หนี้ UOB

ผมได้อ่านเว็บนี้มาประมาณ 7-8 เดือนแล้วเนื่องจากมีปัญหาเรื่องบัตรเครดิต ซึ่งหลังจากได้อ่าน ก็เลือกหนทางหยุดจ่ายรอ Haircut ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิ.ย.55 ซึ่งจนถึงปัจจุบันผลเป็นดังนี้ครับ

ปิดจบแล้ว
Firstchoice ยอดค้าง 100,000 (ชำระปิด 55,000 2งวด)
กรุงศรี ยอดค้าง 65,000 (ชำระปิด 33,000 3 งวด)
Citibank ยอดค้าง 150,000 (ชำระปิด 85,000 2 งวด)
HSBC ยอดค้าง 100,000 (ชำระปิด 50,000 2งวด)
KBANK ยอดค้าง 90,000 (ชำระปิด 53,000 1 งวด)

เจรจาอยู่
TMB ยอดค้าง 80,000 (เจรจาอยู่เนื่องจากลดให้เหลือ 77,000)
KTC ยอดค้าง 65,000 (เจรจาอยู่เนื่องจากลดให้เหลือ 60,000)

ฟ้องแล้ว
UOB ยอดค้าง 100,000 (นัดสืบคดีเดือน ก.พ. ทุนทรัพย์รวมดอกเบี้ย 140,000 เจรจาแล้วให้
จ่ายที่ยอดค้าง 100,000+ ค่าทนาย 5,000)

ซึ่งตั้งแต่ผมดำเนินแนวทางตามที่ได้วางไว้มา พร้อมกับอ่านกระทู้เก่าๆ พบว่าทาง UOB เป็นเจ้าหนี้ที่คุยยากที่สุด ขอเอกสารไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยให้ส่วนลดเลย แล้วก็มีพนักงานโทรมาขู่ว่า ถ้าจ่ายช่วงสิ้นเดือนธ.ค.แค่ 100,000 บาท แต่ถ้าไปขึ้นศาลทำเรื่องยอมก็ต้องโดนคิดค่าธรรมเนียมต่างๆรวมแล้ว ไม่ต่ำกว่า 140,000 ซึ่งผมก็เลยอยากถามว่า ผมควรจ่ายตอนนี้มั๊ยครับ (โบนัสออกแต่ยังไม่พอ ต้องยืมที่บ้านอีก) หรือไปสู้กันในศาลดี แต่กลัวว่าไปสู้ที่ศาลแล้วจะต้องจ่ายเยอะขึ้นอย่างที่ทาง UOB เค๊าขู่ เลยอยากขอปรึกษาพี่ๆที่เคยผ่านการเจรจากับเจ้าหนี้รายนี้ดูครับ ถ้าดูแล้วต้องจ่ายเยอะขึ้นมาก ผมคงหาทางยืมที่บ้านจ่ายปิดเลยครับ

*** ส่วน KTC กับ TMB เจ้าหนี้รายนี้ให้ส่วนลดดีรึเปล่าครับ ดูจากหลายๆกระทู้แล้ว โหดเอาการ ใครมีประสพการณ์ช่วยแชร์ด้วยนะครับ

กัปตัน debt เขียน: ผมก็เลยอยากถามว่า ผมควรจ่ายตอนนี้มั๊ยครับ (โบนัสออกแต่ยังไม่พอ ต้องยืมที่บ้านอีก) หรือไปสู้กันในศาลดี แต่กลัวว่าไปสู้ที่ศาลแล้วจะต้องจ่ายเยอะขึ้นอย่างที่ทาง UOB เค๊าขู่ เลยอยากขอปรึกษาพี่ๆที่เคยผ่านการเจรจากับเจ้าหนี้รายนี้ดูครับ ถ้าดูแล้วต้องจ่ายเยอะขึ้นมาก ผมคงหาทางยืมที่บ้านจ่ายปิดเลยครับ

*** ส่วน KTC กับ TMB เจ้าหนี้รายนี้ให้ส่วนลดดีรึเปล่าครับ ดูจากหลายๆกระทู้แล้ว โหดเอาการ ใครมีประสพการณ์ช่วยแชร์ด้วยนะครับ

เคทีซวย ของคนที่บ้าน ไกล่เกลี่ยหน้าศาลครับ ศาลแขวงพระนครเหนือไกล่เกลี่ยเรียบร้อยเมื่อต้นเดือนครับ ยอดฟ้องเกือบแสนเจ็ด ต่อได้ 142,500 ผ่อน 12 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย เริ่มงวดแรก กพ 56

มีให้เลือกจ่าย 144,000 ผ่อน 36 งวด ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ครับ แต่เห็นได้ข่าวว่าที่มีนบุรี ร้อยละ 8


ที่เหลือที่คุณถามมาไม่มีประสบการณ์ แต่เรื่องค่าธรรมเนียมถ้าต้องขึ้นศาล ของคนที่บ้าน ไกล่เกลี่ยได้ ก็ไม่ต้องจ่ายอะไร ถ้ามีสืบความ ก็ต้องแล้วแต่ความเห็นของศาล ซึ่งส่วนมากเป็นค่าทนายโจทย์ ซึ่งไม่ได้มากมายเหมือนที่เจ้าหนี้แจ้งคุณนะครับ หรือ ลองอ่านค่าใช้จ่ายในการไปศาลตามที่ผมแปะไว้ให้ก็ได้ครับ

ขอให้คุณพบแต่ความเห็นชอบครับ


www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6915&Itemid=52

กรณีไกล่เกลี่ยทำยอมหน้าศาล ส่วนใหญ่ค่าทนายจะถูกยกเว้นค่ะ เพราะถือว่า ตกลงเจรจากันได้ มีความพอใจทั้งสองฝ่าย
ค่าทนายเป็นสิ่งที่ "เจ้าหนี้" มันสักแต่จะคิดเอง เออเอง
แต่ศาลท่านจะเป็นคนตัดสินเองว่า จะให้ตามที่มัน "สะเหร่อ บ้า" ขอมาไหม?
ถ้ามันขอมาหมื่นสองหมื่น คุณคิดว่า ศาลท่านจะบ้าจี้ตามที่มันขอมาหรือเปล่า?

ช่วงสิ้นปีเป็นช่วงทำยอดของแต่ละสถาบัน
จะเห็นว่าส่วนลด โปรโมชั่นต่างๆจะทะยอยมาช่วงสิ้นปีตามที่กรรมการเคยบอก
เขาก็ต้องการจะทำยอดเพื่อหวังค่าคอมมิชชั่น หรือโบนัสประจำปี ก็จากยอดเก็บหนี้สิ้นปีนี่แหละค่ะ
คำพูดกดดัน เป็นส่วนหนึ่งของการทวงหนี้อยู่แล้ว ใครแข็งกว่า คนนั้นก็รอด
เจรจาในส่วนที่เราพร้อม แต่อย่าไปซีเรียสกะส่วนลด หากประเมินตัวเองแล้ว ไม่ไหว ต้องปล่อยค่ะ
แต่ถ้าคุณคิดว่า เงินที่หยิบยืมมา ไม่มีดอก และมีกำลังที่จะใช้คืน ก็ตามใจค่ะ
"ประเมินเงินในกระเป๋า" ตัวเอง สำคัญที่สุดในการตัดสินใจในการชำระหนี้แต่ละที่
ธนาคารนี้ไม่รู้มันจะได้อะไรกะนโยบายรีดนาทาเร้น เรียกเก็บหนี้แบบโหดๆ ฟ้องเร็ว เจรจายาก
พูดยากนัก ไม่ไหว...เขี้ยว ก็ผ่อนให้ยาวๆไปเลย รำคาญ
จะปีใหม่แล้ว เหลือหนี้อีกไม่กี่ราย และฟ้องไปแค่รายเดียว นี่ต่างหากที่เป็นมุมดีๆ ที่คุณจะต้องดีใจกับตัวเอง
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ถ้าดูจากแนวการเจรจาแล้ว UOB คงไม่มีทางให้ส่วนลดผมแน่ครับ...และดูจากเงินในกระเป๋า ผมคงต้องไปคุยกับเค๊าที่ศาลช่วงเดือนก.พ. แต่ที่กลัวคือจากยอดค้างแค่ 100,000 คุยแล้วศาลจะบังคับให้จ่ายที่ 140,000 หรือ มากกว่านั้น (ส่วนที่เพิ่มมาจากค่าดอกเบี้ย และ ค่าดำเนินการของทาง Bank ตามที่เค๊าได้อ้าง) เลยถามพี่ๆเพื่อความมั่นใจครับ ว่าถ้าไปสู้ที่ศาล อย่างแย่สุดที่เคยมีจะเป็นแบบไหนครับ ถ้าเงินต้นที่ค้าง Bank จริงๆแค่ 100,000 บาท จะได้ตัดสินใจเลือกแนวทางที่เหมาะกับตัวเองที่สุดครับ

*** ขอบคุณเว็บนี้จริงๆคับ ที่ช่วยให้ผมแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้บางส่วนแล้ว ขอให้ผลบุญที่ช่วยผม และ ครอบครัวผม ส่งผลให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับเว็บนี้เจริญๆ และ มีแต่ความโชคดีตลอดไปครับ

แย่สุดก็แสนสี่ตามที่มันว่า
แต่บอกไปแล้วไงว่า "ค่าทนาย" มันจะคิดตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่งันจะมีศาลไว้ทำสากกะเบืออะไร
คุณไปอ่านที่น้อง Benten แชร์ให้ฟัง แล้วที่กอบัวให้แนวทางไป
ก็ไม่ใช่ว่าจะให้แนวทางไปสุ่มๆ กรรมการรับเรื่องหลังไมค์มานานแล้ว
ก็บอกแล้วว่า ถ้ามันเขี้ยวมาก ก็ผ่อนเป็นเดือนๆไปเลย ไม่ต้องให้มันเป็นก้อน

เข้าใจแล้วครับพี่ ตอนแรกกะว่า เคยมีคนไปคุยกับเจ้าหนี้รายนี้ที่ศาลแล้วได้ส่วนลดจากมัน หรือ จ่ายแค่เงินต้น + ผ่อนนานหน่อย ก็จะลองรอไปศาลดู...ถ้างั้นผมว่า เพื่อไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นศาล+ความเสี่ยงที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น คงต้องหยิบยืมพี่สาวก่อนล่ะครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้ฝ่าฟันให้ได้ ของผมก็โดนเหมือนกัน เหมือนทาง uob จะพอใจดอกเบี้ย ในการเจรจาจากศาล ให้จ่าย 15% นะครับ ส่วนลดแทบจะไม่ให้ อาจจะต้องแก้ไขปัยหาที่เจอตรงนี้ว่าจะหาทางออกอย่างไร เหนื่อยเหมือนกันนะครับ ก็ สู้ต่อไปครับ เล่าสู่กันฟังมานะครับ

ลองดูเคสของผมก็ได้ครับคล้ายๆกันไปศาลนัดแรกกับUOB และมีKTC เขี้ยวทั้งคู่
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=6918&Itemid=52
เป็นกำลังใจให้ครับศิษย์น้อง