zhom เขียน: 1. ทำไมเอกสารคำพิพากษาส่งมาช้าขนาดนี้ ผิดปกติเกินไปรึป่าวค่ะ
คุณได้ถูกศาลพิพากษาไปในวันที่ 20 เม.ย.2558 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ(วันที่คุณไปขึ้นศาลนั่นแหละ) แต่มันเป็นการพิพากษาที่เรียกกันว่า"
พิพากษาด้วยวาจา"(หรือพิพากษาในใจ) ซึ่งยังไม่สามารถนำมาใช้บังคับคดีกับลูกหนี้ได้ จนกว่าจะมีการตีพิมพ์คำพิพากษาอย่างเป็นทางการ แล้วส่งไปที่บ้านของลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้รับทราบคำพิพากษาที่เป็นทางการต่อไป
ลูกหนี้คนอื่นๆ เขาก็ได้รับคำพิพากษาแบบนานๆเหมือนกันนี่ครับ เช่นโดนศาลพิพากษาไปตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2558 แต่กว่าจะมี"
คำบังคับ"
(คำพิพากษา)อย่างเป็นทางการส่งไปให้ที่บ้าน ก็ปาเข้าไปถึงเดือน พฤศจิกายน 2558
ลองไปดู"ตัวอย่าง"สิครับ
รบกวนสอบถามผู้รู้ด้วยครับ เรื่องหมายศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43866&Itemid=64#78324
zhom เขียน: 2. ควรจะไปที่ศาลเอง เพื่อขอคัดคำพิพากษาไหมค่ะ (พอดีศาลนั้นอยู่ต่างจังหวัด เราอยู่ในกทม.ไม่สะดวกเดินทางไปบ่อยๆค่ะ) หรือเราควรติดต่อไปที่บริษัทที่ฟ้อง ให้เขาติดตามเอกสารให้ และให้ดำเนินการส่งให้เราดีค่ะ ตอนนี้อยากจ่ายค่ะ อยากให้มันรีบจบ
คุณจะไปขอ"
คัดคำพิพากษา"(ขอถ่ายเอกสารคำพิพากษา)ด้วยตนเองที่ศาลก็ได้ครับ ถ้าคุณอยากถูกบังคับให้ต้องจ่ายเงินเร็วๆ
ผมขออนุญาต Copy บทความที่ผมเคยพิมพ์เอาไว้อยู่ในกระทู้"
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล" เอาให้อ่านกับอีกครั้งนะครับ
______________________________________________________________________
mamypoko
ถาม : วันนี้ไปศาลมาค่ะ บัตรกรุงไทยและสินเชื่อฟ้องรวมกันสามบัญขี ยอดฟ้อง 2xx,xxx บาท ที่ศาลมีนบุรีค่ะ
ไปถึงประมาณแปดโมงก็ไปดูรายชื่อและห้องพิจารณาคดีของเรา แวะกินข้าว แล้วก็มานั่งรอหน้าห้องประมาณแปดโมงครึ่ง สักครู่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นทนายของแบงก์ก็เข้ามาแสดงตัว เออลืมบอกไปเผอิญของเรามีบัตรเสริมเป้นชื่อสามีด้วย ทนายก็ถามว่าจำเลยที่สองไม่มาเหรอ เราก็บอกติดธุระมาไม่ได้ เขาก็บอกว่าอ้าวยังงี้ก็ทำยอมความไม่ได้นะ เพราะต้องเซ็นต์สองคน เราก็บอกไม่เป้นไรค่ะ เพราะว่าตั้งใจจะพบศาลและให้ศาลตัดสินแล้วจะคุยกับแบงก์อีกทีค่ะ เขาก็เออ เออ พอประมาณเก้าโมงก็เรียกเราเข้าไปในห้องพิจารณาคดี อืมบรรยากาศดีกว่าที่คิดนะ และวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ คนไม่เยอะมาก เราก็นั่งรอ ทนายแบงก์ก็บอก จะกลับเลยก็ได้นะครับเพราะกว่าศาลจะลงก็คงเกือบสิบโมง เราก็บอกไม่เป้นไรค่ะ รอได้ เขาก็เลยเลิกสนใจเราเขาก็ทำงานของเขาไป เราก็นั่งรอ วันนี้ห้องที่เราอยู่นี่มีทั้งหมด 8 คดี เป็นของกรุงไทย 5 คดี แม่เจ้า เยอะจริงๆ แต่มีจำเลยมาแค่สองคนคือเรากับผู้ชายอีก คน นอกนั้นไม่มาค่ะ
ประมาณเก้าโมงสี่สิบศาลก็มาค่ะ เป็นผู้พิพากษาหญิง หน้าใสปิ้ง ยังเด็กๆอยู่เลยค่ะ เห้นเจ้าหน้าที่ศาลบอกว่าเพิ่งได้รับการโปรดเกล้า ยังไม่ได้ประจำที่ศาลไหน แต่ก็ดูใจดีค่ะ ท่านก็ถามเราว่าคุยอะไรกับแบงก์หรือยัง จะทำยอมความไหม ทนายโจทก์ก็บอกว่าจำเลยให้ท่านตัดสินเลยครับ ศาลก็ถามเรา เราก็บอกค่ะ หใ้ท่านตัดสินให้เลย แต่เนื่องจากจำเลยเองก็ไม่มีความรู้ในเรื่องดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าปรับต่างที่แบงก์แจ้งมาว่ามันถูกต้องหรือไม่ก็อยากจะให้ศาลช่วยพิจาณณาให้หน่อยว่ามีตรงไหนที่จะลดหย่อนได้บ้าง และจำเลยก็จะคุยกับทางแบงก์ในเรื่องการผ่อนชำระอีกที ท่านก็อืม ถ้าให้ศาลตัดสินศาลก็จะออกคำบังคับวันนี้เลยนะ เราก็ ค่ะ ( แต่ก็งงๆว่าคำบังคับนี่มันคืออะไร ) ศาลก็บอกทนายว่าเดี๋ยวถ้าคำพิพากษาออกแล้วทนายก็ส่งไปให้จำเลยเขาด้วยนะ ศาลท่านก็บอกว่าศาลจะให้โจทก์ส่งเอกสารหลักฐาน แทนการสืบพยาน จำเลยขาดการส่งคำให้การ พอเสร็จก็ให้เราเสร็จกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่มีข้อความเหมือนกับที่ท่านอ่านให้เราฟัง เราก็เซ็นต์ และทนายก็ให้เราเซ็นต์ในปึกใหญ่ที่เป็นสำนวนฟ้องด้วย ทนายบอกว่าให้เราอยู่รอคุยกับตัวแทนแบงก์ แต่ก็ตามหาตัวไม่พบ เจ้าหน้าที่ศาลบอกให้เรากลับได้ เราก็เลยกลับค่ะ มีคำถามดังนี้ค่ะ
-ไอ้ที่ว่าคำบังคับออกวันนี้เลยหมายความว่าอย่างไรคะ
-ในปึกใหญ่ๆที่เป็นสำนวนฟ้องที่ทนายให้เราเซ็นต์มันมีข้อความที่ประทับว่าให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน อันนี้หมายถึง 15 วัน นับจากวันที่ตัดสิน หรือว่านับจากวันที่คำพิพากษาจะออกและส่งให้เราคะ
-ถ้าเราต้องการจะขอคัดคำพิพากษาจะมาขอคัดได้ภายหลังจากที่ตัดสินกี่วันคะ
-เราถามทนายโจทก์ว่าเมื่อไหร่ที่คำพิพากษาจะส่งไปถึงเรา เขาก็บอกว่ากว่าจะพิมพ์เสร็จก็ประมาณสองเดือน จริงหรือเปล่าคะ
รบกวนคำแนะนำด้วยนะคะ
ก็ขอฝากให้กำลังใจเพื่อนๆที่จะไปศาลด้วยค่ะ ว่ามันไม่น่ากลัวจริงๆ ค่ะ เพื่อสิทธิของเรา สู้ๆนะคะ
mamypoko
ถาม : ไอ้ที่ว่าคำบังคับออกวันนี้เลยหมายความว่าอย่างไรคะ
[/color]
ตอบ : ก็หมายความว่า "
จะพิพากษาวันนี้เลยนะ"...ยังไงล่ะ
ถาม : ในปึกใหญ่ๆที่เป็นสำนวนฟ้องที่ทนายให้เราเซ็นต์มันมีข้อความที่ประทับว่าให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน อันนี้หมายถึง 15 วัน นับจากวันที่ตัดสิน หรือว่านับจากวันที่คำพิพากษา
[/color]
ตอบ : ถ้าตามหลักทฤษฎี ก็หมายถึง...นับจากวันที่จำเลยได้รับทราบคำพิพากษาของศาลแล้ว นั่นแหละครับ
ถาม : จะออกและส่งให้เราคะ
[/color]
ตอบ : หมายถึงในวันนั้น ท่านจะพิพากษา "
ด้วยปากเปล่า" (พิพากษาเป็นคำพูด) และจะมีเจ้าหน้าที่ของศาล ต้องเอาคำพิพากษาของศาลที่พูดเป็นคำพูดนี้ ไปพิมพ์เป็น "
หนังสือคำพิพากษา" แล้วจะส่งให้คุณรับทราบต่อไป เพื่อให้สามารถใช้บังคับได้ตามกฏหมาย
ดังนั้น...ตราบใดที่คุณยังไม่ได้ "
หนังสือคำพิพากษา" จากศาล...ก็จะยังไม่สามารถบังคับให้คุณต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ (ถึงแม้ว่าศาลจะพิพากษา "
ด้วยปากเปล่า" ไปแล้วก็ตาม)
การที่จะบังคับให้คุณต้องปฏิบัติตามนั้น..."
หนังสือคำพิพากษา" จะต้องถูกจัดส่งให้คุณรับทราบเสียก่อน
จะด้วยวิธีการ "
ให้คุณมา คัดคำพิพากษาด้วยตนเองที่ศาล อีกในสองเดือนข้างหน้า"
หรือจะด้วยวิธีการ "
จัดส่งหนังสือคำพิพากษาไปที่บ้านของคุณ (เหมือนกับการส่งหมายศาลฟ้องไปที่บ้านของคุณนั่นแหละ)"
จึงจะถือได้ว่า คุณได้รับทราบคำพิพากษาแล้วโดยสมบูรณ์ และคุณจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาที่คุณได้รับทราบแล้วนี้...ภายใน 15 วัน...หลังจากที่ได้รับทราบแล้ว
ดังนั้น...ถ้าคุณยังไม่ได้รับทราบคำพิพากษา (ตามใน
หนังสือคำพิพากษา) คุณก็ยังไม่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา...เพราะถือว่าคุณยังไม่ได้รับรู้
ถาม : ถ้าเราต้องการจะขอคัดคำพิพากษาจะมาขอคัดได้ภายหลังจากที่ตัดสินกี่วันคะ
[/color]
ตอบ : สามารถมาคัดได้ หลังจากที่ศาลท่าน พิพากษา "
ด้วยปากเปล่า" แล้ว(พิพากษาเป็นคำพูด) ประมาณ 2-3 สัปดาห์...แต่ถ้าคุณไปคัดคำพิพากษาด้วยตนเองวันไหน ก็จะถือว่าคุณได้รับทราบแล้ว"
โดยทันที" และคุณจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาที่คุณได้รับทราบแล้วนี้...ภายใน 15 วัน
ถาม : เราถามทนายโจทก์ว่าเมื่อไหร่ที่คำพิพากษาจะส่งไปถึงเรา เขาก็บอกว่ากว่าจะพิมพ์เสร็จก็ประมาณสองเดือน จริงหรือเปล่าคะ
[/color]
ตอบ : จริงๆแล้ว "หนังสือคำพิพากษา" จะใช้เวลาพิมพ์เสร็จ หลังจากที่ศาลท่าน พิพากษา "ด้วยปากเปล่า" แล้ว ประมาณ 2-3 สัปดาห์...ส่วนที่มันบอกว่า "
กว่าจะพิมพ์เสร็จก็ประมาณสองเดือน" นั้น...ผมว่ามัน "ขี้เกียจ" รีบไปคัดคำพิพากษาด้วยตัวมันเองซะมากกว่า...ด้วยเหตุผลดังนี้
คุณสังเกตุไหม?...ที่ศาลท่านบอกกับทนายว่า "
เดี๋ยวถ้าคำพิพากษาออกแล้วทนายก็ส่งไปให้จำเลยเขาด้วยนะ"...นั่นหมายความว่า ศาลท่านแอบช่วยคุณแบบเล็กๆแล้วนะเนี่ย...คุณรู้ตัวไหม? เพราะคุณจะได้ประโยชน์ตามนี้
1. ทำให้คุณไม่ต้องเดินทางมาคัดคำพิพากษาด้วยตนเองที่ศาล (ประหยัดตังค์ค่าเดินทาง , ประหยัดเงินค่าถ่ายเอกสารคำพิพากษา , ไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลา , สบายๆ อยู่บ้านเฉยๆ)
2. ถ้าโจทก์มันอยากให้คุณ ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาเร็วๆ...มันต้องรีบกระตือรือร้น ในการคัดคำพิพากษาของคุณแทนตัวคุณ แล้วจัดส่งไปที่บ้านของคุณโดยเร็วไว
3. ทางโจทก์มันต้องควักกระเป๋า จ่ายค่าถ่ายเอกสารคำพิพากษาเอง(แทนที่คุณจะต้องเป็นคนจ่ายเอง) มิหนำซ้ำ...มันยังต้องควักกระเป๋า จ่ายค่าจ้างให้"
แมสเซนเจอร์ศาล" มาส่งคำพิพากษาติดไว้ที่หน้าบ้านของคุณอีกด้วย (ค่าจ้างในแต่ละครั้งก็ประมาณ 200 - 300 บาท แล้วแต่ความ ใกล้-ไกล จากศาลมาที่บ้านคุณ)
4. คุณจะมีเวลาในการตั้งตัว "รับทราบคำพิพากษา"ที่นานขึ้น (ประมาณสองเดือนตามที่ทนายมันบอก) แล้วหลังจากที่คุณ "รับทราบคำพิพากษา" แล้ว...ก็ค่อยติดต่อคุยกับทางเจ้าหนี้ ในเรื่องการขอผ่อนชำระอีกที...แต่...ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็อาจใช้ยุทธวิธี"หักคอจ่าย"ต่อไป เพื่อป้องกันการถูก ยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือน
สุดท้ายนี้...ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ที่คุณมีความกล้าหาญ ในการเผชิญหน้าสู้กับปัญหาและความจริง ขอเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ต่อไป และหมดหนี้โดยเร็ววัน
ด้วยความปราถนาดีจาก
นกกระจอกเทศ
ทีมงานคณะกรรมการชมรมฯ (ฝ่ายบู๊)
______________________________________________________________________
อ้างอิงข้อมูลจาก
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
(อยู่ในด้านล่างสุดของกระทู้)
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&id=9240&Itemid=64&view=topic#29602
zhom เขียน: 3. การที่เอกสารเงียบหายไปนานขนาดนี้ แล้วเราก็ยังไม่ได้เริ่มชำระหนี้ คดีของเราจะถูกส่งไปกรมบังคับคดีเพื่อบังคับให้อายัติทรัพย์หรืออายัติเงินเดือนไหมคะ กลัวข้อนี้มากเลยค่ะ เพราะจริงๆตอนนี้พร้อมที่จะเริ่มผ่อนชำระแล้ว อาจจะไม่มีเงินก้อนสำหรับปิดบัญชี แต่ถ้าทยอยส่งก็พอไหว เพราะตอนนี้มันเหลือหนี้ไม่เยอะแล้วค่ะ
ถ้าคุณกลัวมาก
...ก็รีบไป"
คัดคำพิพากษา"ที่ศาลด้วยตัวเองเลยสิครับ แล้วก็รีบปฏิบัติตามที่ศาลสั่งภายในไม่เกิน 15วัน นับตั้งแต่วันที่คุณไปขอคัดคำพิพากษาที่ศาล
ส่วนที่คุณบอกว่าจะไปขอเจรจาผ่อนจ่ายหนี้กันใหม่อีกครั้ง กับเจ้าหนี้ในคดีที่ศาลได้พิพากษาไปแล้ว...ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันอาจไม่ยอมให้คุณได้ผ่อนต่อก็ได้นะครับ ก็ในเมื่อศาลพิพากษาไปเรียบร้อยแล้วนี่ แล้วมันจะให้คุณผ่อนจ่ายไปอีกทำไม?
เจ้าหนี้มันจะไม่ยอมให้ลูกหนี้ ผ่อนจ่ายหนี้
(หลังจากที่มีคำพิพากษาออกมาแล้ว) ในระยะเวลายาวๆหรอกนะครับ
แต่ถ้าลูกหนี้ขอผ่อนจ่ายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่งวด...บางที...ก็อาจเจรจาตกลงกันได้
แต่ถ้าหากตกลงกันไม่ได้เลย ก็เหลือแต่ใช้วิธี"
หักคอจ่าย"เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สอบถามเรื่องขึ้นศาลค่ะ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40812&Itemid=64#47926