- จำนวนโพสต์: 5911
- ขอบคุณที่รับ: 2590
jinnyja เขียน:
nok05 เขียน: เรียนถามคุณนกกระจอกเทศ และทีมงานท่านอื่น ๆ ที่สามารถตอบได้ด้วยนะคะ
วันที่ 4 เมษายน นี้ จะเดินทางไปศาลเพื่อไกล่เกลี่ยกับทาง ควิกแคช (กรุงศรี เซอร์วิสเซส) แล้ว อยากทราบคร่าว ๆ ค่ะว่า เราควรเตรียมอะไรไปบ้าง แล้วควรตกลงยังไง หรือหยิบยกอะไรมาได้บ้าง เพื่อขอลดยอดหนี้ หรือขอผ่อนชำระยอดได้บ้างคะ ....ต้องเดินทางไปคนเดียวแบบ หัวเดียวกระเทียมลีบ คิดไม่ออกจริง ๆ ค่ะว่า จะสู้รบปรบมือกับอีกฝ่ายอย่างไรดี ช่วยหน่อยนะคะ
แล้วหากว่าในวันที่ 4 เรา 'ตกลง' กับทางเจ้าหนี้ได้ลงตัว ในวันที่ศาลนัด คือวันที่ 26 เมษายน เราต้องเดินทางไปศาลอีกหรือไม่คะ...กลัวจะเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่ถูกเจ้าหนี้หลอก สุดท้ายไปได้ไปศาลเพราะคิดว่าตกลงกันได้แล้ว แล้วมาถูกย้อนศรเอาทีหลังค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
เข้ามาให้กำลังใจนะค่ะ รู้สึกว่า คุณ nok05 จะกังวลมากๆใช่ไหมค่ะ ต้องตั้งสติ และดึงตัวเองกลับมาให้เร็ว นะค่ะ เพราะคำถามที่คุณถามซ้ำ เราว่าพี่ประธาน นกกระจอกเทศ ตอบให้ครอบคลุมหมดแล้วนะค่ะ ตามกระทู้ก่อน หน้า ตั้งสติ แล้วอ่านใหม่ สติมา ปัญญา เกิด ค่ะ สู้ๆ นะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
nok05 เขียน: สอบถามเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ คุณนกกระจอกเทศ
เอกสารที่ได้มาในวัน 'นัดไกล่เกลี่ย' (ไม่ใช่วันจึ้นศาลนะคะ วันขึ้นศาลจริง ๆ คือ 26/4/59) คือ สัญญาประนีประนอม 1 แผ่น เท่านั้น
และหลังจากนี้จะต้องมีเอกสารทางศาลส่งไปที่บ้านอีกหรือไม่คะ .... เนื่องจากว่าได้ย้ายที่อยู่แล้ว ถ้ายังต้องมีส่งไปอีก เราจะสามารถติดต่อกับทาไหนได้บ้างคะ ให้เขาจัดส่งไปที่อยู่บ้านใหม่เรา ต้องติดต่อศาล หรือว่า กับเจ้าหนี้เราคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
นกกระจอกเทศ เขียน:
nok05 เขียน: สอบถามเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ คุณนกกระจอกเทศ
เอกสารที่ได้มาในวัน 'นัดไกล่เกลี่ย' (ไม่ใช่วันจึ้นศาลนะคะ วันขึ้นศาลจริง ๆ คือ 26/4/59) คือ สัญญาประนีประนอม 1 แผ่น เท่านั้น
และหลังจากนี้จะต้องมีเอกสารทางศาลส่งไปที่บ้านอีกหรือไม่คะ .... เนื่องจากว่าได้ย้ายที่อยู่แล้ว ถ้ายังต้องมีส่งไปอีก เราจะสามารถติดต่อกับทาไหนได้บ้างคะ ให้เขาจัดส่งไปที่อยู่บ้านใหม่เรา ต้องติดต่อศาล หรือว่า กับเจ้าหนี้เราคะ
หากคุณได้เซ็นต์สัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความไปแล้ว จะไม่มีคำพิพากษามาอีกแล้วครับ
เพราะสัญญาไกล่เกลี่ยที่คุณไปเซ็นต์ไว้ฉบับดังกล่าว เทียบเท่าได้กับคำพิพากษาของศาล แต่เป็นการพิพากษาแบบที่โจทก์และจำเลยสามารถตกลงกันเองได้
ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีคำพิพากษาซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก และจำเลยก็ไม่สามารถอุทธรณ์ได้ด้วย
รายละเอียดแบบนี้ ผมได้อธิบายเอาไว้อยู่ในแนวทางที่ 2. แล้วนี่ครับ ลองไปอ่านดูให้ดีๆสิครับ
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64
ปล. แล้วก็อย่าลืมไปเช็คค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลด้วยนะครับ ว่ามันเป็นจำนวนเงินกี่พันบาทกันแน่ จะได้เอามาคำนวณลงในตารางการผ่อนชำระหนี้ได้อย่างถูกต้อง
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
nok05 เขียน: สวัสดีค่ะคุณนกกระจอกเทศ
ขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนานเลย หลังจากที่ได้ติดต่อสอบถามกับทางเจ้าหนี้แล้ว ได้ความว่า 'ค่าฤชาธรรมเนียมศาล' ทางศาลไม่คิด คงเหลือคิดแค่ค่าทนายความ จำนวน 1000 บาทเท่านั้นค่ะ
nok05 เขียน: จึงอยากขอความช่วยเหลือจากคุณนกกระจอกเทศ ช่วยทำตารางการชำระหนี้ให้สักนิดค่ะ ว่าหากต้องชำระยอดหนี้ทั้งหมดภายใน 2 ปี จะต้องชำระเป็นจำนวนเท่าไหร่ต่อเดือนคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
นกกระจอกเทศ เขียน:
nok05 เขียน: สวัสดีค่ะคุณนกกระจอกเทศ
ขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนานเลย หลังจากที่ได้ติดต่อสอบถามกับทางเจ้าหนี้แล้ว ได้ความว่า 'ค่าฤชาธรรมเนียมศาล ' ทางศาลไม่คิด คงเหลือคิดแค่ค่าทนายความ จำนวน 1000 บาทเท่านั้นค่ะ
คุณคิดผิดเสียแล้วล่ะครับ คุณโดนทนายโจทก์มันหลอก ให้คุณต้องยอมจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมศาล และค่าทนายโจทก์อีก 1,000 บาท ไว้อย่างชัดเจน โดยมันเขียนเป็นภาษากฎหมายเอาไว้อยู่ในสัญญา(ในข้อ 3.)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะเนื้อหาของสัญญา ในข้อ 3. นั้น มันพิมพ์โดยใช้ภาษากฎหมายที่ชัดเจนเอาไว้แล้วว่า
ข้อ 3. จำเลยยอมเสียค่าฤชาธรรมเนียม ในส่วนที่ศาลไม่สั่งคืน และ ค่าทนายความจำนวน 1,000 บาท
ซึ่งถ้าแปลเป็นภาษาชาวบ้าน ก็หมายความว่า
ข้อ 3. จำเลยยินยอมจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมศาล(อีกกี่พันบาทก็ไม่รู้ ถ้าอยากรู้ ก็ต้องไปเช็คที่ศาลเอาเอง) และจำเลยยินยอมจ่ายค่าทนายฝ่ายโจทก์อีก จำนวน 1,000 บาทด้วย
เพราะถ้าหากจำเลยไม่ต้องจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมศาล ตามในข้อ 3. จะต้องเขียนเป็นดังนี้ครับ
ข้อ 3. จำเลยยอมเสียค่าทนายโจทก์เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนที่ศาลไม่สั่งคืนเป็นพับ
มันต้องเขียนไว้เป็นอย่างนี้ครับ จึงจะหมายความว่า
จำเลยยอมจ่ายเฉพาะในส่วนของค่าทนายความฝ่ายโจทก์
จำนวน 1,000 บาทเท่านั้น
ส่วนค่าฤชาธรรมเนียยมศาลนั้น จำเลยไม่ต้องจ่าย
หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้นเข้าไปอีก ก็ต้องบอกทนายโจทก์ให้มันเขียนให้เป็นอย่างนี้ครับ
ข้อ 3. ค่าค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนที่ศาลไม่สั่งคืน และค่าทนายความให้เป็นพับ
ซึ่งถ้าแปลเป็นภาษาชาวบ้าน ก็หมายความว่า
ข้อ 3. ค่าฤชาธรรมเนียมศาลและค่าทนายความของฝ่ายโจทก์ เป็นอันไม่ต้องจ่ายใดๆทั้งสิ้น
ให้มันต้องเขียนไว้เป็นอย่างนี้สิครับ ถึงจะเด็ดกว่า
ตัวอย่าง
ดังนั้น...คุณจะต้องไปเข็คค่าฤชาธรรมเนียมศาลในคดีนี้ของคุณเสียก่อน
ว่ามันเป็นจำนวนเท่าไหร่กันแน่?
หากได้ตัวเลขของค่าฤชาธรรมเนียมศาลมาแล้ว
จึงจะสามารถทำตรารางคำนวณต่อไปได้
nok05 เขียน: จึงอยากขอความช่วยเหลือจากคุณนกกระจอกเทศ ช่วยทำตารางการชำระหนี้ให้สักนิดค่ะ ว่าหากต้องชำระยอดหนี้ทั้งหมดภายใน 2 ปี จะต้องชำระเป็นจำนวนเท่าไหร่ต่อเดือนคะ
คุณต้องไปเช็คค่าฤชาธรรมเนียมศาลมาเสียก่อนนะครับ ไม่งั้นก็ไม่สามารภทำตารางคำนวณได้
.
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
nok05 เขียน: เรื่องเก่ายังไม่ทันจะจบเรียบร้อยดี ก็ได้หมายศาลฉบับที่ 2 (ของชีวิต) มาจนได้
หมายฉบับนี้เป็นของบัตร เคทีซีค่ะ ซึ่งก่อนหน้าที่จะทำการฟ้อง ทางเจ้าหน้าที่ก็มีโทรมาเพื่อต่อรองให้ส่วนลด โดยยื่นส่วนลดให้ที่ หกหมื่นกว่าบาท ผ่อน 6 งวด (ตกงวดละ หมื่นกว่าบาท) ซึ่งณ ตอนนั้น (เมื่อเดือนที่แล้ว) เจ้าหน้าที่ได้โทรมาแจ้งก่อนส่งเรื่องฟ้อง 7 วัน และหากตกลงตามเงื่อนไข ต้องชำระเงินงวดแรกให้ภายใน 2 วัน ซึ่งในขณะนั้นเงินเดือนยังไม่ออกค่ะ ถึงแม้จะสนใจข้อเสนอนั้นมากมายแค่ไหน และต่อรองขอชำระในวันที่ 26 กันยายน ไปแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ยินยอมโอนอ่อนให้ สุดท้ายเลยต้อง Say No กับข้อเสนอไป เพราะหาเงินมาจ่ายงวดแรกให้ไม่ทัน เป็นผลให้ได้รับหมายศาลฉบับนี้มา!!!!!
ซึ่งหลังจากได้รับหมายศาลแล้ว ก็มีเรื่องสงสัย และอยากสอบถาม คุณนกกระจอกเทศ และทีมงาน หรือผู้รู้ท่านอื่น ๆ ที่พอจะช่วยเหลือได้ดังนี้ค่ะ
1. ในหมายมีสอดเอกสารนัดไกล่เกลี่ยมาให้ โดยแจ้งนโยบายการมอบส่วนลดให้พิจารณาเสร็จสรรพ แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่า มันลดให้อย่างไร แล้วลดให้เยอะพอที่เราควรจะสนใจหรือไม่
2. ในหมายมีกำหนดวันที่นัดไกล่เกลี่ย และ วันนัดพิจารณา มาให้ ซึ่งอยากถามว่า หากเราไม่สนใจข้อเสนอต่าง ๆ ที่ทางเคซีทีแนบมา จึงไม่ไปในวันที่นัดไกล่เกลี่ย เราสามารถทำได้หรือไม่คะ ( คือรอไปวันที่นัดพิจารณาเลยทีเดียวค่ะ)
*****ทั้งนี้ ได้แนบเอกสารมาให้ดูด้วยค่ะ *****
ขอบคุณในความช่วยเหลือค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา