ตัดสินใจจะหยุดจ่ายครับ

4400162 เขียน: รบกวนผู้รู้ครับ พอดีสถานะการของผมตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิมทีจะได้เงินจากน้องมาเตรียมไว้ทำแฮร์คัทครับ ตอนนี้ไม่ได้แล้ว และคิดว่าคงเก็บเงินด้วยตัวเองไม่ทันจึงคิดว่าจะปล่อยไปจนถึงขั้นตอนการฟ้องครับ ตอนแรกก็ลองหาข้อมูลจากกระทู้อื่นๆแต่ก็ไม่มีเคสแบบผมเลย กรณีของผมเป็นการซื้อทรัพคืนจากธนาคารครับ จากที่พ่อของผมยืมชื่อเพื่อนมาซื้อบ้านแต่ก็ผ่อนไม่ไหวจนถูกยึดและขายทอดตลาด พ่อของผมได้ไปติดต่อกับ ธอส และธนาคารได้ทำสัญาให้ผมเป็นผู้ซื้อทรัพคืนจากธนาคาร และยังต้องชำระหนี้ส่วนขาดอีก ตอนแรกสัญญา10ปีตอนนี้ขยายไปเป็น30ปีครับ พอผมผ่อนไปได้สัก2-3ปี ทางธนาคารก็เสนอวงเงินให้กู้มาก็รับข้อเสนอนั้น พอมีปัญหากับพวกบัตรเครดิตก็เลยสงสัยว่า บ้านที่เป็นการซื้อทรัพย์คืนจากธนาคาร เป็นทรัพย์สินของผมหรือไม่ครับ ซึ่งผมก็ถามธนาคารเหมือนกันนะครับว่าชื่อในโฉนดตอนนี้เป็นชื่อของใคร ธนาคารก็บอกว่าเป็นชื่อของธนาคารอยู่จนกว่าเราจะผ่อนหมดถึงจะเป็นชื่อเรา ตอนนี้ผมถือเป็นผู้กู้และเป็นผู้อาศัยในทะเบียนบ้าน ผมต้องทำเรื่องเปลี่ยนชื่อผู้กู้ก่อนถูกฟ้องหรือไม่ครับ หรือว่า ไม่ต้องทำไรเพราะอีกตั้ง30ปีถึงจะเป็นของเรา ตอนนี้ผมจึงเหมือนเป็นผู้ไม่มีทรัพสินอะไรน่าจะถูกอายัดเงินเดือนเพียงอย่างเดียวใช่ไหมครับ

สามารถดูชื่อเจ้าของที่ดินได้จาก สำเนาโฉนดที่ดินฉบับดังกล่าว ซึ่งจะมีรายชื่อ"เจ้าของที่ดิน" อยู่ในด้านหลังของโฉนด

ถ้าคุณอยากรู้ความจริง ก็เอาสำเนาที่มันถ้่ายเอกสารโฉนดแผ่นนั้นมาดูสิครับ

ต้องขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากครับ และขอรบกวนถามต่อครับ ตอนนี้โฉนดเป็นชื่อผมครับ ถ้าผมเปลี่ยนชื่อผู้ถือโฉนดไม่ได้ จนถึงเวลาที่โดนฟ้องแล้วขึ้นศาล เพื่อที่ไม่ให้ถึงขั้นตอนยึดทรัพย์ ผมต้องยอมจ่ายตามคำพิภากษาในครั้งแรกที่ขึ้นศาลและทำตามข้อตกลงของสถาบันการเงินใช่ไหมครับ เพราะตอนนี้กังวนมากครับกล้วถูกยึดบ้าน

มีญาติกำลังจะกู้เงินธนาคารกรุงไทย ถ้าผมจะเปลี่ยนชื่อผู้กู้ของผมเอง(ซื้อทรัพย์คืน ธอส)เป็นญาติคนที่กำลังจะทำเรื่องกู้ของธนาคารกรุงไทย จะทำพร้อมกันได้ไหมครับ เพราะจะต้องให้ญาติยื่นเอกสารเหมือนกู้ใหม่ กับ ธอส ด้วย หรือผมจะยืมเงินที่ญาติกู้ของกรุงไทย มาปิดบัญชีของ ธอส ที่ผมผ่อนและมีชื่อในโฉนดก่อน แล้วโอนเป็นของญาติ เมื่อเป็นชื่อญาติแล้ว ให้เขาไปยื่นจำนองเองอีกที ก่อนที่จะได้รับหมายจากศาล ผมควรทำแบบที่ว่าไว้ดีไหมครับ

รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยตอบหน่อยครับ ตอนนี้ใกล้จะถูกฟ้องแล้วแต่ยังเคลียเรื่องชื่อในโฉนดไม่ได้เลยครับ

4400162 เขียน: รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยตอบหน่อยครับ ตอนนี้ใกล้จะถูกฟ้องแล้วแต่ยังเคลียเรื่องชื่อในโฉนดไม่ได้เลยครับ

ถ้าเคลียร์ไม่ทันจริงๆ ก็ต้องไปยอมความที่ศาล แล้วขอผ่อนเท่าที่ไหวครับ

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

4400162 เขียน: รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยตอบหน่อยครับ ตอนนี้ใกล้จะถูกฟ้องแล้วแต่ยังเคลียเรื่องชื่อในโฉนดไม่ได้เลยครับ

แนะนำในนี้ไม่ได้ครับ

เหตุผล
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40552&Itemid=64#45365

ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากๆครับ

ตอนนี้หยุดจ่ายเข้ารอบบิลที่4 แล้วครับ ก็มีหลายบัตรยื่นข้อเสนอมา บ้างแล้วส่วนใหญ่ก็ลดให้30% จะมีของ city กับ uob บอกจะลดให้45%แต่ขอส่งสำเนาบัตรประชาชน เอกสารหนี้สถาบันอื่น และประวัติเครดิตบูโรที่ออกโดยธนาคาร ไปให้ ก่อนหน้านี้ผมเคยอ่านเจอของเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆอยู่บ้างแต่ลืมเก็บเป็นกระทู้โปรด ก็เลยรบกวนพี่ๆช่วยแนะนำหน่อยครับว่าควรทำอย่างไร และพวกทวงหนี้มันจะเอาเอกสารเราไปทำอะไรที่เป็นผลร้ายกับเราต่อไปหรือไม่ครับ

ให้ได้ค่ะ ตอบตามประสบการณ์ของตัวเอง แต่ก็ขีดคร่อมและระบุไปว่าเอกสารใช้เพื่อขอส่วนลดปิดบัตร......
ตามยอดที่ตกลงที่ต้องจ่ายปิดหนี้จำนวน.......บาทเท่านั้น ลงวันเดือนฝปีด้วยค่ะ

ตอนนี้ผมหยุดจ่ายเข้างวดที่4แล้วครับ อีกสองอาทิตย์นัดเอาโฉนดออกจากธนาคาร เพื่อจะเปลี่ยนชื่อเป็นน้องครับ อยากถามพี่ๆครับว่าถ้าตอนที่เรากำลังเปลี่ยนชื่อโฉนดอยู่นี้ มีหมายศาลโดนฟ้องพอดี จะเป็นทำยังไงดีครับ เพราะยูโอบีกับซิตี้ก็ขู่ว่าจะฟ้องแล้วเงียบไปเลย

ตอนนี้ผมปิดได้หลายบัตรแล้วครับ และได้เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองเป็นน้องชายหมดทุกอย่างแล้ว หนี้เหลืออยู่ตอนนี้ก็คือ ยูโอบี ยอด 90000 กรุงศรีสินเชื่อส่วนบุคคน 100000 cimb 60000บัตรเครดิตและกดเงินสดของกสิกร 140000และ อิออน 80000ทุกบัตรเข้าเดือนที่แปดแล้วครับ ผมพอจะมีเงินจากการยืมญาติได้อีก70000 บาท และน่าจะปิดได้อีกสักบัตร อยากถามผู้มีประสบการณ์ครับว่า ควรจะปิดบัตรไหนดี หรือว่าควรจะเก็บเงินส่วนนี้ไว้เพื่อไปขอปิดหน้าศาล เพราะคิดว่าอีกไม่นานน่าจะได้หมายศาลแล้ว หรือว่าไม่ต้องจ่ายสักบัตรเลยปล่อยให้ฟ้องทั้งหมดแล้วเล่นเกมระยะยาวดีครับ รบกวนหน่อยนะครับ

4400162 เขียน: ตอนนี้ผมหยุดจ่ายเข้างวดที่4แล้วครับ อีกสองอาทิตย์นัดเอาโฉนดออกจากธนาคาร เพื่อจะเปลี่ยนชื่อเป็นน้องครับ อยากถามพี่ๆครับว่าถ้าตอนที่เรากำลังเปลี่ยนชื่อโฉนดอยู่นี้ มีหมายศาลโดนฟ้องพอดี จะเป็นทำยังไงดีครับ เพราะยูโอบีกับซิตี้ก็ขู่ว่าจะฟ้องแล้วเงียบไปเลย

ผมเคยพิมพ์อธิบายเอาไว้แล้ว อยู่ในกระทู้นี้(อยู่ในกระทู้อันเกือบล่างสุด) ลองไปอ่านดูนะครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43734&Itemid=64#78272

4400162 เขียน: อยากถามผู้มีประสบการณ์ครับว่า ควรจะปิดบัตรไหนดี หรือว่าควรจะเก็บเงินส่วนนี้ไว้เพื่อไปขอปิดหน้าศาล เพราะคิดว่าอีกไม่นานน่าจะได้หมายศาลแล้ว หรือว่าไม่ต้องจ่ายสักบัตรเลยปล่อยให้ฟ้องทั้งหมดแล้วเล่นเกมระยะยาวดีครับ รบกวนหน่อยนะครับ

ควรเอาเงินไปจ่าย Haircut กับเจ้าหนี้รายที่มันให้ส่วนลด(คิดเป็น %)มากที่สุดครับ...ส่วนรายไหนที่มันเขี้ยวมากๆ(ให้ส่วนลดน้อย) ก็ปล่อยให้มันฟ้องศาลไป

แล้วที่เหลือก็ปล่อยให้เข้าสู้กระบวนการอายัดเงินเดือนต่อไป

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64




คุณอย่าลืมนะครับว่า Haircut สามารถทำได้ตลอดชีพ (สามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง)
ดังนั้น ไอ้เจ้าหนี้ที่มันทำเรื่องอายัดเงินเดือนของคุณเป็นรายแรก มันก็อาจรู้สึกเฉยๆ ไม่เดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ กับการรออายัดเงินเดือนของคุณไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดหนี้

แต่ไอ้เจ้าหนี้รายถัดไปนี่สิครับ(เจ้าหนี้รายที่ 2 , 3 , 4...) พอมันรู้ความจริงว่ามันมายื่นเรื่องขออายัดเงินเดือนเป็นรายหลังๆ ถัดจากไอ้เจ้าหนี้รายแรกๆ มันก็ชักไม่มีความสุขแล้วล่ะครับ เพราะว่าตัวมันเอง ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกกี่ปี , กี่เดือน...กว่าจะถึงคิวของมัน

ซึ่งบางทีมันอาจต้องรอนานถึงจนกระทั่งคดีขาดอายุความในการ ยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือน(10 ปี)ตามที่กฎหมายกำหนด...เพราะเท่ากับว่ามันจะไม่ได้เงินอะไรเลยสักบาท

อายุความในการ ยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64

ู้
ดังนั้น...ไอ้เจ้าหนี้รายที่มันรู้ตัวว่า มันต้องมานั่ง"เข้าแถว"รอคิวอายัดเงินเดือนเป็นรายหลังๆ ส่วนมากมันมักจะรีบติดต่อกลับมาหาลูกหนี้อีกครั้ง พร้อมกับมีการยื่นข้อเสนอให้ส่วนลด Haircut แบบงามๆกันใหม่อีกครั้ง
ซึ่งการเสนอ Haircut กันใหม่ในครั้งนี้ ราคาส่วนลดจะได้มากกว่า 50% ขึ้นไป (อาจจะได้ที่ 50% , 60% หรือ 70% ก็แล้วแต่การต่อรองกันระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้)

หรือเรียกได้ว่า จะมีการเสนอราคา Haircut กันใหม่อีกครั้ง โดยเสนอให้ราคาส่วนลดเยอะๆ(ลดราคากันแบบถล่มทลาย) หลังจากที่มีการอายัดเงินเดือนเกิดขึ้นแล้ว แต่ลูกหนี้ดันไม่มีทรัพย์สินใดๆให้เจ้าหนี้ในรายหลังๆมันทำการยึดทรัพย์ได้เลย พวกมันก็จะขอเสนอ Haircut โดยให้ราคาส่วนลดที่มากๆ เพื่อทำการ ปิดหนี้/ปิดคดี ให้จบให้จงได้

ดีกว่าต้องมานั่งเข้าแถวรอคิวแบบไม่รู้ชะตาอนาคตอะไรเลย เพราะอาจต้องรอคิวนานเกิน 10ปี กว่าจะถึงคิวของมัน...ซึ่งเท่ากับว่ามันจะไม่สามารถอายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้อีกเลย ถ้าเกินกว่า 10ปีไปแล้ว

หลังจากใช้แนวทางของทางชมรมก็หมดเจ้าหนี้ได้หลายเจ้า ด้วยวิธีแฮร์คัต ตอนนี้ก็เหลืออยู่ประมาณ4เจ้าและก็ได้รับหมายศาลแล้ว คิดเอาไว้ว่าจะขอเลื่อนศาลมาตั้งหลักสักเดือน อยากรบกวนถามผู้มีประสบการณ์ครับว่า ตอนนี้ผมตั้งใจจะให้อายัดเงินเดือนอยู่ในใจ ในวันที่ไปศาลอีกครั้งเราจะต้องทำไงดีครับ ต้องพูดยังไงกับศาลหรือรับข้อเสนอของเจ้านี้ ต้องเซ็นเอกสารอะไรหรือเปล่า หรือว่าฟังคำพิภากษาของศาล เพราะตอนนี้รู้สึกกังวลมากครับ อ่านและหาตัวอย่างของเพื่อนในชมรมแล้ว มันก็ยังสับสนและตื่นเต้นอยู่ อยากให้ผู้รู้มาคลายความกังวลให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

4400162 เขียน: หลังจากใช้แนวทางของทางชมรมก็หมดเจ้าหนี้ได้หลายเจ้า ด้วยวิธีแฮร์คัต ตอนนี้ก็เหลืออยู่ประมาณ4เจ้าและก็ได้รับหมายศาลแล้ว คิดเอาไว้ว่าจะขอเลื่อนศาลมาตั้งหลักสักเดือน อยากรบกวนถามผู้มีประสบการณ์ครับว่า ตอนนี้ผมตั้งใจจะให้อายัดเงินเดือนอยู่ในใจ ในวันที่ไปศาลอีกครั้งเราจะต้องทำไงดีครับ ต้องพูดยังไงกับศาลหรือรับข้อเสนอของเจ้านี้ ต้องเซ็นเอกสารอะไรหรือเปล่า หรือว่าฟังคำพิภากษาของศาล เพราะตอนนี้รู้สึกกังวลมากครับ อ่านและหาตัวอย่างของเพื่อนในชมรมแล้ว มันก็ยังสับสนและตื่นเต้นอยู่ อยากให้ผู้รู้มาคลายความกังวลให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

เราต้องยอมความทุกคดี หรือไม่ ถ้าเรากำลังจะต้องถูกอายัดเงินเ​ดือน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42116&Itemid=64#81455



ถ้าต้องการให้เจ้าหนี้ทุกรายมาเข้าแถวรออายัดเงินเดือน ให้ใช้แนวทางที่ 3.ได้เลยครับ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

อาทิตย์หน้าจะไปตามนัดที่2 จากขอเลื่อนมาครับ พูดแบบบ้านๆนะครับ ถ้าตั้งใจจะให้อายัดเงินเดือนเพราะมีแต่เงินเดือนไม่ได้มีทรัพย์สินอื่นๆ การไปนัดที่สองนี้ ไม่ต้องทำยอม หรือสู้คดีใดๆ ให้ศาลตัดสินเลยใช่ไหมครับ และถ้าถึงขั้นตอนการอายัดเงินเดือนแล้ว เราเอาภาระไปขอลดเป็น 15% แล้ว เจ้าหนี้ที่เหลือก็ยังสามารถมาอายัดอีก 15% เพื่อให้ได้30%ใช่ไหมครับ

4400162 เขียน: อาทิตย์หน้าจะไปตามนัดที่2 จากขอเลื่อนมาครับ พูดแบบบ้านๆนะครับ ถ้าตั้งใจจะให้อายัดเงินเดือนเพราะมีแต่เงินเดือนไม่ได้มีทรัพย์สินอื่นๆ การไปนัดที่สองนี้ ไม่ต้องทำยอม หรือสู้คดีใดๆ ให้ศาลตัดสินเลยใช่ไหมครับ และถ้าถึงขั้นตอนการอายัดเงินเดือนแล้ว เราเอาภาระไปขอลดเป็น 15% แล้ว เจ้าหนี้ที่เหลือก็ยังสามารถมาอายัดอีก 15% เพื่อให้ได้30%ใช่ไหมครับ

ผมก็ได้เขียนอธิบายเอาไว้แล้ว อยู่ในด้านล่างสุดของกระทู้ยังไงล่ะครับ...ทำไมถึงไม่อ่านล่ะครับ?

เราต้องยอมความทุกคดี หรือไม่ ถ้าเรากำลังจะต้องถูกอายัดเงินเ​ดือน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42116&Itemid=64#82510