ปรึกษาทำ H/C ของ HSBC หลังบังคับคดีครับ

หลังจากติดตามกระทู้มานานและจัดการหนี้ไป2-3 เจ้าแล้ว มาเจอแบงค์ที่เขี้ยวสุดสำหรับผมก็ว่าได้ครับ HSBC เจ้านี้ผมมี หนี้ บัตร VISA พิพากษาเรียบร้อยตั้งแต่ปี 2005 (2548) เปลี่ยน บริษัทตามนี้กันมาหลายเจ้า ต่อรองกันมาเรื่อย จนล่าสุดได้บังคับคดีกันที่ 120,000 หลังจากได้กลับมางานเป็นหลักแหล่ง เริ่มเก็บเงินพอจะ H/C ได้บ้าง

ติดต่อ เจ้าหน้าที่ ธนาคาร เลยหวังว่าจะได้จบกันเสียที แต่เจ้าหน้าที่ เสียงหวานดันบอกว่า ให้กลับไปติดต่อกับ บ.กฏหมายเจ้าเดิมที่ดูบัญชีนี้อยู่ ซึงเหตุการณ์ก็เหมือนเดิม งวดเดียว 80000 แถมไม่ลดให้เหมือนเดิมแล้ว ผมก็ งงๆ เพิ่งเจอแบงค์นี้แหละครับ ที่ปัดให้เราไปดวกับบ.กฏหมายเฉยเลย

ผมพยายามจะให้หลุดจากบังคับคดี เพราะหักไปแล้ว 1 เดือนเริ่มกระทบกับเจ้าอื่นที่เราจ่ายอยู่ครับ

คุณคะ
ศาลพิพากษาตั้งแต่ปี 2548 หกปีผ่านมาแล้ว เจ้าหนี้พึ่งจะมาบังคับคดี
หกปีที่ผ่านมา คุณไปทำอะไรอยู่ ถึงได้ปล่อยให้หนี้ยืดเยื้อจนเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี
พอจะเข้าใจตรงที่ คุณต้องหาเงินไปชำระหนี้รายอื่นๆ และมีรายจ่ายที่จำเป็นต่อปากท้อง
แต่การที่เจ้าหนี้ปล่อยให้คุณอยู่รอดปลอดภัยมาได้ พึ่งจะมาบังคับคดีในปีที่ หก เนี้ย
โห...สุดยอด HSBC ไม่ได้เขี้ยวอย่างที่คิดนะคะ
ดอกเบี้ยนับตั้งแต่หยุดจ่าย และดอกเบี้ยที่ศาลท่านพิพากษาลงมา มันก็ย่อมเดินตามตูด หกปี ดอกเบี้ยเดินไปเท่าไหร่ คุณคิดตรงจุดนี้ไหม?
แล้วเขายังให้คุณแฮร์คัทได้ที่ 80,000 บาท อืม...คุณอยากได้เท่าไหร่หล่ะ
นโยบายของชมรมบอกไว้ชัดเจน
เราสอนเพื่อนให้จับปลา (คือหาวิธีชำระหนี้ด้วยตัวเอง)
เราไม่ส่งเสริมการชักดาบ (เอาเงินเขามาก็ต้องจ่ายเขา)
เราต่อต้านการทวงหนี้โหด (ปกป้องสิทธิของตนเอง และจ่ายหนี้ในเวลาและราคาที่เหมาะสม)

ถ้าคุณไม่อยากให้เขามาอายัดเงินเดือน ไม่อยากให้อายัดบ้าน ทรัพย์ อื่นๆ
หกปีที่ผ่านมา คุณยืนได้ด้วยตัวเองพอสมควร ถึงเวลาที่เราต้องชำระหนี้คืนเขาแล้วหล่ะคะ
เสียน้อย เสียมาก เสียยาก เสียง่าย...
ไม่มีอะไรที่เราไม่เจ็บตัว แต่ให้เลือกที่เราเจ็บตัวน้อยที่สุด โอเคไหมคะ

ขอบคุณ พี่กอบัว มากครับสำหรับคำแนะนำครับ วันนี้อยากโทรหาพี่กอบัวนะครับ แต่พอดีออกกะดึกมานอนกลางวันถึงเย็นเลยครับ หมดเวลาที่พี่ให้ใว้เลยว่าจะโทรวันหลังครับ หลังออกจากงานประจำในปี 2547 ผมหางานประจำไม่ได้เลยต้องลุยงาน Part time ทำให้เขาไม่สามารถบังคับผมได้ครับ จริงแล้วผมว่าเขาก้อยากจะบังคับแหละครับ 4 ปีที่เร่ร่อน ผมเพิ่งโชคดีที่เข้ามาทำงานเป็นหลักแหล่งได้เมื่อ 2 ปีที่แล้วนี้เองครับ

พอทดลองงานผ่าน ก็โดนบังคับคดีจาก กรุงศรี FC เลยครับ โดย HSBC จ่อคิวอยู่ครับ พอเสร็จจาก กรุงศรี FC ก็โดนเลยครับพี่ เพราะคดีผมส่วนใหญ่ พิพากษาหมดแล้วครับ ก็ติดตามทวงกันมาเรื่อยครับ

ประเด็นคือผมอาจจะคิดไปเองที่คิดว่าติดต่อ เจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วมันจะจบไม่ต้องไปลุยกับ บ.กฏหมาย อีกแล้วนะครับ แต่ผิดคาด

เรื่องที่เจ้าหนี้เขาจะโยนให้ใครดูแล หรือทวงถาม ย่อมเป็นสิทธิ

ของเขา และเรื่องการต่อรอง ก็เป็นสิทธิของเรา ที่จะเจรจากับเจ้าหนี้

ตัวจริง หรือตัวแทน ใครก็ได้ที่สามารถอนุมัติ แล้วยอมรับเงื่อนไข

ซึ่งกันและกัน โดยมีหนังสือยืนยันเป็นหลักประกันการตกลงของเรา

เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิปฎิเสธการเจรจากับลูกหนี้ค่ะ ถ้าทำ สามารถยื่นร้อง

ไปที่ธปท . ได้ค่ะ

หากคุณยังถูกอายัดโดยเจ้าแรก แต่หากจบเจ้าแรกเมื่อใด เขาก็

เสียบต่อเมื่อนั้นได้ค่ะ เจ้าหนี้คนไหนขยันก็จะรู้ว่าคุณจบบังคับคดี

เมื่อไร ก็รออายัดต่อค่ะ ไม่มีการเรียงลำดับ หรือจำฉลากค่ะ

มาก่อนได้ก่อนค่ะ

HSBC มัน"เจ๊ง"ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
และก่อนที่มันจะเจ๊ง มันคงขายหนี้เน่าของคุณไปให้กับคนอื่น เช่น สถาบันการเงินในเครือของ GE (กรุงศรีฯ)
หรือขายหนี้เน่าให้กับสำนักงานกฏหมาย(สำนักงานทวงหนี้)ในราคาถูกๆ เพื่อไปทวงหนี้ต่อเอาเอง

คุณสามารถไปตรวจสอบสถานะแห่งความป็นจริงได้ที่เครดิตบูโร
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=19615&Itemid=29#19648

ส่วนเรื่องราคา Hair cut ผมก็เคยเขียนบอกเอาไว้แล้วว่า

นกกระจอกเทศ เขียน: Hair-cut สามารถทำได้ตลอด

ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว ...ไม่ว่าจะเป็น

- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้

เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ

แต่การ Hair-cut ที่ได้ราคางามที่สุด (หรือที่เรียกว่า "นาทีทอง" นั้น...มักจะอยู่ในช่วงของเวลาดังต่อไปนี้
- หยุดจ่ายนานเกิน 10 เดือนขึ้นไป
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาลในนัดแรก
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี อีกหลายนัด (ยังไม่ได้พิพากษา)
ถ้าพ้นกำหนดช่วงเวลาดังกล่าวนี้ไปแล้ว โปรโมชั่น "นาทีทอง" อาจหมดไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำ Hair-cut ไม่ได้...เพียงแต่ว่า อาจไม่ได้ราคางามๆตามโปรโมชั่นของ "นาทีทอง" ก็เท่านั้นเอง

อ้างอิงจากกระทู้นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29



และถ้าเพิกเฉยต่อหนี้(ดื้อแพ่ง)จากคำพิพากษาของศาล เป็นเวลานานหลายปี ยอดหนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจาก"ดอกเบี้ย"ที่เดินตามหลังอย่างไม่หยุด
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=8403&Itemid=29#5082