เบื่อพวกตามทวงหนี้

ถ้าเราไม่รับโทรศัพท์พวกติตามทวงหนี้ของแบ็งค์ เขาสามารถเอามาเป็นข้ออ้างกับศาลได้ไหมครับ เบื่อมากๆๆจนอยากเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

ถ้าคุณไม่จ่ายเขา เขาก็ฟ้องคุณในเรื่องผิดนัดชำระ

ถ้าคุณไม่รับโทรศัพท์ เจ้าหนี้เขาก็อาจจะฟ้องคุณเร็วขึ้นเพราะส่อเจตนาหนีหนี้ เพื่อเขาจะไปบังคับคดี

ถ้าตั้งใจหยุดจ่ายแล้วต้องทำใจในการรับสายของเจ้าหนี้

ถ้าเจ้าไหนโทรมาวันละหลายครั้งก็แค่รับตามเราสะดวก

ถ้าทนรับไปถึงเดือนที่4 เจ้าหนี้ก็จะเบื่อการทวงและค่อยเงียบไปเอง

ถ้าคิดจะหยุดจ่ายแล้ว ตั้งสติ วางแผน และค่อยๆแก้ไขปัญหาครับ

jiew2013 เขียน: ถ้าเราไม่รับโทรศัพท์พวกติตามทวงหนี้ของแบ็งค์ เขาสามารถเอามาเป็นข้ออ้างกับศาลได้ไหมครับ เบื่อมากๆๆจนอยากเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

ข้อมูลที่เจ้าหนี้จะใช้ในการฟ้องศาลนั้น คือ เอกสารการเป็นหนี้ค่ะ...รวมถึงใบสมัครที่คุณได้ให้

ข้อมูลไว้ตอนที่คุณเริ่มสมัครค่ะ...ไม่เกี่ยวกับการรับ หรือ ไม่รับโทรศัพท์...

หากแต่การรับหรือไม่รับโทรศัพท์ มันอาจมีเหตุให้เจ้าหนี้ฟ้องคุณเร็วขึ้นต่างหาก...

แต่คุณจะเบื่อไปทำไมคะ...ในเมื่อคุณเลือกทางเดินนี้แล้ว...ควรหมั่นศึกษาหาข้อมูล

ให้เหมาะสมกับสถานะของตัวเองดีกว่าค่ะ.....รู้ตัวเองให้มากๆ เพื่อความหลุดพ้นวงจรหนี้ค่ะ...

ขอให้โชคดีค่ะ...

ขอบคุณพี่ๆที่แนะนำครับ ตอนนี้ผมจะนอทำ hair cut กับธนชาติ ยอดทั้งหมด 300,000.- ใครมีประสบการณ์กับแบงค์นี้ช่วยแชร์ให้ผมด้วยครับ...

ไม่แปลกใจเลยทำไมพี่ถึงโดนจิกหนัก ยอดของพี่ เข้าขั้น ลูกค้า วีไอพี นี่เอง

พี่ลองเทียบตามหลักคำนวนสัดส่วน เองนะครับ ยอดผมนิดเดียว(แต่ใหญ่สำหรับผม)

ผมกู้ นครหลวงไทยเดิม กู้ 30000 หยุดจ่ายตอน 18000 หยุดมาหนึ่งปีพอดี ดอกบานเป็น 21000

แฮร์คัทกันที่ 16500 ( ลดประมาณ 20% ) จ่าย 5500 สามงวด วันนี้เพิ่งไปจ่ายงวดแรกมา

ผมไม่แน่ใจว่า การเปลี่ยนชื่อธนาคาร( เทคโอเว่อร์ ) จะมีผลกับการเรียกเก็บหนี้หรือไม่ ( อาจวาง

นโยบายใหม่)

ก็มาแชร์เป็นข้อมูลครับ

แต่ธนาคาระนชาติไม่ทวงถี่เท่ากับ UOB และ CITI ADVANCE กับ กรุงศรีสไมล์แคชครับ 3 แบงค์นี้ดทรจนน่ารำคาญ เดี๋ยวนี้มีโทรตอนสองทุ่มด้วยนะครับ แย่มาก ยังไงผมก็จะรอทำแฮร์คัตครับ

อยากให้รับนะค่ะ โดยเฉพาะ UOB พูดจาไม่ดี เคยไม่รับ เค้าโทรมาที่ทำงานเลยค่ะ
แล้วบอกคนที่ทำงานว่าเราเป็นหนี้ น้องที่ทำงานบอกยังไม่เข้า ยังมา่ว่าน้องที่ทำงานว่าโกหกด้วย

เลยโทรไปขอสายหัวหน้าเค้า แจ้งเลยค่ะ เราสะดวกรับตอนไหน เวลาไหน
และไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่คนนี้ ชื่อนี้ โทรมาอีก

ตอนนี้หยุดมา 4 เดือน โล่งหูมากเลยค่ะ ถึงกับขั้นคิดถึง

ได้ใบยืนยันปิดกรุงศรีฯ มา 1 ใบ ยอดลด 45%

สู้ๆ นะค่ะ แล้วจะผ่านไปได้คะ

โทรมาเลยสองทุ่มหรือเปล่าครับ ถ้าโทรมาเกินกว่าแนวทางปฏิบัติติดตามทวงถามลูกหนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดไว้
โดยกำหนดไว้วันจันทร์ -ศุกร์ สามารถทวงถามได้ 8.00- 20.00 น.
วันหยุด 8.00 -18.00 น.


แนวทางการทวงหนี้.pdf

ถ้าเลยกว่านี้หรือถี่มากจนเกิดความรำคาญจนเกินไปก็สามารถร้องเรียนไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ครับ

แล้วจะช่วยให้เพลาๆลงได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทวงถามไม่ได้อีกนะ

แต่นั้นมันข้อกำหนดของแบ้งค์ชาติ แต่เราก็มีข้อกำหนดของเราเหมือนกันนะครับ โดยคุณแจ้งกลับไปทางเจ้าหนี้เลยว่าให้สามารถติดต่อเราได้ช่วงเวลาที่เราสะดวกได้ตอนไหน

โชคดีครับ

คืออยากจะบอกว่า เรื่องการโทรจิกนี่มันไม่มีมาตรฐานอะไรแน่นอนนักครับ

อย่างของผมธนชาติ 3 เดือนแรกโทรมาแค่ 2 ครั้งตอนนี้เดือนที่ 4 โทรจิกทุกวัน ในขณะที่ UOB 2 เดือนแรกหน้ารำคาญจริงๆพอเข้าเดือนที่ 3 หายเลย ทั้งก่อนฟ้องและหลังฟ้องไม่มีโทรมาสักแอะ มีล่าสุดเมื่อวาน เสียงหวานๆ "พี่อย่าลืมไปศาลพรุ่งนี้นะคะ เดี๋ยวจะเป็นคดีแดง จบ"

แต่ที่แน่ๆ ช่วง 3 เดือนแรกนี่ทุกที่คล้ายกันหมดคือถี่มาก ก็รับมือกันตามอัธยาศัยหล่ะครับ พอผ่าน 3 เดือนคุณก็จะชิน แล้วมันก็หายไปเอง

อย่าใส่ใจมาก

ขอบคุณทุกข้อเสนอแนะนะครับ ตอนนี้ได้รับจดหมายจากสำนักงานกฎหมายแล้ว ของธนชาติครับ ก็จะรอทำแฮร์คัตอ่ะครับ ผมน่าจะมาเจอเว็บนี้ตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องยืมโน่นมาโปะตรงนี้ บอกตรงๆครับเครียดมากจนแอบไปร้องไห้คนเดียว ไม่ให้ใครเห็น...

สู้ๆนะ!!! ดีแล้วที่มาผมกับ Board นี้ เดินตามทางคำแนะนำของชมรม สักวันหนี้จะหมด จะช้าหรือจะเร็วก็แค่นั่นเอง!!!

วันนี้ได้ปิดหนี้ของ Central Exclusive cash ไปแล้ว จากยอดปัจจุบันรวมดอกเบี้ยและค่าปรับ 102,500.-
โดยให้ปิดที่ 33,000.- รู้สึกดีใจมาก ก็ขอขอบคุณทางชมรมที่เสนอแนะวิธีที่สามารถใช้ได้จริง....ขอกราบคารวะกรรมการที่เสนอแนะวิธีแก้หนี้ให้ จากใจจริง

ผมมีบัตรกสิกรไทยที่ถูกฟ้อง ซึ่งผมต้องไปขึ้นศาลครั้งที่ 2นี้ในวันที่ 5 กพ. 2558
แต่จากที่เช็คจากข้อมูลเครดิตบูโรแล้ว ทางข้อมูลเครดิตบูโรลงวันที่ผิดนัดชำระ
คือวันที่ 07 กพ.2556 ซึ่งรออีก 2 วันก็จะครบ 2 ปีที่คดีหมดอายุความผมจะขอสอบถามว่า

1. ควรให้ศาลพิพากษาไปเลยไหม?
2. หรือควรไปขอศาลเลื่อนออกไป เพื่อขอต่อรองกับทางสำนักงานกฏหมายอีกครั้ง

ข้อมูลที่รายงานอยู่ในเครดิตบูโร เป็นแค่ข้อมูลคร่าวๆ(ข้อมูลประมาณการณ์)
ถ้าอยากรู้ข้อมูลที่แท้จริง คุณต้องไปหาเอาจากใน"หมายฟ้อง"ที่อยู่ในมือของคุณนั่นแหละ


โดยปกติแล้ว ในทางกฎหมายได้มีการตราบังคับเอาไว้ว่า หากมีการฟ้องร้องในคดีแพ่ง(หนี้เงิน)เกิดขึ้น
ทางฝ่ายโจทก์จะต้องแนบเอกสารทั้งหมดในธุรกรรมแห่งคดีนี้ แนบมาในหมายศาลทั้งหมด

ซึ่งจะต้องประกอบไปด้วย
- สำเนาจดทะเบียนจัดตั้้ง บริษัท/ธนาคาร ของฝ่ายโจทก์
- สำเนาใบสมัคร บัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด/สินเชื่อเงินกู้ ที่จำเลยเคยกรอกเอาไว้
- สำเนา บัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน ที่จำเลยใช้ในตอนสมัคร
- สำเนาเอกสาร ใบแจ้งหนี้/ใบชำระเงิน ของจำเลยทุกใบ ตั้งแต่ใบแรกจนถึงใบสุดท้ายก่อนฟ้องศาล
- สำเนา ประกาศ/คำสั่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าด้วยเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ย

ดังนั้น หมายศาลในแต่ละคดี มันจึงมีจำนวนกระดาษที่หนาเป็นปึกๆ(หนาพอๆกับสมุดโทรศัพท์) ด้วยเหตุนี้ยังไงล่ะครับ






ทั้งๆที่หมายศาลอยู่ในมือของคุณเองแท้ๆ

คุณยังไม่เปิดอ่านเลยหรือครับ?



สอบถามเรื่องอายุความ ขอคำแนะนำด้วยครับ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41083&Itemid=64#50231

ขอบคุณมากครับพี่นกกระจอกเทศ ผมคงต้องไปให้ศาลพิพากษาเลยล่ครับ
เพราะเลื่อนมา 2 ครั้งแล้วครับ

jiew2013 เขียน: ขอบคุณมากครับพี่นกกระจอกเทศ ผมคงต้องไปให้ศาลพิพากษาเลยล่ครับ
เพราะเลื่อนมา 2 ครั้งแล้วครับ

แค่ไม่มานัดแรก ครั้งเดียวเค้าก็น่าจะพิพากษาไปแล้วครับ
เพราะมันหมายความว่าเราหนีศาล

โจทก์ได้สิทธิ์เต็ม ... ผมโดนของเฟิร์สช้อยส์ไปแล้ว
ตอนนี้ก็โดนอายัดเงินเดือนอยู่