เป็นพนักงานมา 7 ปี รายรับ 20,000 กับภาระหนี้เงินสด 694,342 บาท ค่างวดต่อเดือน 32,384 ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น

สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรก ที่เข้ามาอ่าน และ ได้ศึกษาข้อมุล
เรา เป็นพนักงาน บริษัท และ ตอนนี้ ประสบปัญหาหนี้สิน เนื่องจาก ต้อง ใช้เงิน เพื่อรักษาแม่ ที่เป็นมะเร็ง ทำให้ไม่สามารถหมุนเงินได้ทัน และ ตอนนี้ หนี้สินทั้งหมดที่มี มันเกิน รายได้ที่รับค่ะ
รายรับต่อเดือน 20,000 ทำงาน บริษัทมา 7 ปี
หนี้สินทั้งหมด
ผ่อนบ้าน กับ ทหารไทย เดือนละ 8,000( พ่อช่วยหา เพื่อผ่อนบ้าน)
สินเชื่อเงินก้อน กับ ทหารไทย เงินต้น 51,194 ค่างวด 2310 (เนื่องจาก เป็นสินเชื่อที่เดียวกับที่ผ่อนบ้าน หนูจึงไม่สามารถ หยุดจ่ายได้ใช่ไหมค่ะ)
สินเชื่อเงินก้อน ไทยพาณิชย์ เงินต้น 102,421 ค่างวด 3,660
สินเชื่อเงินก้อน ซีไอเอ็มบี เงินต้น 87,231 ค่างวด 2210
สินเชื่อเงินสด กรุงศรี เฟริสช้อย เงินต้น 54,066 ค่างวด 2,755
สินเชื่อเงินก้อน สแดนดาทชาร์เตอร์ 173,707 ค่างวด 5,500
บัตรเครดิต สแดนดาทชาร์เตอร์ 56,636 ค่างวด 5600
บัตรกดเงินสด สแตนดาทชาร์เตอร์ 29,996 ค่งวด 1200
บัตรเครดิต ยูโอบี 46,756 ค่างวด 4676
บัตรกดเงินสด ยูโอบี 53,655 ค่างวด 2683
บัตรกดเงินสด ซิตี้แบงค์ เรดดี้เครดิต เงินต้น 39,680 ค่างวด 1790
รายการข้างต้น คือ รายการที่หนู ไม่สามารถ จะจ่ายไหว อีกต่อไป
ส่วนรายการ ที่ยังสามารถจ่ายได้อยู่คือ
ค่าประกันชีวิตแม่ รายเดือน ๆ ละ 2244
ค่าประกันชีวิตพ่อ รายเดือน ๆ ละ 2300
ค่าประกันอุบัติเหตุพ่อกับแม่ และตัวหนู เดือนละ 2,000
คำถามคือ
หนูจะเริ่มหยุดจ่ายเดือนนี้เป็นเดือนแรก หนูจะเก็บเงินเพื่อ h/c ได้ เดือนละประมาณ 5,000
ตอนนี้ หนูกำลังคิดว่า จะเริ่มบอกแม่ แต่ไม่รู้แม่จะเข้าใจไหม เพราะแม่จะกลัวกับการขึ้นศาล
แล้ว ถ้าหมดอายุความ 5 ปี ประวัติสินเชื่อหนูปกติ สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ใช่ไหมค่ะ
หนูยังเหลือ บัตรเครดิต อีก 2 ใบ ที่ใช้จ่ายปกติ วงเงิน 60,000 ซึ่งเป็น ธนาคารที่ เงินเดือนหนูเข้า หนูจะเก็บไว้ใช้ปกติได้ไหมค่ะ
ตอนนี้ เครียดมาก ไม่รู้จะเริ่มบอกแม่ยังไง อธิบายยังไงให้แม่เข้าใจ
รบกวน ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ว่าควรหยุดทั้งหมด หรือ เก็บอะไรไว้ หยุดอะไร
หนี้ สถาบันไหน ทวงโหด และ ตามถึงที่ทำงาน หรือบ้านไหมค่ะ

ถ้าหนูจะรบกวน ให้ กรรมการ ในห้อง ช่วยคุยกับแม่ ให้สบายใจบ้าง จะได้ไหมคะ เพราะยังไง แม่ต้องอยู่บ้านทุกวัน ต้องได้รับหมายศาลอยู่แล้ว

ลืมไป อีกอย่างค่ะ ว่า
ถ้าหนูจะเก็บเงิน คงได้ประมาณ 3-5,000/เดือน เพราะ ยังมีรายจ่ายรักษาแม่ที่เป็นมะเร็งอยุ่
ถ้ามีการขึ้นศาล แล้ว ศาลสั่ง จ่าย แต่ ยังไม่มีครบ หาก ทุกสถาบัน ศาลสั่งจ่ายพร้อมกันจะเป็นอย่างไรค่ะ
สามารถผ่อนอีกได้หรือไม่

ขอบคุณมากค่ะ

อืมเห็นรายการจ่าย......ก็หนักหนาสาหัสอยู่ ก็คงจะแนะนำให้หยุดจ่ายนั่นแหละ จริงๆแล้วบัญชีหนี้ที่มีร่วมกับกู้บ้าน ก็หยุดได้มันหนี้คนละตัวกัน เราก็จ่ายเฉพาะบ้านซึ่งถือว่าบัญชีนี้ปกติ เขาก็จะทวงแค่บัญชีเดียว เขาจะยักย้ายหนี้มาจ่ายอีกอันไม่ได้หรอก และผ่อนบ้านก็มีระยะเวลายืนยาวเก็บเงินส่วนนี้ไว้ได้.... อย่างดีเขาก็จะทวงๆๆๆๆๆๆๆๆ ..... เราก็บอกจ่ายค่าบ้านได้ก็บุญแล้ว
อีกอันหนี่งคือประกันชีวิต ซึ่งดูแล้ววงเงินสูงพอควร น่าจะคนละถึง 500000 ถ้าเราจ่ายมานานพอสมควรเราหยุดจ่ายสักพักก็ได้ กรมธรรม์ จะยังมีผลคุ้มครองอยู่โดยมันจะกู้อัตโนมัติ จากวงเงินที่เราเคยได้จ่ายไป หยุดสักครึ่งปีก็ค่อยส่งต่อใหม่ อย่างน้อยเราก็มีเงินเก็บไว้ล้างหนี้...... ลองพิจารณาดูครับ ผมก็หยุดจ่ายประกันเหมือนกัน ตอนนี้กู้อัตโนมัติเกือบแสนแล้ว

หนี้รวมทั้งหมดเยอะขนาดนี้ หากหยุดจ่ายหนี้ทั้งหมด แต่ก็สามารถเก็บเงินได้แค่เดือนละสามพันถึงห้าพันบาทเอง เงินแค่นี้คงสามารถเอาไปทำ Haircut กับเจ้าหนี้บางรายได้แค่ 1-2 เจ้าเอง(ภายใน1ปี)
ส่วนเจ้าหนี้ที่เหลือทั้งหมด มันก็คงต้องฟ้องศาลไปตามกระบวนการหลังจาก1ปีผ่านไป

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64



ที่นี้พอถูกเจ้าหนี้รายที่เหลือฟ้องศาลแล้ว จะไปขอไกล่เกลี่ยผ่อนจ่ายต่อที่ชั้นศาล ก็ผ่อนได้นานสูงสุดแค่ 3ปีเท่านั้น...แล้วจะผ่อนไหวหรือ? กับเจ้าหนี้ทุกรายที่มันฟ้องศาลทั้งหมด ทุกราย ทุกเจ้า

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64



หากผ่อนต่อตามสัญญาไกล่เกลี่ยที่ชั้นศาลไม่ไหว ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ อายัดเงินเดือน/ยึดทรัพย์ ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป...แต่...บ้านที่ยังผ่อนอยู่ คงไม่รอดพ้นจากการถูกยึดทรัพย์แน่ๆ

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

ผู้ทีมีหนี้บัตรเครดิตและหนี้ทรัพย์สินที่ยังผ่อนอยู่ เป็นเจ้าหนี้"รายเดียวกัน"
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40737&Itemid=64#47303



สรุปว่า...ถ้าหากคุณใช้วิธีการหยุดจ่ายเพื่อรอทำ Haircut เพียงอย่างเดียว โดยไม่หามาตราการป้องกันการถูก"ยึดทรัพย์"ด้วยวิธีการอื่นๆร่วมด้วย ทรัพย์สินต่างๆที่มีชื่อของคุณ"เป็นเจ้าของ"...รับรองไม่เหลือแน่

พี่นกกระจอกเทศ

พอมีวิธีแนะนำวิธีอื่นไหมค่ะ

คือ หนู สามารถทำอะไรได้บ้างค่ะตอนนี้

กู้อัตโนมัติ จากวงเงินประกัน คืออะไรค่ะ
หนูทำประกันชีวิตให้แม่ ไว้สำหรับ แม่ นอน โรงพยาบาลแล้วเบิกได้ เพราะแม่ไม่มีอาชีพ
จ่ายเงินค่าเบี้ยได้ 4 ปีกว่าแล้วค่ะ

anchaleeporn.n เขียน: พี่นกกระจอกเทศ

พอมีวิธีแนะนำวิธีอื่นไหมค่ะ

คือ หนู สามารถทำอะไรได้บ้างค่ะตอนนี้

แนะนำผ่านทางกระทู้ไม่ได้ครับ

เหตุผล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40552&Itemid=64#45365

สมาชิกหลายๆท่าน ในบอร์ดแห่งนี้ เลือกวิธีการขายบ้าน เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้
เหมือนกับตัวผม ที่ยอมขายบ้าน ขายรถ เอาเงินมาใช้หนี้ ดีกว่าให้เค้ามายึดไปโดยที่เราไม่ได้อะไรเลย ...
เมื่อหมดหนี้แล้ว เดี๋ยวค่อยซื้อใหม่ ทุกวันนี้เดิน ขึ้นรถเมล์ไปทำงาน ก็มีความสุขดีครับ
ขอให้คุณอ่านข้อมูลในนี้ให้เยอะๆ โชคดีครับ

ขอช่วยตอบ สำหรับสมาชิกท่านนี้นะครับ

1 สินเชื่อเงินสด กรุงศรี เฟริสช้อย เงินต้น 54,066 ค่างวด 2,755
กับ บัตรกดเงินสด ซิตี้แบงค์ เรดดี้เครดิต เงินต้น 39,680 ค่างวด 1790
ลด 50 % ก็ประมาณ 46,000 บาท
อยากให้เก็บเงินให้ได้เท่าที่บอกมา หรือหามาให้ได้
เพราะ 2 เจ้านี้ ลดให้ 50 % สูงมาก ภายใน 4-8 เดือน
หยอดหักคอ รายละ 200-400 บาท/งวด ไปก่อน
เจ้าหนี้พูดอะไร ก็ปล่อยพูดไป รอเก็บตังส์ตามที่บอก
ให้ผ่อนมากกว่านี้ ก็อย่าไปสนใจ เพราะไม่มี พร้อมเมื่อไหร่
ก็บอกไปเลย

2 สินเชื่อเงินก้อน ไทยพาณิชย์ เงินต้น 102,421 ค่างวด 3,660
ช่วงแรกจะให้ ปรับโครงสร้างหนี้ ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องปรับ
หักคอจ่าย 6 เดือนแรก หักคอจ่าย 200-300 บาท/งวด ไปก่อน
เพราะ หนี้สูง เดี๋ยวจะฟ้องเสียก่อน
6 เดือนหลัง จ่าย 500 บาท/งวด
ปีต่อไป ดูหลู่ลม
เจ้านี้ ลดให้ 40-50 % ถ้าเรามีเงิน ปิดได้ทันที

3 บัตรเครดิต ยูโอบี 46,756 ค่างวด 4676
บัตรกดเงินสด ยูโอบี 53,655 ค่างวด 2683

ลดให้ไม่เยอะ 20-30 % และฟ้องเร็ว
ถ้าดึงเรื่องไว้ หักคอจ่าย 200-300
พูดจาไม่ค่อยดี ถ้าขึ้นศาล อ้างเรื่องแม่
เพื่อดึงไว้ 3-6 เดือน
ผ่อนปิดได้ 4 - 6 งวด จากที่ตกลงกัน

4 สินเชื่อเงินก้อน ซีไอเอ็มบี เงินต้น 87,231 ค่างวด 2210
สินเชื่อเงินก้อน สแดนดาทชาร์เตอร์ 173,707 ค่างวด 5,500
บัตรเครดิต สแดนดาทชาร์เตอร์ 56,636 ค่างวด 5600
บัตรกดเงินสด สแตนดาทชาร์เตอร์ 29,996 ค่งวด 1200

สำหรับข้อ 4 ผมไม่มีข้อมูล แต่ดูท่าทางจะหนัก เพราะ ข้อ 4
เนื่องจากหนี้สูง ถ้าแก้ข้อ 1-3 ได้ ข้อ 4 สู้ได้แน่
ยอมผ่อนกับศาล โดยผ่อนแบบดอกเบี้ยไปก่อน สัก 36 เดือน
ดอกเบี้ย ขอเจ้าหนี้ อย่าเกิน 10 %
อีก 3 ปี ค่อยดูอีกที

ถ้าทำตามที่แนะนำได้
บ้านไม่หลุด
ถ้าทำไม่ได้ บ้านหลุด ถูกยึดเงินเดือนบางส่วน
แต่ถึงที่สุด ไม่ต้องกลัวอะไร
ถ้าเราไม่มี ก็คือไม่มี จะกลัวอะไร ไม่มีอะไรให้ยึด
มาทวงเงิน ก็ไม่ต้องให้ ต้องลดงามๆเท่านั้นถึงจะยอมให้

อยู่บ้านเช่า นั่งรถเมล์ ผมทำมาแล้ว
พอมีเงิน ก็หาใหม่ อย่าไปติดกับดัก ดอกเบี้ยมหาโหดของพวกธนาคาร
อีก จำจนวันตาย

somcha78 เขียน: ขอช่วยตอบ สำหรับสมาชิกท่านนี้นะครับ

1 สินเชื่อเงินสด กรุงศรี เฟริสช้อย เงินต้น 54,066 ค่างวด 2,755
กับ บัตรกดเงินสด ซิตี้แบงค์ เรดดี้เครดิต เงินต้น 39,680 ค่างวด 1790
ลด 50 % ก็ประมาณ 46,000 บาท
อยากให้เก็บเงินให้ได้เท่าที่บอกมา หรือหามาให้ได้
เพราะ 2 เจ้านี้ ลดให้ 50 % สูงมาก ภายใน 4-8 เดือน
หยอดหักคอ รายละ 200-400 บาท/งวด ไปก่อน
เจ้าหนี้พูดอะไร ก็ปล่อยพูดไป รอเก็บตังส์ตามที่บอก
ให้ผ่อนมากกว่านี้ ก็อย่าไปสนใจ เพราะไม่มี พร้อมเมื่อไหร่
ก็บอกไปเลย

2 สินเชื่อเงินก้อน ไทยพาณิชย์ เงินต้น 102,421 ค่างวด 3,660
ช่วงแรกจะให้ ปรับโครงสร้างหนี้ ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องปรับ
หักคอจ่าย 6 เดือนแรก หักคอจ่าย 200-300 บาท/งวด ไปก่อน
เพราะ หนี้สูง เดี๋ยวจะฟ้องเสียก่อน
6 เดือนหลัง จ่าย 500 บาท/งวด
ปีต่อไป ดูหลู่ลม
เจ้านี้ ลดให้ 40-50 % ถ้าเรามีเงิน ปิดได้ทันที

3 บัตรเครดิต ยูโอบี 46,756 ค่างวด 4676
บัตรกดเงินสด ยูโอบี 53,655 ค่างวด 2683

ลดให้ไม่เยอะ 20-30 % และฟ้องเร็ว
ถ้าดึงเรื่องไว้ หักคอจ่าย 200-300
พูดจาไม่ค่อยดี ถ้าขึ้นศาล อ้างเรื่องแม่
เพื่อดึงไว้ 3-6 เดือน
ผ่อนปิดได้ 4 - 6 งวด จากที่ตกลงกัน

4 สินเชื่อเงินก้อน ซีไอเอ็มบี เงินต้น 87,231 ค่างวด 2210
สินเชื่อเงินก้อน สแดนดาทชาร์เตอร์ 173,707 ค่างวด 5,500
บัตรเครดิต สแดนดาทชาร์เตอร์ 56,636 ค่างวด 5600
บัตรกดเงินสด สแตนดาทชาร์เตอร์ 29,996 ค่งวด 1200

สำหรับข้อ 4 ผมไม่มีข้อมูล แต่ดูท่าทางจะหนัก เพราะ ข้อ 4
เนื่องจากหนี้สูง ถ้าแก้ข้อ 1-3 ได้ ข้อ 4 สู้ได้แน่
ยอมผ่อนกับศาล โดยผ่อนแบบดอกเบี้ยไปก่อน สัก 36 เดือน
ดอกเบี้ย ขอเจ้าหนี้ อย่าเกิน 10 %
อีก 3 ปี ค่อยดูอีกที

ถ้าทำตามที่แนะนำได้
บ้านไม่หลุด
ถ้าทำไม่ได้ บ้านหลุด ถูกยึดเงินเดือนบางส่วน
แต่ถึงที่สุด ไม่ต้องกลัวอะไร
ถ้าเราไม่มี ก็คือไม่มี จะกลัวอะไร ไม่มีอะไรให้ยึด
มาทวงเงิน ก็ไม่ต้องให้ ต้องลดงามๆเท่านั้นถึงจะยอมให้

อยู่บ้านเช่า นั่งรถเมล์ ผมทำมาแล้ว
พอมีเงิน ก็หาใหม่ อย่าไปติดกับดัก ดอกเบี้ยมหาโหดของพวกธนาคาร
อีก จำจนวันตาย

รบกวนครับคุณ somcha78 การหักคอจ่ายแบบนี้สามารถทำได้ใช่ไหมครับ เพื่อยึดระยะเวลาฟ้องและเพื่อมีเวลาเก็บตังเพื่อ ทำH/C คือ ในกรณีของผม มีทั้งหมด 5 แบงค์

ตอบกลับ คุณ ponzaa987
การหักคอจ่ายทำได้ครับ ทำแบบที่ผมเคยผมคือ(เอาของจริงเลย)

1 กรณีธนาคารไทยพาณิชย์
1.1 ปรับโครงสร้างแล้วก็ผ่อนไม่ไหว
1.2 หลังผ่าน 1.1 ธนาคารเสนอ ผ่อนไม่มีดอกเบี้ย ก็ผ่อนไปสักระยะ ก็ไม่ไหว
เพราะ ยอดหนี้เงินต้นเกือบ 200,000 บาท
1.3 สุดท้ายผมหยอดหักคอจ่ายเอง เดือนละ 200-300 ในช่วงแรก
ต่อมาก็ขึ้นเป็น 500 บาท ผ่านไป 2 ปี ผมให้ 1000 บาท
ธนาคารก็โทรมาสอบถามเป็น ระยะ ว่าปิดได้ไหม ลดให้
สุดท้ายผ่่านไป 3 ปี เสนอปิด 50 % เฉพาะเงินต้น ไม่รวมดอกเบี้ย
ถ้ารวมดอกเบี้ย 220,000 แต่ปิดได้ 80,000 บาท
ผมหาเงินจากแหล่งอื่นมาจ่ายให้ก่อนเลย
แหล่งที่ว่านั้น ไม่คิดดอกเบี้ย พวกญาติๆนี่แหละ

2 อิออน ก็เปลี่ยนสัญญา 2 หน ยังจ่ายไม่ไหว ยอด 120,000
ก็หยุดจ่ายดื้อๆ สุดท้ายหักคอจ่ายเดือนละ 1000 แถมไม่คิดดอกเบี้ยอีก
ต่อมาหยุดอีกรอบ สุดท้ายเหลือ 70,000 บาท ผ่านไป 4-5 ปี
เสนอลดให้ 50 %
อย่าลืมเลขสัญญาล่าสุด ชำระที่ตู้อิออนได้

3 easy buy ก็เหมือนกัน

สรุปคือ ทำให้เจ้าหนี้รู้ว่าเราอยากจ่ายหนี้คือ แต่ไม่มีจริงๆ
ดอกเบี้ยที่คิด 20 % ที่ได้จากเราไปแล้ว กรุณานำมาหักเงินต้นเถอะ
ขอความกรูณาช่วยลดหนี้ให้ จะได้จบๆกันไป
ไม่หนีไปไหน ไม่เปลี่ยนเบอร์โทร
โทรมาก็คุยด้วย พูดดีก็ยินดี พูดร้ายก็ด่ากลับบ้าง

รีไฟแนนซ์บ้าน เอาชื่อออกแล้วหาทางผ่อนด้วยค่างวดน้อยที่สุด
หยุดชำระทั้งหมด รวมทั้งประกัน
ถามฝ่ายบุคคลเรื่องอายัด
เก็บเงิน ต่อรอง ถ้าเก็บเงินไม่ได้ก็ปล่อยให้อายัดครับ
ไม่ต้องอายครับ ผมก็ถูกอายัดเงินเดือนสองครั้ง
ไม่มีไรน่าอายครับ สู้ๆ หมดหนี้ไวๆครับ

somcha78 เขียน: ตอบกลับ คุณ ponzaa987
การหักคอจ่ายทำได้ครับ ทำแบบที่ผมเคยผมคือ(เอาของจริงเลย)

1 กรณีธนาคารไทยพาณิชย์
1.1 ปรับโครงสร้างแล้วก็ผ่อนไม่ไหว
1.2 หลังผ่าน 1.1 ธนาคารเสนอ ผ่อนไม่มีดอกเบี้ย ก็ผ่อนไปสักระยะ ก็ไม่ไหว
เพราะ ยอดหนี้เงินต้นเกือบ 200,000 บาท
1.3 สุดท้ายผมหยอดหักคอจ่ายเอง เดือนละ 200-300 ในช่วงแรก
ต่อมาก็ขึ้นเป็น 500 บาท ผ่านไป 2 ปี ผมให้ 1000 บาท
ธนาคารก็โทรมาสอบถามเป็น ระยะ ว่าปิดได้ไหม ลดให้
สุดท้ายผ่่านไป 3 ปี เสนอปิด 50 % เฉพาะเงินต้น ไม่รวมดอกเบี้ย
ถ้ารวมดอกเบี้ย 220,000 แต่ปิดได้ 80,000 บาท
ผมหาเงินจากแหล่งอื่นมาจ่ายให้ก่อนเลย
แหล่งที่ว่านั้น ไม่คิดดอกเบี้ย พวกญาติๆนี่แหละ

2 อิออน ก็เปลี่ยนสัญญา 2 หน ยังจ่ายไม่ไหว ยอด 120,000
ก็หยุดจ่ายดื้อๆ สุดท้ายหักคอจ่ายเดือนละ 1000 แถมไม่คิดดอกเบี้ยอีก
ต่อมาหยุดอีกรอบ สุดท้ายเหลือ 70,000 บาท ผ่านไป 4-5 ปี
เสนอลดให้ 50 %
อย่าลืมเลขสัญญาล่าสุด ชำระที่ตู้อิออนได้

3 easy buy ก็เหมือนกัน

สรุปคือ ทำให้เจ้าหนี้รู้ว่าเราอยากจ่ายหนี้คือ แต่ไม่มีจริงๆ
ดอกเบี้ยที่คิด 20 % ที่ได้จากเราไปแล้ว กรุณานำมาหักเงินต้นเถอะ
ขอความกรูณาช่วยลดหนี้ให้ จะได้จบๆกันไป
ไม่หนีไปไหน ไม่เปลี่ยนเบอร์โทร
โทรมาก็คุยด้วย พูดดีก็ยินดี พูดร้ายก็ด่ากลับบ้าง

ผมขอรบกวนสอบถามด้วยคนครับ เรื่องการจ่ายหยอดเดือนละ 100-300 บาทต่อเดือน คือตอนนี้ผมมี 2 ตัว เป็นของ scb cr. 67,000 กรุงศรี เงินก้อน ต้น 110,000 บาท ตอนนี้ทั้ง 2 ตัวหยุดจ่ายเข้าเดือนที่ 3 แล้วครับ ถ้าจ่ายตามวิธีที่ว่ามาข้างต้นจะช่วยยืดระยะวลาไปอีกได้รึเปล่าครับ เพื่อเก็บตังค์ ไม่ให้ฟ้องก่อน

เอ..... มาถึงตอนนี้ ก็น่าคิดนะ หยอดจ่ายคือจ่ายเท่าที่เรามี หรือจ่ายไปบ้าง เล็กน้อยเพื่อให้

เจ้าหนี้รู้ว่าเรายังรับผิดชอบ เทียบกับเรามีแต่ไม่จ่าย เพียงแต่รอเวลาจะทุบหรือจะเก็บไว้ทุบมันต่างกันอยู่นะ

ถ้าพูดถึงว่าเราไม่พิจารณาเกี่ยวกับอายุความแต่หวังจะได้การลดจากสถาบันนั้นๆ การจ่ายบ้างประปราย

ก็น่าจะเป็นการดีที่สุด make sense ที่สุดเพราะการจะแอบเก็บเงิน เพื่อเคลียร์ทีละสถาบัน

สำหรับคนที่มีหนี้หลายที่ ไม่น่าจะเหมาะเพราะทุกที่ก็จะรุมมาทีเดียว ฟ้องไล่เรี่ยกัน ถ้า 2-3 ที่ ก็น่าจะโอเค

สำหรับหยุดจ่ายแอบเก็บแล้วทุบเมื่อถึงเวลา


ขอความคิดเห็นด้วยครับ ว่ามันจะถูกหรือผิด

การจ่ายหยอด ในมุมมองผมมันก็มีส่วนดี ถ้าไม่อยากให้ฟ้อง แต่ถ้าเรามีหนี้ สักสิบเจ้า ขึ้นไป แล้วจ่ายหยอด

ในความเห็นของผมคงจะปิดบัญชีไม่ได้สักใบ เพราะอาจจะไม่สามารถเก็บเงินเป็นก้อนได้ ถึงถ้าปิดได้ ก็อาจ

จะใช้เวลานานในการเก็บเงิน

ในกรณีของผม มีเจ้าหนี้ 5 แห่ง กะหักคอจ่าย ไปแห่งละ 100 ต่อเดือน หรือ 200 ต่อเดือน คราวๆก็น่าจะใช้เงิน ส่วนนี้เดือนละ 1,000 โดยยอดหนี้ของแต่ละที่อยู่ที่ 50,000 โดยเฉลี่ย เพื่อจะเก็บเงินไปเครียร์หนี้นอกระบบก่อน คาดว่าประมาณ 6 เดือนหนี้นอกระบบ คงหมด หลังจากนั้นก็หยุดหักคอจ่าย แล้วเก็บเงินทำ H/C กับเจ้าหนี้ที่อยู่ในระบบ แนวทางแบบนี้มีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ ผิดถูกต้องขออภัยครับ

แล้วถ้าเรื่องไปถึงสำนักงานกฏหมายแล้ว เนื่องจากหยุดมา 3 เดือน การหยอดจ่ายจะมีผลต่อการยืดระยะเวลาในการฟ้องได้แค่ไหนครับ

ผมขอตอบรวมๆ สำหรับทุกท่านที่เขียนเข้ามานะครับ

จริงอย่างบางท่านที่เขียนเข้ามา คือ
1 กรณีมีหนี้เยอะ 10 - 20 สัญญาขึ้นไป(อย่างของผม)
การหยอดแบบหักคอจ่ายทุกสัญญา ผมก็ว่าไม่เหมาะ
เพราะ เงินต้นของเราจะกระจายหายไป เกินไป
ดังนั้น เราต้องรู้ธรรมชาติของเจ้าหนี้แต่ละกลุ่มก่อน
ซึ่งหาอ่านได้จากกระทู้ต่างๆ อย่างเช่น
กลุ่ม จีอี กรุงศรี first choice lotus central (ถือเป็นกลุ่มเดียวกัน)
กลุ่มพวกนี้ ไม่จำเป็นต้องหยอด เพราะมักลดให้ 50 %
อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็หยอดได้ แต่หยอด100-300 ก็พอ
และ ต้อง clear กลุ่มนี้ก่อนให้ได้

2 การที่เรื่องไปอยู่สำนักงา่นกฏหมายแล้ว หยอดแบบหักคอจ่าย
ในความคิดของผม ยิ่งดีกับเรา เพราะ
สำนักงานกฏหมาย จะดึงเรื่องของเราไว้แน่นอน
เพราะ เรามีการเคลื่อนไหว หนี้สินของเรา
สำนักงานกฏหมายยิ่งชอบ เพราะยิ่งผ่านไป หนี้ยิ่งเน่า
สำนักงานกฏหมาย ยิ่งได้ส่วนลดจากธนาคารหรือ non bank
จากเาลาที่ผ่านไป สำนักงานกฏหมายไม่ต้องกังวลเรื่องอายุความ
ของเรา

3 สำหรับ แนวร่วม ktb กับ uob เป็น 2 ธนาคารที่ใจจืด ใจดำที่สุด
ใครไม่มีสินทรัพย์อะไรเป็นของตัวเองนะ
ต่อให้มันฟ้องศาล บังคับคดี 10 ปี สู้มัน อย่าจ่ายมัน
(ที่ไม่จ่าย เพราะ ดอกเบี้ย 20-28 และ ไม่ลดเงินต้นให้ อ้าง
เงินต้นไม่ลด ดอกเบี้ยสูง มันกินหมด)
โดย เฉพาะ แนวร่วม ktb สำหรับ uob ยังพอหาออกในบั้นปลายได้
พวกแนวร่วม ktb ต้องดัดหลังมัน ขอโทษที่มีอารมณ์กับ แนวร่วม ktb

แนวร่วม ktb กับ uob มันฟ้องเอง ไม่ได้จ้างข้างนอก

ขอคำแนะคำครับ
หลังจากหยุดจ่ายมา 4-5 เดือน
วันนี้KTCโทรแจ้งให้เราจ่ายคืนต้น ก่อนส่งฟ้องวันที่26/8/14 ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ค่อยโทรตาม โทรทวง
(หนี้บ.กรุงไทย เครดิต 92000/สินเชื่อ20000)

ตอนนี้เก็บเงิน H/C อยู่ครับ เขาเสนอให้จ่ายต้นคืน หรือแบ่งจ่าย 6 งวดๆละ20000 เขาให้รวมจ่ายนะครับ
เป็นไปได้มั้ยว่าคือเทคนิคการทวงเงิน เราบอกขอส่วนลดได้เท่าไหร่ เขาบองไม่มีนโยบายลดเงินต้อน
ถ้ายังงี้เรารอให้หนี้เน่ากว่านี้ หรือเสนอ H/C หากเขายื่อฟ้องจริงรึป่าว ต้องทำอย่างไรครับ
}} ตอนนี้ทางบ้านจะช่วยอีกทาง อีกสักอาทิตย์น่าจะได้มา
จะรับมือยังงัยครับ

ขอถามนิดค่ะ จ่ายหยอดในที่นี้ มันก็เอาไปหักบวกดอกเบี้ยค่าทวงถาม อย่างที่กระทู้ปักหมุดบอกใช่มั้ยค่ะว่าไม่ควรจ่าย งง อ่านแล้วสับสน หรือเราเข้าใจผิดเอง