ขอคำแนะนำการชำระหนี้ ครับ

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #17260 โดย azus1981
ผมประสบปัญหาชำระหนี้บัตรเครดิตตั้งแต่น้ำท่วม ณ ปัจจุบันเงินเดือน 19000 บาท หักประกันสังคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเหลือ หมื่น เจ็ดกว่าๆ ผมเป็นหนี้ดังต่อไปนี้

1.บัตรเครดิตกสิกรไทย วงเงิน 79000 บาท
2.บัตรเครดิตซิตี้แบงค์ วงเงิน 37000 บาท
3.บัตรกดเงินสด KTC วงเงิน 15700 บาท
4.บัตรอิออน วงเงิน 35000 บาท

ทั้งหมดเต็มวงเงินครับชำระงั้นต่ำ 10 เปอร์เซ็นต์

1.สินเชื่อธนาคารอิสลามชำระรายเดือนละ 1400 บาท เหลือ 35000 บาท

ทุกเดือนไม่มีเงินเก็บครับต้องกดนู้นโปะนี้ตลอดเคยติดต่อธนาคาร ซิตี้แบงค์เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้เขาแจ้งผมว่าหากยังไม่มีการผิดชำระปรับโรคงสร้างหนี้ไม่ได้ เลย งง มากและไม่รู้จะทำยังไงกลุ้มใจเหลือเกินครับช่วยแนะนำทางออกให้ผมหน่อย ครับ ขอบคุ๕รับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #17262 โดย Skynine
ไปอ่านวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทุกคนต้องอ่านด่วน..

กระทู้ปักหมุดสีแดง เห็นกี่หมุดแดงอ่านให้หมด

หัวใจเรามี 4 ห้อง หัวใจแก้หนี้ก็มี 4 ห้องดังนี้

1.ห้องถาม-ตอบปัญหาหนี้
2.ห้องเรื่องเล่าชาวหนี้
3.ห้องรู้ทันกฎหมายหนี้
4. ห้องนิทรรศการเอกสารหนี้

อ่านครบ อ่านหมด ...แล้วจะเข้าใจ.. และนำไปแก้หนี้ที่มีให้ตรงจุด

อ่านช้าๆ ค่อยๆ ทำความเข้าใจไปทีละเรื่อง ไม่เข้าใจจริงพิมพ์ถามมาได้

ต่อที่กระทู้เดิม อย่าสร้างกระทู้ใหม่..

ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถุกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร


ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #17273 โดย Pych
หากคุณยังคงชำระขั้นต่ำ ก็ยังไม่ถือว่าเป็น NPL หรือ หนี้เน่าครับ
ดังนั้น ธนาคารจะไม่เสนอปรับโครงสร้างหนี้หรอกครับ เขายังคงนั่งกินดอกเบี้ยไปสบายๆ แถมไม่ต้องกันเงินสำรองตามกฎของแบงก์ชาติด้วย อ่านเพิ่มเติมเรื่องการกันเงินสำรองจากกระทู้นี้นะครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=12221&Itemid=29

แต่คุณโชคดีแล้วครับ ที่เจอชมรมฯ ของเราก่อนจะไปปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ อ่านกระทู้นี้นะครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6343&Itemid=29


ยินดีต้อนรับ สมาชิกใหม่นะครับ ชมรมของเราให้ได้แค่แนวทาง ส่วนการตัดสินใจต้องเป็นของคุณเอง เพราะแต่ละคนมีปัจจัย ภาระ ตัวแปรที่แตกต่างกัน ไม่มีแนวทางที่ตายตัวและใช้ได้กับทุกคนนะครับ ชมรมของเรามีอยู่ 3 แนวทางหลักๆ คือ Firstway Out, Secondway Out, และ Thirdway out ซึ่งบางคน ยังสามารถเอาแนวทางหลักๆ มาใช้แบบผสมผสานกันก็ได้

เริ่มงงแล้วใช่ไหมครับ Firstway Out, Secondway Out คืออะไร ต้องอ่านกระทู้ต่อไปนี้เลยครับ


1. วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29

2. รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจในการปลดหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=939&Itemid=29

3. สิ่งที่สมาชิกควรทำ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=710&Itemid=29

4. ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29

หลังจากนั้น สรุปแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง จะเป็น Firstway out หรือ Secondway out หรือ Thirdway out ก็เอาให้เหมาะกับรายรับ-รายจ่ายของคุณ ต่อจากนั้นก็แค่ทำตามที่กระทู้ข้างบนบอกไว้ครับ

ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณเลือก วิธีที่ 2 SECONDWAY OUT คุณต้องทำตามที่กรรมการแนะนำไว้ในกระทู้ ดังนี้
1. หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอด อย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์ (ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้ กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ.)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2. ต้องบอกครอบครัวให้รู้ จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไร และเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3. ต้องบอกที่ทำงาน( หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อน คนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร) ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไร และจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชี ห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักที ให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่า แล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนร่วมงานตามความเหมาะสม

4. จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่ เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10000 เหลือ 5000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัว สำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดู ส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัว พยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม

5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และ เมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆ ที่มีสารพัดรูปแบบและหาอ่านเพิ่มเติมตามเรื่องที่คุณต้องการรู้ได้จากการสืบค้นด้วยแท็บด้านบนหรือจะใช้ google ช่วยค้นหาก็ได้ โดยพิมพ์คำว่า site:consumerthai.org ต่อด้วยคำที่อยากหา เช่น site:consumerthai.org แฮร์คัท หรือ site:consumerthai.org ทวงหนี้


มีอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ โชคดีนะครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.609 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena