สอบถามเรื่องหนี้สัญญาเช่าซื้อ

10 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #48483 โดย Kicker
สวัสดีครับ...
ผมอยากจะปรึกษาเรื่องการขอประนอมหนี้ สัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เดิมที่ผมทำสัญญากับ บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ต่อมาทราบว่าทาง บ.ซัมมิท ได้ขายหนี้ต่อให้กับทาง บริษัท JMT Network Services ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ
ผมได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ กับ บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง เมื่อวันที่ 22 พ.ค.51 โดยในสัญญาระบุไว้ว่า ราคารถเงินสด + ภาษี รวม 44050 บาท บวกผลประโยชน์ (เข้าใจว่าดอกเบี้ย) 28411.31 บาท รวมเป็น 69532.80 บาท ที่ต้องชำระ ดอกเบี้ย MRR ขณะทำสัญญาเท่ากับร้อยละ 7.38 ต่อปี โดยในสัญญาระบุไว้ว่า ผ่อนเดือนละ 2480 บาท ระยะเวลา 30 เดือน
ผมได้ทำการผ่อนไปประมาณ 7 - 8 เดือน ในช่วงเดือนหลังมีปัญหาเรื่องการเงินทำให้ส่งแบบไม่ต่อเนื่อง คือเดือนนี้จ่าย เดือนหน้าค้างจ่าย สลับกันไปมา จนมีจมหมายแจ้งมาบอกยกเลิกสัญญา บอกว่าผมค้างจ่ายรวม 3 เดือน ทั้งที่ผมจ่ายแบบสลับกันเดือนเว้นเดือน ไม่ได้ขาดส่งต่อเนื่อง 3 เดือน ประจวบกับช่วงนั้นผมตกงาน ต้องย้ายที่อยู่ไปทำงานที่อื่นเลยขาดการติดต่อไป แต่พอผมมีเงินผมก็เอาไปจ่ายค่างวดรถต่อครับ จ่ายไปได้ราวๆ 3 - 4 เดือน (จ่ายทางเซเว่น) จากนั้นก็มีโทรศัพท์โทรมาทวงหนี้ แจ้งว่าผมขาดส่งมานานแล้ว และส่งค่างวดไปแค่ 8 เดือน (ถ้าจำไม่ผิด) ผมได้แย้งไปว่าผมผ่อนไปมากกว่านั้น ทางคนทวงหนี้บอกให้ผมหาหลักฐานมา คือสลิปเซเว่น มันเก็บไว้นานๆมันก็จาง บางที่ก็หายไปบาง รวมๆแล้วหาเจอแค่ 6 เดือน จากนั้นผมเลยเข้าใจ (เอาเอง) ว่าที่ผมส่งไปหลังจากโดนบอกเลิกสัญญา คือ จ่ายฟรีสินะ จากนั้นผมก็เลยไม่ได้ส่งต่อไป และรอให้ทางเจ้าหนี้มายึดรถกลับไป แต่ก็ไม่มีใครติดต่อมา จนเวลาผ่านไป 4 - 5 ปี ประมาณกลางๆปี 56 ทาง บ.ซัมมิทได้ติดต่อมาทวงถาม ผมบอกว่าให้มายึดรถไปเลย แล้วค่อยคุยกันเรื่องส่วนต่างที่เหลือ จากนั้นก็เงียบไปอีก จนเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2556 ได้มีจมหมายจาก บ. JMT ส่งมาที่ทำงานเก่า พี่ที่รู้จักเลยส่งให้ผมดู แจ้งให้ผมชำระหนี้ รวมทั้งสิ้น 100853 บาท หลังจากนั้นเดือน พ.ย.56 ได้มีพนักงานของ JMT โทรให้ผมชำระหนี้ก่อนเดือน ก.พ.57 ไม่เช่นนั้นจะฟ้องศาล....ไม่ทราบว่าผมควรทำอย่างไรครับ ให้หาเงินเป็นแสน มาจ่ายครั้งเดียว คงทำไม่ได้ ที่สำคัญมันมากกว่าราคารถอีก

สอบถามตามนี้ครับ
1.ถ้าเรื่องนี้เป็นคดีความ มันคือ คดีเช่าซื้อ อายุความ 2 ปี ใช่มั๊ยครับ (ถ้าใช่แสดงว่าหมดอายุความแล้ว)
2.ผมมีที่อยู่ไม่แน่นอนเพราะต้องย้ายสถานที่ทำงานทุกๆ 2 ปี (งานก่อสร้าง) ถ้าทาง JMT ฟ้องมาหมายศาลจะถูกส่งไปที่ภูมิลำเนา ซึ่งผมไม่ได้อยู่แล้ว พอจะมีวิธีไหนที่จะแจ้งที่อยู่จัดส่งเอกสารใหม่ได้ครับ
3.ถ้าไม่มีจ่ายจริงๆ ต้องขึ้นศาล จะมีค่าใช้จ่ายอะไรบางครับ พูดตรงๆตอนนี้เงินเดือนผมก็ใช้แบบเดือนชนเดือนอยู่แล้ว เก็บก็ไม่มี
4.เรื่องนี้ควรจบลงแบบไหนครับ (ขอคำแนะนำ)
รบกวนผู้รู้แนะนำ ให้ผมเจอกับแสงสว่างที่เถอะครับ.....ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #48524 โดย jackTs

Kicker เขียน: 1.ถ้าเรื่องนี้เป็นคดีความ มันคือ คดีเช่าซื้อ อายุความ 2 ปี ใช่มั๊ยครับ (ถ้าใช่แสดงว่าหมดอายุความแล้ว)


ตอบ : ใช่

อายุความในคดีเช่าซื้อ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=813&Itemid=64#13995



Kicker เขียน: 2.ผมมีที่อยู่ไม่แน่นอนเพราะต้องย้ายสถานที่ทำงานทุกๆ 2 ปี (งานก่อสร้าง) ถ้าทาง JMT ฟ้องมาหมายศาลจะถูกส่งไปที่ภูมิลำเนา ซึ่งผมไม่ได้อยู่แล้ว พอจะมีวิธีไหนที่จะแจ้งที่อยู่จัดส่งเอกสารใหม่ได้ครับ


ต้องย้ายทะเบียนบ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับ...ไม่มีวิธีอื่น

หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64



Kicker เขียน: 3.ถ้าไม่มีจ่ายจริงๆ ต้องขึ้นศาล จะมีค่าใช้จ่ายอะไรบางครับ พูดตรงๆตอนนี้เงินเดือนผมก็ใช้แบบเดือนชนเดือนอยู่แล้ว เก็บก็ไม่มี


ค่าใช้จ่ายในการไปขึ้นศาล
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6915&Itemid=64#8750

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64



Kicker เขียน: 4.เรื่องนี้ควรจบลงแบบไหนครับ (ขอคำแนะนำ)


คาดว่าทางฝ่ายเจ้าหนี้ตัวจริง มันคงขาย"หนี้เน่า"ตัวนี้ ให้กับ JMT ไปแล้ว

เมื่อมีการ ซื้อ-ขาย "หนี้เน่า"ซึ่งกันและกัน มันจะทำการขาย"หนี้เน่า"กันแบบเหมายก Lot หรือ"เหมายกเข่ง"
ซึ่งในแต่ละ Lot ของ"หนี้เน่า"นั้น จะมีจำนวนหนี้เน่าอยู่หลายร้อยบัญชี หรือหลายพันบัญชี ที่จะทำการขายกันแบบเหมายกเข่ง

การขาย"หนี้เน่า"ในลักษณะเช่นนี้ จะขายออกไปให้กับบริษัทใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในเครือของตนเอง , บริษัทนอกเครือ , หนี้แม้กระทั่งสำนักงานกฏหมาย/สำนักงานทนายความ/บริษัทรับจ้างทวงหนี้

ส่วนราคาในการ ซื้อ-ขาย "หนี้เน่า"แบบเหมายกเข่งนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 5%ของราคาหนี้เน่าทั้งหมด...แล้วหลังจากนั้น ผู้ที่ซื้อหนี้เน่าไปบริหารแทน ก็จะทำการทวงหนี้กับลูกหนี้ต่อ ในราคาหนี้เดิม โดยมักจะอ้างว่า"มันเป็นผู้ซื้อหนี้เน่ามาจากเจ้าหนี้รายเดิมแล้ว" จึงมีสิทธิ์ในการทวงหนี้ตัวนี้ต่อ...แต่...มันจะไม่ยอมบอกความจริงให้ลูกหนี้ได้รับรู้ว่า มันได้ซื้อ"หนี้เน่า"มาในราคาเพียงแค่ 5%เท่านั้น

ดังนั้น หากผู้ที่ซื้อหนี้เน่ามาบริหารต่อ ให้ส่วนลด(Hair cut)กับลูกหนี้ในราคาครึ่งหนึ่ง(50%) ตัวมันเองก็ยังได้กำไรตั้ง 45%...เพราะมันซื้อ"หนี้เน่า"จากเจ้าหนี้รายเดิมมาในราคาเพียงแค่ 5% เท่านั้น

สามารถไปดูตัวอย่าง"การซื้อหนี้เน่ามาบริหารเอง"ในราคา 5% จากบริษัทรับจ้างทวงหนี้ JMT ได้ใน Link นี้
www.jmtnetwork.co.th/content.php?ID=5

คุณสามารถไปตรวจสอบความจริงได้ว่า มันมีการ"ขายหนี้เน่า"ของคุณออกไปจริงหรือไม่ ได้ที่เครดิตบูโร
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64

ข้อสรุปในกรณีนี้ มันจึงน่าจะจบลงแบบนี้ครับ

ถ้าเจ้าหนี้มันรู้ว่า...คุณเองก็พอมีความรู้ในเรื่อง "คดีขาดอายุความ" และหนี้ของมันที่มีอยู่กับคุณ ได้ขาดอายุความในการฟ้องไปแล้ว...มันอาจจะไม่ฟ้องคุณก็ได้ เนื่องจากต้องเสียเงินและเสียเวลาในการฟ้องไปเปล่าๆ...แต่มันจะใช้วิธีในการทวงหนี้ไปเรื่อยๆแทน เพราะกฏหมายไม่ได้ระบุไว้นี่ครับว่า ถ้าไม่ฟ้อง...แล้วห้ามทวงหนี้โดยเด็ดขาด หรือทวงไม่ได้


.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #49067 โดย Kicker
อ้างถึง คดีสัญญาเช่าซื้อ นะครับ พอดียังสงสัย นิดหน่อยครับ (จริงๆสงสัยมาก)

1.ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ อายุความ 2 ปี ---- อันนี้เข้าใจว่าต้องฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันผิดสัญญา

ค่าเสียหายจากการที่ผู้เช่าซื้อใช้ทรัพย์สิน อายุความ 6 เดือน ---- อันนี้เข้าใจว่า หากยึดทรัพย์คืนแล้วขายทอดตลาด ส่วนต่างที่เกิดขึ้นต้องฟ้องก่อน 6 เดือน

ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน อายุความ 10 ปี ---- อันนี้แระครับ ที่สงสัย ตามที่ผมเข้าใจคือ อายุความจะ 10 ปีได้ คือต้องฟ้องศาลก่อน 2 ปี หลังจากนั้นเมื่อฟ้องแล้วคดีจะมีอายุความ 10 ปี ใช่หรือไม่ แต่ถ้าไม่มีการฟ้องศาลภายใน 2 ปี จะไม่สามารถเรียกร้องค่าาขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน ได้ใช่หรือไม่

2. ถ้ามีที่อยู่หลายแห่ง ถือว่าแต่ละแห่งเป็นภูมิลำเนาได้เช่นกัน (ปพพ.ม.38) สามารถให้ส่งไปตามที่อยู่ที่แท้จริงได้ อันนี้ได้ยินมา เราสามารถส่งจม.ไปแจ้งทางเจ้าหนี้ให้ส่งหมายศาลมายังที่เราระบุได้ ใช่หรือไม่ (ปพพ.ม.38 คืออะไรครับ)

3. ตอนนี้รถอยู่กับผม หากว่าคดีความนี้หมดอายุแล้วจริง ผมไม่จำเป็นต้องคืนรถให้ทางบริษัท JMT ได้ใช่หรือไม่

รบกวนแล้วครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #49083 โดย jackTs

Kicker เขียน: ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน อายุความ 10 ปี ---- อันนี้แระครับ ที่สงสัย ตามที่ผมเข้าใจคือ อายุความจะ 10 ปีได้ คือต้องฟ้องศาลก่อน 2 ปี หลังจากนั้นเมื่อฟ้องแล้วคดีจะมีอายุความ 10 ปี ใช่หรือไม่ แต่ถ้าไม่มีการฟ้องศาลภายใน 2 ปี จะไม่สามารถเรียกร้องค่าาขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน ได้ใช่หรือไม่


- ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน
ในความหมายนี้...หมายถึง ค่าใช้จ่ายใดๆที่เจ้าหนี้ต้องเสียเงินจ่ายเพิ่ม หรือเจ้าหนี้อดได้ใช้ผลประโยชน์ จากทรัพย์สินของตัวเจ้าหนี้เอง หลังจากบอกยกเลิกสัญญาแล้วเช่น

*** ค่าติดตามทวงถามในการทวงทรัพย์สินของเจ้าหนี้คืน หลังจากที่บอกยกเลิกสัญญาแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้
*** ค่าจ้างนักสืบ ในการสืบหาทรัพย์สิน ที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้กับเจ้าหนี้ หลังจากที่บอกยกเลิกสัญญาแล้ว
*** ลูกหนี้ได้หลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินนั้นๆ(ไม่ยอมคืนของให้) ทำให้เจ้าหนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เพราะยึดทรัพย์คืนไม่ได้ (เรียกได้ว่า อดได้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น...เอาไว้ใช้เอง , ให้คนอื่นเอาไปใช้แล้วเก็บค่าเช่า , หรือเอาทรัพย์นั้นไปขาย) ภาษากฏหมายเรียกว่า “ค่าขาดราคา” , “ค่าขาดผลประโยชน์”
เหล่านี้ทั้งหมด มีอายุความ 10 ปี
กฏหมายในข้อนี้ พูดถึงเฉพาะ ค่าใช้จ่ายต่างๆ , ค่าความขาดทุน , ค่าความเสียหาย จากการที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เท่านั้น



เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

- หากลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เจ้าหนี้มีสิทธิ์ที่จะติดตามทวงเอาของคืนในฐานะเจ้าของทรัพย์กรรมสิทธิ์ได้ตลอด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ไม่มีอายุความ
- ทรัพย์สินที่เช่าซื้อสูญหาย ลูกหนี้ต้องชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ เพราะถือว่าเป็นการฟ้องขอให้ชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามสัญญา กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ ใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
- ถ้าลูกหนี้นำทรัพย์สินไปจำหน่ายจ่ายโอน และไม่ยอมชำระเงิน ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ เจ้าของมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และลูกหนี้อาจมีความผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์ด้วย(เป็นคดีอาญา) เนื่องจากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่




Kicker เขียน: 2. ถ้ามีที่อยู่หลายแห่ง ถือว่าแต่ละแห่งเป็นภูมิลำเนาได้เช่นกัน (ปพพ.ม.38) สามารถให้ส่งไปตามที่อยู่ที่แท้จริงได้ อันนี้ได้ยินมา เราสามารถส่งจม.ไปแจ้งทางเจ้าหนี้ให้ส่งหมายศาลมายังที่เราระบุได้ ใช่หรือไม่ (ปพพ.ม.38 คืออะไรครับ)


ณ ปัจจุบัน ลูกหนี้(จำเลย)มักถูกเจ้าหนี้ฟ้องด้วย "ป.วิผู้บริโภค"กันหมดแล้ว ไม่เหมือนในอดีต(เมื่อ5ปีที่แล้ว) ที่การฟ้องโดยคดีแพ่ง มักฟ้องด้วย ป.วิแพ่ง(ปพพ.)...ดังนั้น ปพพ.มาตรา 38 จึงไม่สามารถใช้ได้กับกรณีเช่นนี้

หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64



Kicker เขียน: 3. ตอนนี้รถอยู่กับผม หากว่าคดีความนี้หมดอายุแล้วจริง ผมไม่จำเป็นต้องคืนรถให้ทางบริษัท JMT ได้ใช่หรือไม่


ถ้าไม่คืนรถ...ก็ไม่มีการนับอายุความ

หากใครเป็นลูกหนี้ที่ได้ทำสัญญาเช่าซื้อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าซื้อสังหาริมทรัพย์ใดๆก็ตาม
ถ้ารู้ตัวเองว่าจ่ายไม่ไหวแล้ว ก็หยุดจ่ายซะเถอะครับ พร้อมกับบอกยกเลิกสัญญากับเจ้าหนี้ซะ...แล้วก็คืนทรัพย์นั้นๆให้กับเขาไป (อย่าไปทำการ ขาย , ถ่ายเท , โยกย้าย , โอน , หลบหนี...ทรัพย์ของเจ้าหนี้ เป็นอันขาด)
เท่านี้...ประเด็นอายุความ ในการฟ้องร้องลูกหนี้ ก็จะเหลือเพียงแค่ 6 เดือน และ 2 ปี เท่านั้น

สามารถตัดประเด็นในเรื่อง อายุความ 10 ปี

พร้อมกับคดีอาญา ออกไปได้เลยครับ...ฟันธง!


อ้างอิงข้อมูลจาก
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=813&Itemid=64#13995

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #49102 โดย pumpim1313
ขอเล่าเรื่องเช่าซื้อ มอเตอร์ไซด์ บ้างค่ะ
เรื่องเหมือนกับ เจ้าของกระทู้ที่ตั้งขึ้นมาเลย
สรุป ตอนนี้ส่งหนี้ให้กับ JMT เดือน ละ 500 บาท (ส่งมา6เดือนล่ะ)

รถมอเตอร์ไซด์ ซื้อเป็นชื่อเรา แต่คนอื่นใช้ค่ะ (ตั้งแต่ปี 2545)
สุดท้ายมาเค้าส่งไม่ไหว ปล่อยให้มายึดรถไป เราเองก็ไม่เคยทราบเรื่องนี้

จนมาเมื่อปีที่แล้ว ทำเรื่องกู้เงินกับ ธ. เค้าแจ้งว่าเราติดแบล็กลิส อั๊ยยะ... ไปทำไรมาหว่า เลยงง
หาต้นตอ ให้ได้ ก้อสรุปเป็น เรื่องจริง แต่เวลาเกือบ จะ10 ปีแล้วล่ะค่ะ (เข้าปีที่9)
ความซวยเลยมาตกถึงเรา ตอนนี้เช็คยอดกับ JMT คงเหลือ 67,000 บาท

ชีวิตหนอ มอเตอร์ไซด์ อะไร แพงได้ขนาดนี้...
เราจะมีวิธี แก้ไขอย่างไรบ้างไหมค่ะ ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ JMT ว่าถ้าปิด ลดได้เท่าไร่
เค้าก้อยังไม่ให้คำตอบ ให้เรารอสรุปก่อน ... เฮ้อ ชีวิตค่ะ...
ขอเล่าสู่กันฟังค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #49129 โดย Kicker
ขอตอบแบบที่ผมเข้าใจนะครับ
1. ถ้าเขามายึดรถไปแล้ว ภายในเวลา 6 เดือนต้องเรียกร้องร้องค่าส่วนต่างครับ ถ้าเกิน 6 เดือนไปแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้หนี้เค้าครับ เพราะอายุความมันมีแค่ 6 เดือนในกรณ๊ที่เราให้เขายึดรถไปแล้ว
2. กรณีภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่เราผิดนับชำระแล้วทางเจ้าหนี้ไม่ดำเนินการฟ้องศาล ถือว่ายอดหนี้ที่เราค้างอยู่ในสัญญาไม่ต้องจ่ายหนี้ที่ค้างชำระอีกต่อไป สำหรับในส่วนนี้
3. อายุความ 10 ปี ทางเจ้าหนี้สามารถฟ้องศาลเรียกร้อง ค่าขาดผลประโยชน์ ได้ครับ ในกรณีที่เราไม่คืนทรัพย์สินที่เราเช่าซื้อมาคืนแก่เจ้าหนี้ แต่ไม่เกี่ยวกับยอดหนี้ในสัญญานะครับ

ตามข้อ 1 และ 2 ถึงอายุความจะขาดไปแล้วแต่ถ้าทางเจ้าหนี้ฟ้องศาล เราก็ต้องไปนะครับ ยกเหตุผลขาดอายุความให้ทางศาลฟัง แต่ถ้าเราไม่ไปแย้งในศาล ศาลจะให้ผลประโยชน์แก่ทางเจ้าหนี้ครับ

ในกรณีของคุณผมว่าเสียรู้เจ้าหนี้แล้วละครับ เพราะตามที่คุณบอกว่า ทางเจ้าหนี้ได้มายึดรถไปแล้ว ตั้งแต่ปี 45 และถึงคุณไม่คืนรถให้ทางเจ้าหนี้ ผมนับดูมัน 12 ปีแล้วนะครับ อายุความขาดหมดแล้ว แต่เข้าใจว่าคุณไปทำสัญญาใหม่กับทาง JMT ถือว่าเริ่มนับอายุความใหม่ครับ และหากคุณจะขอปิดคงยากครับ ในกรณีขอปิดต้องขาดส่งอย่างน้อยก็ 1 ปีละครับ และควรให้ทางเจ้าหนี้เสนอมาดีกว่าครับ

ในส่วนผมตอนนี้ ทาง JMT ก็ไม่มีติดต่อมาเลยครับ ครั้งแรกส่ง จม.แจ้งยอดหนี้มา เดือน กันยายน 56 ครั้งที่ 2 โทรมา เดือน ธันวาคม 56 ให้ชำระหนี้ก่อนเดือน กุมภาพันธ์ 57 ไม่งั้นจะคัดชื่อดำเนินคดี ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครติดต่อมาเลยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #96168 โดย Kicker
ถามเพิ่มเติมครับตอนนี้มีหมายส่งมาแล้วครับ
เรื่องมีอยู่ว่า...ผมเช่าซื้อรถจาก บ.ซัมมิท แคปปิตอล ต่อมา บ.เจ เอ็ม ที ได้ซื้อหนี้มาต่อและมีหมายฟ้องแจ้งมาดังนี้ครับ
เนื่อหาตามหมายที่ส่งมาให้ครับ (ผมตัดลงเฉพาะเนื้อหาข้อความสำคัญนะครับ)
- เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2551 จำเลยได้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ Wave 125 ในราคาเงินสดส่วนที่เหลือ 41,121.49 บาท บวกผลประโยชน์ 28,411.31 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย MRR ร้อยละ 7.38 ต่อปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 69532.80 บาท ชำระทุกวันที่ 5 ของเดือน โดยผ่อนชำระเดือนละ 2,317.76 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,480 บาท จำนวน 30 งวด
- หลังทำสัญญาจำเลยได้ชำระเพียง 4 งวด (ประจำงวดวันที่ 5 ก.ค. 2551) รวมเป็นเงินที่ชำระมา 9,918.62 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และผิดนัดตั้งแต่งวด (วันที่ 5 ต.ค. 2551) ถึงตรงนี้ความจริงผมมีขาดส่งบางเดือนครับแต่ไม่ได้ขาดส่งต่อเนื่อง 3 เดือน และหลังจากได้รับจดหมายยกเลิกสัญญาแล้วก็ได้ผ่อนชำระต่อไปอีกประมาณ 6-7 งวด โดยชำระผ่านทางเซเว่นเหมือนทุกๆครั้ง และทาง บ.ซัมมิท แคปปิตอลก็ไม่ได้ติดต่อมาเพื่อเอารถคืนแต่อย่างใด เบอร์โทรติดต่อก็ไม่เคยเปลี่ยนใช้มา 10 กว่าปีแล้วครับ แต่ในสำเนารายการชำระเงินที่ทางโจทก์ทำพิมพ์ส่งแนบมาในเอกสารฟ้องมีเพิยง 4 งวด และเนื่องจากเวลาผ่านไปนานมากบิลใบเสร็จจึงสูญหายไปแล้วครับ เมื่อนำเงินที่จำเลยมาบางส่วนหักภาระหนี้ที่จำเลยตามสัญญา คงมีภาระหนี้ค้างชำระเป็นเงิน 59,614.18 บาท
- จำเลยต้องส่งมอบรถในสภาพเรียบร้อยและใช้งานได้ หากส่งมอบไม่ได้ ให้จำเลยชดใช้เป็นจำนวนเงินที่ค้างในสัญญา (ราคาทุน) 59,614.18 บาท ค่าบอกกล่าวและทวงถาม 1,000 บาท และค่าขาดผลประโยชนฺ์ 1,000 บาท รวมเป็นจำนวน 61,614.18 บาท ถึงตรงนี้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2559 มีจดหมายทวงหนี้รวมยอดเงินแจ้งมา 100,856.78 บาทครับ และวันที่ 7 ต.ค. 2559 มีจดหมายส่งมาแต่ไม่มีผู้รับ แจ้งค่าใช้จ่ายในการฟ้องส่วนขาดของ บ.ซัมมิท แคปปิตอล ว่ามียอดหนี้ทั้งสิ้นรวม 59,614.18 บาท เห็นมีสำเนาติดมาในเอกสารฟ้องครับ

สรุปควรทำอย่างไรครับ
- เรื่องอายุความไม่ทราบคดีแบบนี้หมดอายุความไปหรือยัง อ่านในกระทู้ต่างๆมีแต่คดีบัตรเคดิตหรือคดีกู้ยืมเงินที่บอกว่ามีอายุความ 2 ปี เคยให้เพื่อนไปปรึกษาทนายที่เพื่อนรู้จักเขาบอกคดีน่าจะหมดอายุความแล้ว แต่ไม่ได้ส่งรายละเอียดไปให้ดูครับ
- ถ้าจะให้คืนรถเพื่อนำไปขายต่อ แล้วไม่ได้จำนวนเงินตามที่ฟ้องมา (ซึ่งไม่ได้แน่นอน) ผมก็ต้องจ่ายเงินในส่วนที่ขาดไปตามจำนวนที่เขาฟ้องมาใช่มั๊ยครับ แบบนี้แล้วสู้ขอเก็บรถไว้แล้วไกล่เกลี่ยจ่ายเงินก้อนเพื่อขอลดจำนวนเงินที่ผมต้องจ่ายดีกว่าครับ ไม่ทราบว่าจะลดได้กี่เปอร์เซ็นต์ครับ
- เมื่อไปศาลต้องทำอย่างไรบ้างหากจะขอไกล่เกลี่ยหรือเราติดต่อไปคุยขอส่่วนลดกับ บ.เจ เอ็ม ที ก่อนไปศาลดีครับ
รบกวนขอความรู้และคำแนะนำด้วยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #96170 โดย jackTs

Kicker เขียน: สรุปควรทำอย่างไรครับ


ในหมายฟ้อง โจทก์มันก็เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วนี่ครับว่า


- จำเลยต้องส่งมอบรถในสภาพเรียบร้อยและใช้งานได้

หากส่งมอบไม่ได้ ให้จำเลยชดใช้เป็นจำนวนเงินที่ค้างในสัญญา



เจ้าหนี้มันฟ้องศาลก็เพื่อให้คุณส่งมอบคืนรถ ถ้าหากคุณไม่คืนรถให้กับมัน ก็ต้องชดใช้หนี้เงินให้กับมันแทน



Kicker เขียน: - เรื่องอายุความไม่ทราบคดีแบบนี้หมดอายุความไปหรือยัง


ยังครับ...เพราะถ้าหากไม่คืนรถ ก็จะมีอายุความ 10ปี...หรือ อาจไม่มีการนับอายุความเลยก็ได้

โดนฟ้องส่วนต่างรถยนต์ อายุความหมดแล้ว แต่ศาลพิจารณาให้รับผิดครับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=45035&Itemid=64#91329



Kicker เขียน: อ่านในกระทู้ต่างๆมีแต่คดีบัตรเคดิตหรือคดีกู้ยืมเงิน ที่บอกว่ามีอายุความ 2 ปี


มันควรก็เป็นเช่นนั้นแหละครับ เพราะที่นี่คือ



ที่นี่...ไม่ใช่ ชมรมหนี้นอกระบบ
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ กยศ.
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ สหกรณ์
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ ไฟแนนซ์/ลิสซิ่งต์
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ บ้าน/คอนโด หรือซื้อที่อยู่อาศัยแล้วมีปัญหา
ไม่ใช่ ชมรมหนี้วงแชร์
ไม่ใช่ ชมรมหนี้พนันฟุตบอล
ไม่ใช่ ชมรมหนี้หวย



Kicker เขียน: เคยให้เพื่อนไปปรึกษาทนายที่เพื่อนรู้จักเขาบอกคดีน่าจะหมดอายุความแล้ว แต่ไม่ได้ส่งรายละเอียดไปให้ดูครับ


คุณก็ส่งรายละเอียดทั้งหมด ไปให้ทนายของคุณดูสิครับ



Kicker เขียน: - ถ้าจะให้คืนรถเพื่อนำไปขายต่อ แล้วไม่ได้จำนวนเงินตามที่ฟ้องมา (ซึ่งไม่ได้แน่นอน) ผมก็ต้องจ่ายเงินในส่วนที่ขาดไปตามจำนวนที่เขาฟ้องมาใช่มั๊ยครับ แบบนี้แล้วสู้ขอเก็บรถไว้แล้วไกล่เกลี่ยจ่ายเงินก้อนเพื่อขอลดจำนวนเงินที่ผมต้องจ่ายดีกว่าครับ ไม่ทราบว่าจะลดได้กี่เปอร์เซ็นต์ครับ


การเจรจา haircut กับ ไฟแนนซ์/ลีสซิ่ง ใดๆก็ตาม...จะต้องทำการส่งมอบคืนรถให้กับเจ้าหนี้เสียก่อนครับ (มันไม่เหมือนกับในกรณีของการเป็นหนี้บัตรฯ)...แล้วหลังจากนั้น จึงค่อยมาเจรจาขอส่วนลด ในส่วนที่เป็น ค่าดอกเบี้ยค้างชำระ , ค่าเบี้ยปรับล่าช้ารายเดือน , ค่าทวงถามหนี้ , ค่าส่วนต่างแห่งความขาดทุนที่นำรถไปขายแล้วขาดทุน(อันนี้ทางเจ้าหนี้มันต้องขายรถไปแบบขาดทุนแน่ๆอยู่แล้ว เพราะเป็นการขายรถประเภทรถมือสองออกไป)

ถ้าหากไม่มีการส่งมอบคืนรถให้เสียก่อน...ก็ไม่มีทางเจรจาได้โดยง่ายหรอกครับ



Kicker เขียน: - เมื่อไปศาลต้องทำอย่างไรบ้าง


ผมก็เคยทำ Link ให้คุณดูไปแล้วนี่ครับ อยู่ในด้านบนๆของกระทู้คุณนี่ไง
ทำไมถึงไม่ไปอ่านล่ะครับ?

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64



Kicker เขียน: หากจะขอไกล่เกลี่ยหรือเราติดต่อไปคุยขอส่่วนลดกับ บ.เจ เอ็ม ที ก่อนไปศาลดีครับ


แล้วแต่คุณสิครับ สะดวกแบบไหน ก็เชิญทำตามใจชอบได้เลย

คุณจะส่งมอบคืนรถ ต่อหน้าศาล ในวันที่นัดไปขึ้นศาลเลยก็ได้

แต่ถ้าคุณจะเจรจาขอส่งมอบคืนรถกันเอง ก่อนถึงวันที่ศาลนัด...ในการส่งมอบคืนรถให้ จะต้องมี"เอกสารส่งมอบคืนรถ"(เอกสารยืนยันว่าได้ทำการยึดรถคืนไปแล้ว) เขียนรายละเอียดเอาไว้ให้ชัดเจนด้วยนะครับ
เสร็จแล้วคุณก็นำเอาเอกสารส่งมอบคืนรถฉบับนี้ ไปขึ้นศาลตามวันที่นัดด้วย เพื่อให้ศาลเห็นว่า ได้มีการส่งมอบคืนรถให้กับโจทก์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คดีความในศาลชั้นนี้ มันจะได้จบลงไป
.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #96205 โดย Kicker
วันนี้ได้โทรไปคุยกับทาง JMT ครับได้ข้อสรุปแบบนี้ครับ
- ถามว่าถ้าคืนรถแล้วเรื่องจบมั๊ยครับ ทาง JMT บอกว่าไม่จบครับ เพราะยังต้องมีการนำรถไปขายทอดตลาด ถ้าขายได้น้อยกว่ายอดที่เรียกมาก็จะต้องมีการมาเรียกเก็บจากเราต่อ
- ถามว่าถ้าจะขอชำระเป็นเงินก้อนครั้งเดียวจบต้องจ่ายเท่าไหร่ ทาง JMT แจ้งยอดมาจำนวน 40000 บาท ซึ่งเราแจ้งว่าตอนนี้มี 25000 บาท ถ้ารอสิ้นเดือนนี้เราสามารถหาเงินก้อนมาจบได้ที่ 30000 บาท ทาง JMT ก็ยังยืนยันยอดเดิมครับ

สรุป ถ้าคืนรถคดีไม่จบ ถ้าขอชำระเงินก้อน JMT เรียกยอดมาสูงไปครับ แบบนี้แล้วคงต้องรอวันขึ้นศาลเพื่อขอให้ศาลท่านพิจารณาไกล่เกลี่ย หวังว่าศาลท่านคงพิจารณาส่วนลดให้มากกว่านี้ครับ ไม่ทราบคุณนกกระจอกเทศมีความเห็นเช่นไรครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #96208 โดย jackTs

Kicker เขียน: ถ้าคืนรถคดีไม่จบ ถ้าขอชำระเงินก้อน JMT เรียกยอดมาสูงไปครับ


ขอย้ำอีกครั้ง

ในหมายฟ้อง โจทก์มันเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า


- จำเลยต้องส่งมอบรถในสภาพเรียบร้อยและใช้งานได้

หากส่งมอบไม่ได้ ให้จำเลยชดใช้เป็นจำนวนเงินที่ค้างในสัญญา



เจ้าหนี้มันฟ้องศาลก็เพื่อให้ลูกหนี้ส่งมอบคืนรถ ถ้าหากลูกหนี้ไม่คืนรถให้กับมัน ก็ต้องชดใช้หนี้เงินให้กับมันแทน


และเมื่อมีการส่งมอบคืนรถให้กับโจทก์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คดีความที่ฟ้องกันในชั้นนี้ มันจะได้จบลงไปเสียที

ส่วนจะมีส่วนต่างแห่งความขาดทุนเท่าไหร่นั้น หากเจ้าหนี้มันไม่พอใจ ก็ปล่อยให้มันมาทำเรื่องฟ้องร้องใหม่กันอีกครั้ง แล้วจึงค่อยมาสู้คดีความกันใหม่



Kicker เขียน: แบบนี้แล้วคงต้องรอวันขึ้นศาลเพื่อขอให้ศาลท่านพิจารณาไกล่เกลี่ย หวังว่าศาลท่านคงพิจารณาส่วนลดให้มากกว่านี้ครับ


ศาลท่านไม่มาพิจารณาไกล่เกลี่ยให้หรอกครับ

เพราะว่าไม่ใช่หน้าที่ของศาล


ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #96209 โดย jackTs
.
ผมว่าสำหรับคดีนี้...คุณควรโทรไปปรึกษากับคุณอาไพโรจน์ดีกว่านะครับ
มัวแต่มาพิมพ์ถามกันอยู่อย่างนี้...มันไม่จบหรอกครับ


.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.843 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena