-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
KTC
KTC
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62733
โดย Apirada.Tan
เพื่อนๆคนไหน มีประสบการณ์เกี่ยวกับการฟ้องของเคทีซี รบกวนช่วยกันแชร์เข้ามาหน่อยค่ะ อยากรู้ข้อมูลตั้งแต่ได้รับจดหมายว่าให้ชำระหนี้ภายใน 20 วัน แล้วจะดำเนินการฟ้อง เพราะกรณีของดิฉํน จดหมายลงวันที่ 5/1/2015 หากนับ 20 วันจริงๆก็ต้อง 25/1 ใช่มั๊ยคะ แต่จนท.บอกว่าจะยื่นฟ้อง 20/1 นี้ และปฏิเสธการเจรจาผ่อนชำระหนี้ด้วยค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
pfs
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62739
โดย pfs
KTC หยุด 5 เดือนได้หมายศาลค่ะ (สำหรับเคสตัวเอง)
แชร์ประสบการขึ้นศาลของ KTC เื่อเป็นแนวทาง
ไปศาลครั้งที่สองของคดีบัตรกรุงไทยมาแล้ว เป็นวันที่ทางบัตรกรุงไทยจัดมหกรรมทุกๆ 3 เดือน
ผลการไกล่เกลี่ยค่อนข้างดีเกินความคาดหมายดังนี้
จากยอดหนี้ที่ฟ้อง 428,XXX บาท (ยอดรวมสองบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด)
ลดดอกเบี้ยให้ 28,XXX บาท
ยอดหนี้ที่ต้องจ่าย 400,000 บาท ติดดอกเบี้ยระหว่างผ่อน 7.5% ผ่อน 36 เดือน
เดือนที่ 1 - 12 ผ่อน 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
เดือนที่ 13 - 24 ผ่อน 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
เดือนที่ 25 - 36 ผ่อนขั้นต่ำ 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
โดยต้องผ่อนให้ครบภายใน 36 งวด
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
pfs
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
artananar
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62741
โดย artananar
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41957&Itemid=64#58905
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41826&Itemid=64#57927
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=25879&limitstart=60&Itemid=64#56887
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41607&Itemid=64#55611
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41077&limitstart=40&Itemid=64#55324
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41554&Itemid=64#54911
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41540&Itemid=64#54826
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41410&Itemid=64#53330
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41330&Itemid=64#52508
copy มาจากคุณนกกระจอกเทศค่ะ
ส่วนตัวไม่เคยขึ้นศาล แต่อาจจะมีการฟ้องเร็วๆนี้ เพราะหยุดไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557
ไม่ทราบว่าคุณ Apirada.Tan ถูกยกเลิกบัตรกี่เดือนค่ะ ถึงจะมี จม.เตือนเข้ามาอ่ะค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62743
โดย Apirada.Tan
หยุดจ่ายมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 ค่ะ และได้รับแจ้งเรื่องยกเลิกบัตรประมาณปลายเดือน พย.2557 โดยจนท.โทรมาแจ้งยกเลิกบัตรนะคะ ส่วนจดหมายเพิ่งได้รับเป็นจม.ลงวันที่ 5/1/2015 ว่าให้ชำระยอดหนี้ทั้งหมดภายใน 20 วัน ค่ะ//
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
astone
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62770
โดย astone
pfs เขียน: KTC หยุด 5 เดือนได้หมายศาลค่ะ (สำหรับเคสตัวเอง)
แชร์ประสบการขึ้นศาลของ KTC เื่อเป็นแนวทาง
ไปศาลครั้งที่สองของคดีบัตรกรุงไทยมาแล้ว เป็นวันที่ทางบัตรกรุงไทยจัดมหกรรมทุกๆ 3 เดือน
ผลการไกล่เกลี่ยค่อนข้างดีเกินความคาดหมายดังนี้
จากยอดหนี้ที่ฟ้อง 428,XXX บาท (ยอดรวมสองบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด)
ลดดอกเบี้ยให้ 28,XXX บาท
ยอดหนี้ที่ต้องจ่าย 400,000 บาท ติดดอกเบี้ยระหว่างผ่อน 7.5% ผ่อน 36 เดือน
เดือนที่ 1 - 12 ผ่อน 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
เดือนที่ 13 - 24 ผ่อน 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
เดือนที่ 25 - 36 ผ่อนขั้นต่ำ 5,000 บาท (แยกจ่ายบัตรเครดิต 2,500 , บัตรกดเงิน 2,500)
โดยต้องผ่อนให้ครบภายใน 36 งวด
ขอเราเป็น บัตรกดเงินสด ktc ยอด 20,000 อันนี้จะโดนหมายศาลเร็วรึเปล่าพึ่งหยุดได้ 3 เดือน เพราะจะปิดยูเมะบัตรแรกได้ก็เดือน ก.พ แล้วกะจะเก็บตังรอเจ้าอื่นที่เสนอ H/C เข้ามาตามลำดับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
IndyGirL
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62772
โดย IndyGirL
ของเราก็มี ktc บัตรกดเงินสดคะ วงเงินแค่ 20,000 ไม่ค่อยโทรเท่าไหร่หรืออาจจะยังแต่ 1 งวดมั้งคะ มีเพื่อนตอบในกระทู้เราว่าถ้าบัตรกดเงินฟ้องช้าไม่รู้จะยังไงเหมือนกันคะ ตั้งระบอย่างเดียวเลยตอนนี้
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62797
โดย Apirada.Tan
จากประสบการณ์ของเรา เคทีซี นี่ไม่มีพนักงานโทรมาทวงเลยนะคะ ที่ผ่านมาได้รับโทรศัพท์ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือแจ้งยกเลิกบัตร และครั้งที่2. เป็นจนท.ก่อนฟ้อง โทรมาแจ้งว่าบัตรของคุณจะทำการยื่นฟ้องในวันที่ .... ต้องทำเรื่องชำระให้จบภายใน 6 งวด ถึงจะชะลอการฟ้องได้ ค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Samsan
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62799
โดย Samsan
ของผมเริ่มหยูดงวดแรก 5 ธันวาคม ยอด 31,430 บาทครับ รายนี่ทวงน้อยมาก มีข้อความมาบ่อย ตอนนี้เข้า 2 เดือนกว่าแล้ว เริ่มนับถอยหลังแล้วครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62801
โดย Apirada.Tan
เค้าเน้นการส่งข้อความค่ะ ว่ามียอดค้างเท่านั้นเท่านี้ เท่าที่ทราบยอดเกิน 1แสนถึงจะฟ้องนะคะ แต่หากจะเจรจาประนอมหนี้อันนี้ไม่มีให้เลยค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 5911
-
ขอบคุณที่รับ: 2590
-
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #62803
โดย jackTs
Apirada.Tan เขียน: เค้าเน้นการส่งข้อความค่ะ ว่ามียอดค้างเท่านั้นเท่านี้ เท่าที่ทราบยอดเกิน 1แสนถึงจะฟ้องนะคะ แต่หากจะเจรจาประนอมหนี้อันนี้ไม่มีให้เลยค่ะ
KTC ยอดหนี้แค่หนึ่งหมื่นบาทก็ฟ้องแล้วครับ เคยมีตัวอย่างมาแล้วเยอะแยะ
.
อนณสุข ปรมาลาภา
ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
Last edit: 9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา by jackTs.
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #63496
โดย Apirada.Tan
ได้รับหมายเรียบร้อย มีนัดขึ้นศาลวันที่ 23/2/2015 นี้มีใครไปบ้าง
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
9 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #63497
โดย Apirada.Tan
มีใครทำประนอมหนี้ไว้บ้างค่ะ ถ้าเลทจ่ายไปไม่ถึง 30 วัน ข้อสัญญายกเลิกมั๊ย
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #74928
โดย Apirada.Tan
เรื่องของเรื่องคือ ดิฉันได้ลืมโทรศัพท์มือถือไว้กับน้องสาว แล้วปรากฎว่ามีบริษัทนึงโทรติดต่อเข้ามาประมาณว่าโทรมาทุกวัน วันละ 3 เวลาแต่ละครั้งที่โทรก็จะโทรติดต่อกันถึง 4 สาย จนกระทั่งน้องสาวดิฉันทนไม่ไหวเลยต้องรับสายและได้แจ้งจนท.อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เจ้าของเคื่องแต่เป็นน้องสาว และสอบถามทางนั้นว่ามีเรื่องเร่งด่วนอะไรหรือไม่ ทางนั้นบอกว่างั้นขอโทรกลับมาอีกครั้ง ทีนี้ตอนโทรกลับมาอีกครั้งในช่วงบ่ายคราวนี้หล่อนไม่ใช้เบอร์ 02 เหมือนเคยนะคะ เปลี่ยนมาใช้เบอร์มือถือ มาคราวนี้เธอแจ้งเรื่องบัตรเฟิรส์ชอย แล้วก็แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีของดิฉันให้น้องสาวดิฉันฟังหมดเลยนะคะ อยากทราบว่าดิฉันสามารถเอาผิดกับพนักงานคนดังกล่าวได้อย่างไรบ้างคะ เพราะนี่เท่ากับเปิดเผยข้อมูลของดิฉันทั้งหมดเลย
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Aizen_namdech
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
8 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #74934
โดย Aizen_namdech
เอาผิดได้ครับ ถ้าคุณรู้ข้อมูลว่าใครโทรไปชื่ออะไรบริษัททวงหนี้ไหนและมีหลักฐานเสียงบันทึกไว้ ผมว่าคุณคงไม่มี เพราะก่อนที่พวกนี้จะกระทำการอะไรที่มันรู้ว่ามันผิดกฎหมายมันก็จะปกปิดตัวตนไม่บอกชื่อไม่บอกบริษัทไม่ใช้เบอร์ที่เป็นของเบอร์บริษัทหรือเบอร์ที่สามารถตรวจสอบได้ คุณทำได้ก็คงร้องเรียนไปทางเจ้าหนี้ว่ามีการกระทำการแบบนี้ส่วนเจ้าหนี้จะจัดการหรือไม่กับบริษัททวงหนี้เราก็ไม่รู้ นี้แค่มันบอกคนอื่นนะว่าคุณเป็นหนี้ วันหน้าอาจมี ไปหาที่บ้าน หาที่ทำงาน โทรไปหาฝ่ายบุคคล โทรไปหาบุคคลอ้างอิงทีคุณระบุไว้ในใบสมัคร พวกมันจะทำทุกอย่างเพื่อประจานเรา ผมใช้วิธีบอกทุกๆตนเกียวกับเรื่องหนี้ที่ผมมีและสิ่งที่ผมทำเป็นอันจบครับสบายใจทุกอย่าง สู้ สู้ ครับ ขอบคุณครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #85126
โดย Apirada.Tan
รบกวนสอบถามค่ะว่า ดิฉันมีการประนอมหนี้หนี้บัตรเครดิตของธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งผ่านมา 1 ปีกว่าแล้ว จากประวัติการผ่อนชำระมีการขาดจ่ายไปเพียง 1 ครั้ง ปัจจุบันยังมีการผ่อนชำระอยู่ จู่ๆวันนี้ทางจนท.ธุรการของบริษัทดิฉันได้แจ้งให้ทราบว่ามีพนักงานชายคนนึงเข้ามาที่บริษัท และฝากซองจดหมายเปล่าๆไว้ 1 ซอง โดยหน้าซอง มีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ตรงมุมซ้าย แต่มีการเขียนด้วยลายมือบนหน้าซองว่า เรียน คุณ...... กรุณาติดต่อกลับ คุณ.... ที่หมายเลข ....... // ประเด็นอยู่ที่ว่า ทำไมบริษัททวงหนี้ส่งคนมาที่ทำงานแบบนี้ผิดหรือไม่ เพราะที่บริษัทดิฉันค่อนข้างเข้มงวดมากๆ ไม่อนุญาตให้ติดต่อเรื่องส่วนตัวในเวลางานได้ ขนาดมือถือยังไม่ให้นำเข้ามาในขณะปฏิบัติงานเลยซึ่งนี่อาจจะเป็นประเด็นว่าเค้าติดต่อดิฉันทางโทรศัพท์ไม่ได้ อยากรบกวนขอคำปรึกษาว่ากรณีส่งคนมาที่ทำงานแบบนี้ผิดหรือไม่คะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 5911
-
ขอบคุณที่รับ: 2590
-
-
7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #85128
โดย jackTs
Apirada.Tan เขียน: อยากรบกวนขอคำปรึกษาว่ากรณีส่งคนมาที่ทำงานแบบนี้ผิดหรือไม่คะ
ไม่ผิดครับ...หากบุคคลที่มาทวงหนี้ ไม่ได้ทำการทวงหนี้ในลักษณะแบบประจานลูกหนี้
และบนหน้าซองของจดหมาย ไม่ได้มีข้อความที่เขียนว่าเป็น
จดหมายทวงหนี้
แบบนี้ก็เข้าข่ายว่าไม่มีความผิดครับ
.
.
อนณสุข ปรมาลาภา
ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
Last edit: 7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา by jackTs.
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Pheonix
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
7 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #85263
โดย Pheonix
ข้อ ๔. ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ ความว่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๕ ข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๑๔ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๕ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน ฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงออกประกาศกำหนดให้การให้สินเชื่อส่วนบุคคล อันเป็นกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการธนาคาร ซี่งมีลักษณะตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้ เป็นกิจการที่ต้องขออนุญาต ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑. ในประกาศนี้ “สินเชื่อส่วนบุคคล” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด แก่บุคคลธรรมดา โดยมิได้ระบุวัตถุประสงค์ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจของตนเอง “สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ” หมายความว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ฯ
ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การกำหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ ความว่า ๑. เหตุผลในการออกประกาศ ประกาศนี้เดิมออกมาตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๘ เพื่อเป็นการพิทักษ์รักษาประโยชน์ของประชาชน และเป็นการป้องกันปัญหาจากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ๒. อำนาจตามกฎหมาย อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๘ แห่งประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ของผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทเงินทุน ปฏิบัติตามที่กำหนดในประกาศฉบับนี้ คำนิยาม ๔.๒ ในประกาศนี้ “สินเชื่อส่วนบุคคล” หมายความว่า การให้กู้ยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลด หรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด แก่บุคคลธรรมดา โดยมิได้ระบุวัตถุประสงค์ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจของตนเอง “สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ” หมายความว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเฉพาะที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ฯ
ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใด ๆ และค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ๔.๕ ให้ผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติในเรื่องการเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม ใด ๆ และค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ดังต่อไปนี้ (๑) ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่เรียกเก็บต้องไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ (ร้อยละ ๑๕ ต่อปี) โดยอัตรารวมสูงสุดของดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ดังกล่าว รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ ๒๘ ต่อปี (Effective rate) (๒) นอกจากดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ตาม (๑) แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุได้ ฯ ตามคำฟ้องข้อ ๓. เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ จำเลยได้ยื่นคำขอสมัครสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี(KTC CASH Revolve) ไว้กับโจทก์ โดยโจทก์ได้อนุมัติเงินกู้ให้จำเลยในวงเงินจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี โจทก์ได้ออกบัตรเงินสดพร้อมรหัสส่วนตัวเพื่อให้จำเลยใช้เบิกถอนเงินสดจากเครื่องฝากถอนอัตโนมัติหรือเคาน์เตอร์ของธนาคารฯ โจทก์จะจัดส่งใบแจ้งหนี้ไปเรียกเก็บเงินจากจำเลยทุกรอบบัญชีหรือทุกเดือน ตามประกาศโจทก์ สินเชื่อบุคคล KTC CASH และสินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๒ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒, ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒, ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓, ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔, ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕, ๑ มกราคม ๒๕๕๖, ๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ และ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ รวม ๘ ฉบับ กำหนดไว้ว่า • อัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve หรือ KTC PROUD ขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้างทั้งสิ้น แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท
จำเลยได้จัดทำตารางการผ่อนชำระ สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve วงเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี ผ่อนชำระตามที่โจทก์ประกาศกำหนด สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ ปรากฏว่า จำเลยต้องผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เป็นระยะเวลา ๒๓๐ เดือน ผ่อนชำระขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้างทั้งสิ้น แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท เดือนสุดท้าย ผ่อนชำระหนี้ที่เหลือจำนวน ๑๓๕.๕๐ บาท เงินที่ผ่อนชำระในแต่ละเดือนนำไปชำระดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินก่อนส่วนที่เหลือนำไปหักชำระเงินต้น รวมจำนวนเงินที่จำเลยต้องผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๑๐๙,๕๖๓.๑๑ บาท (๓๖๕.๒๑% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๔๒,๖๒๓.๐๙ บาท นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๑๓ ต่อปี เป็นเงิน ๓๖,๙๔๐.๐๑ บาท นำไปชำระเงินต้น เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่ต้องชำระทั้งสิ้น ๗๙,๕๖๓.๑๐ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๒๖๕.๒๑ ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาท (๑๐๐%) โจทก์อนุมัติสินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ให้จำเลย วงเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี ผ่อนชำระขั้นต่ำ ๓% ของยอดเงินคงค้าง แต่ไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ บาท ทำให้จำเลยต้องผ่อนชำระนานถึง ๑๙ ปี ๒ เดือน จึงจะหมดหนี้ รวมเงินที่จำเลยต้องผ่อนชำระเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๐๙,๕๖๓.๑๑ บาท คิดเป็น ๓๖๕,๒๑% ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาทดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินที่ต้องผ่อนชำระ ๗๙,๕๖๓.๑๐ บาท คิดเป็น ๒๖๕.๒๑% ของเงินต้น ๓๐,๐๐๐ บาท จึงเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงการคลังที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน และเป็นการฝ่าผืนประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมา เพื่อเป็นการพิทักษ์รักษาประโยชน์ของประชาชน และเป็นการป้องกันปัญหาจากธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๐ จำเลยเป็นประชาชนผู้บริโภค ไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน จึงไม่เข้าใจถึงผลร้ายที่จะเกิดขึ้น และถ้ามีการเบิกใช้สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ระยะเวลาที่ต้องผ่อนชำระก็จะเกินกว่า ๑๙ ปี ๒ เดือน ไปอีกมาก อาจถึงตลอดชีวิต ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินก็จะเกิดขึ้นอีกมาก โจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลย่อมทราบสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี จำเลยจึงกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตา จำเลยขอปฏิเสธยอดหนี้สินเชื่อพร้อมใช้ KTC CASH Revolve ที่โจทก์ส่งมาเพียง ๓ ฉบับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
7 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #90758
โดย Apirada.Tan
อยากรบกวนขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหนี้บัตรอิออนนะคะ ก่อนอื่นเลยต้องขอเล่าสักนิดนึงก่อนว่าหนี้ของอิออนมีหลายรายการทั้งบัตรเครดิตและผ่อนสินค้า เราแจ้งยกเลิกบัตรทั้งหมดตั้งแต่เริ่มมีปัญหาทางการเงิน ณ ขณะนั้นติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกธนาคารเพื่อทำประนอมหนี้ เหลือเพียงอิออน ที่นานๆครั้งจะโทรมา แต่การเจรจาจะขอให้ชำระเป็นก้อนโดยเสนอส่วนลดที่ประมาณ 20% ดิฉันก็บอกตามตรงว่าไม่มีความสามารถชำระเป็นเงินก้อนได้ ขอผ่อนชำระยอดที่ต่ำที่สุดได้หรือไม่ คืออยากจ่ายนะไม่อยากเงียบหาย แต่ฝ่ายเจ้าหนี้เป็นฝ่ายปฏิเสธ ยืนยันว่าให้ชำระเป็นก้อนโดยปิดทีละรายการ ในเมื่อตกลงกันไม่ได้เราก็ปล่อย หากจะฟ้องก็ยอมให้ฟ้อง จนเมื่อ 2 เดือนที่แล้วได้รับหมายศาลมาเรียบร้อย ศาลนัด 28 พย. 2559 เรารับทราบ เเต่เมื่อวานนี้มีจนท.ติดต่อเข้ามาแจ้งว่าอยู่ฝ่ายกฎหมายเข้ามาเสนอส่วนลด 30% โดยยินยอมให้ชำระทีละรายการ และขอให้จบภายใน 3 เดือนแล้วจะชะลอการฟ้องและยืดเวลาออกไปให้ // เราสงสัยว่าเค้าจะไปถอนฟ้องให้เราเหรอ นี่มันก็ใกล้วันฟ้อง แล้ว เราไม่ค่อยมันใจในเคสนี้เท่าไหร่เพราะไม่เคยเจอว่าจะไปขึ้นศาลอยู่แล้วแท้ๆ เราควรไปขึ้นศาล หรือยอมชำระดี งวดแรกนี้ยอด 8000 บาท (เราถามเค้าว่าหากเราจ่ายไม่หมดภายใน 3 เดือน ก็จะยื่นฟ้องทันทีใช่มั๊ย เค้าบอกว่าไม่ถึงขนาดนั้น เราก็ต้องคุยกันก่อนว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง)
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Apirada.Tan
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
ผู้ดูแล: Mommyangel, Badman, konsiam
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
KTC
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.705 วินาที