ภรรยาไม่ใส่ใจปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว

ขอเรียนปรึกษาครับ ตอนนี้เครียดมากๆ และได้ทะเลาะกับภรรยากันค่อนข้างรุนแรง คือครอบครัวเราเป็นหนี้สิน ซึ่งเชื่อได้ว่า ล้นพ้นตัวแล้ว เพราะส่วนตัวมีเงินเดือนประจำที่ 17,000 บาท และหาพิเศษอื่นๆ ได้อีกเดือนละประมาณ 1 หมื่น ถึง 1.2 หมื่น ส่วนภรรยาได้รับเงินเดือน 10,000 บาท ซึ่งพึ่งจะเปลี่ยนงานใหม่ (ในรอบ 6 เดือน เปลี่ยนงานมาแล้ว 2 ที่ ที่นี่ก็ทำท่าว่าจะไม่อยากอยู่อีก) เรามีหนี้สินดังนี้ครับ
หนี้ธนาคารพานิช
1.ธนาคารออมสิน(สินเชื่อสวัสดิการ) ยอดหนี้ 1,200,000 บาท (หนึ่งล้านสองแสนบาท) หักผ่านบัญชีเงินเดือนๆ ละ 13000 บาท ระยะเวลา 15 ปี (เพิ่งจะกู้)
2.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ซื้อบ้าน) กู้ร่วมกับภรรยา ยอดหนี้ 550,000 บาท ส่วนตัว หักผ่านบัญชีเงินเดือน ๆ ละ 2,700 บาท ภรรยา จ่ายเงินสด(เราจ่าย) เืดือนละ 700 บาท ระยะเวลา 30 ปี ผ่อนชำระมาแล้ว 2 ปีกว่าๆ
Non Bank
ส่วนตัว
1.ธนชาติลิสซิ่ง (เช่าซื้อรถยนต์) ยอดหนี้ 350,000 บาท จำนวน 60 งวด ๆ ละ 5300 บาท ผ่อนชำระมาแล้ว 1 ปีกว่าๆ
ภรรยา
1.บัตรเครดิต KTC วงเงิน 20,000 บาท ยอดหนี้ 21,000 บาท ชำระขึ้นต่ำ เดือนละ 1,000 บาท
2.บัตรกดเงินสด First Choice วงเงิน 35,000 บาท ยอดหนี้ 42,000 บาท หยุดชำระ (เดือนสุดท้าย พ.ย.55)
3.บัตรเครดิตธนชาติ วงเงิน 25,000 บาท ยอดหนี้ 23,000 บาท ชำระขั้นต่ำ เืดือนละ 1,000 บาท

หนี้นอกระบบ
ส่วนตัว 250,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อเดือน (ไม่ได้จ่ายดอกมา 1 เดือนแล้ว)
ภรรยา 200,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน (เพิ่งจะกู้)
หนี้นอกระบบทั้งสองตัว ใช้โฉนดที่ดินของเรา(มรดก) ค้ำประกัน ซึ่งไม่อยากให้เสียไปเลย

ปัจจุบันมีเงินเหลือจากการกู้นอกระบบของภรรยา อยู่ 5 หมื่นบาท ภรรยาจะใช้สำหรับ ปิดบัตร First choice เพราะรำคาญ กับการโทรทวงหนี้. แต่เราไม่เห็นด้วย อยากให้เขาได้เข้ามาศึกษา ข้อมูล ในชมรม แต่เขาก็ปฏิเสธ บ่นแต่ว่ารำคาญ เครียด ไม่อยากโดนทวง จนทำให้ทะเลาะกันรุนแรง

อยากทราบว่า เราจะเริ่มคุยกับภรรยา ให้เขาได้มาศึกษา การใช้หนี้ โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต อย่างไรดีครับ...ตอนนี้เครียด ถึงขนาด อยากจะเลิกลากันแล้ว.... แต่ก็สงสารลูก รบกวนท่านสมาชิก บรรเทาทุกข์ด้วยครับ...

ขอโทษพิมพ์ไม่ถนัดใช้ไอแปรด

ช่วยโทรสายด่วนก่อนนะค่ะ อย่าให้หนี้มาทำร้ายชีวิตคุณและครอบครัวค่ะ

ใจเย็นค่ะ คนถูกทวงหนี้ถ้ายังไม่พร้อมจะยอมรับสภาพเขาก็อายคนอื่นค่ะ

เป็นเรื่องปกติ

ถ้าพรินต์ข้อมูลในกระทู้วิธีแก้ไขหนี้บนปักหมุดข้างบนให้เขาอ่านอาจช่วย

สงบสติอารมณ์ไม่ให้กลัวได้ค่ะ

1.คุณต้องพยายามใช้หนี้ที่ดอกเบี๊ยสูงๆก่อน จากข้อมูล จะเป็นหนี้นอกระบบภรรยา 200,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน (ดอกเบี๊ยเดือนละ 6000)
2.แล้วก็หนี้รอบระบบ ส่วนตัว 250,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อเดือน (ดอกเบี๊ยเดือนละ 5000)
3.เงิน 50000 อย่าเอาไปปิดบัตรเครดิต นะครับ เก็บไว้สำรองในบ้าน หรือใช้หนี้นอกระบบภรรยาดีกว่า
4.ถ้าใช้หนี้นอกระบบหมดแล้วก็จ่ายหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ 86000 บาท ถ้ายังใช้หนี้นอกระบบ 450000 ไม่หมด ไม่ต้องจ่ายบัตรเครดิตนะครับ เพราะดอกเบี๊ยผิดชำระบัตรเครดิต ไม่เกินร้อยละ 20
5.ถ้าภรรยา ทดการโทรทวงไม่ไหว ก็เปลี่ยนเบอร์มือถือเลยครับ
6.ทำอย่างที่ผมแนะนำ คุณอาจต้องไปขึ้นศาลนะครับ แต่ไม่น่ากลัว เพราะเวลาไปศาลยังสามารถขอลดยอดเงิยและขอแบ่งจ่ายได้อีก มีบ้างคนขอลดยอดเงินได้ ร้อยละ 30 เลยทีเดียว(เพราะจริงเจ้าของบัตรกลัว คุณไม่จ่ายเลยมากกว่า) และสามารถขอแบ่งจ่ายได้นะครับ
7.ที่ดินที่มีขอกู้แบงค์ ได้ไหม แต่คิดว่าไม่น่าได้ เพราะภาระผ่อนคุณเยอะมาก ผมคิดว่า ควรขายญาติๆไปนะครับ แบบมีสัญญาใจว่า ภายใน 5 ปี ขอซื้อคืนราคาเดิม
8.ขอยืมเงิน ญาติ พี่น้อง พ่อแม่ได้ไหม
9.คุณต้องการเงิน ประมาณ 500000 เพื่อมาใช้หนี้นอกระบบ หนี้บัตรเครดิต โดยด่วน แทบจะรอไม่ได้ เพราะดอกเบี๊ย 3 อย่าง 14000 บาท (6000+5000+1000+1000+1000 บาท)
10.รถ จำเป็นไหมครับ ถ้าไม่ใช้เป็น ขายทิ้งไปดีกว่า จะได้ลดภาระผ่อนไปอีก 5300
สรุปนะครับ
1.ยืมเงินญาติ แบบไม่มีดอกเบี๊ย
2.ถ้ายืมไมได้ ยังไงก็ต้องขายที่ดิน
เอาเงินจาก ข้อ 1-2 ประมาณ 500000 + กับ 50000 ที่มีอยู่ตอนนี้ ไปใช้หนี้ นอกระบบ และบัตรเครดิต
3.ขายรถ
4.ตั้งใจเลิกใช้บัตรเครดิตเลยนะครับ เพราะดูแล้ว จิตใจยังไม่แข็งพอ
เท่าที่ดู จำเป็นต้องขายรถ เพราะรายได้ครอบครับคุณ อยุ่ 37000-39000 ผ่อนบ้าน+หนี้ออมสิน ก็ 16400 คุณจะเหลืองเงินใช้จ่าย 20600-22600 บาทเท่านั้นเอง ถ้าคุณ ไม่ขายรถ เงินไม่นาจะพอใจ
ก็ต้องไปกดบัตรเครดิต และกู้นอกระบบอีก

ต้องคุยเปิดใจกับภรรยาด้วยนะครับ ว่าหนี้สินพวกนี้ ครั้งที่ผ่านมาได้ เพราะมีที่ดิน มรดก แต่ถ้าไม่มี ครอบครัว อาจต้องแตกแยก ลูกก็กลายเป็นเด็กมีปัญหา
และคุณ ก็ถามภรรยาด้วย ว่า จริงๆ ต้องใช้เงินเดือนละเท่าไร ผมดูแล ภรรยาคุณเงินไม่พอใจนะครับ ถึงต้องไปใช้บัตรเครดิตและหนี้นอกระบบ


ขอให้โชคดี

หนี้นอกระบบทั้งสองตัว ใช้โฉนดที่ดินของเรา(มรดก) ค้ำประกัน ซึ่งไม่อยากให้เสียไปเลย
คุณก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยึดติดสิ่งเหล่านั้น
ตัวเองจะจมน้ำตายอยู่แล้วยังจะเอาของนอกกายมาดึงตัวเองให้จมน้ำเร็วขึ้นอีก
ไปใช้หนี้ตัวที่มีโฉนดที่ดินก่อน แล้วเอาที่มาขาย ช่วยได้ระดับหนึ่ง
ไม่เช่นนั้นที่ดินก็หลุดมืออยู่ดี
และอีกอย่างหนึ่งห้ามเด็ดขาดไปยืมเงินคนอื่นๆมาใช้หนี้ มันไม่มีประโยชน์อะไร
เงินที่ใช้หนี้ต้องเป็นเงินของตัวเองเท่านั้น หยุดจ่ายหนี้ในระบบให้หมด
แล้วมาคิดเรื่องหนี้นอกระบบก่อนเป็นเรื่องที่ 1 ว่าจะจัดการแบบไหน อย่าลืมนะครับว่า จะหนี้ ใน-หรือนอก
มันขึ้นอยู่ที่การเจรจา
ในชมรมเรามีข้อมูลมากมายหาอ่านและเก็บมาใช้ให้ตรงกับตัวเอง

ขอบคุณทุกๆ คำแนะนำครับ.... ที่ดิน ที่ไม่อยากให้เสียไปเลย เพราะมันเป็นมรดกของผมเองครับ..ตอนนี้ พ่อแม่ ไม่ทราบเรื่องที่ครอบครัวผมเป็นหนี้... ส่วนรถยนต์ พอจะขายได้ เพราะยังพอใช้รถจักรยายนต์ ไปทำงานพิเศษ เพื่อที่จะหารายได้ ได้บ้าง..

สิ่งแรกที่ทำได้ คือ ขายรถ แล้วก็เคลียร์หนี้บัตรเครดิต ส่วนหนี้นอกระบบ คงต้องใช้เวลาอีกสักนิดครับ... ไม่อยากเสียที่ดินไปจริงๆ

ตอนนี้ เครียดตรงที่ภรรยา ไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับปัญหา นี่แร่ะครับ เมื่อคืนนี้ เขาก็หนีไปนอน อีกห้องนึง คนเดียว.... ไม่ยอมที่จะปรึกษา หรือพูดคุยกันเลย....

ใจเย็นๆ ค่ะ...โทรสายด่วนหรือยังคะ...อย่างที่คุณแก้วจ๋าว่าไว้..."อย่าให้หนี้..มาทำลายชีวิตและครอบครัว"

เห็นยอดหนี้สินเทียบกับรายได้...แล้วก็หนักใจแทนเลยนะคะ...แต่ขอให้มีสติ...

ค่อยๆ คิดแก้ปัญหาไปทีละเปราะดีกว่านะคะ..

เริ่มเลย..ก็คงต้องหยุดจ่ายบรรดาบัตรเครดิตทั้งหลาย...(ต้องเตรียมรับมือด้วย)

เพื่อเก็บเงินจัดการเคลียหนี้สินนอกระบบก่อน...เพราะหนี้นอกระบบใช้ที่ดินค้ำประกัน

ลองประเมินราคาที่ดินหรือยังคะ..เท่าไหร่..คุ้มไม๊ที่เราจะไถ่ถอนคืนมา....

แล้วถ้าตัดใจเรื่องที่ดินได้..ก็ขาย..ถ้าได้ราคาดี..ก็เอามาปลดหนี้ที่เหลือ...

หรือเห็นว่าราคาที่ดินไม่สูง (ซึ่งไม่น่าจะใช่...น่าจะได้ราคาดี)...ตัดใจได้ก็ปล่อยหลุดไป

แล้วเก็บเงินใช้หนี้บัตรเครดิตก่อน...

เอาแค่นี้ก่อน...แค่นี้ก็ใช้ระยะเวลานานมากแล้ว...

บัวเห็นด้วยกับคำพูดของคุณเชาวเลิศ
จะจมน้ำตายอยู่แล้ว ยังจะห่วงทรัพย์สมบัติ
คุณคอยดูนะ...ถ้าคุณคิดอะไรไม่ขาด คุณห่วงทรัพย์ภายนอก ผูกติดกับคำว่า "มรดก ปล่อยให้หลุดไป จะไปบอกพ่อบอกแม่ได้ยังไง...หรือ มรดกยังไม่มีปัญญารักษา..."
สารพัดคำพูดที่มาบั่นทอนใจตัวเอง
คุณอาไพโรจน์ ผู้ก่อตั้งชมรม เคยบอกพวกเราเอาไว้ว่า
"การแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้ไม่ยาก ถ้าไม่ผูกติดกับทรัพย์สมบัติ"
"การแก้ไขปัญหาหนี้ ทางกายไม่ยาก แต่ทางใจยากกว่า"
คุณยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ เพราะการรักษาหน้าตา ทำให้หมุนเงิน หมุนบัตรวนเวียน จนทำให้หนี้สินพอก
กอบัวเคยจะเอาบ้านไปรีไฟแนนซ์เพื่อมาจ่ายค่าบัตร เกือบตกนรกไปแล้ว ดีที่มาเจอชมรมฯ ก่อน

คุณไปทำบัญชีรายรับ รายจ่ายดีๆ ทำให้ละเอียด อย่าพึ่งท้อ
กอบัวเองทำบัญขีออกมาทีแรก หนี้บัตรเครดิตอย่างเดียวเกือบล้าน...แทบอ๊วกเป็นเลือด
ไม่นับหนี้อื่นๆ และค่าใช้จ่ายของลูกๆอีกสี่คน ที่กำลังกินกำลังนอน...
แล้วตั้งหน้าตั้งตาอ่านกระทู้ อ่านให้เข้าใจ ไม่เข้าใจตรงไหน อ่านซ้ำ แล้วโพสถามในกระทู้เดิม ตัวนี้ เพื่อนๆจะได้ติดตามที่มาที่ไปของคุณได้
เรามีตัวอย่างของสมาชิกหลายคนที่ มีปัญหาเรื่องหนี้ บวกพ่วงด้วยคู่ชีวิตไม่เข้าใจ หรือไม่กล้าบอกคู่ชีวิต
เพื่อนๆ หลายคน ช่วยกันแนะนำ ช่วยกันประคับประคอง จนบางท่าน โอเคแล้ว
ไปอ่านด้วยตัวเองดีกว่า...


www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=18562&Itemid=52#28011 เรื่องของคุณแป้ง

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=11914&Itemid=52#11920 เรื่องของคุณ jackhunter

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=26612&Itemid=52 เรื่องของพ่อยอด

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=29817&Itemid=52 เรื่องของน้องแป๋วแหว๋ว

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=1333&Itemid=52#3868 โค้งสุดท้ายกับ HSBC ของคุณ ultra สมาชิกตั้งแต่บอร์ดเก่า ใช้หนี้แทนภรรยา

ตอนนี้ภรรยาของคุณยังอับอาย ยังมีทิฐิมานะ ยังดื้อรั้น ยัง...สารพัด ผุ้หญิงเวลาดื้อ ยิ่งกว่าแมว บอกให้ไปข้างหน้า เสือกทำโก่งตัวถอยหลัง ดึงหางให้ถอยหลัง ดันดื้อรั้นดันทุรัง เถลือกไปข้างหน้า (ไม่ได้เอามาจากชีวิตตัวเองนะคะ)
คุณเก็บเงิน ทำตามขั้นตอนของชมรมฯ ให้ได้ก่อน ภรรยาจะเข้าใจเอง
ถ้ามีเงินเก็บออมเอาไว้ แล้วรอให้หนี้เน่ามากๆ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยจ่าย ย้ำ อ่านมากๆ จะได้รู้ขั้นตอนของตนเองว่า ต้องเดินไปทางไหน
ที่สุดแล้ว คำพูดที่กอบัวบอกครอบครัวทุกครอบครัวคือ "ความรักจะนำทางเราไป"
เชื่อมั่นในกันและกัน วันนี้เขาไม่เชื่อมั่น ไม่เป็นไร คุณเชื่อมั่นตัวเองก็พอ
เป็นกำลังใจให้คุณ

jaownay24 เขียน: ขอบคุณทุกๆ คำแนะนำครับ.... ที่ดิน ที่ไม่อยากให้เสียไปเลย เพราะมันเป็นมรดกของผมเองครับ..ตอนนี้ พ่อแม่ ไม่ทราบเรื่องที่ครอบครัวผมเป็นหนี้... ส่วนรถยนต์ พอจะขายได้ เพราะยังพอใช้รถจักรยายนต์ ไปทำงานพิเศษ เพื่อที่จะหารายได้ ได้บ้าง..

ก็ยังดีที่จะปล่อยค่ะ

สิ่งแรกที่ทำได้ คือ ขายรถ แล้วก็เคลียร์หนี้บัตรเครดิต ส่วนหนี้นอกระบบ คงต้องใช้เวลาอีกสักนิดครับ... ไม่อยากเสียที่ดินไปจริงๆ

เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ย้อนไปอ่านกระทู้ปักหมุดใหม่ไหมค่ะ วิธีแก้หนี้ค่ะ
เราบอกว่า กรณีหนี้หลายตัว ควรพิจารณาปลดหนี้ตัวที่ดอกเบี้ยโหดที่สุด
และเน้นว่า ในระบบนะเอาอยู่ ไม่น่ากลัว แต่นอกระบบนะ จัดเคลียร์เป็น
อันดับแรก เพราะคุณจะเอาไม่อยู่ ดอกเบี้ยขนาดนั้น เคยคำนวณหรือยัง
ว่า ปาไปเท่าไรแล้วค่ะ แม้ตัวเงินจะสูง แต่ต้องตัดก่อนค่ะ

ส่วนในระบบนะ พวกเจ้าหนี้ตายยากค่ะ ไม่ต้องห่วงเขา และไม่ต้องกลัว


ตอนนี้ เครียดตรงที่ภรรยา ไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับปัญหา นี่แร่ะครับ เมื่อคืนนี้ เขาก็หนีไปนอน อีกห้องนึง คนเดียว.... ไม่ยอมที่จะปรึกษา หรือพูดคุยกันเลย....

จะให้คุยอะไรค่ะ เขาคงรอคุณเดินหน้าก่อนมัง ทำให้เห็นว่า คุณทำได้ค่ะ
เดี๋ยวเขาก็ตามมาเองค่ะ

คุณมัวแต่พะวงเรื่อง ภรรยาไม่เดินตาม ไม่มาร่วมนั่งโต๊ะเสวนาหนี้ จนลืม
ว่า ตัวเองต้องทำการบ้านอะไรบ้าง

แบบคุณกอบัวบอกค่ะ ผู้หญิงนะ เวลาบอกไม่ กลับทำ ความดื้อและไม่เชื่อ
ว่า เป็นไปได้ ทำให้เขาไม่อยากให้ความร่วมมือ แถมยังมีเงินให้ถลุงอีก ก็ยิ่ง
มั่นใจตัวเองว่า วิธีของเธอเจ๋งกว่าค่ะ

เออ พวกคุณ 2 คน เงินเดือนแค่หมื่นต้นๆ แต่ ไม่รู้ว่า โชคดีหรือโชคร้าย
ขอกู้เขามาเกินความสามารถตัวเองทะลุล้าน

เรื่อง เจ้าหนี้ ทั้งออมสิน และอาคารสงเคราะห์ ต้องทำใจนะ ค่อนข้างลด
น้อยเพราะเขาคิดดอกเบี้ยต่ำ

ส่วนรถกับธนชาติ เจ้าหนี้ที่ไม่ลงง่ายๆ ทำอะไรตกลงอะไร อย่าลืมขอชื่อ
เอกสารให้อุ่นใจด้วยนะค่ะ

คืนพรุ่งนี้ ผมจะเริ่มคุยกับภรรยา ครับ เพราะ 1 วัน กับ 1 คืนที่ผ่านมา เราสองคนต่างก็เงียบกัน และนอนแยกห้องกัน..(เขาทำ ผมนอนกับลูก) ขอบคุณทุกๆ ความเห็นครับ..ทั้งพี่กอบัว (สำนวนแรงมาก) พี่แก้วจ๋า ที่ให้ทางสว่าง ในการคุยกับภรรยา พี่ลี คุณ0863172127 ที่วิเคราะห์การเงินให้เห็นชัดๆ และอีกหลายๆ ท่านที่มิได้เอ่ยนามครับ....

ก่อนอื่นคงต้อง คุยกับภรรยา ให้เกิดความเข้าใจ และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่อไป....ยังไงก็ขอกำลังใจด้วยครับ...

สวัสดีค่ะ

เห็นข้อความต่างๆที่อยู่ในกระทู้ สิ่งแรกเลยที่ต้องทำคือ ใจเย็นๆ ใจนิ่งๆ (อาจนั่งสมาธิช่วยได้ค่ะ)

เมื่อเรานิ่งแล้ว เราจะเกิดความคิดในการแก้ปัญหา ถ้ามีปัญหาและต้องการเดินไปข้างหน้าด้วยกันทั้ง

ครอบครัว ต้องบอกภรรยา ให้เข้ามาอ่านเว็บนี้ค่ะ ให้เขาอ่านก่อน แล้วค่อยคุยเพราะตอนนี้เหมือนว่า

เขากับคุณ ยังยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น ในมุมมองที่แตกต่างกัน ถ้าภรรยาคุณได้อ่านข้อมูลที่ว่า

"วิธีแก้หนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน" พี่เชื่อว่าภรรยาคุณจะเปิดใจ และช่วยกันคิดกับคุณเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา

ร่วมกัน ยังไงก็ตาม พี่ขอเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ

ไม่มีอะไรต้องรีบร้อน ด่วนจี๋ หรอกค่ะโดยเฉพาะเรื่องหนี้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องติดคุกติดตาราง แต่เป็น

เรื่องการใช้เงินที่ผิดพลาด เท่านั้น ส่วนเรื่องการทวงหนี้โหด มันเป็นหน้าที่ ของพวกเจ้าหนี้อยู่แล้ว

ในเมื่อเอาเงินเขามา ก็ต้องโดนทวง เป็น "ธรรมดา" ไม่ต้องตกใจ มันเป็นสัจธรรม ค่ะ

ถ้าภรรยาคุณ อ่านแล้ว เธอจะรู้ว่า หนี้ที่ต้องใช้นั้น "ทุกอย่าง รอได้" แต่มันมีวิธีค่ะ ต้องอ่านอย่างเดียวเลยค่ะ เจ้าหนี้เขาทวงเสร็จก็ไปทวงคนอื่นต่อ ไม่มานั่งเครียดเหมือนเราหรอกค่ะ เพราะงั้น อย่าไปใส่ใจกับการทวงหนี้มากเลย จะพูดอะไร ก็ช่างเขาเถอะ วางสายแล้ว ก็ปล่อยอารมณ์วางไปกับสายโทรศัพท์เลยนะคะ

สู้ๆนะคะ พี่เป็นหนี้ เกือบ เจ็ดล้าน ตกงาน ไม่มีรายได้ โดนทวงหนี้ แต่ก็ยังหลับสบาย เพราะมีวิชา

"วิธีแก้หนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน" ทุกอย่างมีทางออกค่ะ อย่าคิดมากนะคะ อย่าท้อแท้ชีวิต และครอบครัวต้องรักษาไว้ อย่าให้หนี้ มาทำลายความรัก ในครอบครัวนะคะ

ต้องบอกภรรยา ให้เข้ามาอ่านเว็บนี้ค่ะ ให้เขาอ่านก่อน แล้วค่อยคุยเพราะตอนนี้เหมือนว่า

เขากับคุณ ยังยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้น ในมุมมองที่แตกต่างกัน ถ้าภรรยาคุณได้อ่านข้อมูลที่ว่า

"วิธีแก้หนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน" พี่เชื่อว่าภรรยาคุณจะเปิดใจ และช่วยกันคิดกับคุณเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา



ผมเคย copy web link ไปให้เขาอ่านแล้วเขา แต่เขา ไม่เคยจะเปิดอ่านสักที ถามที่ไร ก็เป็นแบบนี้เสมอ... คงต้องมานั่งพูดคุยกันดีดี...ให้เขายอมรับ แล้วค่อยเอาข้อมูลอื่นป้อนอีกทีครับ....


ขอบคุณกำลังใจที่มอบให้กันครับ....