ได้รับหมายศาลของยูโอบี รบกวนสอบถามครับ

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #3368 โดย Chutatip
ในแบบ ผบ.2 เขียนว่า"ให้ท่านไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 9.00 น." แต่มีตรายางปั๊มด้านล่างและมีใบสีชมพู(ส่วนไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท) ปิดหน้าหมายศาลบอกว่า ขอให้ท่านมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยในวันที่ 27 ม.ค.55 เวลา 9.00 น.

รบกวนสอบถามว่าผมต้องไปศาลทั้ง 2 วันเลยหรือเปล่าครับ หรือว่าไปวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ตามที่บอกใน ผบ.2 ได้เลย ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #3371 โดย Nok2865

van เขียน: ในแบบ ผบ.2 เขียนว่า"ให้ท่านไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 9.00 น." แต่มีตรายางปั๊มด้านล่างและมีใบสีชมพู(ส่วนไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท) ปิดหน้าหมายศาลบอกว่า ขอให้ท่านมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยในวันที่ 27 ม.ค.55 เวลา 9.00 น.

รบกวนสอบถามว่าผมต้องไปศาลทั้ง 2 วันเลยหรือเปล่าครับ หรือว่าไปวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ตามที่บอกใน ผบ.2 ได้เลย ขอบคุณครับ

เฮ้อ...อยากจะตาย พิมพ์ตอบไปตั้งเยอะ เด้งไปหน้า Google เฉยเลย เซ้ง...เอาใหม่แล้วกัน

คำว่า ให้การและสืบพยาน ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า "นัดสู้คดี" นั่นแหละค่ะ คุณพลาดนัดนี้ไม่ได้ หากประสงค์จะพบศาลและอยากสู้คดี
แต่ด้วยความคดีผู้บริโภคมันเยอะ ล้นศาล กระบวนการ "พบกันครึ่งทาง" จึงเกิดขึ้น
โดยศาลจะเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ว่า ตกลงกันเองได้ไหม?
ในวันที่ 27 มค. หากคุณพอใจในข้อเสนอของเจ้าหนี้ ผ่อนจ่ายไหว ดอกเบี้ยถูก คุณก็ไกล่เกลี่ย ทำยอม อ่านหนังสือที่เสมียนเขียนขึ้น ว่าตรงตามที่ตกลงไหม ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการไกล่เกลี่ย
คุณก็ไม่ต้องไปศาลในวันสู้คดี (13กพ.55)
"ประเมินตัวเองก่อนค่ะ" ว่า มีเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ จ่ายให้เขาเป็นงวดๆได้ไหม ถ้าไกล่เกลี่ยหรือทำยอมไปแล้ว จะจ่ายได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า ต้องทำบัญชีออกมาดู
ถ้าไม่มีเงิน อยากเจอศาล ให้ท่านดูเรื่องดอกเบี้ยให้ ก็ไปสู้คดีในวันที่ 13 กพ.เลยค่ะ
เพราะถึงพลาดไม่ไปวันที่ 27 มค. ก็ยังมี "ให้ท่านไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 9.00 น."
เห็นไหมค่ะ ว่ายังไกล่เกลี่ยได้อีก
อย่าลืมนะคะ "ประเมินตัวเองก่อน" ว่ามีศักยภาพในการชำระหนี้ได้แค่ไหน
คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด คือ ตัวคุณเอง
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Lazio009

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #3384 โดย Chutatip
ขอบคุณคุณกอบัวครับ

แนวทางของผมคืออยากจะขอเลื่อนนัดศาลไปอีกซักเดือนหรือ 2 เดือน เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้อีกที เพราะช่วงเดือนมี.ค.น่าจะได้โบนัสมาก้อนนึง ถ้าเจรจาสำเร็จได้ยอดที่พอใจก็จะปิดหนี้เลย

ผมสามารถขอเลื่อนได้ในวันที่ 13 ก.พ.ใช่ไม๊ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #3385 โดย Champcyber99
ผมสามารถขอเลื่อนได้ในวันที่ 13 ก.พ.ใช่ไม๊ครับ
ได้ครับบอกศาลท่านไปว่าเรายังตกลงกลับเจ้าหนี้ไม่ได้ท่านให้เราเลื่อนครับ แล้วแต่ท่านจะให้กี่วันส่วนมากได้30-60วันยูโอบีของผมได้50%ครับ สู้ๆๆครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #3387 โดย Memmory1408
หากมีเอกสารอะไรมาให้เซ็นก็อ่านเอกสารให้ละเอียดก่อนเซนน่ะคับ
หลายท่านโดย ทนาย ใช้ลูกไม้ ให้เซ็นเอกสารรับสภาพหนี้. อ่านให้ละเอียดรอบคอบน่ะคับ

เอาใจช่วยคับ :im_here:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #10201 โดย Chutatip
ไปขึ้นศาลนัด 2 มาแล้วครับ เพราะตกลงเรื่องส่วนลดไม่ได้ ธ.ลดให้น้อยมาก และไม่ให้ผ่อนด้วย เงินที่ได้มาไม่พอกับยอดหนี้ที่เขาลดให้ เลยต้องไปศาลนัด 2 และให้ศาลพิพากษาไปเลยโดยขอความเมตตาศาลเรื่อง ด/บและค่าธรรมเนียมต่างๆ ศาลท่านบอกว่ายังไงก็จะดูเรื่องพวกนี้ให้อยู่แล้ว และจะมีคำพิพากษาภายใน 7 วัน

หลังจากพบศาลแล้วคุยกับทนายโจทย์บอกว่าให้รอคำพิพากษาโดยเขาจะเป็นคนคัดคำพิพากษาและส่งไปให้ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านซึ่งจะใช้เวลาประมาณเดือนหรือ 2 เดือน ก็เลยมีเรื่องรบกวนสอบถามว่าการส่งคำพิพากษาไปที่บ้าน โดยปกติแล้วเป็นหน้าที่ของทนายโจทย์หรือจนท.ศาลครับและระหว่างที่รอคำพิพากษาถ้า จนท.ธนาคารติดต่อมาเราสามารถคุยเรื่องการชำระหนี้ได้เลยหรือเปล่าครับ หรือว่ารอคำพิพากษามาถึงก่อนจะดีกว่า

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #10206 โดย jackTs

van เขียน: โดยปกติแล้วเป็นหน้าที่ของทนายโจทย์หรือจนท.ศาลครับและระหว่างที่รอคำพิพากษา

เคยตอบไปแล้วนะครับ...ลองไปอ่านดู

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=3037&view=flat&catid=2


van เขียน: ถ้าจนท.ธนาคารติดต่อมาเราสามารถคุยเรื่องการชำระหนี้ได้เลยหรือเปล่าครับ หรือว่ารอคำพิพากษามาถึงก่อนจะดีกว่า

ต้องรอคำพิพากษามาก่อนครับ

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #10207 โดย ntps
การส่งคำพิพากษาไปที่บ้าน โดยปกติแล้วเป็นหน้าที่ของทนายโจทย์หรือจนท.ศาลครับ

ตามที่คุณนกกระเทศแจ้งใน link ค่ะ แต่ ถ้าคุณอยากทราบผล สามารถโทรไปที่
ศาลตรวจสอบได้ หลังจากวันตัดสิน ประมาณ15 วันขึ้นไป ขึ้นกับปริมาณคดีบนศาล
แต่ละที่ค่ะ คุณอาจสอบถามทางศาลว่า โดยทั่วไป คำพิพากษาของศาลนี้จะ
แล้วเสร็จประมาณเมื่อใด หลังคำพิพากษาออกมา คุณสามารถไปคัดสำเนาได้
ที่ศาลเช่นกันค่ะ เพราะบางทีการส่งคำพิพากษาอาจล่าช้าค่ะ

แต่การทราบผลเร็ว คุณก็ต้องปฎิบัติตามเร็วขึ้นค่ะ การรอคำพิพากษาก่อนจะทำให้
คุณทราบจำนวนหนี้ที่แท้จริง ไม่หลงทางกับคำขู่ของเจ้าหนี้ค่ะ ซึ่งอาจอัพตัวเลข
สูงกว่ายอดฟ้องก็เป็นได้ค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #12416 โดย Chutatip
หลังจากขึ้นศาลนัด 2 วันที่ 18 เม.ย. ยังไม่ได้รับคำพิพากษาจนถึงวันนี้ มีจนท.แบงค์โทรมาเรื่องการชำระหนี้ ผมก็บอกไปว่ายังไม่ได้คำพิพากษาเลย จนท.ก็บอกว่าให้คุยกันก่อนว่าจะชำระยังไง ถ้ารอคำพิพากษาเดี๋ยวจะช้าไป คุยไปเรื่อยๆก็สรุปว่าให้ชำระหนี้ตามยอดเงินต้น(ประมาณเกือบๆ 80,000 บาท) ส่วนค่าธรรมเนีบมต่างๆและค่าทนายทางแบงค์จะพยายามช่วยเหลือให้ ให้ผมไปคิดดูว่าจะชำระยังไงแล้วอีก 2-3 วันจะติดต่อมาอีกทีและจะแจ้งคำพิพากษาให้ทราบด้วย

ผมมีเรื่องรบกวนถามดังนี้ครับ
-ถ้า จนท.แบงค์แจ้งคำพิพากษาให้ผมรู้ เขาจะถือว่าผมได้รับทราบคำพิพากษาแล้วได้หรือเปล่าครับ
-ถ้าผมบอกว่าจะรอคำพิพากษาฉบับจริงที่จะส่งไปที่บ้าน โดยไม่ไปคัดเองที่ศาล ถ้าเขาไม่รอและจะยื่นเรื่องต่อกรมบังคับคดีเพื่ออายัดเงินเดือนหรือยึดทรัพย์ได้เลยหรือเปล่าครับ
-อันนี้สอบถามล่วงหน้าครับ ผมตั้งใจว่าจะเจรจาชำระหนี้แบบผ่อนจ่ายเป็นงวดๆไปจำนวนเงินเท่านี้ภายในระยะเวลาเท่านี้ ซักระยะนึงมีเงินก้อนก็จะขอเจรจา hair cut เคยมีเคสที่ทางแบงค์ไม่ยอมหรือเปล่าครับ คือจะให้ชำระเป็นก้อนอย่างเดียวเลย

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #12422 โดย Nok2865

van เขียน: ผมมีเรื่องรบกวนถามดังนี้ครับ
-ถ้า จนท.แบงค์แจ้งคำพิพากษาให้ผมรู้ เขาจะถือว่าผมได้รับทราบคำพิพากษาแล้วได้หรือเปล่าครับ
-ถ้าผมบอกว่าจะรอคำพิพากษาฉบับจริงที่จะส่งไปที่บ้าน โดยไม่ไปคัดเองที่ศาล ถ้าเขาไม่รอและจะยื่นเรื่องต่อกรมบังคับคดีเพื่ออายัดเงินเดือนหรือยึดทรัพย์ได้เลยหรือเปล่าครับ
-อันนี้สอบถามล่วงหน้าครับ ผมตั้งใจว่าจะเจรจาชำระหนี้แบบผ่อนจ่ายเป็นงวดๆไปจำนวนเงินเท่านี้ภายในระยะเวลาเท่านี้ ซักระยะนึงมีเงินก้อนก็จะขอเจรจา hair cut เคยมีเคสที่ทางแบงค์ไม่ยอมหรือเปล่าครับ คือจะให้ชำระเป็นก้อนอย่างเดียวเลย

ขอบคุณครับ


การอ้างว่าไม่ได้รับคำพิพากษา แล้วไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้สามารถถือคำบังคับไปยังกรมบังคับคดีได้ค่ะ เพราะถือว่า การส่งหมายศาล คำพิพากษา จะต้องกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของศาล (แมสเสนเจอร์ศาล) เป็นผู้นำส่ง
ไม่ใช่กระทำโดยฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายเจ้าหนี้ เป็นผู้นำส่ง
หลังจากที่คุณเดินลงจากศาลแล้ว อีก 15 - 30 วันจะถือว่าคุณรับทราบคำพิพากษาแล้ว
ถือว่าเป็นการ "ปิดหมายโดยชอบ" แม้ว่าคุณจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม เพราะมันอาจจะปลิวตกน้ำ เด็กข้างบ้านเอาไปพับจรวดเล่น ก็ให้ถือว่า คุณรับทราบแล้ว
อ่านเพิ่มเติมในนี้ที่พี่นกระจอกเทศเคยโหดกับสมาชิกมาแล้ว ชื่อกระทู้โดนใจกอบัวมากๆ "โหดไหมครับ"
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=8403&Itemid=29#8557

ส่วนการเจรจาแฮร์คัท ขึ้นอยู่กับการต่อรองของคุณ ถ้าไม่มีเงินก้อนที่จะปิด ก็ผ่อนจ่ายไปค่ะ คำนวณเงินในกระเป๋าของคุณว่าไหวที่เท่าไหร่ หรือจะเข้าไปอ่านในกระทู้นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=11682&Itemid=29 ข้อควรระวังในการหักคอจ่าย

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Lazio009

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #12454 โดย ntps

van เขียน: หลังจากขึ้นศาลนัด 2 วันที่ 18 เม.ย. ยังไม่ได้รับคำพิพากษาจนถึงวันนี้ มีจนท.แบงค์โทรมาเรื่องการชำระหนี้ ผมก็บอกไปว่ายังไม่ได้คำพิพากษาเลย จนท.ก็บอกว่าให้คุยกันก่อนว่าจะชำระยังไง ถ้ารอคำพิพากษาเดี๋ยวจะช้าไป คุยไปเรื่อยๆก็สรุปว่าให้ชำระหนี้ตามยอดเงินต้น(ประมาณเกือบๆ 80,000 บาท) ส่วนค่าธรรมเนีบมต่างๆและค่าทนายทางแบงค์จะพยายามช่วยเหลือให้ ให้ผมไปคิดดูว่าจะชำระยังไงแล้วอีก 2-3 วันจะติดต่อมาอีกทีและจะแจ้งคำพิพากษาให้ทราบด้วย

ผมมีเรื่องรบกวนถามดังนี้ครับ
-ถ้า จนท.แบงค์แจ้งคำพิพากษาให้ผมรู้ เขาจะถือว่าผมได้รับทราบคำพิพากษาแล้วได้หรือเปล่าครับ
-ถ้าผมบอกว่าจะรอคำพิพากษาฉบับจริงที่จะส่งไปที่บ้าน โดยไม่ไปคัดเองที่ศาล ถ้าเขาไม่รอและจะยื่นเรื่องต่อกรมบังคับคดีเพื่ออายัดเงินเดือนหรือยึดทรัพย์ได้เลยหรือเปล่าครับ
-อันนี้สอบถามล่วงหน้าครับ ผมตั้งใจว่าจะเจรจาชำระหนี้แบบผ่อนจ่ายเป็นงวดๆไปจำนวนเงินเท่านี้ภายในระยะเวลาเท่านี้ ซักระยะนึงมีเงินก้อนก็จะขอเจรจา hair cut เคยมีเคสที่ทางแบงค์ไม่ยอมหรือเปล่าครับ คือจะให้ชำระเป็นก้อนอย่างเดียวเลย

ขอบคุณครับ


ไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้า คุณก็ต้องได้รับคำพิพากษาแน่นอนค่ะ
อย่าไปกังวลกับเรื่องนี้มากค่ะ เอาเป็นว่า หลังจากที่ไปขึ้นศาล
นัดสุดท้ายแล้ว จะเป็นเวลาที่คุณและเจ้าหนี้กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา
อีกรอบค่ะ แต่ครั้งนี้ เจ้าหนี้คุณถือไพ่เหนือคุณ คือ คำพิพากษา
คุณจะโยเย งอแง ยื้อไปก็ได้ไม่นานค่ะ เขาอาจไม่รอคุณให้คำตอบ
ก็ได้ เขาก็ส่งเรื่องไปที่กรมบังคับคดี เพื่อขอายัดเงินเดือน หรือ
ทรัพย์สินคุณแทนค่ะ
ดังนั้น ใช้เวลา วาทะศิลป์ให้เป็นประโยชน์ถ้าคิดว่า ไม่อยากถูก
อายัดค่ะ การต่อรองไม่ใช่ว่า ต้องจบเร็ว หรือแค่ครั้งเดียว คุณ
สามารถต่อรองได้เรื่อยๆ จนกว่าเป็นที่ยอมรับทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
อย่ารีบรับข้อเสนอที่ไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบว่า จะทำได้หรือไม่ค่ะ
ขอให้โชคดีค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.519 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena