ชาตินี้ต้องหมดหนี้ให้ได้

สวัสดีทุกท่านค่ะ
ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกค่ะ เพราะประสบปัญหาเรื่องหนี้เป็นจำนวนมากที่ตนต้องรับภาระและอยากจะขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ทุกท่านค่ะ
ภาระหนี้ตอนนี้
1.บัตรเครดิต UOB ยอดค้างประมาณ74,000 บาท ค้างจ่าย 2 งวด (ตัวนี้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว)
2.บัตรกดเงินสด UOB ยอดค้างประมาณ 44,000 บาท ค้างจ่าย 2 งวด (ตัวนี้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว)
3.สินเชื่อเงินสด UOB ยอดค้างประมาณ 90,000 บาท ค้างจ่าย 2 งวด
4.ผ่อนบ้านกับ UOB วงเงินบ้าน 1,900,000 บาท ค้าง 1 งวด กำลังจะเข้างวด 2 โดนปรับอัตราดอกเบี้ยจาก 5 เป็น 9 และกำลังจะกลายเป็น 13
5.ผ่อนรถกับกรุงศรี เดือนละ 22,800 บาท ตอนนี้ค้าง 2 งวด จะเข้างวด 3 เหลือที่ต้องจ่ายอีกประมาณ 750,000 บาท
6.ผ่อนรถกับไทยพานิชย์ เดือนละ 20,960 บาท ตอนนี้ค้าง 3 งวด โดนยึดรถไปแล้ว
7.บัตรเครดิต VISA ธ.กรุงเทพ ยอดค้างประมาณ 26,000 บาท ค้าง 2 งวด (ตัวนี้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว)
8.บัตรเครดิต MASTERธ.กรุงเทพ ยอดค้างประมาณ 3,400 บาท ค้าง 2 งวด (ตัวนี้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว)
9.บัตรเครดิตกสิกรไทย ยอดค้างประมาณ60,000 บาท ค้าง 2 งวด (ตัวนี้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว)
10.บัตรเครดิตธนชาต ยอดค้างประมาณ84,000 บาท ค้างจ่าย 3 งวด
11.บัตรกดเงินสดธนชาต ยอดค้างประมาณ 97,000 บาท ค้างจ่าย 3 งวด
12.สินเชื่อ CIMB ยอดค้างประมาณ 83,000 บาท เซ็นชื่อปรับโครงสร้างแล้วแต่ยังไม่ได้จ่ายตามสัญญาตัวใหม่(หลังจากอ่านกระทู้สัญญานรกแล้ว คงไม่จ่ายค่ะ)
13.สินเชื่อ กรุงศรี ยอดค้างประมาณ 56,000 บาท ค้างจ่าย 3 งวด
14.บัตรเครดิตโลตัส ยอดค้างประมาณ32,000 บาท ค้าง 1 งวด (ปรับโครงสร้างไปแล้ว)
15.ซิตี้ เรดดี้ ยอดค้างประมาณ 72,000 บาท ค้างจ่าย 2 งวด
16.สินเชื่อสแตนดาร์ด ยอดค้างประมาณ210,000 บาท ค้างจ่าย 3 งวด
17.ผ่อนมอไซด์ กับ กรุ๊ปลีส เหลือ 8 งวด ค้าง 1 งวด งวดละ3,175 บาท
18.บัตรกรุงศรีเฟริสช้อย ยอดค้างประมาณ 63,000 บาท ค้าง 1 งวด
19.หนี้นอกระบบ 400,000 บาท
หนี้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เนื่องจากหาเงินมาให้แฟนทำธุรกิจ และแล้วธุรกิจก็ล้มเพราะน้ำท่วมช่วงปี 54 หนี้สินทั้งหมดเป็นชื่อเราหมดเลย เพราะแฟนไม่เคยทำงานบริษัทฯไม่สามารถกู้เงินที่ไหนได้เลย เค้าก็หนีปัญหาด้วยการผูกคอตาย แต่โชคดีช่วยทัน แต่ตอนนี้ปัญหาทั้งหมดตกมาอยู่กับเราหมดแล้ว แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนค่ะ
ที่อยากทราบคือ...
อยากจะรบกวนสอบถามค่ะว่า
1.วันนี้เจ้าหน้าที่ของ UOB โทรมาในส่วนของบัตรเครดิตกับสินเชื่อที่ค้างชำระเค้าบอกว่าการที่ติดปัญหาเรื่องการชำระบัตรกับสินเชื่อจะส่งผลมาถึงบ้านด้วยจริงรึเปล่าคะ
2.รบกวนขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่มีประสบการณค่ะว่าในกรณีแบบนี้ควรเริ่มต้นยังไงก่อนดี สำหรับตัวเองตอนนี้เริ่มจากการหยุดจ่ายทุกบัตร ยกเว้น บัตรกรุงเทพเพราะเป็นธนาคารที่เงินเดือนเข้าแต่ก็ค้างจนได้ค่ะ ค้างไป 1 งวด บ้านก็พยายามหาจ่ายแต่ตอนนี้ไม่มีเงินจริงๆ และรถมอไซด์เพราะไม่งั้นไม่มีรถใช้แน่
3. ส่วนเรื่องรถยนต์ตอนนั้นธุรกิจของแฟนดูเหมือนจะไปได้ดีก็เลยซื้อไว้ 2 คัน สุดท้ายพอธุรกิจไปไม่รอดหาจ่ายให้เค้าไม่ได้ ยื้อจนสุดตัวแล้วยังไม่ไหวก็เลยต้องปล่อยไป ทุกวันนี้มีรายได้คนเดียว ต้องจ่ายหนี้นอกระบบ เดือนละ 24,500 บาท เงินที่เหลือยังไม่พอจ่ายค่าบ้านเลย พยายามหารายได้พิเศษแต่ก็ได้ไม่มาก ส่วนแฟนก็หวังพึ่งอะไรมากไม่ได้ ตอนนี้เค้าดูไม่ค่อยปกติด้วยค่ะ ให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไปเค้ามีอาการคล้ายจิตอ่อนๆค่ะ โวยวายทุกครั้งที่เราจะทำโอที เพราะกัวเรามีคนอื่นจะทิ้งเค้า ตอนนี้กลุ้มใจมากค่ะ เพราะต้องการทำโอทีเพื่อเพิ่มรายได้ แค่เค้าก็คอยขัดขวาง โวยวาย ตลอด

ขอรบกวนเท่านี้ก่อนนะคะ ต้องขอโทษรุ่นพี่ทุกท่านด้วยนะคะ ถ้าข้อความในนี้มีประโยคไหนที่ก่อให้เกิดความรำคาญใจ หรือเป็นคำถามที่ซ้ำซากนะคะ

ค่อยๆ อ่านกระทู้ปักหมุดนะครับ

สู้ๆ ต่อไปนะครับ
เป็นกำลังใจ สำหรับคนหัวอกเดียวกันครับ

เรื่องแฟน ลองมานั่งคุยกัน อธิบายให้ดขาเข้าใจดูนะครับ
เหตุ และ ผล

เขาน่าจะรับฟังนะครับ

เป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ ท้อได้ แต่ต้องลุกขึ้นตั้งหลักสู่ให้เร็วที่สุดค่ะ

เรื่องบ้าน นิเป็นห่วงจริงๆ พี่ๆ ชมรมแนะเอาไว้ว่า บ้านกับรถ ต้องประเมินตัวเอง ถ้าไม่ไหวอย่าปล่อยให้โดนยึด ให้รีบขายซะ แต่เอาน่ะ ไหนๆ มาถึงขึ้นนี้แล้ว เมื่อไม่ไหว ก็คงต้องปล่อยค่ะ วัตถุนอกกาย ยังไงเราเริ่มต้นใหม่แล้วหาใหม่ได้แน่นอน

ส่วนเรื่องที่ว่าค้างชำระบัตร ของแบงเดียวกันกับที่ผ่อนบ้าน จะมีผลอะไรกับบ้านมั้ย อันนี้รอผู้เชียวชาญมาตอบอีกทีนะคะ

ขอบคุณค่ะ ตอนนี้ก็พยายามศึกษาข้อมูลในกระทู้ปักหมุดอยู่ค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกท่านค่ะ

สู้ ๆ ครับผม เป็นกำลังใจช่วยครับ

เป็นกำลังใจให้อีกคนนะครับ สู้ๆครับ ผมก้อยังสู้เลยครับ

คำว่า ค้างจ่าย....งวด (ถูกปรับโครงสร้างไปเเล้ว)
เเปลว่า ปรับโครงสร้างเเล้ว จ่ายเเล้ว เเละค้างจ่ายอยู่ ใช่ไหม

ดอกบัวเน่า ขึ้นชื่ออันดับหนึ่ง เรื่องดูดเงิน

รถที่โดน finance ยึด ไม่ใช่ยึดเเล้วจบ เช็คดีๆ มันมักอ้างว่าขายทอดตลาดเเล้วไม่พอค่ารถ
มีส่วนต่าง มาไล่บี้กับลูกหนี้เเละคนค้ำอีกที

สัญญาบัตรเครดิต สินเชื่อ กับบ้าน คนละตัวกัน
การหยุดจ่ายบัตรเครดิตกับสินเชื่อทำได้เเม้ยังส่งบ้าน
เเต่การต่อรองทำได้ยาก เพราะเขารู้ว่าคุณมีปัญญาส่งบ้าน
เเละถ้าฟ้องชนะก็ยังมีบ้านให้ยึด

ทีนี้ของจอมมารยู ยอดหนี้คุณเยอะ ถูกปรับโครงสร้าง 2 ตัว ค้างจ่ายทั้งหมดรวมบ้าน นโยบายฟ้องเร็ว
แนะนำให้สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต บ้านกับรถ พิจารณาขายเสีย

สามี แค่คุยกันอย่างเดียว ไม่พอ
แนะนำให้พาสามีไปพบจิตแพทย์ เพราะไม่ได้มีแค่ suicidal idea แต่มี suicidal attempt ด้วย
แม้ขณะนี้ ความคิดก็ยังไม่ปกติ

เป็นกำลังใจอีกแรงนะคะ หนักหนาสาหัสสากันเหมือนกันนะคะ แต่สู้ๆค่ะ แล้วเราจะผ่านมันไปได้ ที่นี่มีที่ปรึกษาและคำแนะนำดีๆเยอะเลยค่ะ จากกระทู้ปักหมุดและประสบการจากสมาชิกในเว็บ ยังไงก้อขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ

คุณเด็กหญิงสมโอ

"คำว่า ค้างจ่าย....งวด (ถูกปรับโครงสร้างไปเเล้ว)
เเปลว่า ปรับโครงสร้างเเล้ว จ่ายเเล้ว เเละค้างจ่ายอยู่ ใช่ไหม"

ตอบ
ใช่แล้วค่ะ ตามนั้นเลย ตอนนั้นมีความตั้งใจจะพยายามหาจ่าย ไม่อยากถูกเค้ามองว่าเป็นหนี้แล้วจะเบี้ยว พอเค้าเสนอว่าจะปรับโครงสร้างให้ จะได้จ่ายสบายขึ้น จนหลวมตัวทำตามเค้าบอก แต่สุดท้ายก็ไปไม่ไหว ค่ะ

อ่านทุกตัวอักษร

สู้ครับ เป็นกำลังใจให้

เรื่องบ้านลองถามตัวเองดูครับว่าปล่อยวางได้แค่ไหน ในความเห็นผมวันนี้ดันทุรังยื้อไว้ ข้างหน้าก็อาจต้องสูญเสียไปอยู่ดี การแปลงทรัพย์ที่พอมีเป็นทุน อาจจะทำให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เร็วขึ้นนะครับ

บ้านเช่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ ผมกับภรรยา และลูก 2 คนก็เช่าอยู่มาตลอด เราก็มีครอบครัวที่มีความสุขได้ ในบ้านที่ไม่ได้เป็นของเราครับ

บ้านหลังนี้ ตอนแรกเราอยู่กัน 2 คนค่ะ คือตัวเองกับแม่ ซื้อก่อนแต่งงานนะคะ ตอนแรกตั้งใจอยู่กับแม่ 2 คน แม่รักบ้านหลังนี้มาก ที่ผ่านมาก็ผ่อนบ้านไปได้ด้วยดี พอหลังจากแม่แนะนำให้รู้จักผู้ชายคนนี้และหลังจากแต่งงาน เงินส่วนต่างที่ได้จากการกู้ซื้อบ้านก็เอาไปช่วยแฟน(ตอนนั้นยังไม่แต่ง)เพราะเค้ามีปัญหาการเงิน(เพิ่งมีปัญหาเรื่องเงินช่วงหลัง) ก็กู้เงินและทำบัตรต่างๆเพื่อนำเงินมาช่วยเค้าเป็นทุนในการทำธุรกิจ แรกๆก็ผ่านไปได้ด้วยดี มาพักหลังพอน้ำท่วมปี 54 ธุรกิจล้มไม่เป็นท่า เคยคุยปัญหานี้ให้แม่ทราบ หลังจากเข้ามาศึกษาเว๊ปนี้ บอกแม่ตามที่พวกพี่ๆผู้มีประสบการณ์เล่าให้ฟังว่ากรณีแบบนี้ เราอาจจะต้องเสียบ้านไป ดูแม่เสียใจมากและคิดโทษตัวท่านเองที่ทำให้เราลำบากขนาดนี้ที่แนะนำให้รู้จักผู้ชายคนนี้ (จริงๆไม่เกี่ยวกับแม่เลย แม่ไม่ผิด) แต่ปัญหาคือถ้าปล่อยให้บ้านหลุด คงจะมีผลกระทบต่อจิตใจของแม่เป็นอย่างมาก แม่บอกแม่ไม่ยอม แม่จะพยายามหาทางช่วย แต่ก็บอกแม่ว่าต่อให้จ่ายบ้านได้ แต่บัตรอื่นจ่ายไม่ได้เค้าอาจจะยึดทรัพย์และขายทอดตลาด

ตอนนี้อยู่ในช่วงสับสนและว้าวุ่นมากค่ะ

การค้างชำระหนี้กู้บ้าน จะทำให้โดนอัตราดอกเบี้ยค่าปรับอย่างมหาศาล ซ้ำเข้าไปอีก ถ้าตัดได้ต้องแก้ปัญหาด้วยการขายไม่ใช่หยุดจ่ายครับ

ถ้าจะเอาไว้ก็ต้องจ่ายอย่าปล่อยให้ค้างชำระ ไม่เช่นนั้นแม้จะถูกยึดบ้านขายทอดตลาด หากราคาที่ขายต่ำ

กว่ามูลหนี้คงค้างแล้วคุณตกลงกับธนาคารหักกลบลบหนี้กันไม่ได้ คุณจะต้องรับภาระส่วนต่างนั้นเพิ่มเข้าไปอีก

เข้าใจอยู่ครับเรื่องคุณแม่ แต่คุณต้องประเมินกำลังตัวเองดูอีกที

ว่าถ้าคุณหยุดบัตรทั้งหมด เหลือผ่อนบ้านอย่างเดียว คุณไหวมั้ย ทำอย่างนี้แล้วจะเหลือเงินเก็บเท่าไหร่

จนสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ทันจริงๆ จนเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ ทรัพย์สินที่เป็นชื่อคุณและเจ้าหนี้สืบรู้

ก็อาจถูกอายัดด้วยก็จริง

แต่การจะจบด้วยกระบวนการนั้นต้องครบตามเงื่อนไขทั้ง 2 อย่างคือ

มีชื่อคุณและเจ้าหนี้สืบทราบ

แม้ว่าอาจมีการจัดการอย่างอื่นรองรับอยู่ซึ่งแนะนำหน้าบอร์ดไม่ได้ แต่ยังอยากให้คุณเริ่มต้นจากการ

ประเมินกำลังตัวเองก่อน การทำความเข้าใจกับแม่อาจต้องอาศัยเวลา และการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนครับ

คิดว่าเจ้าหนี้คงทราบค่ะเพราะบัตรเครดิตกับสินเชื่อและบัตรกดเงินสดมีของ UOB ซึ่งเป็นแบงค์ที่ผ่อนบ้านอยู่
1.บัตรเครดิต UOB ยอดค้างประมาณ74,000 บาท ค้างจ่าย 2 งวด จ่ายเดือนละ 3,200.-(ตัวนี้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว)
2.บัตรกดเงินสด UOB ยอดค้างประมาณ 44,000 บาท จ่ายเดือนละ 2,000.- ค้างจ่าย 2 งวด (ตัวนี้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว)
3.สินเชื่อเงินสด UOB ยอดค้างประมาณ 90,000 บาท จ่ายเดือนละ 2,750.-ค้างจ่าย 2 งวด
4.ผ่อนบ้านกับ UOB วงเงินบ้าน 1,900,000 บาท ค้าง 1 งวด กำลังจะเข้างวด 2 โดนปรับอัตราดอกเบี้ยจาก 5 เป็น 9 และกำลังจะกลายเป็น 13

นี่ยังไม่รวมบัตรอื่น ปัญหาคือติดที่หนี้นอกระบบที่ต้องจ่ายดอก ถ้าไม่ติดเรื่องนี้ก็ยังพอจะจ่ายไหวค่ะ ดอกหนี้นอกระบบต่อเดือนก็ 24,500 บาทแล้วค่ะ ตอนนี้คุยกับแม่ว่าจะหาทางจัดการกับหนี้นอกระบบให้ได้คุณแม่ก็พยายามหาช่วยอีกแรง ส่วนแฟนเค้าก็พยายามอยู่แต่ก็ยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ ที่กังวลใจคือเกรงว่าจะไม่ทันการ พอจะมีวิธีไหนที่จะสามารถขอเจรจายืดระยะเวลาของ UOB ได้บ้างไหมคะ เพราะยังไงคงต้องรักษาบัญชีของ UOB ให้ได้ทุกตัวไม่งั้นก็จบ ทุกวันก็พยายามคุยกับแม่ให้แม่เข้าใจและบอกแม่ว่าอย่าคิดมาก สงสารท่านมากค่ะ ไม่อยากให้ท่านต้องมานั่งกลุ้มใจเพราะเราเลย

เราว่าหนักอะค่ะ เข้าใจเรื่องบ้าน เราเองก็มีบ้านที่มีชื่อสามีกู้ซื้อ ตั้งใจว่าอยากให้เป็นสมบัติทิ้งไว้ให้ลูกในอนาคต แต่เมื่อเราถึงทางตัน เรายอมนั่งหันหน้าคุยกันเรื่องนี้ เรื่องของคำว่า ขาย บ้าน

เราเอง คืนนั้นก็น้ำตาไหล เพราะไม่เคยเตรียมใจกับคำคำนี้ แต่สุดท้ายวันรุ่งขึ้นเราต้องมองความเป็นจริง

เราเหนื่อยเพราะแบกความฝัน ความหวังเหล่านี้ไว้มากเกินไป จนเราเหนื่อยแทบขาดใจ และแทบไม่เหลือกินแต่ละเดือน เพื่ออะไร?

วันนี้เลยกับสามี เดิมที่ตั้งใจว่าจะดำเนินการบางอย่างตามที่พอยอดได้อ้างอิงไว้ วันนี้จึงเปลี่ยนแผนใหม่คือยอมรับความจริงและพร้อมจะปล่อยมือจากบ้านหลังนี้ของเรา ในอีก 1 ปีข้างหน้า (มีเงื่อนไขของภาษีธุรกิจจำเพาะ) และเราจะย้อนกลับไปเริ่มใหม่ เก็บเงินกันใหม่ และเราบ้านหลังใหม่ของเรา เราจะต้องเก็บเงินซื้อสดให้ได้ ไม่ทำงานเลี้ยงแบงค์แบบที่เคยทำมาอีกแล้ว


++++++++

ขอให้คุณค่อยๆ พูดให้คุณแม่เข้าใจนะคะ เราเชื่อว่าถ้าคุณแม่เห็นความมุ่งมั่นในสายตาของคุณ ไม่เห็นความลังเล ท้อแท้

เราเชื่อว่าเค๊าจะสบายใจ และพร้อมเริ่มสร้างสิ่งต่างๆ ใหม่กับคุณแน่ค่ะ

To dnbb
ขอบคุณมากนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ถ้ามองจากประสบการณ์ของคุณแล้วหรือพี่ๆท่านอื่นที่เข้ามาอ่านข้อความนี้ ถ้าเจอสภาวะแบบนี้เราควรเริ่มจากอะไรก่อนดีคะ

จากที่พ่อยอดแนะนำว่า "แม้ว่าอาจมีการจัดการอย่างอื่นรองรับอยู่ซึ่งแนะนำหน้าบอร์ดไม่ได้" คืออะไรค่ะ?
ถ้าประเมินจากตัวเองก็รู้ตัวดีค่ะว่ามันยากเหลือเกิน ทุกวันนี้ก็คุยกับแม่เรื่องนี้ตลอดเลยค่ะ

lew2520 เขียน: To dnbb
ขอบคุณมากนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ถ้ามองจากประสบการณ์ของคุณแล้วหรือพี่ๆท่านอื่นที่เข้ามาอ่านข้อความนี้ ถ้าเจอสภาวะแบบนี้เราควรเริ่มจากอะไรก่อนดีคะ

จากที่พ่อยอดแนะนำว่า "แม้ว่าอาจมีการจัดการอย่างอื่นรองรับอยู่ซึ่งแนะนำหน้าบอร์ดไม่ได้" คืออะไรค่ะ?
ถ้าประเมินจากตัวเองก็รู้ตัวดีค่ะว่ามันยากเหลือเกิน ทุกวันนี้ก็คุยกับแม่เรื่องนี้ตลอดเลยค่ะ

เอาที่ละเรื่องก่อนนะครับ อันแรกคุณส้มโอตอบไว้ให้แล้วว่า บัญชีบัตรกับบ้านเป็นคนละส่วนกัน ตราบใดที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการอายัด แม้หยุดจ่ายบัตรเขาก็เอาบ้านไปไม่ได้ ดังนั้นในส่วนที่ไม่ใช่บ้านก็หยุดให้หมดไปซะ เพราะถึงไม่หยุดก็จ่ายไม่ไหวอยู่ดี

ในส่วนบ้านถ้าผ่อนไม่ไหวแล้วปล่อยไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีผลดีอะไรเลย ตามที่เคยบอกไว้ ถ้าคุณผ่อนไหวจริงๆ สิ่งที่ผมบอกไปถึงจะเป็นตัวเลือกที่อาจนำมาพิจารณาครับ

รายละเอียดจริงๆของวิธีการคุณต้องโทรสาย HOT LINE คุยกับคุณนกกระจอกเทศดูครับ มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากแต่ไม่ง่ายนัก

การขายมีหลายลักษณะครับ คงบอกได้เท่านี้ก่อน


แต่ถ้าผ่อนบ้านไม่ไหว วิธีที่ควรทำก่อนคือเข้าไปเจรจากับธนาคาร เพื่อลดภาระรายเดือน หรือทางออกอื่นๆ ดีกว่าหยุดจ่ายและให้เขาคิดดอกเบี้ย ค่าปรับไปเรื่อยๆ แต่ถ้ายังไงก็ไม่ไหว ถ้าถามความเห็นผม ก็ควรปล่อยขายไปเถอะครับ

แต่ยังไงก็ตามการตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวคุณและครอบครัวเอง เนื่องจากแต่ละคนก็มีข้อจำกัด และเหตุผล ความจำเป็นของตัวเอง ที่คนอื่นตัดสินใจให้ไม่ได้ครับ

ขอบคุณพ่อยอดมากนะคะที่กรุณาอธิบายให้ฟังค่ะ คืนนี้คงต้องคุยกับแม่อีกครั้งแล้วค่ะ
แล้วจะโทรไปรบกวนคุณนกกระจอกเทศเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ต่อไปค่ะ

ขอบคุณมากจริงๆคะ

ตอนนี้ทำการปิดบัตรไปหลายรายการแล้วค่ะ แต่ยังเหลืออีก 3 รายการ ที่มีปัญหาอยู่ ดังนี้
1.สินเชื่อเงินสด กรุงศรีสไมล์แคช เค้าเสนอ HC 80,000 จากยอด 160,000
2.รถยนต์คันที่ 1 ผ่อนกับกรุงศรีออโต้ แต่ผ่อนไม่ไหว คืนรถไปแล้ว แต่ยังมีส่วนต่าง เคยจ่ายส่วนต่างอยู่เดือนละ 1,000 แต่ช่วงหลังจ่ายไม่ไหว เลยต้องหยุดจ่าย เมื่อเดือนเมษายนมีเจ้าหน้าที่โทรมาเสนอ HC 85,000 จากยอด 160,000
3.รถยนต์คันที่ 2 ผ่อนกับไทยพานิชย์ ผ่อนไม่ไหว เลยคืนรถ มีส่วนต่างประมาณ 200,000 แต่ตอนนี้ขึ้นมาเป็น 400,000 แล้ว มีคนโทรมาแต่บอกว่ายังไม่มีก็เงียบหายไปค่ะ

อยากจะรบกวนสอบถามค่ะ บริษัททวงหนี้ที่กรุงศรีขายหนี้ไปข้อที่ 1(ที่เสนอ HC 80,000) เค้าบอกให้เราไปกู้เงินบริษัท resolution way มาปิดหนี้เค้า เพราะบริษัทฯนี้เค้าจะช่วยคนติด black list เราควรเชื่อเค้ารึป่าวคะ

ตอนนี้เงินเดือนประมาณ 45,000 บาท แต่ติดว่าต้องจ่ายหนี้นอกระบบ ก็หมดเงินเดือนแล้ว ไหนจะค่าบ้านอีก 13,630 ต่อเดือนอีก

รบกวนพี่ๆที่มีประสบการณ์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ อ่านรายละเอียดของคุณแล้วทำให้มองเรื่องของเราเองเป็นเรื่องเล็กไปเลย สู้ๆคะ