อยากทราบความโหดของแต่ละธนาคาร

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62046 โดย windebt
บัตร 2 คนกับแฟน ตอนนี้มีหนี้ประมาณ 700,000 ชำระขั้นต่ำก็จะไม่ค่อยไหว อยากจะขอคำแนะนำจากผู้รู้ค่ะ ว่าควรจะจัดการกับหนี้ไหนก่อนดี

ดิฉันเพิ่งออกจากงานกลางปีที่แล้วเพราะมีเหตุจำเป็น (กลับไปทำงานไม่ได้แน่นอน)
สรุปรายได้รวมตอนนี้ของครอบครัว 45,000 บาท เป็นเงินเดือนมาจากแฟนคนเดียว
มีเงินหมุนในหุ้นไทย 180,000 บาท

FIX cost ต่อเดือนโดยประมาณ 38,000
ค่าน้ำมันรถ+แก็ส เดือนละ 4,000
ค่าเทอมลูกตกเดือนละ 10,000
ค่าผ่อนบ้าน UOB 10,000
ค่าโทรศัพท์+ค่าไฟ 4,000
ค่ากับข้าวเดือนละ 10,000


1.บัตรเครดิต กสิกร 110,000 (หยุดจ่าย 2เดือน)
2.บัตรกดเงินสด TMB 50,000
3.บัตรเครดิต(2ใบ) KTC 100,000 (หยุดจ่าย 2เดือน)
4.บัตรกดเงินสด KTC 90,000
5.สินเชื่อส่วนบุคคล citi bank 100,000 (หยุดจ่าย 2เดือน)
6.บัตรเครดิต citi bank 22,000
7.บัตรเครดิต UOB 90,000
8.สินเชื่อส่วนบุคคล TMB 70,000
9.บัตรเครดิต กรุงศรี 20,000
10.บัตรเครดิต เซ็นทรัล 12,000

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62055 โดย windebt
ตอนนี้กังวลมากๆค่ะ

และมีบัตรหลายใบที่หยุดชำระมา 2 เดือน ตอนนี้มีจม. ทวงมาแล้วไม่แน่ใจว่าเดือนที่ 3

ถ้าเราชำระหนี้เป็นยอดไม่เต็ม เช่นเรียกเดือนละ 5000 / 2 เดือนที่ผ่านมา รวมดอกเบี้ย 10,000+
แล้วเราไปชำระแค่ 5000 ในเดือนที่ 3 จะดีหรือไม่?

ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62056 โดย jackTs
ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20


.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62057 โดย johnydebt
สวัสดีครับ เรื่องของความโหดของแต่ละธนาคารนั้น ก็มีหลากหลายรสชาดเลยทีเดียวครับ แต่ก็ไม่โหดเหมือนพวกหนี้นอกระบบเท่าใหร่ แต่ละธนาคารที่คุณอาจจะเริ่มเจอโทรตามมาทวง ตามจิก บ้าแงแล้วนั้น (เห็นในกระทู้มีหยุดจ่าย 2 เดือนแล้ว 3 แห่ง)

หากจะออกตัวแนะนำเลยนั้นผมไม่แน่ใจ เพราะสภาพความพร้อม สภาพคล่อง แหล่งรายได้อย่างละเอียด หรือ ปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ของแต่ละท่านไม่เท่ากัน ขออณุญาติแบ่งปันครับว่าตัวผมเองนั้นใหม่ๆ แก้ปัญหาไม่เป็น เลยกดเอาเงินสดบัตรโน้นมาโปะบัตรนี้ โยกไป ย้ายมา จนมึนไปหมดครับ สุดท้ายมันก็แค่ดึงเวลา แต่ไม่ได้ทำให้หนี้ลดลงเลย สุดท้ายเลยเลือกหยุดจ่ายหมดทุกตัว และก็เหมือนที่ทุกท่านเจอมา คือ โดนกระหน่ำโทรทวง ตามกดดัน ตามจิก ตามขู่ หลอกล่อให้ประนอมหนี้ (ที่เขาเรียกว่า "สัญญานรก" อันเลื่องชื่อนั่นแหละครับ www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6343&Itemid=29 สัญญานรกคืออะไร? (การประนอมหนี้ ,เซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ยังไม่จ่ายมีผลบังคับหรือไม่ )

ใหม่ๆ ก็จะถามว่าจะจ่ายวันไหน ขอนัดวันให้จ่ายภายในวันนั้น วันนี้ และพยามหลอกล่าให้เราทำการประนอมหนี้ หากเราไม่ประนอมหนี้ มันก็จะโทรมาว่าจะส่งเรื่องเข้าสำนักงานกฎหมา...ดำเนินคดี และหลังจากนั้น มันก็จะไป outsource สำนักงานกฎหมา... (กฎหมาหมู่) มาตามจิก ตามทวงแทน

สำนักงานกฎหมา พวกนี้จะทำงานและธุรกิจบนหลังคนโดยเอาความรู้ทางกฎหมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน มาหลอกล่อ บีบบังคับให้เรากลัว กดดันว่าจะโดนฟ้อง โดนขึ้นศาล โดนค่าฤชา ค่าธรรมเนียมศาล ค่าทวงถาม ค่าดอกเบี้ยปรับ หรือ ค่าบ้าบอที่พวกมันบัญญัติมาฆ่าคนทั้งเป็นอย่างเราๆ นี่แหละครับ

ประเด็นคือ คุณกลัวมันหรือเปล่า และ ตอนรับสาย สติแตก มือสั่น เหงื่อตก พูดผิดๆ ถูกๆ เพราะความสั่นกลัว ให้มันจับทางเราได้ว่าเรากลัวมันจริงๆ หรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้น ก็เข้าเกมส์ของมัน แต่หากตั้งสติดีๆ ไม่ว่าโหดแค่ไหนก็ไม่กลัวครับ เพราะไม่มีจะจ่าย เราไม่พร้อมจะไปจ่ายได้ยังไงล่ะครับ

เรื่องโหด น่าจะเป็นการที่มันเอาสินเชื่อในสถาบันเดียวกันมาขู่ฟ้องเรามากกว่าครับ แต่ประเด็นคือเราจะแก้ปัญหายังไงมากกว่า คงต้องวางแผนกันก่อนที่จะหยุดจ่ายให้ชัดเจนครับ หากเราหยุดแล้วจะอยู่ จะกิน ยังไง นี่ต้องคิดก่อนอันดับแรกครับ หากเราอยู่ได้ ก็มีโอกาสเก็บเงินชดใช้พวกมันได้ครับ

สู้ๆ นะครับ อย่าท้อ อย่ายอมแพ้พวกมัน ทางออกมีแน่นอนครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62059 โดย windebt
ขอบคุณมากๆค่ะ... จากกระทู้ คิดว่าจะไม่จ่ายหยอด ตัวที่หยุดจ่ายแล้วหละค่ะ มีความคืบหน้ายังงัยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ เล่นเอานอนไม่หลับมา 2-3 วันแล้ว (o_O)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62063 โดย johnydebt
สู้ๆ ครับผม นอนพักผ่อนให้เต็มที่ครับ ร่างกายสดชื่น สมองจะคิดหาทางออกได้ ที่สำคัญต้องฝึกตัดให้ลง ปลงให้ตกครับ อะไรที่มันไม่จำเป็น หรือ ที่เขาว่าตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต คงต้องเอามาใช้กับตัวเราครับ หากวางแผนดีๆ ช่วยกันเก็บเงินกับแฟน หางานทำเพิ่ม หารายได้เสริม มันก็ปิดได้ไม่ยากครับ แต่ต้องใจเย็นๆ เพราะหากเราเลือกเอาหนี้มาทุบรวมกันเป็นก้อนเดียวเหมือนหนี้บ้านแล้วจ่ายระยะยาว 20 ปีได้ คงไม่ทำให้เราทุกข์นัก เพราะเราเชื่อว่าเรามีทางจ่ายได้หมดใช่ไหมครับ

สาเหตุที่เราเครียดก็เพราะเราอยากให้หนี้มันจบเด๋วนี้ แต่มันจบไม่ได้ตังหาก เพราะหากการเป็นหนี้ทำให้เราทุกข์จริงๆ ทำไมเรายังดีใจตอนที่เรากู้ผ่าน หรือ ได้บัตรเครดิตที่ไปสมัครมาแต่แรกล่ะครับ จริงไหม

(ในกรณีเปลี่ยนงานใหม่ ไม่ต้องไปบอกพวกทวงหนี้มันนะครับ เด๋วคุณจะลำบาก หากได้งานใหม่แล้วโดนทวงหนี้ตั้งแต่ยังไม่พ้นโปร จะเดือดร้อนเอา เจ้านายใหม่จะรู้)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62103 โดย superrich
ทีเอ็มบี นานๆโทรทวงค่ะ
ตอนนี้ superrich เพิ่งหยุดได้งวดเดียวสำหรับทุกเจ้า(มี 3 เจ้าที่หยุดค่ะ)
เลยยังไม่รู้ว่าโหดไหมค่ะ
แต่อยากบอกว่าอย่าเครียดนะคะ แต่ก่อน suoerrich ก็เครียดจนนอนไม่หลับ แต่พอเจอเว็บชมรมนี้ก็หายเครียด และตั้งใจศึกษาเพื่อเปนแนวทางในการรับมือกับพวกทวงหนี้ค่ะ
สู้ๆนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62105 โดย zadayu
เครือกรุงศรี จ่ายช้าวันเดียวมันก็โทรทวงแล้วค่ะ วันละหลายๆรอบ เพลียสุดๆในช่วง 4 เดือนแรก เข้าเดือนที่ 5 เริ่มซาค่ะ

กสิกร นานๆโทรที มีส่ง sms ทวงด้วย และจะตามด้วยจดหมายจากสำนักงานกฏหมาย แฮคัท 40% จ่ายรวดเดียวจบ

TMB นานๆโทรที

หยุดจ่าย เก็บเงินให้ได้มากที่สุด รอส่วนลด แล้วปิดทีละบัตรค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62108 โดย Doramon
คุณ windebt ให้กำลังใจกับตัวเองมากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้อีกคนคะ โชคดีแล้วหล่ะที่เจอ web. นี้. เดี๋ยวมันก็ผ่านไปด้วยดี. สู้ๆๆๆๆ :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62116 โดย windebt
เริ่มเศร้าอีกแล้วหละค่ะ ไปถามแฟนให้ดูรายการลิส ปรากฎว่าไม่ใช่ 700,000 แต่เป็น 1.3 ล้าน :crying:

เพราะแฟนไม่ได้บอกเรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลที่กู้โปะมา 5 ปี เครียดหนักเลยทีนี้ .... คิดกันว่าจะลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว อาจต้องย้าย รร.ลูกด้วย แต่ถึงกระนั้นจะได้เงินเหลือเพียง 7,000 บาท ต่อเดือนผ่อนหนี้ 10 ปีจะหมดรึป่าว? เฮ่อ หากถูกอายัดเงินเดือน ถ้าแฟนสมัครงานใหม่จะมีปัญหาหรือเปล่า?

เงินที่พอจะหาได้จากการขายทรัพย์สิน น่าจะราวๆ 200,000
เราควรปิดยอดเครดิตน้อยๆก่อนหรือไม่?


สถาบัน ชนิด จำนวนเงินคงค้าง

KTC Proud บัตรกดเงินสด 94000
KTC titanium เครดิต 65000
KTC visa เครดิต 32000
KTC cash revolve บัตรกดเงินสด 43000
UOB titanium เครดิต 61000
UOB Black เครดิต 74000
กสิกรไทย เครดิต 12000
กสิกรไทย Robinson เครดิต 70000
กรุงศรี เครดิต 60000
กรุงเทพ เครดิต 44000
TMB บัตรกดเงินสด 120000
Central Master เครดิต 11000
City Bank ready สินเชื่อบุคคล 100000
City Bank เครดิต 2900
city Bank สินเชื่อบุคคล 150000
TMB สินเชื่อบุคคล 270000
UOB สินเชื่อบุคคล 100000


รวม 1,308,900 บาท

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62120 โดย johnydebt
ใจเย็นๆ ครับอย่างเพิ่งตกใจ ปัญหาทุกอย่างมีทางออก ประเด็นคือการเก็บเงินปิดหนี้ทีละตัว หรือ หลายตัว เมื่อเรามีเงินพร้อม ขอย้ำคำว่า "เมื่อเราพร้อม"

หลักๆ ไม่ว่าเจ้าหนี้จะรายเล็ก ใหญ่ (จัดประเภทตามจำนวนเงินกู้) มีค่าเท่ากับ 1 ราย 1 คดีความ (หากโดนฟ้อง และอายัดเงินเดือน ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเกิดเร็วๆ นี้หรอกครับ เพราะคุณยังคงต้องเข้า process การทวงจากเจ้าหนี้แต่ละราย จนมันไม่รู้จะทวงยังไงแล้ว เพราะไม่ได้สักที ถึงจะงัดไม้เด็ดที่คนต่างกลัวกันนักหนา คือ ยื่นฟ้องศาล และ ถึงแม้เกิดจริง คุณเองยังอาจจะสามารถดึงเวลาเพื่อเก็บเงินได้บ้างนิดหน่อยครับ)

แต่เจตนาเราต้องชัดเจน คือ อยากจ่ายจนใจจะขาด อยากจบ แต่เงินไม่พอเพราะเก็บไม่ทัน (ศาลท่านเข้าใจครับ เพราะเป็นคนเหมือนเรา)

คุณกับแฟนต้องวางแผนรับมือให้ดีๆ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ และประชุมกันเขียนแผนรับมือให้จัดเจน และเข้าใจกัน ที่สำคัญที่สุดต้องร่วมมือร่วมแรงเป็นกำลังใจให้กันในการฝ่าวิกฤติ ครับ อดทน และ มุ่งมั่น ก็จะผ่านเวลาเลวร่ายนี้ไปได้ ผมเองก็ผ่านมาแล้วครับ คุณเองก็จะผ่านมันไปได้แน่นอน

อ่านกระทู้ปักหมุดเยอะๆ ครับ ให้ทำตารางหนี้ออกมาเลย ทำลงในตาราง excel ว่าหยุดจ่ายวันไหน เดือนอะไร และข้อเสนออะไรที่ได้มา ส่วนลด 30% 40% 45% 50% จากยอดที่คาดว่าจะโดนฟ้อง หากได้ลดจะเป็นเท่าใหร่ และเราจะเก็บเงินได้อย่างไร ให้ตั้งเป้าหมายไว้ เช่น โบนัสจะมา เงินเดือนจะออก ขายของเก๋็บเงินได้ หรือ ขายทรัพย์สินที่ไม่จำเป็นออกไปแล้วตัดศัตรูออกไปได้กี่ราย (ตัวที่ยอดน้อยสุด และลดให้มากสุด) ส่วนตัวใหญ่ๆ อาจจะต้องดึงเวลา และรอดูท่าทีของมันอีกที

แต่อย่าไปตกใจกลัวเรื่องการโดนฟ้องศาลเลยครับ ถึงโดนตัดสินออกมาแล้ว และโดนอายัดก็ไม่ได้อายัดหมด แค่ 30% จากรายได้ กลับดีเสียอีก เพราะจะจัดระเบียบเจ้าหนี้ ให้อายัดในอัตราตายตัวทีละรายด้วย ขอให้คิดดังนี้คุณจะไม่เครียดมาก และระหว่างนี้หารายได้เสริมเร็วๆ ได้เงินสด จับเงินสดได้ยิ่งดี อย่าไปทำอะไรยากๆ ครับ

การย้ายที่ทำงานใหม่นั้น ผมไม่แน่ใจนะครับ เพราะการสมัครเข้าทำงานใหม่นั้น เขาคงไม่สัมภาษณ์งานและถามเรื่องส่วนตัวเรื่องหนี้หรอกครับ มีงานทำได้และหากรายได้มากกว่าเก่ายิ่งดี การอายัดเป็นกระบวนการทางแพ่ง มิใช่อาญา จึงไม่น่าเข้าข่ายการรับหรือไม่รับเข้าทำงานนะครับ สิทธิ์ของการคุ้มครองด้านแรงงานเขาก็มีอยู่ เราไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ขายยาบ้าสักหน่อย

แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะมีการสืบทรัพย์เพิ่มเติมอีกหรือไม่ จากสำนักงานบังคับคดี เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะสืบทรัพย์ไปยังธนาคารที่มีชื่อบัญชีเราก็น่าจะทำได้ (เหมือนสรรพากร ที่ผมเคยโดยอายัดเงินเดือนจนกดตังค์ไม่ได้ ก็เจอมาแล้ว คือ ช่วงนั้นผมเป็นหนี้ ไม่มีเงินจ่ายสรรพากร มันเลยสืบจนเจอบัญชีเงอนเดือนประจำผม และอายัดกับทางสมุหบัญชีธนาคารซะงั้น)

แต่กระบวนการสมัครงานไม่น่าเข้าข่าย หรือ ได้รับผลกระทบนะครับ รบกวรพี่ๆ ที่ชำนาญด้านงาน HR มาตอบที อิอิ

เอาเป็นว่าทำทุกทางให้ครอบครัวคุณอยู่ได้ ดำเนินชีวิตได้ก่อน มีข้าวกิน ดำรงค์อยู่ได้ก่อนครับ ธนาคารน่ะมันไม่ตายหรอก มันรวยจะตาย ท้ายสุดและสุดท้าย มีเท่าใหร่มันก็เอาครับ (เท่าที่รับได้ แต่ไม่ใช่ศูนย์บาทแน่นอน)

สู้ๆ นะครับ อ่านมากๆ ทุกกระทู้ให้ขึ้นใจ เข้าใจ ซึมซับทุกประเด็น

แต่ท้ายสุด หากเจ้าหนี้มันไม่ได้เงิน มันก็คงโยนเรื่องให้สำนักงานบังคับคดีมาตามกดดันเราอยู่ดี

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62122 โดย p.namdech
ไม่ใช่น้อยๆเลยนะครับแต่ก็ สู้ สู้ ครับ มาเป็นกำลังใจให้ครับ ผมก็พึ้งหยุดจ่ายเดือน ธค. นี้เองครับ แต่ของผมดีหน่อยที่รู้สึกว่าการจ่ายหมุนและจ่ายขั้นต่ำมันไม่ใช่วิธีที่ถูก เลยเข้าอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลตอนแรกกะว่าจะหาแหล่งเงินกู้เพื่อรีไฟแนนบัตร ค้นไปค้นมา มาเจอเข้ากับเว็ปของทางชมรม ตอนแรกยังคิดไปคิดมาว่าจะหยุดหรือจะรีไฟแนนบัตร พออ่านเก็บข้อมูลได้ระดับหนึ่งจึงรู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรยังไงบ้าง สู้ สู้ นะครับ อ่านเก็บข้อมูลเยอะครับ ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62123 โดย pfs
UOB เจ้านี้ทวงบ่อยและถี่มาก ขึ้นชื่อว่าฟ้องเร็ว 5-6 เดือน แต่เจ้านี้ก็มีส่วนลด H/C อยู่ที่ 30-40%
สามารถปิดได้ที่ละบัตรได้
กสิกรไทย เจ้านี้โทรทวงสุภาพ เจ้านี้หยุด 5-6 เดือนก็มีส่วนลด H/C 50%
กรุงศรี เจ้านี้หยุด 4-5 เดือนส่วนลด 40-50% , ถ้า 6 เดือนขึ้นไปก็ 60-68%
KTC ระยะเวลาที่จะโดนฟ้อง 5-6 เดือน และจะรวมฟ้องพร้อมกันทุกบัตรทุกบัญชี
นโยบาย KTC ชัดเจนไม่มีส่วนลด H/C แต่ละลดเพียงดอกเบี้ยให้บ้างเท่านั้น เงื่อนไขการเจรจาที่ศาล
ผ่อนแบบขั้นบันได คิดดอกเบี้ย 10% ต่อปี ลดต้นลดดอก แต่ต้องจ่ายให้ครบภายใน 3 ปี
กรุงเทพ ไม่มีข้อมูล
TMB อ่านจากเพื่อนสมาชิก ส่วนลด 30-40%
Central Master เจ้านี้หยุด 4-5 เดือนส่วนลด 40-50% , ถ้า 6 เดือนขึ้นไปก็ 60-68%
City Bank ready สินเชื่อบุคคล เจ้านี้หยุด 4-5 เดือนส่วนลด 40-50%
City Bank เครดิต 2900
city Bank สินเชื่อบุคคล เจ้านี้หยุด 4-5 เดือนส่วนลด 40-50%
UOB สินเชื่อบุคคล เจ้านี้ทวงบ่อยและถี่มาก ขึ้นชื่อว่าฟ้องเร็ว 5-6 เดือน แต่เจ้านี้ก็มีส่วนลด H/C อยู่ที่ 30-40%
ข้อสำคัญที่สุด ถ้าหยุดแล้วต้องเก็บเงินให้ได้เพื่อรอเวลาและโอกาส และต้องมีความอดทนในการรับโทรศัพท์ บอกไปตามตรงว่าเรามีปัญหาขอเวลาเคลียร์ก่อน จะจ่ายคืนให้เมือเราพร้อม
ยิ่งถ้าคุณทำใจได้ในการขายทรัพย์สินที่ไมจำเป็นและมีเงินก้อนอยู่ในมือก็มีโอกาสต่อรองได้ง่าย
เพราะหลายคนหรือแม้แต่ pfs เองบางช่วงเขามีข้อเสนอ H/C ดีๆแต่ก็ไม่มีความพร้อมก็ต้องปฏิเสธไป
ถ้าเรามีเงินพร้อมถึงจะต่อรองค่ะ ขอให้คุณโชคดีค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62124 โดย pfs
KTC ผ่อนขั้นบันได 3 ปี ดอกเบี้ย 10%

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62131 โดย windebt
ขอบคุณนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62141 โดย Cat_kanjanasatrian
หยุดจ่ายของ CITY สินเชื่อมา 2 งวดแล้ว โทรมาทวงทุกวัน ล่าสุดวันนี้บอกให้ไปจ่ายตอนเทียง
เราก็อืม ๆ ไป พรุ่งนี้คงโทรมาอีกเป็นแน่ :สู้ๆ: :สู้ๆ: :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62143 โดย windebt
มีคำถามเพิ่มค่ะ จากหนี้ 1.3 ล้าน เป็นของเรา 2 แสน ของแฟน 1.1 ล้าน

คือถ้า ภรรยาจ่ายหนี้ 2 แสน ของตัวเองหมดก่อนสามีถูกฟ้อง และมีคอนโดและรถเป็นชื่อภรรยา (ผ่อนหมดแล้วหลังแต่งงาน 4ปี)

ถ้าสามีถูกฟ้อง หนี้ 1.1 ล้าน แล้วผ่อนไม่ได้ เพราะมีเจ้าหนี้หลายราย บ้านชื่อสามีอาจถูกยึด คำถามคือ ... คอนโดกับรถของภรรยาจะโดนด้วยไหม? ถ้าหย่ากันจะช่วยได้ไหมเพราะหนี้เกิดแล้วตอนหลังแต่งงาน
กลัวไม่มีทางถอย เพราะคิดว่าถ้าบ้านโดนยึดจะไปอยู่คอนโดหนะค่ะ

ขอบคุณนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62144 โดย pfs
ถ้าคอนโดเป็นชื่อคุณคนเดียวไม่มีปัญหาค่ะ รถถ้าชื่อคุณก็ไม่มีปัญหาค่ะ หนี้บตรและสินชื่อเป็นหนี้ส่วนบุคคล
ไม่เกี่ยวกันค่ะ ถ้าแฟนคุณเพิ่งจะเริ่มหยุดจ่าย บ้านถ้าขายหรือเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองได้ ควรจะรีบทำก่อนได้รับหมายศาลค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62151 โดย johnydebt
ลองเข้าไปดูลิ้งส์นี้ครับ

ผมว่าอย่าได้ดูเบาเจ้าหนี้นะครับ หากจะโอนทรัพย์ห้ามทำหลังโดนฟ้อง เพราะจะเข้าข่ายอำพรางทรัพย์ ส่วนคอนโด กับรถ ผมไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนว่าหากมันเป็นสินสมรส ได้มาก่อนหย่า ก็ถือว่าเป็นสินทรัพย์ร่วมกัน (สามี ภรรยา เป็นเสมือนบุคคลเดียวกัน) หลังจากนั้น ไม่ว่าจะหย่าหรือไม่ เจ้าหนี้ไม่สนนะครับ เขาจะแจ้งสืบทรัพย์ต่อ และบังคับคดีให้ขายทอดตลาดได้ ส่วนของคุณ คุณเอาเงินไป ส่วนของสามี เขาก็เอาไปใช้หนี้ครับ มันเอาจนกว่าจะยึดได้ครบนะครับ ลองศึกษาลิ้งส์นี้ดูก่อน

แต่ผมไม่แน่ใจว่ายังมีข้อกฎหมายอื่น ที่เรายังดิ้นได้อีกไหม


บ้านที่ยังผ่อนอยู่ ยึดได้ไหม?
www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=1842

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=2247&Itemid=29

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=7106

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=7589 ผ่อนบ้านอยู่ เจ้าหนี้จะยึดได้ไหม และเป็นสินสมรสด้วย หย่าก่อนได้ไหม

www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=4126

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=1722&Itemid=29 มีบ้านเป็นชื่อของเรา แล้วยังผ่อนไม่หมด จะโดนอายัดทรัพย์สินไหมค่ะ

ลองดูอันนี้อีกครับ

ใช่แล้วครับ
แต่จริงๆแล้วคำว่า"สินสมรส" ยังไงก็ยังคงต้องเป็น "สินสมรส" อยู่วันยังค่ำ...ถึงแม้จะหย่ากันแล้วก็ตาม ถ้าหากทรัพย์สินนั้นๆ ได้มาหรือซื้อมาอยู่ในช่วงระหว่างที่ยังคง"สมรส"กันอยู่ ก็ต้องถูกจัดว่าเป็น"สินสมรส"อยู่ดี...ถึงแม้จะหย่ากันแล้วก็ตาม
old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=12672 old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=15331

ก็ไหนๆจะ"หย่า(การเมือง)" กันแล้ว...ทำไมคุณไม่ถอนชื่อของตัวเองออกมาจาก"ผู้กู้บ้าน"ซะเลยล่ะครับ แล้วก็หาญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้ซักคน (แต่ต้องเป็นคนที่มีรายได้ผ่านเกณฑ์ของธนาคาร และต้องไม่ติด Black list ด้วย) เพื่อให้เขาทำหน้าที่เข้าไป"เสียบ"เป็นชื่อ"ผู้กู้บ้าน"แทนซะ...หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้นอีก ก็ทำเรื่องขายบ้านไปซะเลย (ขายดาวน์บ้าน แล้วให้คนอื่นไปผ่อนต่อเอาเอง) จะขายจริงๆ หรือขาย(หลอกๆ)ให้ญาติพี่น้องของคุณไปผ่อนต่อเอาเองก็ได้...จะได้ไม่ต้องโดน"ครึ่งหนึ่ง"
old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=16522

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62158 โดย Cat_kanjanasatrian
วันนี้ CITY โทรทวง 2 รอบละ เช้า-บ่ายเลย ก็ตอบว่าไม่ค่อยสะดวก ก็จะพยายาม อืม ๆ ไปก่อน

มีคำถามนิดค่ะ
แล้วอย่างกรณีของแคท ชื่อแคทเองติดผ่อนห้องอยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ผ่อนมาประมาณ 9 ปีแล้ว ยังไม่หมด
แล้วก็รถชื่อแคท ยังผ่อนอยู่เช่นกัน ผ่อนมาได้ 2 ปีแล้ว

เพิ่งจดทะเบียนสมรสกับแฟนเมื่อกันยายน ปีที่แล้ว แบบนี้จะโดนมัยค่ะ

รบกวนผู้รู้ด้วยนะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.813 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena