ขอคำแนะนำครับ ตอนนี้มีหมายศาลยึดบ้านจากกรมบังคับคดี

คุณแม่ผมเป็นหนี้บัตรเครดิต ยอดเงินตอนเริ่มผิดนัดชำระหนี้คือ 69000 บาท (ประมาณปี 2552-2553)

โดยที่มีสินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งนี้ (ซื้อตอนปี 2546)

เมื่อปี 2554 ได้ติดต่อธนาคารในการขอรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อจะนำเงินส่วนต่างมาชำระหนี้ แต่กู้ไม่ผ่านเพราะติดเครดิตบูโร แต่ธนาคารได้แจ้งว่าติดบูโรจากธนาคารอื่น สถานะของธนาคารนี้เองยังเป็นปกติ

ตอนต้นเดือนเมษา 2557 มีหมายยึดบ้านจากกรมบังคับคดีมาแปะที่หน้าบ้าน ไปขอคัดสำนวนฟ้องมา เป็นหนี้อยู่ 90000 กว่า ถูกฟ้องตอนปี 2553

ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้รับเอกสารใดๆ เลย คือที่อยู่ปัจจุบันกับทะเบียนบ้านคนละที่กัน แต่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านจะมีคนคอยรับเอกสารให้ตลอด เค้าก็แจ้งว่าไม่เคยมีเอกสารมาเลย (ไม่แน่ใจว่าเค้าเช็คละเอียดจริงหรือเปล่า) ซึ่งคุณแม่เองก็รอเรียกให้ไปเจรจาอยู่ เพราะเคยได้ยินว่าเค้าจะลดยอดหนี้ให้

ตอนนี้พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่ดูแลคดีอยู่ก็ติดต่อไม่ได้ เลยจะขอคำแนะนำครับว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี


รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ

maso เขียน: ตอนต้นเดือนเมษา 2557 มีหมายยึดบ้านจากกรมบังคับคดีมาแปะที่หน้าบ้าน ไปขอคัดสำนวนฟ้องมา เป็นหนี้อยู่ 90000 กว่า ถูกฟ้องตอนปี 2553

ปีนี้คือปี 2557...ผ่านมาแล้ว 4ปี
จากยอดหนี้ที่ศาลสั่ง 90,000บาท เมื่อ 4ปีที่แล้ว ป่านนี้ยอดหนี้ไม่พุ่งไปเป็นแสนกว่าบาทแล้วเหรอครับ?
เพราะยังมันมี"ดอกเบี้ย"เดินตามตูดลูกหนี้อย่างไม่หยุดทุกวัน ตามที่ศาลสั่งด้วยนะครับ(ลองไปอ่านคำพิพากษาให้ดีๆสิ)

maso เขียน: ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้รับเอกสารใดๆ เลย คือที่อยู่ปัจจุบันกับทะเบียนบ้านคนละที่กัน แต่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านจะมีคนคอยรับเอกสารให้ตลอด เค้าก็แจ้งว่าไม่เคยมีเอกสารมาเลย (ไม่แน่ใจว่าเค้าเช็คละเอียดจริงหรือเปล่า)

หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64

maso เขียน: ซึ่งคุณแม่เองก็รอเรียกให้ไปเจรจาอยู่

อย่าไปรอสิครับ เพราะตอนนี้เจ้าหนี้ได้เปรียบลูกหนี้เป็นอย่างมาก
เนื่องจากมันได้แจ้งยึดทรัพย์ของลูกหนี้ไว้เป็น"ตัวประกัน"แล้ว ถ้าลูกหนี้อยากเจรจา ก็ต้องพยายามติดต่อเข้าไปเอง

maso เขียน: เพราะเคยได้ยินว่าเค้าจะลดยอดหนี้ให้

อาจเจรจาขอ Hair cut ได้ครับ...แต้ราคามักจะไม่ค่อยงามเท่าไหร่

Hair-cut สามารถทำได้ตลอด

ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว ...ไม่ว่าจะเป็น

- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว และไปขึ้นศาลมาแล้ว โดยไปทำ"สัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ"ที่ชั้นศาลมาแล้ว
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้

เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ

แต่การ Hair-cut ที่ได้ราคางามที่สุด (หรือที่เรียกว่า "นาทีทอง" นั้น...มักจะอยู่ในช่วงของเวลาดังต่อไปนี้
- หยุดจ่ายนานเกิน 10 เดือนขึ้นไป
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาลในนัดแรก
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี อีกหลายนัด (ยังไม่ได้พิพากษา)
ถ้าพ้นกำหนดช่วงเวลาดังกล่าวนี้ไปแล้ว โปรโมชั่น "นาทีทอง" อาจหมดไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำ Hair-cut ไม่ได้...เพียงแต่ว่า อาจไม่ได้ราคางามๆตามโปรโมชั่นของ "นาทีทอง" ก็เท่านั้นเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก
ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

maso เขียน: ตอนนี้พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่ดูแลคดีอยู่ก็ติดต่อไม่ได้ เลยจะขอคำแนะนำครับว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ

ก็ต้องพยายามติดต่อให้ได้สิครับ เพราะตอนนี้ เจ้าหนี้มันยึดทรัพย์เอาไว้แล้ว มันเล่นตัวได้แล้ว
มันจึงไม่จำเป็นต้องง้อลูกหนี้ก็ได้

ขอบคุณครับ

หวัดดีค่ะคุณ maso
เพิ่งเป็นสมัครชิกใหม่ค่ะ เลยเข้ามาสอบถามช้าไปนิด แต่ยังไงขอทราบบทสรุปที่คุณแม่คุณโดนหมายยึดบ้านจากกรมบังคับคดีด้วยค่ะ ว่าเป็นยังบ้าง ที่โดยหมายยึดบ้านไม่ทราบว่าหยุดจ่ายตามคำสั่งศาลนานไหมคะ รึว่าเราจ่ายอยู่แล้วยังจะมีหมายมายึดโดยไม่รู้ตัวคะ และไม่ทราบว่าเป็นหนี้บัตรของที่ไหนคะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะที่จะสละเวลามาบอกเล่า เพราะดิฉันก็กำลังกลัวๆๆๆค่ะว่า ถ้าเรายังผ่อนจ่ายกะktcอยู่ หลังจากศาลพิพากษาแล้วจะโดนยึดอยู่เหรอคะ

มารอฟังเหมือนกันครับ

หยุดมา 3 รอบจะเข้า รอบเดือนที่ 4 ยังเก็บไม่ได้เลยครับเครียด

ค่าเทอม ค่ากินของลูกๆ ยังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างเลยครับ พยายามทำบัญชีดูแล้ว

แทบจะเก็บไม่ได้เลยครับ แถมตัวเองเป็นผู้กู้หลักอีก เพิ่งรีไฟแนนซ์ไปกลางปีที่ผ่านมา

สงสัยต้องรีบประกาศขายแล้วครับ