สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ทุกคนในชมรมนี้ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาตั้งกระทู้ถามในชมรมนี้เลย
มาวันนี้จะขอสอบถามผู้รู้หน่อยครับ ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้ว
คือก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วผมลาออกจากงานประจำมาเปิดกิจการส่วนตัวช่วงแรกที่เปิดกิจการ(ตอนนี้ยังไม่ออกจากงานประจำ) กิจการก็ไปได้สวย แต่พอออกจากงานประจำมาทำเต็มตัว ก็ดันไม่เป็นเหมือนที่คิดไว้ จากที่เคยมีร้านก็ต้องปิดตัวลงไป ทุกวันนี้ก็ตะเวนขายของตามตลาดนัดทั่วไป
ช่วงที่ยังทำงานประจำอยู่นั้นก็มีไปกู้เงินของ TMB มาเพื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตทั้งหมด
แต่ก็ยังพอเหลือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ อีกใบนึง
และผมก็มีบัตรกดเงินสดของอีซี่บาย อีก 1 ใบ
**TMB = 90,000 บาท
**อีซี่บาย = 42,489 บาท
** ธนาคารกรุงเทพ = 20,000 บาท
ระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาผมไม่สามารถผ่อนชำระคืนได้เลยซักบัตรเดียว แต่ก็มีพนักงานโทรเข้ามาทวงถามเรื่อยๆ แต่ผมดันเลอกที่จะไม่สายพวกนั้นเลยจนทุกวันนี้
จนไม่กี่วันที่ผ่านมามีหมายศาลจากธนาคารกรุงเทพนัดให้ผมไปขึ้นศาล
ผมไม่รู้ควรจะทำยังไงดี จะไปคุยไกล่เกลี่ยกับเขาแต่ผมก็ไม่รู้จะต้องเริ่มอะไรยังไง
แล้วยอดเงินของผมมันกลับกลายเป็นเท่านี้ ว่า17,554.58+15,918.82=33,473.3 (แบบนี้ผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ)
ซึ่งกับบัตรธนาคารกรุงเทพนี้ตอนผมมีเงินผมก็จ่ายโป๊ะหมดบ้าง ผ่อนบางส่วนบ้างครับ
อันนี้ผมควรทำอะไรยังไงดีครับรบกวนใครมีคำแนะนำด้วยครับ
ส่วนของอีซี่บายตอนนี้ส่งจดหมายมาว่าให้ผมชำระเงินทั้งหมดทันที 42,489 บาท อันนี้ผมควรโทรกลับไปคุยขอประนอมหนี้กับเขาดีมั้ยครับ แล้วผมควรจะบอกเขาว่าอะไรยังไงบ้าง
ส่วนของ TMB ก็ส่งจดหมายมาปกติว่าให้ไปชำระเงิน งวดนี้ 2,310 บาทที่ค้างไว้ 18,480บาท รวม 20,790 บาท อันนี้ผมควรโทรกลับไปคุยขอประนอมหนี้กับเขาดีมั้ยครับ แล้วผมควรจะบอกเขาว่าอะไรยังไงบ้าง