางานแล้วทําไมพวกเจ้าหนี้ถึงรู้ที่ทํางานใหม่เรา
ย้ายที่ทํางานแล้วทําไมพวกเจ้าหนี้ถึงรู้ที่ทํางานใหม่เรา
-
Dreamy
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16333
โดย Dreamy
พอดีเพิ่งย้ายที่ทํางานใหม่ค่ะ แต่เพิ่งได้รับคําเตือนจากแผนกบุคคลว่ามีเจ้าหนี้โทมาทวงหนี้ที่แผนกบุคคล ทั้งๆที่เราไม่ได้รับสายใดๆทั้งสิ้น ดูเหมือนทางเจ้าหนี้จะตั้งใจทําให้เราอับอายใช่มั๊ยคะ?
ตอนแรกเลยที่ไม่ได้จ่ายหนี้เพราะตกงาน แต่พอได้ที่ทํางาน(ที่เก่า) ก็ยังไม่ได้ชําระเข้าไปเพราะมีรายจ่ายอื่นๆอีก เพราะหยุดงานไปเกือบปี ตอนทํางานอยู่ก็มีสายโทรเข้ามาทวงหนี้จากธ. ยูโอบี เรารู้สึกงงมากว่ารู้ได้ยังไงว่าเราทํางานที่นี่
พอมาตอนนี้ เพิ่งย้ายมาทําที่ปัจจุบันได้ 2 เดือนก็มีสายโทรมาทวงหนี้อีก คราวนี้ไม่โทหาเราเลย แต่โทรเข้าแผนกบุคคล ทําไมเค้าถึงรู้ว่าเราทํางานที่ไหนคะ?? ตอนนี้เครียดมาก กลัวจาไม่ผ่านโปรฯ เพราะมาทํางานได้ไม่เท่าไหร่ก็มีคนโทมาก่อกวนที่ทํางานแล้ว ทํายังไงดีคะ T_T
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Ly89
-
-
ออฟไลน์
-
ชื่อผู้ใช้งานถูกบล็อคไว้
-
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 1164
-
ขอบคุณที่รับ: 1076
-
-
-
Chutatip
-
-
ออฟไลน์
-
ชื่อผู้ใช้งานถูกบล็อคไว้
-
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 64
-
ขอบคุณที่รับ: 24
-
-
11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16349
โดย Chutatip
เขาไม่ได้ตั้งใจให้คุณอับอายหรอกครับ ในเมื่อคุณเป็นหนี้แต่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ เจ้าหนี้ก็ต้องทำตามหน้าที่ของเขาคือติดต่อกับคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับคุณไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน เพราะเขาไม่สามารถติดต่อคุณได้ เรื่องธรรมดาครับ
ถ้าไม่อยากให้เขาทวงกับคนอื่น ก็รับสายซะแล้วก็จัดระเบียบการทวงตามที่คุณ batk แนะนำ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 149
-
ขอบคุณที่รับ: 169
-
-
11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16351
โดย Napassawan
Dreamy เขียน: พอดีเพิ่งย้ายที่ทํางานใหม่ค่ะ แต่เพิ่งได้รับคําเตือนจากแผนกบุคคลว่ามีเจ้าหนี้โทมาทวงหนี้ที่แผนกบุคคล ทั้งๆที่เราไม่ได้รับสายใดๆทั้งสิ้น ดูเหมือนทางเจ้าหนี้จะตั้งใจทําให้เราอับอายใช่มั๊ยคะ?
ตอนแรกเลยที่ไม่ได้จ่ายหนี้เพราะตกงาน แต่พอได้ที่ทํางาน(ที่เก่า) ก็ยังไม่ได้ชําระเข้าไปเพราะมีรายจ่ายอื่นๆอีก เพราะหยุดงานไปเกือบปี ตอนทํางานอยู่ก็มีสายโทรเข้ามาทวงหนี้จากธ. ยูโอบี เรารู้สึกงงมากว่ารู้ได้ยังไงว่าเราทํางานที่นี่
พอมาตอนนี้ เพิ่งย้ายมาทําที่ปัจจุบันได้ 2 เดือนก็มีสายโทรมาทวงหนี้อีก คราวนี้ไม่โทหาเราเลย แต่โทรเข้าแผนกบุคคล ทําไมเค้าถึงรู้ว่าเราทํางานที่ไหนคะ?? ตอนนี้เครียดมาก กลัวจาไม่ผ่านโปรฯ เพราะมาทํางานได้ไม่เท่าไหร่ก็มีคนโทมาก่อกวนที่ทํางานแล้ว ทํายังไงดีคะ T_T
ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยนะครับ
แล้วเจ้าหนี้เขาติดต่อคุณได้บ้างหรือเปล่า เช่นโทรหาคุณที่เบอร์มือถือได้ไหม
ถ้าเขาติดต่อคุณไม่ได้เลย เพราะ คุณไม่รับสาย เปลี่ยนเบอร์
เขาก็จะใช้วิธีตามจากที่ทำงานแบบนี้ล่ะ
คุณควรจะติดต่อกับเขาอยู่ตลอด(รับสายเจ้าหนี้)
ถ้าคุณรับสายเป็นประจำอยู่แล้ว
จะสามารถจัดระเบียบไม่ให้เขาโทรเข้าที่ทำงานได้
แต่ถ้าไม่ได้รับสายอะไรเลย ไม่มีเบอร์ให้เขาติดต่อเลย
คุณจะให้เขาไปตามทวงที่ไหนล่ะครับ
พอดีข้อมูลคุณน้อย เลยต้องเดากว้างๆไว้
ยังไง
ลองอ่านที่คุณ batk ให้หมด ให้เข้าใจเสียก่อน จะได้รู้วิธีรับมือเจ้าหนี้ที่ถูกต้องได้
แล้วอย่าชะล่าใจ หากทิ้งไว้ไม่สนใจแก้หนี้ แล้วปล่อยไปเรื่อยๆ
หากเขาฟ้องขึ้นมา เขาก็ตามไปอายัดเงินเดือนได้นะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Dreamy
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16432
โดย Dreamy
ประเด็นคือไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ค่ะ และตอนอยู่ที่เก่ายังคุยกันทางมือถือเบอปัจจุบันอยู่เลยค่ะ พอย้ายมาอยู่ที่ใหม่ก็ยังใช้เบอร์เดิมนะคะ แต่ก็ไม่เห็นเค้าโทรเข้ามือถือหรือเบอร์โต๊ะเลย โทรตรงไปแผนกบุคคลเลยทีเดียวค่ะ แถมมีส่งจดหมายมาที่อยู่ที่ทํางานด้วย
เป็นไปได้มั๊ยคะ ว่าสํานักกฎหมายที่เคยคุยกะเราเปลี่ยนที่อ่ะค่ะ?
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Nok2865
-
-
ออฟไลน์
-
ชื่อผู้ใช้งานถูกบล็อคไว้
-
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 1751
-
ขอบคุณที่รับ: 3825
-
-
11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #16434
โดย Nok2865
.
ระยะเวลา และขั้นตอนในการทวงหนี้
1. ทวงทางโทรศัพท์ (1-2 เดือนแรก) โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง
2. ทวงทางโทรศัพท์ + จดหมายทวงหนี้ (เดือนที่ 3-4) โดยเริ่มมีการเสนอให้ทำ"ประนอมหนี้" หรือ "ปรับโครงสร้างหนี้" (ซึ่งสรุปก็คือหลอกให้ทำ"สัญญานรก"นั่นแหละ แต่เรียกชื่อให้มันดูไพเราะสักหน่อย ก็เท่านั้น)
3. ส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานกฏหมายข้างนอก ทวงหนี้แทน ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 (เดือนที่ 5-7) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 20-30% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)
4. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 ทวงหนี้ไม่ได้ ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ให้มาทวงหนี้ต่อ (เดือนที่ 8-9) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 30-40% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)
5. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ก็ยังทวงหนี้ไม่ได้อีก ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 3 ให้มาทวงหนี้ต่ออีก (เดือนที่ 10-12) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 40-50% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนด)
6. ถ้าเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายทวงหนี้ไปตั้งหลายบริษัทแล้ว ยังไงก็ทวงไม่ได้สักที ก็ส่งฟ้องศาล (เดือนที่ 12 เป็นต้นไป จนถึงปีครึ่ง) โดยยังคงมีข้อเสนอเรื่องส่วนลดในการ Hair cut ให้อยู่ แต่เป็นราคาช่วงที่งามที่สุด (หรือที่เรียกกันว่า "นาทีทอง" ในการทำ Hair cut โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เป็นผู้กำหนดราคา)
อ้างอิงมาจากกระทู้นี้ค่ะ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29
นิยามคำว่าแฮร์คัท
มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Dreamy
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
ผู้ดูแล: Mommyangel, Badman, konsiam
-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
ย้ายที่ทํางานแล้วทําไมพวกเจ้าหนี้ถึงรู้ที่ทํางานใหม่เรา
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.467 วินาที