น้องใหม่....ขอคำชี้แนะด้วยครับ

สวัสดีสมาชิกและผู้ดูแลครับ
ผมมีหนี้บัตรอยู่ 5 สถาบันครับเป็นสินเชื่อทั้งหมด รวมๆกันก็ประมาณ 100,000 นิดๆ ซึ่งผมได้ทำการผ่อนชำระค่างวดทุกบัตร เป็นระยะเวลาประมาณปีกว่าๆเกือบสองปีครับ พอดีผมประสบปัญหาตกงานครับ ก็จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง สุดท้ายดอกท่วมครับ แล้วงานที่ทำใหม่ก็ยังไม่ลงตัวและรายได้ไม่พอที่จะชำระหนี้ สรุปแล้วผมเปลี่ยนงานอยู่ 3 แห่งในระยะเวลา 1 ปี และผมก็ไม่ได้ชำระเลย (ผมขอข้ามขั้นตอนการทวงหนี้) ช่วงที่ผมได้งานผมก็มีติดต่อกับเจ้าของบัตรว่าขอประนอมหนี้ ส่วนใหญ่เขาก็จะให้ผมปิดบัญชีอย่างเดียว เขาก็เสนอทางเลือกให้ผมคือเดินบัญชีขั้นต่ำ ซึ่งผมมาคิดดู นี่มันจ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียว ผมเลยยังไม่มีการเคลื่อนไหวครับ กะว่าจะหาเงินก้อนไปปิดคิดว่าชำระที่เดียวคงจะดีกว่า เคยไปติดต่อหลายที่บอกว่าปล่อยสินเชื่อชำระบัตรเครดิต แต่ก็ไม่ผ่าน จนปัจจุบันนี้ผมได้งานค่อนข้าง OK ครับพอที่จะขยับตัวได้บ้าง

ผมอยากขอคำแนะนำครับว่า ผมควรจะมีวิธีการอย่างไรกับการใช้หนี้ต่อครับ ผมอยากชำระให้จบๆไปครับ เนื่องจากงานของผมที่ทำใหม่มีแนวโน้มจะทำให้ผมเกิดปัญหาอีกครับ เพราะว่าต้องเดินทางค่อนข้างไกลและจากที่พักไม่มีรถเมย์ครับ ต้องต่อประมาณ 4 ต่อครับ (ปากน้ำ-เกษตรนวมิน) เลยคิดว่าอยากได้รถสักคันแต่ก็ซื้อไม่ได้เพราะติดเครดิตครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ

ไปอ่านตรงกระทู้ปักหมุดค่ะ สีแดงๆด้านขวามือ ประสบการณ์เยอะมาก เลือกใช้ตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ

gigolo เขียน: สวัสดีสมาชิกและผู้ดูแลครับ
ผมมีหนี้บัตรอยู่ 5 สถาบันครับเป็นสินเชื่อทั้งหมด รวมๆกันก็ประมาณ 100,000 นิดๆ ซึ่งผมได้ทำการผ่อนชำระค่างวดทุกบัตร เป็นระยะเวลาประมาณปีกว่าๆเกือบสองปีครับ พอดีผมประสบปัญหาตกงานครับ ก็จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง สุดท้ายดอกท่วมครับ แล้วงานที่ทำใหม่ก็ยังไม่ลงตัวและรายได้ไม่พอที่จะชำระหนี้ สรุปแล้วผมเปลี่ยนงานอยู่ 3 แห่งในระยะเวลา 1 ปี และผมก็ไม่ได้ชำระเลย (ผมขอข้ามขั้นตอนการทวงหนี้) ช่วงที่ผมได้งานผมก็มีติดต่อกับเจ้าของบัตรว่าขอประนอมหนี้ ส่วนใหญ่เขาก็จะให้ผมปิดบัญชีอย่างเดียว เขาก็เสนอทางเลือกให้ผมคือเดินบัญชีขั้นต่ำ ซึ่งผมมาคิดดู นี่มันจ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียว ผมเลยยังไม่มีการเคลื่อนไหวครับ กะว่าจะหาเงินก้อนไปปิดคิดว่าชำระที่เดียวคงจะดีกว่า เคยไปติดต่อหลายที่บอกว่าปล่อยสินเชื่อชำระบัตรเครดิต แต่ก็ไม่ผ่าน จนปัจจุบันนี้ผมได้งานค่อนข้าง OK ครับพอที่จะขยับตัวได้บ้าง

ผมอยากขอคำแนะนำครับว่า ผมควรจะมีวิธีการอย่างไรกับการใช้หนี้ต่อครับ ผมอยากชำระให้จบๆไปครับ เนื่องจากงานของผมที่ทำใหม่มีแนวโน้มจะทำให้ผมเกิดปัญหาอีกครับ เพราะว่าต้องเดินทางค่อนข้างไกลและจากที่พักไม่มีรถเมย์ครับ ต้องต่อประมาณ 4 ต่อครับ (ปากน้ำ-เกษตรนวมิน) เลยคิดว่าอยากได้รถสักคันแต่ก็ซื้อไม่ได้เพราะติดเครดิตครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ

ไปอ่าน แล้วตัดสินใจเอาเอง
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29

เลิกฝันถึงการซื้อรถ ในขณะที่คุณยังมีหนี้อยู่เลยครับ...เพราะมันไปไม่รอด

จัดการหนี้ต่างๆให้หมดจริงๆก่อน....แล้วค่อยคิดใหม่ครับ....

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นและคำชี้แนะมากๆ ครับผม

สดๆ ร้อนๆ วันนี้มี สนง.ทวงหนี้ หลังจากเงียบหายไปนานเป็นปีเพราะผมตกงาน วันนี้ตกใจเลยอยู่ๆมีโทรเข้ามาที่Office ซึ่งเป็น บ.ที่ผมพึ่งได้ทำงาน ก็พอจะเริ่มได้ตั้งไข่ใหม่เหมือนรู้ว่าเราพอจะมีจ่ายแล้ว ซึ่งนับระยะเวลาได้เท่ากับผมพ้นโปร 4 เดือนพอดี โทรมาแจ้งผมว่าเรื่องอยู่ในขั้นตอนส่งฟ้องครับ แล้วก็แนะนำวิธีให้ผม 2 วิธี ผมก็ถามว่าต้นเท่าไหร่ ดอกเท่าไหร่ และเป็นสินเชื่อตัวไหน ปรากฏว่ามันงอกออกมาประมาณ 10,000 บ. (ต้น 42704 รวมสุทธิ 52325 และก็เป็นสินเชื่อ รีไรซ์) แล้วก็เสนอทางให้ผม 2 ทาง
1.จ่ายเดือนละ 2000 บ. เพื่อเดินบัญชี
2.ให้ผมปิดยอดทั้งหมด

ผม ตอบว่าเดือนละ 2000 บ.ผมไม่ไหวหรอก แล้วยิ่งวิธีที่ 2 ผมจะไปหาที่ไหน
ฝ่ายทวง ถ้าผมเลือกที่จะปิด จะมีส่วนลดให้
ผม ถามกลับว่า ถ้าวิธีที่ 1 เป็นต้นเท่าไหร่และดอกเบี้ยเท่าไหร่ แล้วถ้าวิธีที่ 2 ลดเท่าไหร่ล่ะ
ฝ่ายทวง ขอกลับไปถามก่อนว่าจะลดให้ได้เท่าไหร่
ฝ่ายทวง ถามผมว่าผมไหวเดือนละเท่าไหร่
ผม ตอบไปว่า มีวิธีที่ชำระได้ถูกกว่านี้มั้ย
ฝ่ายทวง ตอบผม แสดงความหวังดีกับผมว่า ไม่แนะนำให้ชำระเดือนละ 1000 บ.เพราะจะเท่ากับจ่ายแต่
ดอกเบี้ย
ฝ่ายทวง พรุ่งนี้จะติดต่อกลับมาแจ้งอีกครั้ง

ผมขอคำชี้แนะหน่อยครับ
หลังจากที่ผมได้อ่านกระทู้ปักหมุดและเคสตัวอย่างจากเพื่อนๆในบอร์ด ผมก็ตัดสินใจว่าผมจะเก็บเงินแล้วค่อยๆ Hair cut ไปทีละแบงค์ เพราะปัจจุบันนี้ผมยังไม่มีเงินเก็บ แต่ก็เหมือนจะไม่ทันการ ผมควรทำไงต่อดีครับ ผมไม่แน่ใจว่าผมได้เคยขอปรับโครงสร้างไป แต่ประเด็นคือผมไม่แน่ใจว่าได้ชำระเงินเข้าไปหรือยัง ซึ่งใบเสร็จมันไม่อยู่แล้วเพราะผมย้ายห้องเช่ามาประมาณ 3 ครั้งครับ

ขอคำชี้แนะและขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้

คุณบอกรายละเอียดมามากกว่านี้ได้ไหม เช่น
หนี้สถาบันอะไร มีหนี้ที่ไหนบ้าง พยายามนึกรายละเอียดเท่าที่นึกได้
ยอดแต่ละที่ประมาณเท่าไหร่ (ลองไปดูเคสของเพื่อนๆแต่ละคน)
หยุดตั้งแต่ปีไหน เดือนอะไร เพราะมีเรื่องอายุความด้วย
เงินเดือนเท่าไหร่ มีทรัพย์สินอะไรไหม

เท่าที่คุณเล่ามา พอสังเขป
ทางเจ้าหนี้เสนอมาว่า ให้ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท คุณก็บอกว่าไม่ไหว
แล้วคุณจะทำอย่างไรกับเรื่องหนี้
ถ้าไม่มีเงินก้อนแฮร์คัท ต้องปล่อยให้สู่กระบวนการฟ้องค่ะ เพราะมันจะยืดไปได้อีกระยะ(ขึ้นอยู่กับว่า คุณหยุดมานานเท่าไหร่แล้ว)
หากเข้าสู่การฟ้อง ยังสามารถไกล่เกลี่ยเพื่อผ่อนชำระเป็นงวดได้
คุณบอกรายละเอียดเพิ่มมาอีกก็แล้วกันค่ะ

หลังจากที่ผมได้อ่านกระทู้ปักหมุด
คุณคนทวงหนี้เขาก็ต้องกินต้องใช้เขาหาวิธีไหน
ที่ทั้งกดทั้งดันเราได้เขาทำทันที
เขาไม่มารอให้เราเก็บเงินเพื่อจะh/c แน่นอน
ผมย้ายห้องเช่ามาประมาณ 3 ครั้ง
แสดงว่าเป็นคนไม่มี เมทะนี แล้วทำไมไม่ตัดวงจอนหนี้ทิ้งละ
โดยการให้อายัดเงินเดือน 30%
เป็นทางออกอีกอย่างหนึ่งสำหลับคนที่มีหนี้หลายบัตร
มีเงินเดือนให้อายัดแต่ไม่มีทรัพย์
คุณเกล้าหรือเปล่าที่จะบอกเจ้านายใหม่
คุยให้เพื่อนร่วมงานใหม่ฟัง ว่าเรามีปัญหาแบบนี้
ถึงเราถูกอายัดเงินเดือนแล้วเราก็เก็บเงินไว้ทำ
h/cได้ตลอดไป
หยิกหน้าดูว่าเจ็บไหมเรื่องที่คนอื่นๆจะรู้ว่าเรามีปัญหาเรื่องหนี้
ถ้าหยิกแล้วเจ็บแสดงว่าคุณหน้าบาง
วิธีทำก็คือ ตกลงผ่อนกับเจ้าหนี้ทุกเจ้ารวมในชั้นศาลด้วย
ผมรับรองว่าไม่มีใครรู้เรื่องหนี้คุณแน่นอน
แต่ถ้าวันไหนไปไม่รอดทุกคนในที่ทำงานรู้
ไม่ต้องไปรักมันหรอก ไอ้ภาพรักษ์ของตัวเองนะ
ตัวเองก็รู้ดีแก่ใจมันกินไม่ได้ทำให้ตัวเองดูดีนะ
มันไม่มีประโยชน์อะไรความจริงก็คือความจริง
ฝากไว้ไปคิดดูเรื่องอายัดเงินเดือน แล้วไปหาอ่านเพิ่มในหมุดปักจะได้มีทางออกให้ตัวเอง
โชคดี

ผมมีติดอยู่ 5 สถานบัน คิอจริงๆผูกพันมาครับ ตั้งแต่ได้ใช้บริการผมก็ผ่อนชำระค่างวดทุกสถาบันพร้อมๆกันนะครับ บางที่เกือบหมดด้วย แต่ช่วงหลังๆ จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ประมาณว่า รวบ 2 เดือน จ่าย 1 เดือน ก็จะมีค่าติดตามค้างจายอะไรสะสมเต็มไปหมด ที่ผมหยุดจ่ายจริงๆถึงปัจจุบันน่าจะประมาณ 2 ปี ครับ ผมตกงานมาก็ปีกว่าครับ สถาบันที่ผมมีอยู่
1.City Bank สินเชื่อ รีไรซ์ ดอกเบี้ย 28% ครับ ต้น 42,704 รวมสุทธิ 52325
2.กรุงศรี First choice สินเชื่อ 30,000
3.ไทยธนาคาร สินเชื่อ 30,000
4.ไทยพาณิชย์ Speed cash 10,000
5.ธ.กรุงไทย สินเชื่อ 15,000
*ทั้งหมดตอนนี้คือไม่ทราบเลยว่าเป็นเท่าไหร่แล้ว*

คือผมเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจครับ(มันแย่มาก) ตอนจ่ายอยู่ก็ไม่สนใจครับ รู้แค่ว่าเดือนนี้เราจ่ายแล้วโดยไม่ได้คิดว่าเราจะต้องประสบปัญหาหลายอย่าง รถคว่ำ ตกงาน อะไร ทำให้ผมต้องยืมเงินเพื่อนๆมาใช้ ตอนนี้ก็มีติดเพื่อนประมาณ 20,000 กว่า กะว่าถ้าอีกสักเดือน 2 เดือนจะเริ่มใช้หนี้ แต่เหมือนจะไม่ทันการ อะไรประมาณนั้นครับ

ที่ติดต่อมาคือ City Bank ครับ วันนี้ก็โทรกลับมาแล้วครับ แจ้งตัวเลขให้ผมครับ ผมก็เลยแกล้งถามไปว่า ตัว สินเชื่อรีไรซ์ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ตัวเลขที่แจ้งมาคือให้ผมปิดยอดที่ 39,000 บ.ครับ แล้วก็เสนอให้ผมชำระได้ 6 เดือน
/ผมถามกลับไปว่า เดือนละ 2,000 บ. ตอนนี้ยังไม่มีปัญญาเลย จะให้ผมจ่ายเดือน 6.xxx บ. จะเอาที่ไหน ผมเลยบอกไปว่าถ้าเป็น 10 เดือนล่ะพอจะเป็นไปได้มั้ย ผมจะไปหากู้มาจ่าย (พูดไปงั้น)
- เขาบอกว่า คงไม่สามารถทำได้ครับ ยังไงก็ให้ผมคุยกับหัวหน้าเขา
/ผมว่างแล้วผมจะโทรหาครับ หลังจากวางสายแล้วผมก็เข้ามาที่นี่ครับ

ผมถามว่าตอนนี้อยู่ขั้นตอนไหนครับ เขาตอบว่าขั้นตอนกำลังส่งฟ้องครับ

รบกวนด้วยครับ
ขอขอบคุณครับ

ถ้าเขาบอกกำลังส่งฟ้องศาลก็รอหมายศาลค่ะ

แต่ถ้าเขาโทรมาเสนอไรอีก คุณก็ต้องพิจารณาตามที่คุณรับไหวค่ะ บอกไปตามตรง

อย่าไปให้ความหวังเขา มีก็บอกว่ามี ไม่มีก็บอกไม่มีค่ะ

สู้สู้ค่ะ

เงินเดือนคุณเท่าไหร่ค่ะ
ถ้าคุณปล่อยให้อายัดได้ ก็ปล่อยค่ะ เพราะตัวคุณเอง เขาให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 2,000 คุณก็ยังทำไม่ได้
แล้วคุณจะไม่ใช้หนี้เขาเลยหรือไง?
ปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการฟ้องไปเลย จะไปไกล่เกลี่ยคุณก็จะอ้างอีกว่า ผ่อนให้ไม่ได้
เจ้าหนี้เขาไม่รอหรอกคะ เขาก็ต้องอาศัยอำนาจทางกฎหมายฟ้อง เพื่อบีบให้คุณชำระหนี้ให้ได้
ผ่อนให้ไม่ได้ ก็อายัดไปสิคะ อายัดได้ทีละราย ทีละเจ้า สบายดีด้วย เจ้าไหนฟ้องทีหลัง ก็ต่อคิวทีหลัง หนี้ก็มีวันหมด
เราเอาเงินเขามาจริง คุณปล่อยปะละเลยให้หนี้มันพอกพูน มาแก้ปัญหาเอาตอนปลาย ก็ต้องเป็นไปตามเหตุและปัจจัยค่ะ
อะไรที่ผ่านมาแล้ว ให้มันผ่านไป เดินหน้าแก้ไขดีกว่า เป็นกำลังใจให้นะคะ