สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี

ขอเอากระทู้เก่าที่คุณลูกแมวสีเทา (ศิษย์คนสุดท้ายของพี่นกกระจอกเทศ) มาลงใหม่

เพราะ ตัวผมเอง ก็โดน UOB ลักไก่ฟ้อง คดีบัตรกดเงินสด แต่ฟ้องเป็น สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี
และทนายที่เขียนและยื่นคำให้การของผมก็สะเพร่า สักแต่เอาไฟล์คำให้การที่มีอยู่แล้วมาแค่
เปลี่ยนชื่อโจทก์ ชื่อจำเลย และตารางคำนวณดอกเบี้ยใหม่

โดยลืมแย้งประเด็นสำคัญที่สุด

คือบัตรกดเงินสด ไม่ใช่ สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี

yui99: หนู ขอยกข้อความนี้ก่อนนะคะ... ธนาคารพาณิชย์บางแห่งนะครับ ที่ออกบัตรเครดิตโดยให้ลูกค้าทำสัญญากู้เป็นสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี เข้าลักษณะสัญญาบัญชีเดินสะพัดไว้ กรณีนี้ถือว่ามีอายุความ 10 ปีตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี....
....คือว่าหนูไปเช็คเครดิตบุโร สงสัยว่าของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ มันเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ในเครดิตบุโรระบุ ..สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี...เลยสงสัยว่า บัตรกดเงินของสแตนดาร์ด ซื้อของไม่ได้ อนุมัติให้วงเงิน 50,000 บาท พร้อมสมุดเช็ค 1 เล่ม ไม่มี่ค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด กดเงินที่ตู้ได้ตลอดเวลา หนูเปิดใช้บัตรตั้งแต่ปี 2001 อยากทราบว่า...ถือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี

โพสต์เมื่อ 4/06/2008 04:03 PM

ลูกแมวสีเทา ค่ะ งั้นขอตอบแทนคุณนกกระจอกเทศแล้วกันนะคะ เดิมที ตั้งใจว่าจะขึ้นศาลเสร็จแล้วจะมาเล่าให้ฟัง หนี้ที่ดิฉันมีอยู่เป็นของทหารไทย หรือ เดิมคือธนาคารไทยทนุ และปีที่ทำธุรกรรมก้อปีเดียวกันกับคุณยุ้ยค่ะ

กรณีที่คุณยุ้ยถามมาในส่วนนี้คุณอาจจะพอเดา หรือทราบบ้างว่าธุรกรรม 2 แบบที่คุณถามมามันมีผลต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ เพราะถ้ารูปแบบออกมาเป็น บัญชีเดินสะพัดหรือกระแสรายวัน คุณจะถูกคำนวณอัตราดอกเบี้ยทบต้น และมีอายุความ 10 ปี ดังนั้น ธนาคารเหล่านี้จึงพยายาม ที่จะบอกคุณว่าสิ่งที่คุณทำนั้นคือ บัญชีกระแสรายวัน ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดหนี้เงินเบิกเกินบัญชีค่ะ

*****************************************
ทีนี้มีอยู่ 2 ความหมายในด้านของกฎหมาย ที่คุณจะต้องทราบค่ะได้แก่ คำว่า บัญชีเดินสะพัดหรือกระแสรายวัน และ เงินเบิกเกินบัญชี

โพสต์เมื่อ 5/06/2008 09:09 AM

ลูกแมวสีเทา: บัญชีเดินสะพัด หรือ กระแสรายวัน

มีมาตราหนึ่ง บอกความหมายไว้ ดังนี้ค่ะ

1.เป็นสัญญาที่ทำระหว่าง 2 ฝ่าย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดาก้อได้

2.สัญญาที่ทำอาจะไม่ต้องทำตามแบบ หมายความว่า ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบ แต่อาจจะตกลงกันด้วยวาจาม

3.ต้องมีบัญชีหนี้ระหว่างกันเป็นหลักฐาน กรณีนี้เข้าใจว่าจะต้องเป็น Statement ที่ธนาคารเรียกเก็บคุณทุกเดือนน่ะค่ะ

4.มีข้อตกลงให้ตัดทอนบัญชีกัน ข้อนี้ขอขยายความค่ะการตัดทอนบัญชีในทางกฎหมายมีความหมายว่า สัญญาเดินสะพัดดังกล่าวจะต้องหักกลบลบกัน ทีนี้การหักกลบตรงนี้จะเอาอะไรมาหักกลบกันล่ะคะ


ปกติของบัญชีเดินสะพัด จะจ่ายเช็คได้คุณจะต้องมีเปิดบัญชีออมทรัพย์

คู่กันค่ะ ธนาคารจะโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์มาก่อนหรือหลังจากที่คุณได้

สั่งจ่ายเช็ค ออกไป และการธนาคารโอนเงินจากออมทรัพย์มาบัญชีเดิน

สะพัด คุณจะเป็นเจ้าหนี้ธนาคาร ซึ่งในทางธนาคารจะหมายถึง ตัวดำ แต่หาก

คุณได้จ่ายเช็คออกไป คุณจะกลายไปลูกหนี้ธนาคาร ซึ่งก้อหมายถึงตัวแดง

รายการข้างต้นจะแสดงในใบแจ้งยอดทุกเดือนค่ะ ซึ่งมีหักลบกลบกันไปแล้วใครเป็นเจ้าหนี้ก้อรับเงินจากอีกฝ่ายหนึ่ง หรือหากเป็นลูกหนี้ก้อจ่ายเงิน ลักษณะนี้ค่ะกฎหมายบอกว่าเป็นการหักทอนบัญชีกัน

5.ชำระหนี้ที่เหลือ หลังจากการตัดทอนบัญชีแล้วฝ่ายใดอยู่ในฐานะลูกหนี้ก็ต้องชำระหนี้ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง

เหนื่อยหรือยังคะ ถ้ายังไม่เหนื่อยมาฟังลักษณะของเงินเบิกเกินบัญชีต่อค่ะ

โพสต์เมื่อ 5/06/2008 09:31 AM

ลูกแมวสีเทา: หนี้ เงินเบิกเกินบัญชี จะแตกต่างจากการกู้ยืมเงินทั่วไป คือ เงินกู้จะได้มาก้อนเดียว ครั้งเดียว และจ่ายดอกเบี้ยจากยอดเงินที่กู้ยืมมาในครั้งแรก ค่ะ


****************************************************************************
ส่วนหนี้เงินเบิกเกินบัญชีถึงแม้คุณจะทำสัญญาขอกู้เบิกเงินเกินบัญชีแล้ว แต่ไม่ถือว่าคุณเป็นลูกหนี้ จนกว่าคุณจะได้ใช้จ่ายเงินเกินบัญชีกระแสรายวันที่มีอยู่กับธนาคาร ซึ่งสรุปได้ คือ
การที่คุณจะเป็นหนี้เงินเบิกเกินบัญชีได้ คุณจะต้องเปิดบัญชีกระแสรายวันควบคู่กันไป

พอเข้าใจลักษณะดังกล่าวแล้วบ้างหรือยังคะ ถ้าเข้าใจมาดูต่อค่ะว่ากรณีของคุณจะทำยังงัย

โพสต์เมื่อ 5/06/2008 09:43 AM

ลูกแมวสีเทา: ไปเบรคกินกาแฟมารู้สึกปลอดโปร่งค่ะ งั้นต่อเลยนะคะ
กรณีของคุณยุ้ย ลักษณะของบัญชีเดินสะพัดที่ธนาคารแจ้งคุณมาองค์ประกอบครบถ้วนตามที่ดิฉัน อธิบายไว้หรือไม่

ไล่ดูทีละข้อค่ะ
1.ข้อตกลง 2 ฝ่าย คือ ระหว่างคุณกับธนาคาร??????

2.มีสัญญาหรือไม่มีสัญญาก้อได้ แต่ของคุณมีถึงแม้มันจะบอกว่าเป็นสัญญา????????? (ไม่ต้องไปสนใจค่ะ)

3.บัญชีหนี้สินระหว่างกัน คืออะไรเอ่ย ก้อใบแจ้งยอดคุณทุกเดือนน่ะแหละ ซึ่งจะเป็นใบแจ้งยอดหนี้ หรือ ใบแจ้งยอดบัญชีกระแสรายวัน หรืออะไรก้อสุดแต่มัน(ธนาคาร)จะเรียก อันนี้สนใจนิดนึงค่ะว่าในรายการที่คุณเป็นหนี้มันเกิดจากเช็คเลขที่เท่าใด หรือ เกิดจาก ATM Withdrawal เพราะของดิฉันเป็นATM Withdrawal มีผลนะคะเพราะที่บอกไว้แล้วว่า

หนี้เงินเบิกเกินบัญชีจะต้องมีการสั่งจ่าย เช็คค่ะไม่ใช่การกดเงินสดจากตู้

4.มีการตัดทอนบัญชี? ถ้าให้ดิฉันเดาคงไม่มีการตัดทอนบัญชีใด ๆ เพราะคุณเป็นลูกหนี้มัน(ธนาคาร) ฝ่ายเดียว ซึ่งตามที่ดิฉันได้อธิบายไว้ข้างต้น องค์ประกอบของกระแสรายวันคุณยุ้ยจะต้องเป็นทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้

5.การชำระหนี้ที่เหลือหลังจากตัดทอนบัญชี คุณมิได้มีการตัดทอนบัญชีในข้อ 4 ดังนั้นการจ่ายชำระหนี้ตรงนี้ไม่ได้เป็นผลจากการตัดทอนบัญชีค่ะ

สรุปได้ว่า มีหลาย ๆ ประเด็นใช่ไหมคะที่รูปแบบการทำธุรกรรมของคุณไม่เข้าข่ายบัญชีเดินสะพัดตาม กฎหมาย แล้วผลล่ะคะ คุณยุ้ยพอจะนึกออกหรือยังว่า ผลมันคืออะไร นึกออกแล้วเข้ามาตอบนะคะ ขอไปประชุมก่อน

โพสต์เมื่อ 5/06/2008 10:05 AM

ลูกแมวสีเทา: คุณยุ้ยขา พอเข้าใจที่เขียนหรือป่าว ทีนี้ขอต่ออีกนิดนึงค่ะ

หากหนี้ของคุณ ไม่เข้าข่ายบัญชีเดินสะพัดแล้ว สิ่งที่จะตามมาก้อคือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารไม่สามารถจะคิดแบบทบต้นค่ะ และสุดท้ายน่าจะสำคัญที่สุด อายุความหมดลงแล้วค่ะ บัญชีเดินสะพัดมีอายุความ 10 ปี หนี้ของคุณเป็นสินเชื่อเงินกู้เท่านั้น

***************************************
ตอบแล้วนะคะ หากไม่เข้าใจถามมาได้ค่ะ
***************************************

โพสต์เมื่อ 5/06/2008 01:04 PM

นกกระจอกเทศ: สูดดดด...ยอดดดด...มันต้องอย่างนี้สิคร๊าบบบบ...ถึงจะสมกับเป็น"ลูกศิษย์คนสุดท้าย"

คุณยุ้ยพอจะเห็นช่องทางแล้วหรือยังครับ?


สรุปได้ว่า...สำหรับในกรณีของบัตรกดเงินสด ถ้าเจ้าหนี้มันฟ้อง

คุณว่าเป็นหนี้ประเภท สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี ก็ให้คุณต่อสู้ว่า

มัน "ไม่ใช่"...เนื่องจากถ้าเป็น สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี จริง

คุณก็ต้องเปิดบัญชี "กระแสรายวัน" เพื่อเป็นการนำเงิน

ฝาก-ถอน ร่วมกับวงเงินเบิกเกินบัญชีที่ว่านี้ด้วย...

ดังนั้น ในกรณีนี้ จึงจัดว่าเป็น สินเชื่อเงินกู้ เท่านั้น

แล้วอีกอย่าง...ในเมื่อทางเจ้าหนี้มันได้ยอมรับแล้วว่า ได้มีการคิดดอกเบี้ยโดยใช้วิธี "ดอกเบี้ยทบต้น" จริง (เนื่องจากได้มีการระบุไว้ในสัญญาด้วย ว่ามันจะคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นแบบทบต้น ตามประเพณีปฏิบัติของธนาคาร...ไม่เชื่อลองไปอ่านรายละเอียดในสัญญาดูสิ) ซึ่งตามคำสั่งของ ธปท.ที่ว่าด้วยเรื่องอัตราดอกเบี้ยและส่วนลด ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนี้ กำหนดให้ทางเจ้าหนี้ คิดอัตราดอกเบี้ยทบต้นได้ ถ้าการกู้นั้นๆจัดเป็นการกู้ตามสัญญาประเภท สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี โดยผู้กู้จะต้องเปิดบัญชีกระแสรายวันร่วมด้วย...

แต่ในเมื่อมันเป็นเพียงแค่ สินเชื่อเงินกู้ ตามเหตุผลที่คุณลูกแมว

สีเทา ได้อธิบายไว้...ดังนั้น การคิดอัตราดอกเบี้ยทบต้นของทาง

เจ้าหนี้ จึงต้องห้ามตามกฏหมาย และจะตกเป็นโมฆะทันที

ตามที่กฏหมายกำหนด

Get แมะ?...

โพสต์เมื่อ 5/06/2008 03:26 PM