ช่วยบอกวิธีหยุดจ่ายบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดด้วยค่ะ

กำลังเริ่มคิดหยุดจ่ายบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ร่วมๆ800000 บาท และควรประนอมหนี้หรือไม่

บอกรายละเอียดเยอะๆเลยครับ

เป็นหนี้ที่ไหนบ้าง แต่ละที่ยอดเท่าไหร่ หยุดมาแล้วกี่เดือน เพื่อนๆสมาชิกจะได้ช่วยกันแชร์ประสบการณ์

คุณบอกแค่นี้ ไม่มีใครช่วยได้หรอกครับ


อีกอย่าง อ่านกระทู้ปักหมุดเยอะๆครับ

ก่อนที่จะหยุด ควรไปอ่าน ตามลิงคให้หมดก่อนนะ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=939&Itemid=64

แล้วจะรู้ว่าต้องทำยังไงส่วนใหญ่ขี้เกียจอ่าน ถามอย่างเดียว สู้ๆๆๆๆ
คำตอบตามลิงครับ

.
วิธีแก้หนี้

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64

UOB บัตรเครดิต 80000
UOB บัตรกดเงิน 52000
กสิกรไทย บัตรเครดิต 120000
กสิกรไทย บัตรกดเงินสด 40000
KTC บัตรเครดิต 145000
KTCบัตรตรกดเงินสด 52000
Umay Plus บัตรกดเงินสด 90000
First choice บัตรกดเงินสด 75000
Central credit card 30000
Power bye สินเชื่อเงินสด 20000
Thanachart credit card 20000
Thanachartบัตรกดเงินสด 30000
รวม 754,000 บาท
ยังไม่ได้เริ่มหยุดส่ง กำลังจะเริ่มเดือนหน้า แบบว่าไม่ไหวแลว

ขอถามผู้รู้2ข้อ
1.การงดจ่ายเพื่อรอทำHair cut ทำไมถึงยกเว้นเงินกู้
กยศ.
2.แล้วถ้ารับเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทย
KTC มีสิทธิ์ดูดเงินเราจากธนาคารไปก่อนหรือไม่

phatth เขียน: การงดจ่ายเพื่อรอทำHair cut ทำไมถึงยกเว้นเงินกู้ กยศ.

เพราะ กยศ.ไม่มีนโยบาย Haircut ไงครับ เนื่องจากเงินกู้ กยศ.คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1บาทต่อปี (ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่โคตรถูกที่สุดเลย) และเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เกินกฎหมายกำหนดด้วย (ตามกฎหมาย ห้ามคิดดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15ต่อปี)
- ส่วนดอกเบี้ยของบัตรเครดิต (ลูกหนี้ชั้นดี ที่ยังผ่อนจ่ายอยู่ตามปกติ) คิดอัตราร้อยละ 20 ต่อปี
- ดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด (ลูกหนี้ชั้นดี ที่ยังผ่อนจ่ายอยู่ตามปกติ) คิดอัตราร้อยละ 28 ต่อปี
- ดอกเบี้ยของสินเชื่อบุคคล (ลูกหนี้ชั้นดี ที่ยังผ่อนจ่ายอยู่ตามปกติ) คิดอัตราร้อยละ 28 ต่อปี
ไอ้พวกที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดนี่แหละ ที่มันกลัวแพ้คดีหากไปฟ้องลูกหนี้ขึ้นสู่ศาล เพราะว่ามันคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด มันจึงยอมให้ส่วนลดราคาที่เรียกกันว่า Haircut ยังไงล่ะครับ

ส่วนหนี้ของ กยศ.นั้น หากลูกหนี้ยังคงผ่อนจ่ายหนี้ตามสัญญา (ลูกหนี้ชั้นดี ที่ยังผ่อนจ่ายอยู่ตามปกติ) ก็จะโดนคิดดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1บาทต่อปี(1% ต่อปี) แต่ถ้าลูกหนี้หยุดจ่ายชำระเมื่อไหร่ ตามสัญญาเงินกู้ของ กยศ. จะกำหนดให้ทำการปรับดอกเบี้ยขึ้นไปเป็นร้อยละ 18ต่อปีแทน

*** หมายเหตุ ***
อัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปี คิดมาจาก
1. ดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระ (เบี้ยวหนี้ / ไม่ยอมจ่าย / จ่ายล่าช้ากว่าที่สัญญากำหนด) = 15% ต่อปี
2. ค่าเบี้ยปรับที่ลูกหนี้จ่ายล่าช้า หรือผิดนัดชำระ = 3% ต่อปี

ข้อ 1. + ข้อ 2. จึงเท่ากับ 18% ต่อปี


แล้วถ้าหากลูกหนี้ยังไม่ยอมชำระหนี้อยู่อีก ทาง กยศ.ก็จะทำการฟ้องให้เป็นคดีขึ้นสู่ศาล โดยจะฟ้องลูกหนี้ให้เป็นจำเลยที่1 และจะฟ้องผู้ค้ำประกันให้เป็นจำเลยที่2 เพื่อให้จำเลยที่2 ต้องมาชดใช้หนี้ร่วมไปด้วย

แล้วจำเลยที่2(ผู้ค้ำประกัน)เป็นใครล่ะครับ?...ถ้าไม่ใช่ พ่อ/แม่ , ลุง/ป้า , น้า/อา , ครูบาอาจารย์ หรือญาติผู้ใหญ่...ของผู้กู้(จำเลยที่1)

แล้วทำไมเราจะต้องให้บุคคลผู้ที่มีพระคุณเหล่านั้น ต้องมาขึ้นศาลและต้องมาชดใช้หนี้แทนตัวเราด้วยล่ะครับ?...แถมยังโดนดอกเบี้ยร้อยละ18 ต่อปีอีกด้วย

ฝากเป็นข้อคิดให้อีกอย่างนึงด้วยนะครับ
เงินกู้ กยศ.เป็นเงินกู้สำหรับเยาวชนยากจนที่ต้องการศึกษาต่อ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ทางภาครัฐจึงจัดตั้งเป็นกองทุนเงิน กยศ. เพื่อให้เยาวชนดังกล่าวมากู้เพื่อไปศึกษาต่อ
แต่เงินกองทุนของ กยศ.นี้ มีงบประมาณจำนวนจำกัด ถ้าหากลูกหนี้ของ กยศ.ที่เป็น"รุ่นพี่"อย่างคุณ กู้เงินไปแล้วไม่ยอมเอามาใช้คืน แล้วเยาวชนรุ่นน้อง , รุ่นลูก , รุ่นหลาน หรือรุ่นต่อๆไป จะเอาเงินกู้มาจากที่ไหนล่ะครับ?
ถ้า"รุ่นพี่"กู้เงินไปแล้วไม่ยอมเอามาคืน เงินในกองทุนของ กยศ.ก็จะไม่เพียงพอที่จะให้รุ่นต่อไปมากู้ต่อ
แล้วเยาวชนไทยในรุ่นหลังๆจะเอาเงินกู้จากไหนมาเพื่อเรียนต่อล่ะครับ?

หนี้กองทุนกยศ.

สำหรับหนี้รายการนี้ชมรมฯจะขอร้องให้จ่าย(ห้ามหยุด)
เพราะ

1.ดอกเบี้ยถูกมาก
2.ยอดจ่ายแต่ละเดือนไม่สูง
3.ทวงหนี้ไม่โหด
4.หากหยุดผู้ที่ค้ำประกันให้คุณจะเดือดร้อนตามไปด้วย
5.มีน้องๆรอใช้กองทุนนี้อยู่อีกเยอะ
6.คุณเรียนจบมาได้ด้วยเงินกู้นี้ คุณมีอนาคตที่ดี แล้วยังไม่ยอมจ่ายอีก
ก็ไม่น่าจะเรียกว่าคนแล้ว
ยกเว้นตกงาน ไม่มีงานทำก็จำเป็นต้องหยุดจ่าย
แต่เมื่อได้งานทำแล้วก็ขอให้รีบติดต่อเพื่อจ่ายหนี้ตัวนี้โดยเร็ว

อ้างอิงข้อมูลจาก
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&limitstart=20&Itemid=64#241

phatth เขียน: 2.แล้วถ้ารับเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทย
KTC มีสิทธิ์ดูดเงินเราจากธนาคารไปก่อนหรือไม่

บัตรกรุงไทย , บัตรกรุงศรี...บนความแตกต่างของสถาบันการเงิน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=7111&Itemid=64

ขอบคุณคุณนกกระจอกเทศมากค่ะ หายสงสัยเรื่องกยศ.แล้ว ไม่คิดเบี้ยวหรอกค่ะ ส่งมา13ปีแล้ว ขาดอีก2 ปี แต่ 2ปีนี่ก็หนักเพราะเจอมรสุมบัตรเครดิตนี่และ มุ่งมั่นหยุดส่ง ตอนนี้หยุด 2 เจ้า คือ central card 30000 ธนชาติ 20000 ที่เหลือ750000 เริ่มเดือนหน้าเลย ยังไม่บอกแฟนเรื่องนี้ รอจังหวะดีๆก่อน สงสัยวัดใจกันไปเลย

ขณะนี้ สามีกำลังสร้างบ้านอยู่ มูลค่า1500000 บาท ใกล้เสร็จละ แต่สามีกู้คนเดียว ภรรยาที่จดทะเบียนถือเป็นผู้กู้ร่วมตามกฏหมายหรือไม่ ขอถามค่ะ

1.ถ้าขึันศาลแพ้ เจ้าหนี้จะอายัตรบ้านหลังนี้ได้หรือไม่
2.ถ้าเจ้าหนี้ยึดได้ เราต้องไปหย่า ก่อนหยุดจ่ายหนี้เพื่อรอทำ hair cut หรือไม

phatth เขียน: ขณะนี้ สามีกำลังสร้างบ้านอยู่ มูลค่า1500000 บาท ใกล้เสร็จละ แต่สามีกู้คนเดียว ภรรยาที่จดทะเบียนถือเป็นผู้กู้ร่วมตามกฏหมายหรือไม่ ขอถามค่ะ

1.ถ้าขึันศาลแพ้ เจ้าหนี้จะอายัตรบ้านหลังนี้ได้หรือไม่
2.ถ้าเจ้าหนี้ยึดได้ เราต้องไปหย่า ก่อนหยุดจ่ายหนี้เพื่อรอทำ hair cut หรือไม

ข้อที่ 1 การขึ้นศาลในคดีหนี้ที่เป็นหนี้กันจริงๆ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะคดี ยังไงก็ต้องชำระหนี้ ดังนั้น ยึดบ้านได้ หากลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้

ข้อที่ 2 แนะนำให้โทรปรึกษาที่ Hotline ตามเวลาที่กำหนด

แนะนำได้แค่นี้ครับ

ขอบคุณค่ะ

สินสมรสทุกอย่าง ที่มีชื่อของ"คู่สมรส"เป็นเจ้าของ"เพียงคนเดียว"...ก็สามารถ ยึด/อายัด กึงหนึ่ง(ครึ่งนึง)...หากสืบได้ว่าเป็น"สินสมรส"

แต่ถ้าไม่ใช่สินสมรส ก็สามารถยึดทรัพย์ได้ทุกอย่าง หากมีชื่อของลูกหนี้(จำเลย)เป็นเจ้าของ ได้แบบเต็ม 100%

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=36134&Itemid=64&view=topic#36134

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41129&Itemid=64&limitstart=20#51447

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41059&limitstart=20&Itemid=64#51490

เท่าที่อ่านหลายๆกระทู้ แล้วกลัวKTC มากเลย เพราะฟ้องเร็ว ลดน้อย แถมยอดหนี้รวมกัน200000 บาทเยอะจนคิดว่าไม่น่าเก็บตังค์ได้ อย่างนี้ถ้าขึ้นศาลแล้วไม่มีเงินก้อน คิดว่าให้อายัตรเงินเดือน30% ดีไหม คำว่าเงินเดือนนี่หมายถึงเงินเดือนอย่างเดียว ไม่รวมค่าOT หรือค่าล่วงเวลาอื่นๆใช่ไหม ตอนนี้ยอมรับว่ากลัวหาเงินจ่ายKTC ไม่ไหวแน่เลยถ้าฟ้องเร็ว และลดน้อยมาก

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

ขอบคุณค่ะ คุณนกกะจอกเทศ และเพิ่งรู้ว่าตัวเองเขียนคำว่า อายัด ผิดตลอด ภาษาไทยแท้ๆ

แล้วสำรับกสิกรไทยล่ะคะ ฟ้องเร็วหรือไม่

UOB กับ KTC ฟ้องเร็ว โดยส่วนใหญ่อันไหนฟ้องเร็วกว่า และถ้าอันหนึงฟ้องไปแล้วอีกอันเขาจะฟ้องซ้ำไหม

phatth เขียน: UOB กับ KTC ฟ้องเร็ว โดยส่วนใหญ่อันไหนฟ้องเร็วกว่า และถ้าอันหนึงฟ้องไปแล้วอีกอันเขาจะฟ้องซ้ำไหม

KTC น่าจะมาก่อน (กลัวอยู่เหมือนกัน) และถึงอันนึงฟ้องแล้ว อีกอัน(หมายถึงเจ้าอื่น)ก็ฟ้องได้ค่ะ

Ktc นโยบายจ่ายคืน ชัดเจน (หาอ่านใน link ดูนะคะ)

แต่กับเจ้าอื่นๆ ตัวเองกังวลเรื่อง อายัดเงินเดือน กับ ยึดทรัพย์ เพราะเท่าที่อ่านดู การอายัดเงินเดือน ถ้าเจ้า

หนึ่งอายัดแล้ว เจ้าอื่นไม่อยากเข้าแถวรอคิว ก็อาจหันไปหาทรัพย์สินของลูกหนี้แทน อาจเป็นบ้าน ถ้ารถยัง

ผ่อนไม่หมด (รถเป็นของเราเมื่อไหร่ เมื่อนั้นล่ะ โดนแน่)

ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ ยังไงก็ต้องสู้ค่ะ เครียดนะ นอนไม่หลับหลายวัน เลยได้อ่านหลายตัวอย่างกระทู้เลย สู้ค่ะ

เข้าสู่เดือนแรกของการหยุดจ่าย มาupdateความคืบหน้า
Umay , F/C ,Central cardให้จ่ายหยอด พูดจายืดเยื้ ออกแนวเสียงแข็งเล็กน้อย
KTC และอื่นๆส่งSMS เตือน ไม่โทร ยังเงียบ
ตอนนี้ก็พยายามอ่านการรับมือทวงหนี้และและกระทู้ของKTCเยอะๆเพราะกลัวKTC นี่ล่ะ
ความเครียดลดลง เพราะมุ่งมั่นที่จะปลดหนี้