หมายอายัดเงินเดือน

เรียน ปรึกษาคณะกรรมการและผู้มีประสบการณ์ ช่วยแนะนำหน่อยคะ

เมื่อ ก.พ. 52 เคยไปขึ้นศาลและทำสัญญาประณีประณอมยอมความ ยอดตกลง 150,000 จะจ่ายให้เดือนละ 3,000 ช่วงนั้นยังมีงานทำอยู่ ก็จ่ายมาเรื่อย ๆ ประมาณ 11 เดือน ก็ต้องหยุดจ่ายเพราะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแต่ไม่ประสบความสำเร็จ (เจ๊งหมดตัว) และตกงานอยู่นาน

เมื่อ ต.ค. 54 ได้ทำงานบริษัท A อยู่สักพักประมาณ เม.ย. 55 ก็มีการปรับโครงสร้างบริษัท โดยให้ดิฉันย้ายไปอยู่ในบริษัท B โดยทำเรื่องแจ้งออกจาก บริษัท A และแจ้งเข้าใหม่ใน บริษัท B ซึ่งทำอยู่ถึงปัจจุบัน (ทั้ง 2 บริษัท กรรมการคนเดียวกันและสถานที่ทำงานที่เดียวกัน)

เมื่อต้นเดือน ต.ค. 55 นี้ทางบริษัท A ได้รับหมายให้อายัดเงินเดือนของดิฉัน (ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีชื่ออยู่ที่นั้นแล้ว) อยากสอบถามว่า แบบนี้ทางบริษัท A จะแจ้งให้ทางบังคับคดีว่าดิฉันลาออกไปแล้วได้หรือไม่? แล้วให้ทางเจ้าหนี้ออกหมายมาบังคับกับทางบริษัท B ใหม่?
หรือจะให้ทางบริษัท A แจ้งว่าเราย้ายมาเป็นพนักงานในสังกัด B แล้วและทำเรื่องอายัดเงินเดือนไปเลย ปัจจุบันเงินเดือน อยู่ที่ 12,000 บาท ถ้าโดนอายัดก็จะโดนที่ 2,000 บาท ใช่ไหมคะ

รบกวนด้วยคะ

เรื่องบริษัท เอ กับ บี อะไรนั่น คุณต้องไปถามฝ่ายบุคคลเองครับ

แต่เรี่องอายัดเงินเดือน ได้แค่สองพัน จากหมื่นสอง ถูกต้องแล้วครับ

ก็บังเอิญว่าฝ่ายบุคคลโดนซะเองซิคะ อิอิอิ (น่าอายจริง ๆ ) เลยต้องคิดเองทำเอง

แบบนี้ ควรทำอย่างไรดีคะ

ในความเห็นของผมนะ

ก็ให้บริษัทA ทำหนังสือแจ้งไปที่กรมบังคับคดีสิครับ ว่าพนักงานคนนี้ได้ลาออกไปแล้ว หมดหน้าที่

แล้วทางกรมบังคับคดีจะแจ้งไปยังสำนักงานกฎหมายที่ทำเรื่องขออายัดเงินเดือนเองว่าพนักงานได้ลาออกไปแล้วไม่สามารถติดตามอายัดเงินเดือนได้ หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของสนง.กฎหมายติดตามว่าลูกหนี้ตอนนี้มีหลักแหล่งการงานที่ไหนจากประกันสังคม จากนั้นจะไปยื่นขออายัดกับกรมบังคับคดีอีกคราวหนึ่ง แล้วจะมีหมายอายัดมาที่บริษัท B จากนั้นบริษัทB ต้องทำการส่งเงินเกินจาก10,000 บาทของคุณคือ 2,000 นำส่งไปที่สำนักงานบังคับคดีในพื้นที่นั้นๆ(ให้ไปดูเกณฑ์อายัดเงินเดือนในห้องรู้ทันกฎหมายจะได้ละเอียดมากขึ้น)

หรือสนง.กฎหมายขี้เกียจตามหาเงินเดือนกาลิเลโอ ก็จะสืบทรัพย์ดูว่าคุณมีทรัพย์สินอย่างอื่นที่พอจะยึดได้มั้ย เช่น บ้านที่ดิน รถ มรดกเจ้าคุณปู่ เป็นต้น (ถ้าคุณมีนะ)

โชคดีครับ

คุณ GOKU ตอบได้ถูกใจผมจริงๆ

ถูกต้องแล้วครับ...หากลูกจ้างได้ลาออกจากบริษัท A ไปแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของบริษัท A จะต้องเป็นผู้แจ้งต่อกรมบังคับคดีว่า ลูกจ้างที่ถูกหมายอายัดเงินเดือน ตามหมายเลขคดีแดงที่ xxxx/25xx นั้น ปัจจุบันได้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน(ลูกจ้าง)ของบริษัท A เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ xx/xx/255x

โดยฝ่ายบุคคลของบริษัท A จะต้องเป็นผู้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังกรมบังครับคดี มิฉะนั้นทางบริษัท A จะมี ความผิดตามกฏหมาย และอาจต้องชดใช้หนี้แทนพนักงาน(ลูกจ้าง)คนนั้นด้วย
ตามที่ผมเคยอธิบายไปแล้ว อยู่ใน Link นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=6893&Itemid=52


ส่วนพนักงาน(ลูกจ้าง)คนนั้น...จะลาออกไป แล้วไปทำงานที่ไหนต่อ(บริษัท B , บริษัท C หรือ บริษัท D ก็ตาม) มันไม่ใช่หน้าที่ของบริษัท A ที่จะต้องแจ้งต่อกรมบังคับคดีให้รับทราบ
บริษัท A มีหน้าที่เพียงแค่แจ้งให้กรมบังคับคดีรับทราบเอาไว้ว่า พนักงานคนดังกล่าวเขาได้ลาออกไปแล้วเท่าน้น เพื่อที่ทางบริษัท A จะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงมีความผิดทางกฏหมายตามที่บัญญัติไว้
ส่วนพนักงานผู้นั้นจะลาออกแล้วไปทำงานอยู่ที่ไหน มันเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าหนี้ที่จะต้องไปสืบเสาะหาเอาเอง ถ้ามันสืบเจอ ก็จะมีหมายบังคับคดี(หมายอายัดเงินเดือน)ส่งมาที่บริษัท B อีกครั้ง
แต่ถ้ามันสืบไม่เจอ...ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไปอ่านความรู้เพิ่มเติมในนี้ด้วยนะครับ
test.led.go.th/faqn/SARA.ASP?nomod=d

ขอขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศ และคุณคุณ GOKU คะ ที่ให้ข้อมูล จะได้วางแผนจัดการหนี้สินได้เสียที

ตอนนี้ขอเวลาพักฟื้นหลังจากที่ธุรกิจพักจนหมดเนื้อหมดตัว แต่ไม่คิดจะหนี เพียงแค่ขอเพียงโอกาสในการตั้งรับเท่านั้นเอง

ขอบคุณค่ะ