พ่อหนูเพิ่งเสีย...หนูจะรับผิดชอบหนี้ของพ่อยังไงค่ะ

สวัสดีค่ะ ... มีเรื่องอยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ หนูชื่อเอม อายุ 27 ปีค่ะ ขอแทนตัวเองว่า "เอม" นะคะ

ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ... คือ พ่อของเอมเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวัน 7 ม.ค.2559 ที่ผ่านมาค่ะ ก่อนหน้านี้ท่านล้มป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ พ่อได้แอบเอาบ้านไปจำนองที่ธนาคารไทยเครดิตเมื่อปี 2552 เป็นเงิน 1,150,000 บาท ก่อนหน้านี้พ่อไม่เคยบอกเรื่องบ้านให้ครอบครัวทราบ จนพ่อเริ่มผิดนัดชำระ แบงค์โทรมาที่บ้านเลยรู้ จากนั้นท่านก็มีผิดนัดชำระบ้าง มันก็เลยกลายเป็นว่ามีเบี้ยปรับล่าช้าถึง 93,xxx บาท เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 58 เอมกับแม่ตกใจมากเลยลองโทรไปคุยกับแบงค์เลยรู้ว่าพ่อค้างค่างวดบ้านอยู่ 3 เดือน(เดือนละ 14,500฿) และเรื่องส่งฟ้องศาลเรียบร้อยแล้วและแบงค์ยังแจ้งอีกว่าดอกเบี้ยค่าปรับจะยังคงเดินหน้าทุกวัน เอมก็เลยถามว่าต้องทำยังไงเพื่อให้เบี้ยค่าปรับหยุด แบงค์บอกว่าจ่าย 3 งวดนี้เข้ามา แล้วดอกเบี้ยค่าปรับจะหยุดอยู่กับที่ 93,xxx เอมก็เลยเข้าไปจ่าย 3 งวดที่ค้างบวกค่าฟ้องศาลไปอีก 1,000฿

แต่ตอนนี้พ่อของเอมท่านเสียแล้ว และเอมมีเงินเดือนแค่ 18,000฿ มีหนี้บัตรเครดิตอีก 8 ใบ(ซึ่งหนี้บัตรเครดิต มี 4 ใบที่พ่อยืมไปใช้ช่วงหลังๆ ที่ท่านล้มเจ็บ แต่เอมเป็นคนจ่ายหนี้ขั้นต่ำ เพื่อไม่ให้เครดิตเสีย) ... ทีนี้เอมอยากเก็บบ้านไว้ เพราะมันคือสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อมีให้ และพ่อสั่งเสียกับเอมไว้ว่ายังไงให้เก็บบ้านไว้ แต่เอมไม่สามารถส่งบ้านเดือนละ 14,500฿ ไหว เอมอยากจะไปกู้กับธนาคารแห่งใหม่ เช่น กรุงไทย ออมสิน หรือ ธอส. เพราะพ่อผ่อนบ้านมาจนถึง ณ ตอนนี้ยอดเงินต้นอยู่ที่ 753,797 บาท 83 สตางค์ และดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้า 93,852฿

และวันนี้เอมลองโทรไปคุยกับธนาคารไทยเครดิต ลองสอบถามเค้าดูว่าถ้าเกิดผู้กู้เสียชีวิต ทางธนาคารจะดำเนินการอย่างไร ทางธนาคารบอกว่าก็ให้บุตรหรือภรรยาของผู้กู้เข้ามาแจ้งและทำเรื่องต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดก และทำเรื่องผ่อนต่อดูแลหนี้ก้อนนี้ต่อไป และระหว่างรอเรื่องผ่านชั้นศาล ทางครอบครัวของผู้กู้ก้อต้องส่งค่างวดเข้ามาตามปกติ เพื่อไม่ให้เบี้ยล่าช้าเพิ่มขึ้น ....

คำถามที่เอมสงสัย...
1. พ่อของเอมเสียแล้ว หนี้บ้านไม่ได้ตกป็นของทายาทโดยชอบธรรมเลยหรอค่ะ
2. ถ้าเอมไปทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก แล้วหนี้อื่นๆ ของพ่อ คือ พวกบัตรเครดิตที่พ่อไม่จ่ายมามากกว่า 5-6 เดือน อีกหลายใบ หนี้บัตรเครดิตเหล่านี้ จะตามมาทวงถามที่ผู้จัดการมรดกรึเปล่าค่ะ
3. พ่อของเอมเป็นข้าราชการบำนาญ เพิ่งเกษียณเมื่อเดือน กันยายน 2558 แล้วทางธนาคารจะมาอายัดเงินบำเน็จบำนาญตกทอดตัวนี้รึเปล่าค่ะ

และ 4. เอมขอคำแนะนำ คำชี้แนะ หรือแนวทางให้กับเอมหน่อยได้ไหมค่ะ เอมไม่รู้จะไปต่อยังไง แม่เอมก็จบแค่ ป.4 เราเหลือกันอยู่สองคนแม่ลูก ญาติๆ ก็แค่พูดว่าให้เอมเก็บบ้านไว้ เก็บบ้านไว้ เขาแค่พูด แต่เขาไม่ช่วยให้คำแนะนำเลย เอมเลยอยากจะมาขอคำแนะนำจากพวกพี่ๆ หน่อยค่ะ

ขอบคุณมากนะคะที่อ่านมาจนจบ เอมยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องเอม อ่านจากปัญหาที่น้องเล่า พี่เอง ประสบการณ์ ยังน้อยนัก ไม่สามารถแนะนำน้องได้ รอพี่ๆท่านอื่น หรือท่านประธานมาช่วยให้คำตอบนะค่ะ หรือ หาก น้องเอม ร้อนใจ อยากได้คำตอบไวๆ ลองโทรไปปรึกษา คุณอาทนาย ที่ Hot line สายด่วน นะค่ะ ตามลิ้งด้านล่าง ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ๆค่ะ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=70:hotline-new&catid=4:2008-12-16-19-39-10&Itemid=21

ขอบคุณคุณพี่ jinnyja มากนะคะ เดี๋ยวหนูจะลองโทรไปปรึกษาพี่ๆ ท่านดู ตอนนี้หนูก็ยังรอคำแนะนำจากพี่ๆ ท่านอื่นๆ อยู่ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

chaaiimz เขียน: 1. พ่อของเอมเสียแล้ว หนี้บ้านไม่ได้ตกป็นของทายาทโดยชอบธรรมเลยหรอค่ะ

ทรัพย์สมบัติและหนี้สินของผู้ตาย ไม่ตกเป็นของผู้ใดทั้งสิ้นครับ ยกเว้นแต่ผู้ที่เสียชีวิตได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ก่อนตาย ว่าจะยกสมบัติ(มรดก)ให้กับใครบ้าง

chaaiimz เขียน: 2. ถ้าเอมไปทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก แล้วหนี้อื่นๆ ของพ่อ คือ พวกบัตรเครดิตที่พ่อไม่จ่ายมามากกว่า 5-6 เดือน อีกหลายใบ หนี้บัตรเครดิตเหล่านี้ จะตามมาทวงถามที่ผู้จัดการมรดกรึเปล่าค่ะ

เจ้าหนี้บัตรเครดิตจะต้องรีบฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิตภายใน 1ปี นับแต่วันที่ลูกหนี้ได้เสียชีวิตแล้วตามกฎหมายอายุความ

การฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิต
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=813&Itemid=64#1298

แต่เจ้าหนี้บัตรเครดิตต่างๆจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ใครเป็นผู้จัดการมรดก จนกว่าตัวของผู้จัดการมรดกจะแจ้งให้เจ้าหนี้ได้รับทราบ หรือจนกว่าเจ้าหนี้จะฟ้องต่อศาลให้เป็นคดีความ เพื่อทำการยึดทรัพย์มรดกของผู้เสียชีวิต

chaaiimz เขียน: 3. พ่อของเอมเป็นข้าราชการบำนาญ เพิ่งเกษียณเมื่อเดือน กันยายน 2558 แล้วทางธนาคารจะมาอายัดเงินบำเน็จบำนาญตกทอดตัวนี้รึเปล่าค่ะ

เงินเดือนและเงินบำนาญของข้าราชการ ไม่สามารถอายัดได้ เพราะมีกฎหมายเขียนคุ้มครองเอาไว้

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64#28150

chaaiimz เขียน: 4. เอมขอคำแนะนำ คำชี้แนะ หรือแนวทางให้กับเอมหน่อยได้ไหมค่ะ เอมไม่รู้จะไปต่อยังไง แม่เอมก็จบแค่ ป.4 เราเหลือกันอยู่สองคนแม่ลูก ญาติๆ ก็แค่พูดว่าให้เอมเก็บบ้านไว้ เก็บบ้านไว้ เขาแค่พูด แต่เขาไม่ช่วยให้คำแนะนำเลย เอมเลยอยากจะมาขอคำแนะนำจากพวกพี่ๆ หน่อยค่ะ

สำหรับคำแนะนำ มีให้เยอะแยะเลยครับ แต่ต้องโทรมาถามครับ...ขี้เกียจพิมพ์อธิบาย

ได้ทำประกันชีวิตไว้มั้ยค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้กู้บ้านแบงก์มักจะบังคับให้ทำ กรณีผู้กู้เสียชีวิต ประกันจะชำระหนี้ให้หมด แล้วถ้าเหลือทายาทก็จะได้รับไป(กรณีวงเงินเอาประกันครอบคลุมนะคะ)

นกกระจอกเทศ เขียน:

chaaiimz เขียน: 1. พ่อของเอมเสียแล้ว หนี้บ้านไม่ได้ตกป็นของทายาทโดยชอบธรรมเลยหรอค่ะ

ทรัพย์สมบัติและหนี้สินของผู้ตาย ไม่ตกเป็นของผู้ใดทั้งสิ้นครับ ยกเว้นแต่ผู้ที่เสียชีวิตได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ก่อนตาย ว่าจะยกสมบัติ(มรดก)ให้กับใครบ้าง

chaaiimz เขียน: 2. ถ้าเอมไปทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก แล้วหนี้อื่นๆ ของพ่อ คือ พวกบัตรเครดิตที่พ่อไม่จ่ายมามากกว่า 5-6 เดือน อีกหลายใบ หนี้บัตรเครดิตเหล่านี้ จะตามมาทวงถามที่ผู้จัดการมรดกรึเปล่าค่ะ

เจ้าหนี้บัตรเครดิตจะต้องรีบฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิตภายใน 1ปี นับแต่วันที่ลูกหนี้ได้เสียชีวิตแล้วตามกฎหมายอายุความ

การฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิต
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=813&Itemid=64#1298

แต่เจ้าหนี้บัตรเครดิตต่างๆจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ใครเป็นผู้จัดการมรดก จนกว่าตัวของผู้จัดการมรดกจะแจ้งให้เจ้าหนี้ได้รับทราบ หรือจนกว่าเจ้าหนี้จะฟ้องต่อศาลให้เป็นคดีความ เพื่อทำการยึดทรัพย์มรดกของผู้เสียชีวิต

chaaiimz เขียน: 3. พ่อของเอมเป็นข้าราชการบำนาญ เพิ่งเกษียณเมื่อเดือน กันยายน 2558 แล้วทางธนาคารจะมาอายัดเงินบำเน็จบำนาญตกทอดตัวนี้รึเปล่าค่ะ

เงินเดือนและเงินบำนาญของข้าราชการ ไม่สามารถอายัดได้ เพราะมีกฎหมายเขียนคุ้มครองเอาไว้

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64#28150

chaaiimz เขียน: 4. เอมขอคำแนะนำ คำชี้แนะ หรือแนวทางให้กับเอมหน่อยได้ไหมค่ะ เอมไม่รู้จะไปต่อยังไง แม่เอมก็จบแค่ ป.4 เราเหลือกันอยู่สองคนแม่ลูก ญาติๆ ก็แค่พูดว่าให้เอมเก็บบ้านไว้ เก็บบ้านไว้ เขาแค่พูด แต่เขาไม่ช่วยให้คำแนะนำเลย เอมเลยอยากจะมาขอคำแนะนำจากพวกพี่ๆ หน่อยค่ะ

สำหรับคำแนะนำ มีให้เยอะแยะเลยครับ แต่ต้องโทรมาถามครับ...ขี้เกียจพิมพ์อธิบาย

ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวเอมจะรีบติดต่อกลับไปนะคะ ตอนนี้เอมติดงานออก ตจว. ทุกวันเลยค่ะ

IndyGirL เขียน: ได้ทำประกันชีวิตไว้มั้ยค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้กู้บ้านแบงก์มักจะบังคับให้ทำ กรณีผู้กู้เสียชีวิต ประกันจะชำระหนี้ให้หมด แล้วถ้าเหลือทายาทก็จะได้รับไป(กรณีวงเงินเอาประกันครอบคลุมนะคะ)

เอมสอบถามกับทางธนาคารเบื้องต้น เค้าบอกว่าพ่อไม่ได้ทำค่ะ ... และตอนนี้รื้อบ้าน รื้อหาเอกสารที่พ่อเอาบ้านไปจำนองกับไทยเครดิตก็ไม่เจอเลยค่ะ

ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ที่หนูเสียมารยาท ไม่ยอมอ่านกฎเกณฑ์มารยาทการใช้กระทู้หรือการตั้งกระทู้ในเว็บนี้... ต่อไปนี้หนูจะจำไว้เป็นบทเรียนค่ะ

สวัสดีค่ะ... หนูอยากรบกวนสอบถาม หรือ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ
ตอนนี้หนูงง และสับสนมากๆ ค่ะ เมื่อวันที่ อังคารที่ผ่านมามีจดหมายทวงหนี้
ส่งมาจากบริษัทสำนักงานกฎหมายกรัณฑ์

เรื่อง เจรจาเพื่อหาแนวทางในการยุติ/ชะลอการบังคับคดี
อ้างถึง สมาชิกสินเชื่อพิเศษ กรุงศรั ดรีมโลน ของบริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยาค่ะ
เขาบอกว่าบริษัทได้ดำเนินคดีแพ่งทางศาลกับท่าน(คุณพ่อ) แล้ว และปัจจุบันศาล
ได้มีคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อย และมีคดีหมายเลขแดง ผบ.xxxx/2557 แขวงนนทบุรี
และก็ขอให้ติดต่อบริษัท/สำนักงานกฎหมายภายใน 15 วัน หากยังเพิกเฉยไม่ติดต่อกลับ
จำเป็นจะต้องพิจารณาบังคับคดีในการยึดและ/หรืออายัดทรัพย์สินของท่านตามกฎหมาย

จากจดหมาย เนื้อหาประมาณนี้นะคะ... และคือพ่อของหนูเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 59
ที่ผ่านมาไม่มีจดหมายจากบัตร ดรีมโลน มาที่บ้านหลังปัจจุบันที่อยู่เลยค่ะ จนมาถึงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
หนูอ่านจดหมายกับแม่แล้วรู้สึกกลัว กลัวเค้าจะมายึดบ้าน!!!
แต่บ้านของหนู พ่อเอาไปบ้านไปแลกเงินไว้กับธนาคารไทยเครดิตก่อนตาย
ทุกวันนี้หนูก้อยังต้องหาเงินผ่อนบ้านอยู่ทุกเดือนอยู่เลยค่ะ
พ่อมีทรัพย์สินจริงๆ คือ บ้านหลังนี้ที่ติดอยู่กับแบงค์ค่ะ
และพ่อรับราชการตอนเสียหนูกับแม่ได้เงินบำเน็จบำนาญกับแม่คนครึ่ง ไม่ถึง 5 แสนค่ะ
แล้วเมื่อกลางปีหนูไปทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกมาค่ะ ได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากศาลเรียบร้อย

ทีนี้จากจดหมายฉบับนี้ หนูโทรติดต่อเข้าไปทางสำนักกฎหมายที่แจ้งมาตอนบ่ายวันนี้
หนูแจ้งเลขสัญญาเขาไป และบอกว่าเป็นบุตร คุณพ่อเสียเมื่อ ม.ค. 59 และหนูอยากจะประนอมหนี้
หรือรับผิดชอบในหนี้สินส่วนนี้ อยากรู้พ่อเป็นเท่าไร เขาก็ไม่บอกหนู บอกให้หนูส่งใบมรณะบัตรพ่อ
และสำเนาบัตรประชาชนหนูไปและเซ็นบอกว่าเป็นบุตร จะรับผิดชอบในหนี้สิน และแฟกซ์ไป
แล้วเขาจะโทรกลับมาบอกจำนวนหนี้สิน หนูบอกว่ามันยอดเท่าไร เขาก็บอกให้ส่งมาก่อน
เดี๋ยวเขาจะช่วยขอกับแบงค์ให้จ่ายหนี้แค่ครึ่งเดียว แต่ต้องเป็นเงินก้อนเท่านั่นนะ ถึงลดเหลือ 50% ได้
ก่อนวางหนูก็ยังย้ำ ขอทราบยอดหนี้หน่อยไม่ได้หรอค่ะ เขาบอกให้หนูส่งเอกสารมาก่อน...

แล้วที่นี้หนูต้องทำยังไงดีค่ะ ญาติก็บอกว่าอย่าเพิ่งส่งเลย อย่าเพิ่งเซ็นอะไรไปเลย
ตอนนี้หนูกับแม่ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ หนูก็กลัวเขามายึดบ้าน เอาไปขายถ่ายทอดตลาด
ที่จริงพ่อยังมีหนี้อีกหลายบัตร หลายใบ แต่ที่ฟ้องจนขนาดนี้ก็เพิ่งมีมาบัตรแลกค่ะ
หนูไม่รู้เลยว่าพ่อเป็นหนี้บัตรอะไรบ้าง จดหมายทั้งหมดจะไปส่งไปบ้านภูมิลำเนาเดิม
เพิ่งจะมีอันนี้ส่งมาที่บ้าน และบัตรกรุงศรี เฟิร์ทช้อย อีกใบ(แต่ยังไม่ได้ฟ้องนะคะ)

หนูอยากจะขอคำแนะนำหน่อยคะ ว่าหนูต้องทำยังไง... ตอนนี้เงินก้อนหนูก็ไม่มี
เงินที่ได้มา หนูก็เอาไปใช้หนี้ให้พ่อในส่วนที่ไปหยิบยืมญาติๆ มา จนหมดแล้ว
หนูเครียดและกลัวจะไม่มีที่อยู่ กลัวเค้ามายึดบ้านหนู....

chaaiimz เขียน:

kujjirachart เขียน: ผมก็ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ไปแล้วหลายใบ ก่อนที่จะมารู้จักห้องชมรมหนี้บัตรเครดิต ผมก็อ่านๆศึกษาดูและก็ใช้วิธีเจรจา บอกจะขอปิดและขอส่วนลดเขาให้ได้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะได้คำตอบว่า ลดไม่ได้แล้ว เพราะลดให้เยอะแล้วตอนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ครับ ตอนนี้ผมก็ได้แต่รอและอดทน ตามที่อ่านๆในแต่ละกระทู้ ว่าให้ได้ส่วนลดมากที่สุดที่เราพอใจก่อน และถ้าได้ความคืบหน้ายังไง จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ ขอบคุณครับ

รบกวนสอบถามหน่อยคะ การปรับโครงสร้างหนี้ มันคือทางเลือกที่ดีหรือเป็นสัญญานรกดีๆ อะคะ วันนี้เมื่อตอนหัวค่ำ ยูเมะ โทรมาเสนอทางช่วยด้วยการให้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้อะคะ เอมเพิ่งหยุดจ่ายเมื่อเดือน 2/3/60 ที่ผ่านมาอะคะ ตอนนี้ 2 รอบบิลจะเข้า 3 รอบบิลแล้วอะคะ แต่บอกพนักงานไปว่าขอคิดดูก่อน พรุ่งนี้ค่อยโทรมาใหม่ เลยเข้ามาหาข้อมูลดูอะคะ

เห็นคุณ chaaiimz ไปถามไว้อีกกระทู้นึง เลยขอตอบโดยมาแปะไว้ที่นี่นะครับ

สัญญานรกคือสัญญานรกครับ อ่านได้จากกระทู้ปักหมุดข้างล่างนี้

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6343&Itemid=64

ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ มีทั้งความหมาย ตัวอย่าง ข้อดีข้อเสียของสัญญานรก
ที่เหลือต้องพิจารณาตัดสินใจเองครับ

เป็น​กำลังใจ​ให้นะครับ สู้ๆ (^o^)

Hippocrite เขียน:

chaaiimz เขียน:

kujjirachart เขียน: ผมก็ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ไปแล้วหลายใบ ก่อนที่จะมารู้จักห้องชมรมหนี้บัตรเครดิต ผมก็อ่านๆศึกษาดูและก็ใช้วิธีเจรจา บอกจะขอปิดและขอส่วนลดเขาให้ได้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะได้คำตอบว่า ลดไม่ได้แล้ว เพราะลดให้เยอะแล้วตอนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ครับ ตอนนี้ผมก็ได้แต่รอและอดทน ตามที่อ่านๆในแต่ละกระทู้ ว่าให้ได้ส่วนลดมากที่สุดที่เราพอใจก่อน และถ้าได้ความคืบหน้ายังไง จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ ขอบคุณครับ

รบกวนสอบถามหน่อยคะ การปรับโครงสร้างหนี้ มันคือทางเลือกที่ดีหรือเป็นสัญญานรกดีๆ อะคะ วันนี้เมื่อตอนหัวค่ำ ยูเมะ โทรมาเสนอทางช่วยด้วยการให้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้อะคะ เอมเพิ่งหยุดจ่ายเมื่อเดือน 2/3/60 ที่ผ่านมาอะคะ ตอนนี้ 2 รอบบิลจะเข้า 3 รอบบิลแล้วอะคะ แต่บอกพนักงานไปว่าขอคิดดูก่อน พรุ่งนี้ค่อยโทรมาใหม่ เลยเข้ามาหาข้อมูลดูอะคะ

เห็นคุณ chaaiimz ไปถามไว้อีกกระทู้นึง เลยขอตอบโดยมาแปะไว้ที่นี่นะครับ

สัญญานรกคือสัญญานรกครับ อ่านได้จากกระทู้ปักหมุดข้างล่างนี้

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6343&Itemid=64

ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ มีทั้งความหมาย ตัวอย่าง ข้อดีข้อเสียของสัญญานรก
ที่เหลือต้องพิจารณาตัดสินใจเองครับ

เป็น​กำลังใจ​ให้นะครับ สู้ๆ (^o^)

ขอบคุณนะคะ ตามมาตอบให้ถึงในนี้ ล่าสุดเอมก็ยังคงปฏิเสธเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ไปก่อนคะ รอส่วนลด แต่ถึงเวลานั้นจริงๆ ไม่รู้ว่าจะมีเงินก้อนมาปิดได้รึเปล่าคะ

ตอนนี้ตัดสินใจหยุดจ่ายไป 2 บัตร แล้วคะ คือ
1. U-may+ : ยอด 87,500 บาท หยุดจ่ายเมื่อ 2/3/60
2. KTC Pround : ยอด 40,000 บาท หยุดจ่ายเมื่อ 2/3/60

ยังมีบัตรอื่นๆ ที่ยังคงจ่ายขั้นต่ำไปอยู่ แต่อีกไม่นาน ก็คงคิดว่าไม่ไหวแน่ๆ เลยคะ ตอนนี้ออกจากงานมาได้ 9 เดือนแล้วคะ มาขายของ แต่ก็มีรายจ่ายที่เยอะอยู่ คือ ผ่อนบ้านเดือนละ 14,500 บาท และ ผ่อนรถเดือนละ 7,055 บาท บ้านเป็นชื่อของพ่อที่เสียไปแล้ว ส่วนรถเป็นชื่อของ อา แต่พ่อเอามาใช้เอมก็เลยต้องรับผิดชอบส่วนนี้ เพราะอาไม่ยอมให้ขาย แต่ตอนนี้กำลังคิดว่าจะเอารถไปขายแล้วคะ เอมไม่ไหวแล้ว เริ่มจะส่งไม่ไหวแล้วคะ บัตรกดเงินสดที่มีก็กดมาใช้จ่ายค่าบ้าน ค่ารถ และ ค่าบัตรอื่นๆ ด้วย หมุนๆ วนๆ กันไป จนตอนนี้บัตรกดเงินสดที่มีก็เต็มวงเงินกันหมดแล้วคะ เหลือเยอะๆ ก็บัตรเครดิต ไว้รูดซื้อของในบ้านอะคะ ที่ยังใช้ไม่เต็มวงเงิน ตอนนี้ก็ยอมรับว่าเครียดมากๆ เลยคะ แต่ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจนะคะ

ขอมาอัพเดทชีวิตและขอคำแนะนำจากพี่ๆ หน่อยนะคะ

หลังจากที่พ่อเสียไป 2 ปี เอมก็ต้องลาออกจากงานกลับมาอยู่ที่บ้าน เพื่อมาดูแลคุณแม่ที่ไม่ค่อยสบายด้วยโรคประจำตัวและเพิ่มเติมคือโรคซึมเศร้าแล้วเพราะหนูเป็นลูกคนเดียว หลังจากพ่อเสียค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องตกมาอยู่ที่เอมทั้งหมด พ่อรับราชการค่ะ เอมได้เงินส่วนแบ่งจากบำนาญของพ่อมาร่วมๆ 5 แสนบาท ในส่วนของแม่ได้มาประมาณ 3 แสนบาท ตอนที่พ่อเกษียณพ่อได้มาแล้ว 2 แสนบาทตอนพ่อยังมีชีวิตอยู่นะคะ เงินในส่วนของเอมที่ได้จากพ่อมาร่วมๆ 5 แสนบาท เอมต้องเอาไปใช้หนี้ญาติๆ ที่พ่อยืมมา จนเหลือประมาณเกือบแสนที่เอาไว้ใช้ ซึ่งส่วนนี้เอมก็เอาไว้ผ่อนบ้านต่อจากพ่อ คือไม่ได้ใช้เลย ส่วนของที่แม่ได้แม่เค้าบริหารของแม่เอง เอมไม่ได้ยุ่งค่ะ ตอนพ่อตาย พ่อมีหนี้บ้านที่เอมกับแม่อาศัยอยู่ทุกวันนี้นะคะ พ่อเอาบ้านหลังนี้ไปเข้าสินเชื่อบ้านแลกเงินมาเมื่อปลายๆ ปี 57 ตอนแรกพ่อไม่ได้บอกเอมและแม่นะคะ จนพ่อผิดนักชำระจนแบงค์โทรมาที่บ้าน เอมกับแม่เลยรู้ รู้ก่อนที่พ่อจะเสียประมาณ 2 เดือน เอมก็เลยได้คุยกัยฝ่ายสินเชื่อของแบงค์เพราะแจ้งว่าพ่อป่วยหนักมาก อาการแย่มาก พ่อจ่ายล่าช้ามาตลอดเกือบปีจนดอกเบี้ยค่าปรับมันเดินไปร่วมหนึ่งแสนบาท ทางแบงค์ก็ช่วยให้ระงับดอกเบี้ยตัวนี้ไว้ก่อน ดอกเบี้ยค่าปรับก็คงที่ หนูก็จ่ายเงินต้นต่อไป ซึ่งตอนนั้นพ่อผ่อนเดือนละ 15,500฿ จนพ่อเสียทางแบงค์ก็ทราบข่าวและก็บอกให้เอมไปทำเรื่องเป็นผู้จัดการมรดก เอมก็ไปดำเนินเรื่องที่ศาลจนได้เป็นผู้จะดการมรดกแบบถูกต้องตามกฎหมาย ก็ติดต่อกับไปทางแบงค์ แบงค์ก็นัดให้เข้าไปเซ็นเอกสาร ซึ่ง ณ ตอนนั้นเอมไม่รู้ว่า สัญญาปรับโครงสร้างนี้ คืออะไร เพราะเอมไม่มีใครให้ปรึกษา และไม่ได้ปรึกษาใครเลยนอกจากคุยกันเอง 2 คนแม่ลูก และคิดว่าอ๋อแบงค์เขาคงช่วยเราเนอะ เค้าให้เราผ่อนปีที่ 1-6,500฿/เดือน ปีที่ 2-8,500฿/เดือน ปีที่ 3-10,500฿/เดือน ปีที่ 4 เป็นต้นไป 15,500฿ เท่าเดิม ซึ่งเอมก็เซ็นไป และพนักงานที่แบงค์ก็บอกว่าช่วงนี้หนูไปยื่นรีไฟแนนซ์แบงค์อื่นเอาก็ได้นะหรือจะขายบ้านก็ได้ ช่วงปีสองปีนี้ลองทำเรื่องดูนะ

และหลังจากเซ็นไปเดือนหนึ่ง เอมก็ไปยื่นกู้ ยื่นรีไฟแนนซ์ ที่แบงค์อื่นๆ หรือแบงค์ทั้งหมดที่มีในประเทศไทย ซึ่งไม่ผ่าน!!! มีบางแบงค์ที่พี่สินเชื่อเค้าบอกเอมไม่ผ่านเพราะเอมไปเซ็นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้มา ถ้าไมาเซ็นก็ผ่าน แต่ไปเซ็นมาแล้วส่งเรื่องไปไม่ผ่าน หลังจากนั้นหนูท้อมาก แม่ก็เครียดขึ้นๆ จนสุดท้ายเอมลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้าน เพราะแม่ก็แย่ลงเรื่อยๆ จากนั้นเอมก็มาทำธุรกิจของตัวเองคือค้าขาย เจ๊งไปบ้าง แต่ทุกวันนี้ก็ยังค้าขายอยู่ ก็พอเก็บเงินส่งบ้านได้แบบหวุดหวิด ช่วงหลังมานี้ก็ขายไม่ค่อยดี ก็เก็บเงินลำบากหน่อย แต่เอมก็ต้องเก็บเพื่อส่งบ้าน เพราะบ้านเงินต้นเหลืออีก 65x,xxx บาท และแม่ก็ไม่อยากให้ขายเท่าไร แต่ช่วงปีที่ผ่านมาเอมประกาศขายบ้านมาตลอด มีคนมาดูแต่ก็ไม่ซื้อ ยื่นกู้ไม่ผ่านบ้าง ทุกวันนี้ก็ยังอยากขายอยู่เพราะเอมจะส่งไม่ไหวแล้วค่ะ ค่าใช้จ่ายในบ้านก็เยอะค่ารักษาแม่ก็เยอะ เอมท้อและคิดฆ่าตัวตายมาหลายรอบแล้ว จนสุดท้ายเอมก็เป็นโรคซึมเศร้าเหมือนคุณแม่ ก็ต้องกินยารักษาอยู่เหมือนกัน...

และหนี้ในส่วนของเอม...ก็ประมาณ 4 แสนบาทค่ะ หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด เอมหยุดจ่ายเมื่อประมาณมีนา-เมษา ปี 60 หยุดจ่ายไปทั้งหมด 5 ใบ ล่าสุดก็ได้หมายศาลจากบัตรแลกที่หนุดไปคือ ยูเมะพลัส นัดไปศาลวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ค่ะ ยอดหนึ่งแสนต้นๆ ค่ะ เอมยังแอบงงๆ ว่าวันเสาร์เค้าทำงานกันด้วยหรอค่ะราชการ แต่ยังไงก็ตั้งใจไปตามนัดอยู่แล้วค่ะ...เราเป็นคนก่อเราก็ต้องรับผิดชอบ

เอมเลยอยากจะรบกวนสอบถามหรือปรึกษาหน่อยคะ
1. เอมไปตามนัดหมายศาล แต่เอมไม่มีเงินก้อนไปปิด สามารถไปพูดคุยหรือขอไกล่เกลี่ยได้ไหมค่ะ
2. ถ้าจะขอเค้าผ่อน แต่ผ่อนเดือนละ 500-1000 บาทเค้าจะให้ไหมค่ะ ถ้าผ่อนเยอะกว่านี้เอมไม่ไหวแน่ๆ เลยค่ะ หรือเอมต้องนำหลักฐานการผ่อนบ้าน หรือใบทวงหนี้จากแบงค์อื่นๆ ไปประกอบด้วยค่ะ
3. ถ้าไปคนเดียวจะเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ ?
และ ข้อสุดท้าย มีลูกพี่ลูกน้องเขาเป็นหนี้บัตร ส่งฟ้องไปแล้ว 2 ใบ และกำลังทยอยฟ้อง แต่พี่เค้าไม่ไปขึ้นศาล เค้าบอกว่าให้ส่งฟ้องไปเลย เค้าไม่ส่งและเค้าไม่ทรัพย์ให้ยึด เค้าบอกว่าอายุความ 10 ปี เดี๋ยวก็หมด พี่เค้าบอกว่าให้เอมทำแบบเค้า แต่เอมมีบ้านที่ติดแบงค์อยู่ ถ้าเอมไม่ไปศาลเลย เค้าสืบทรัพย์ เอมก็ต้องโดนอายัดบ้านถูกไหมค่ะ ? เอมเลยไม่กล้าทำแบบพี่เค้า....

และทุกวันนี้ก็ยังมีจดหมายทวงหนี้พวกบัตรเครดิตของพ่ออยู่เป็นระยะ เป็นหนี้ของพ่อชื่อของพ่อ แต่เอมไม่ได้ติดต่อกลับไป หนี้บัตรเครดิตจากคนที่เสียชีวิตแล้ว ถ้าเค้ารู้ว่าพ่อเสียแล้ว เค้าจะมาอายัดบ้านไหมค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะคะ อาจจะยาวไปหน่อย แต่เอมไม่รู้จะพูดจะคุยกับใครจริงๆ ค่ะ ทุกวันนี้เอมคิดแต่เรื่องเงิน จะหาเงินจากไหนมาจ่ายหนี้ต่างๆ ....

chaaiimz เขียน: ขอมาอัพเดทชีวิตและขอคำแนะนำจากพี่ๆ หน่อยนะคะ

เอมเลยอยากจะรบกวนสอบถามหรือปรึกษาหน่อยคะ
1. เอมไปตามนัดหมายศาล แต่เอมไม่มีเงินก้อนไปปิด สามารถไปพูดคุยหรือขอไกล่เกลี่ยได้ไหมค่ะ
2. ถ้าจะขอเค้าผ่อน แต่ผ่อนเดือนละ 500-1000 บาทเค้าจะให้ไหมค่ะ ถ้าผ่อนเยอะกว่านี้เอมไม่ไหวแน่ๆ เลยค่ะ หรือเอมต้องนำหลักฐานการผ่อนบ้าน หรือใบทวงหนี้จากแบงค์อื่นๆ ไปประกอบด้วยค่ะ
3. ถ้าไปคนเดียวจะเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ ?
และ ข้อสุดท้าย มีลูกพี่ลูกน้องเขาเป็นหนี้บัตร ส่งฟ้องไปแล้ว 2 ใบ และกำลังทยอยฟ้อง แต่พี่เค้าไม่ไปขึ้นศาล เค้าบอกว่าให้ส่งฟ้องไปเลย เค้าไม่ส่งและเค้าไม่ทรัพย์ให้ยึด เค้าบอกว่าอายุความ 10 ปี เดี๋ยวก็หมด พี่เค้าบอกว่าให้เอมทำแบบเค้า แต่เอมมีบ้านที่ติดแบงค์อยู่ ถ้าเอมไม่ไปศาลเลย เค้าสืบทรัพย์ เอมก็ต้องโดนอายัดบ้านถูกไหมค่ะ ? เอมเลยไม่กล้าทำแบบพี่เค้า....

และทุกวันนี้ก็ยังมีจดหมายทวงหนี้พวกบัตรเครดิตของพ่ออยู่เป็นระยะ เป็นหนี้ของพ่อชื่อของพ่อ แต่เอมไม่ได้ติดต่อกลับไป หนี้บัตรเครดิตจากคนที่เสียชีวิตแล้ว ถ้าเค้ารู้ว่าพ่อเสียแล้ว เค้าจะมาอายัดบ้านไหมค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะคะ อาจจะยาวไปหน่อย แต่เอมไม่รู้จะพูดจะคุยกับใครจริงๆ ค่ะ ทุกวันนี้เอมคิดแต่เรื่องเงิน จะหาเงินจากไหนมาจ่ายหนี้ต่างๆ ....

ตอบ
1. ทุกคนที่ไปศาล ก็ไม่มีใครมีเงินก้อนไปปิดหรอกครับ เพราะถ้ามีเงินก้อนจริงๆ ก็คงไม่ต้องไปศาล จริงมั้ยครับ
ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ย คุณสามารถทำได้ตลอดครับ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชั้นของการบังคับคดีก็ตาม

2. เจ้าหนี้จะยอมหรือไม่นั้น อยู่ที่คุณต่อรองครับ แต่ส่วนใหญ่ คือ "เจ้าหนี้ไม่ยอมครับ" และ
ยิ่งถ้าคุณเอาหลักฐานพวกนั้นให้เจ้าหนี้ดู มันก็เข้าทางเจ้าหนี้ หน่ะสิครับ คุณลองคิดดูให้ดีๆ นะ ตั้งสติหน่อยนะครับ

3. หมายศาลเรียกตัว บุคคลใด บุคคลนั้น ก็สามารถไปขึ้นศาลคนเดียวได้ครับ หรือถ้าคุณมีเงินจ้างทนาย ก็สามารถทำได้ครับ

ข้อสุดท้าย
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

เพิ่มเติม เคสตัวอย่าง
คำถาม : ถ้า ลูกหนี้อยู่ในฐานะบุตรของผู้ตาย ผู้ตายมีที่ดินเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทจะขอยึดทรัพย์มรดก (ที่ดิน) ได้หรือไม่

ตอบ : ต้องเปลี่ยนชื่อทางทะเบียนให้ลูกหนี้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เสียก่อนจึงจะทำการยึดได้ ถ้าลูกหนี้อยู่ในฐานะทายาทของผู้ตายและมีสิทธิได้รับมรดก (ที่ดิน) ดังกล่าว กรณีหากทรัพย์มรดกนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนชื่อให้ลูกหนี้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางทะเบียน ทรัพย์มรดกนั้นยึดไม่ได้ หาเจ้าหนี้ยื่นคำขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึด เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมีคำสั่งยกคำขอ ซึ่งเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่วันที่มีคำสั่งขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึด ถ้าศาลมีคำสั่งให้ยึด เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงจะทำการยึดให้


ข้อคิด
หาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองครับ ดูแลคนที่เรารักครับ
เรื่องหนี้ มีกันทุกครัวเรือนครับ ไม่ต้องไปคิดมาก แต่คุณต้องมีสติ วางแผน และแก้ปัญหา ทุกอย่างมันก็จะผ่านไปได้ครับ

อะไรที่ต้องรีบทำ ก็ควรทำก่อน จะได้ไม่สายเกินไป แล้วจะมาเสียใจภายหลัง หรือคุณอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต ครับ

"คุณแค่เป็นหนี้นะครับ" เรื่องเล็กน้อยมากครับ

ขอบคุณคุณ ReFreshZzz มากนะคะ สำหรับคำแนะนำคำตอบต่างๆ เป็นแนวทางในวันต่อๆ ไปให้เอมในอนาคตได้ค่ะ จะนำไปคิดทบทวนวางแผนวางตัวต่อไปนะคะ

และขอรบกวนถามเพิ่มเติมหน่อยคะ... บ้านของคุณพ่อที่เสียไปแล้วแต่ติดจำนองอยู่กับธนาคาร แล้วพวกหนี้สินของคุณพ่อพวกหนี้บัตรเครดิตต่างๆ เขาจะสามารถดำเนินการอายัดบ้านได้รึเปล่าค่ะ ตอนนี้เหมือนทางพวกหนี้สินต่างๆ ของพ่อยังไม่ทราบว่าท่านเสียไปแล้วอะคะ

หลังจากที่ตามอ่านกระทู้ต่างๆ เพื่อเตรียมตัวไปศาลวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ก็เกิดคำถามขึ้นและไม่ค่อยเข้าใจในหลายๆ ประเด็นนะคะ รบกวนขอคำตอบคำแนะนำหน่อยนะคะ
1. เอมไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือน แต่เอมมีชื่อเป็นเจ้าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน หากไม่ไปขึ้นศาล เขาสามารถสืบและยึด/อายัดของในบ้านได้ใช่ไหมค่ะ และถ้างั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นลูกบ้านหรือย้ายออกไปอยู่อยู่บ้านญาติแทนได้รึเปล่าค่ะ จะทันไหมค่ะ
2. บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ท้ายโฉนดเป็นชื่อของคุณพ่อ(ตายไปแล้ว) แต่ติดจำนองอยู่ที่ธนาคาร เอมยังผ่อนส่งอยู่ และได้คำสั่งจากศาลเป็นผู้จัดการมรดกของคุณพ่อเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้จะถือว่าเป็นทรัพย์สินของเอมรึเปล่าค่ะ
3. บ้านหลังนี้กำลังประกาศขาย ถ้าขายได้ แล้วเจ้าหนี้สืบรู้ว่าเอมขายไปแล้ว เอมจะกลายเป็นทำผิดกฎหมายเลยใช่ไหมค่ะ
4. เอมกำลังลังเลว่าควรจะไปศาล หรือ ไม่ไปดี เพราะเอมเป็นคนว่างงาน ไม่มีเงินเดือน แต่ถือว่าเอมเป็นคนมีทรัพย์สินหรือไม่มีกันแน่ ? ควรไปเพื่อไปไกล่เกลี่ยขอผ่อนผัน(ได้หรือไม่ได้เลย)ก็ควรไป ? หรือเอมควรยังไงดีค่ะ ?

รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ

chaaiimz เขียน: ขอบคุณคุณ ReFreshZzz มากนะคะ สำหรับคำแนะนำคำตอบต่างๆ เป็นแนวทางในวันต่อๆ ไปให้เอมในอนาคตได้ค่ะ จะนำไปคิดทบทวนวางแผนวางตัวต่อไปนะคะ

และขอรบกวนถามเพิ่มเติมหน่อยคะ... บ้านของคุณพ่อที่เสียไปแล้วแต่ติดจำนองอยู่กับธนาคาร แล้วพวกหนี้สินของคุณพ่อพวกหนี้บัตรเครดิตต่างๆ เขาจะสามารถดำเนินการอายัดบ้านได้รึเปล่าค่ะ ตอนนี้เหมือนทางพวกหนี้สินต่างๆ ของพ่อยังไม่ทราบว่าท่านเสียไปแล้วอะคะ

ในคำถามส่วนนี้ ท่านประธานชมรม เคยตอบคุณไปนานแล้วนะครับ ผมยังเข้าไปอ่านเจอเลยครับ จาก Reply ด้านบน

chaaiimz เขียน: หลังจากที่ตามอ่านกระทู้ต่างๆ เพื่อเตรียมตัวไปศาลวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ก็เกิดคำถามขึ้นและไม่ค่อยเข้าใจในหลายๆ ประเด็นนะคะ รบกวนขอคำตอบคำแนะนำหน่อยนะคะ
1. เอมไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือน แต่เอมมีชื่อเป็นเจ้าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน หากไม่ไปขึ้นศาล เขาสามารถสืบและยึด/อายัดของในบ้านได้ใช่ไหมค่ะ และถ้างั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นลูกบ้านหรือย้ายออกไปอยู่อยู่บ้านญาติแทนได้รึเปล่าค่ะ จะทันไหมค่ะ
2. บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ท้ายโฉนดเป็นชื่อของคุณพ่อ(ตายไปแล้ว) แต่ติดจำนองอยู่ที่ธนาคาร เอมยังผ่อนส่งอยู่ และได้คำสั่งจากศาลเป็นผู้จัดการมรดกของคุณพ่อเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้จะถือว่าเป็นทรัพย์สินของเอมรึเปล่าค่ะ
3. บ้านหลังนี้กำลังประกาศขาย ถ้าขายได้ แล้วเจ้าหนี้สืบรู้ว่าเอมขายไปแล้ว เอมจะกลายเป็นทำผิดกฎหมายเลยใช่ไหมค่ะ
4. เอมกำลังลังเลว่าควรจะไปศาล หรือ ไม่ไปดี เพราะเอมเป็นคนว่างงาน ไม่มีเงินเดือน แต่ถือว่าเอมเป็นคนมีทรัพย์สินหรือไม่มีกันแน่ ? ควรไปเพื่อไปไกล่เกลี่ยขอผ่อนผัน(ได้หรือไม่ได้เลย)ก็ควรไป ? หรือเอมควรยังไงดีค่ะ ?

รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ

ตอบ ข้อ 1.
เอมไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือน
หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือ​นและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?​
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64

แต่เอมมีชื่อเป็นเจ้าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน หากไม่ไปขึ้นศาล เขาสามารถสืบและยึด/อายัดของในบ้านได้ใช่ไหมค่ะ
ตอบ ใช่ครับ

และถ้างั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นลูกบ้านหรือย้ายออกไปอยู่อยู่บ้านญาติแทนได้รึเปล่าค่ะ จะทันไหมค่ะ
ตอบ จะทันหรือไม่นั้น อยู่ที่คุณแก้ปัญหาครับ ว่าจะใช้แนวทางใด
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

ตอบ ข้อ 2.
บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ท้ายโฉนดเป็นชื่อของคุณพ่อ(ตายไปแล้ว) แต่ติดจำนองอยู่ที่ธนาคาร
ตอบ คำถามนี้ อ่านกระทู้ Reply ด้านบนนะครับ เคยตอบไปแล้ว อ่านหลาย ๆ รอบ

เอมยังผ่อนส่งอยู่ และได้คำสั่งจากศาลเป็นผู้จัดการมรดกของคุณพ่อเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้จะถือว่าเป็นทรัพย์สินของเอมรึเปล่าค่ะ
ตอบ เคส ตัวอย่างด้านบน ผมก็ตอบให้ไปแล้วหนิครับ

ตอบ ข้อ 3.
บ้านเป็นของคุณ ถึงแม้จะผ่อนอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าขายไม่ได้นะครับ
แล้วแบบนี้ สมมุติว่า : ถ้าผมผ่อนคอนโด อยู่ แล้วอยากจะขาย ผมก็ขายไม่ได้เหรอครับ ผิดกฏหมายเหรอครับ

ตอบ ข้อ 4.
เอมกำลังลังเลว่าควรจะไปศาล หรือ ไม่ไปดี เพราะเอมเป็นคนว่างงาน ไม่มีเงินเดือน
ตอบ การไปศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ คุณแค่เป็นหนี้นะครับ ไม่ได้ฆ่าคนตาย แต่คุณควรเตรียมตัว และวางแผน ก่อนไปศาล ก็แค่นั้นครับ ไม่ใช่ ไปโดยไม่รู้ว่าจะไปทำไม

แต่ถือว่าเอมเป็นคนมีทรัพย์สินหรือไม่มีกันแน่ ?
ตอบ ถ้าตัวคุณเองยังไม่รู้ว่า คุณมีทรัพย์สินอะไรบ้าง แล้วใครจะไปรู้หละครับ (สิ่งเหล่านี้ คุณสามารถหาความรู้ได้เองแบบไม่ยากนะครับ) (สมัครสมาชิกที่เวป นี้ยังยากกว่านะ ผมว่า)

ควรไปเพื่อไปไกล่เกลี่ยขอผ่อนผัน(ได้หรือไม่ได้เลย)ก็ควรไป ? หรือเอมควรยังไงดีค่ะ ?
ตอบ คุณไปศาล = คุณมีสิทธิ์ (มีสิทธิ์อะไรบ้าง ไปหาอ่านในกระทู้ในเวปนี้นะครับ ถ้าไม่เข้าใจมาถามเพิ่มได้ครับ)
คุณไม่ไปศาล = คุณหนีศาล คุณเสียสิทธิ์ และศาล จะรับฟังแต่โจทก์ ที่เป็นเจ้าหนี้ของคุณ และพิพากษา ตามโจทก์ฟ้องทุกประการ
คุณก็เลือกเอาครับ ว่าอยากได้แบบไหน

**** ฝากไว้นะครับ ข้อคิด สิ่งที่ผมได้การจากถามคำถามของคุณ ****
1. คุณยังไม่สามารถรวบรวมสมาธิของตัวเองได้
2. คุณอาจจะอ่านกระทู้ แต่คุณอ่านไม่หมด และจับใจความไม่ได้ ถามซ้ำไปวนมา
3. คุณถามคำถาม ที่มีแต่ตัวคุณเอง ที่รู้ดีที่สุด ก็เอามาถาม
4. จากที่ผมอ่านกระทู้ ของคุณ ตั้งแต่ต้น ผมยังแอบนึกว่า คุณได้แก้ปัญหาไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อ ปีก่อน
5. น่าเสียดายที่คุณปล่อยปัญหาให้ล่วงเลย เพราะบางทีปัญหาบางอย่าง มันแก้ง่ายมาก ถ้าคุณรีบแก้ไข แต่มาถึงตอนนี้ ผมเองก็ได้แค่ตอบถามที่คุณอยากรู้แค่นั้น ครับ ปัญหาของคุณมันถึงขั้นที่ต้องปรึกษาทนายแล้วครับ

โชคดีครับ

ReFreshZzz เขียน:

chaaiimz เขียน: หลังจากที่ตามอ่านกระทู้ต่างๆ เพื่อเตรียมตัวไปศาลวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ก็เกิดคำถามขึ้นและไม่ค่อยเข้าใจในหลายๆ ประเด็นนะคะ รบกวนขอคำตอบคำแนะนำหน่อยนะคะ
1. เอมไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือน แต่เอมมีชื่อเป็นเจ้าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน หากไม่ไปขึ้นศาล เขาสามารถสืบและยึด/อายัดของในบ้านได้ใช่ไหมค่ะ และถ้างั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นลูกบ้านหรือย้ายออกไปอยู่อยู่บ้านญาติแทนได้รึเปล่าค่ะ จะทันไหมค่ะ
2. บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ท้ายโฉนดเป็นชื่อของคุณพ่อ(ตายไปแล้ว) แต่ติดจำนองอยู่ที่ธนาคาร เอมยังผ่อนส่งอยู่ และได้คำสั่งจากศาลเป็นผู้จัดการมรดกของคุณพ่อเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้จะถือว่าเป็นทรัพย์สินของเอมรึเปล่าค่ะ
3. บ้านหลังนี้กำลังประกาศขาย ถ้าขายได้ แล้วเจ้าหนี้สืบรู้ว่าเอมขายไปแล้ว เอมจะกลายเป็นทำผิดกฎหมายเลยใช่ไหมค่ะ
4. เอมกำลังลังเลว่าควรจะไปศาล หรือ ไม่ไปดี เพราะเอมเป็นคนว่างงาน ไม่มีเงินเดือน แต่ถือว่าเอมเป็นคนมีทรัพย์สินหรือไม่มีกันแน่ ? ควรไปเพื่อไปไกล่เกลี่ยขอผ่อนผัน(ได้หรือไม่ได้เลย)ก็ควรไป ? หรือเอมควรยังไงดีค่ะ ?

รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ

ตอบ ข้อ 1.
เอมไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือน
หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือ​นและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?​
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64

แต่เอมมีชื่อเป็นเจ้าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน หากไม่ไปขึ้นศาล เขาสามารถสืบและยึด/อายัดของในบ้านได้ใช่ไหมค่ะ
ตอบ ใช่ครับ

และถ้างั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นลูกบ้านหรือย้ายออกไปอยู่อยู่บ้านญาติแทนได้รึเปล่าค่ะ จะทันไหมค่ะ
ตอบ จะทันหรือไม่นั้น อยู่ที่คุณแก้ปัญหาครับ ว่าจะใช้แนวทางใด
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

ตอบ ข้อ 2.
บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ท้ายโฉนดเป็นชื่อของคุณพ่อ(ตายไปแล้ว) แต่ติดจำนองอยู่ที่ธนาคาร
ตอบ คำถามนี้ อ่านกระทู้ Reply ด้านบนนะครับ เคยตอบไปแล้ว อ่านหลาย ๆ รอบ

เอมยังผ่อนส่งอยู่ และได้คำสั่งจากศาลเป็นผู้จัดการมรดกของคุณพ่อเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้จะถือว่าเป็นทรัพย์สินของเอมรึเปล่าค่ะ
ตอบ เคส ตัวอย่างด้านบน ผมก็ตอบให้ไปแล้วหนิครับ

ตอบ ข้อ 3.
บ้านเป็นของคุณ ถึงแม้จะผ่อนอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าขายไม่ได้นะครับ
แล้วแบบนี้ สมมุติว่า : ถ้าผมผ่อนคอนโด อยู่ แล้วอยากจะขาย ผมก็ขายไม่ได้เหรอครับ ผิดกฏหมายเหรอครับ

ตอบ ข้อ 4.
เอมกำลังลังเลว่าควรจะไปศาล หรือ ไม่ไปดี เพราะเอมเป็นคนว่างงาน ไม่มีเงินเดือน
ตอบ การไปศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ คุณแค่เป็นหนี้นะครับ ไม่ได้ฆ่าคนตาย แต่คุณควรเตรียมตัว และวางแผน ก่อนไปศาล ก็แค่นั้นครับ ไม่ใช่ ไปโดยไม่รู้ว่าจะไปทำไม

แต่ถือว่าเอมเป็นคนมีทรัพย์สินหรือไม่มีกันแน่ ?
ตอบ ถ้าตัวคุณเองยังไม่รู้ว่า คุณมีทรัพย์สินอะไรบ้าง แล้วใครจะไปรู้หละครับ (สิ่งเหล่านี้ คุณสามารถหาความรู้ได้เองแบบไม่ยากนะครับ) (สมัครสมาชิกที่เวป นี้ยังยากกว่านะ ผมว่า)

ควรไปเพื่อไปไกล่เกลี่ยขอผ่อนผัน(ได้หรือไม่ได้เลย)ก็ควรไป ? หรือเอมควรยังไงดีค่ะ ?
ตอบ คุณไปศาล = คุณมีสิทธิ์ (มีสิทธิ์อะไรบ้าง ไปหาอ่านในกระทู้ในเวปนี้นะครับ ถ้าไม่เข้าใจมาถามเพิ่มได้ครับ)
คุณไม่ไปศาล = คุณหนีศาล คุณเสียสิทธิ์ และศาล จะรับฟังแต่โจทก์ ที่เป็นเจ้าหนี้ของคุณ และพิพากษา ตามโจทก์ฟ้องทุกประการ
คุณก็เลือกเอาครับ ว่าอยากได้แบบไหน

**** ฝากไว้นะครับ ข้อคิด สิ่งที่ผมได้การจากถามคำถามของคุณ ****
1. คุณยังไม่สามารถรวบรวมสมาธิของตัวเองได้
2. คุณอาจจะอ่านกระทู้ แต่คุณอ่านไม่หมด และจับใจความไม่ได้ ถามซ้ำไปวนมา
3. คุณถามคำถาม ที่มีแต่ตัวคุณเอง ที่รู้ดีที่สุด ก็เอามาถาม
4. จากที่ผมอ่านกระทู้ ของคุณ ตั้งแต่ต้น ผมยังแอบนึกว่า คุณได้แก้ปัญหาไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อ ปีก่อน
5. น่าเสียดายที่คุณปล่อยปัญหาให้ล่วงเลย เพราะบางทีปัญหาบางอย่าง มันแก้ง่ายมาก ถ้าคุณรีบแก้ไข แต่มาถึงตอนนี้ ผมเองก็ได้แค่ตอบถามที่คุณอยากรู้แค่นั้น ครับ ปัญหาของคุณมันถึงขั้นที่ต้องปรึกษาทนายแล้วครับ

โชคดีครับ

ขอบคุณนะคะ ก็คงจริงที่เอมยังจับใจความไม่ได้ ยังทำความเข้าใจกับการอ่านในกระทู้ต่างๆ ไม่ค่อยได้ พยายามทำความเข้าใจว่าตัวเองคือเคสแบบไหน มีลักษณะแบบไหน ใกล้เคียงกับแบบไหน พยายามมีสติให้มากๆ นะคะ ขอบคุณคะ

รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ ตามในหมายศาลนะคะ

ข้อ 4. การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงขอเรียกให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ ซึ่งคำนวณถึงวันที่ 10 ธ.ค. 2560 ยกประโยชน์ให้จำเลยถึงวันฟ้อง จำเลยมีภาระหนี้ค้างชำระต่อโจทก์ดังนี้
4.1 ต้นเงินค้างชำระ เป็นจำนวนเงิน 87,398.77 บาท
4.2 ดอกเบี้ยค้างชำระ อัตราร้อยละ 15.00 ต่อปี เป็นเงินจำนวน 8,283.80 บาท
4.3 ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินค้างชะระ อัตราร้อยละ 13.00 ต่อปี เป็นจำนวนเงิน 7,179.29 บาท
4.4 ค่าปรับชำระหนี้ล่าช้าและ/หรือค่าติดตามทวงถาม เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท
4.5 ค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้สำนักงานนอก 0.00 บาท
4.6 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 13.00 บาท
รวมภาระหนี้ที่จำเลยจะต้องรับผิดชำรำให้แก่โจทก์เป็นเงินเพียงจำนวน 103,874.00 บาท

ท้ายฟ้องคดีผู้บริโภค
1. ให้จำเลยชำระเงิน แก่โจทก์จำนวน 103,874.00 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15.00 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 87,398.77 บาท นับถัดแต่วันฟ้องเป็นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น และให้จำเลยชดใช้ค่าฤชาธรรมดนียมและค่าทนายความในอัตราสูงสุดแทนโจทก์ด้วย

เลยอยากจะรบกวนสอบถามว่า ตามกฎหมายผิดนัดชำระหนี้ ให้คิดดอกเบี้ยที่ 7.5 ต่อปีไม่ใช่หรอค่ะ อย่างนี้ตามที่พิมพ์มา ถือว่าเค้าคิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่ผิดนัดชำระหนี้ (3 มีนาคม 2560) ตั้ง 28% ต่อปีใช่ป่ะค่ะ เอมเข้าในถูกไหมค่ะ ถ้าเข้าใจถูกอย่างนี้ขอความเห็นใจจากศาลได้รึเปล่าค่ะ ขอความเมตตาเรื่องดอกเบี้ยได้รึเปล่าค่ะ

ไม่ทราบว่าจะแนะนำน้องอย่างไรดี เหมือนน้องกำลังสับสนและไม่มีสมาธินะคะ ตั้งสติและอ่านกระทู้ปักหมุดให้มากๆ โทรไปปรึกษาท่านประธานหรือยังคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้เสมอค่ะ

chaaiimz เขียน: รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ ตามในหมายศาลนะคะ

ข้อ 4. การกระทำของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงขอเรียกให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ ซึ่งคำนวณถึงวันที่ 10 ธ.ค. 2560 ยกประโยชน์ให้จำเลยถึงวันฟ้อง จำเลยมีภาระหนี้ค้างชำระต่อโจทก์ดังนี้
4.1 ต้นเงินค้างชำระ เป็นจำนวนเงิน 87,398.77 บาท
4.2 ดอกเบี้ยค้างชำระ อัตราร้อยละ 15.00 ต่อปี เป็นเงินจำนวน 8,283.80 บาท
4.3 ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินค้างชะระ อัตราร้อยละ 13.00 ต่อปี เป็นจำนวนเงิน 7,179.29 บาท
4.4 ค่าปรับชำระหนี้ล่าช้าและ/หรือค่าติดตามทวงถาม เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท
4.5 ค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้สำนักงานนอก 0.00 บาท
4.6 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 13.00 บาท
รวมภาระหนี้ที่จำเลยจะต้องรับผิดชำรำให้แก่โจทก์เป็นเงินเพียงจำนวน 103,874.00 บาท

ท้ายฟ้องคดีผู้บริโภค
1. ให้จำเลยชำระเงิน แก่โจทก์จำนวน 103,874.00 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15.00 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 87,398.77 บาท นับถัดแต่วันฟ้องเป็นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น และให้จำเลยชดใช้ค่าฤชาธรรมดนียมและค่าทนายความในอัตราสูงสุดแทนโจทก์ด้วย

เลยอยากจะรบกวนสอบถามว่า ตามกฎหมายผิดนัดชำระหนี้ ให้คิดดอกเบี้ยที่ 7.5 ต่อปีไม่ใช่หรอค่ะ อย่างนี้ตามที่พิมพ์มา ถือว่าเค้าคิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่ผิดนัดชำระหนี้ (3 มีนาคม 2560) ตั้ง 28% ต่อปีใช่ป่ะค่ะ เอมเข้าในถูกไหมค่ะ ถ้าเข้าใจถูกอย่างนี้ขอความเห็นใจจากศาลได้รึเปล่าค่ะ ขอความเมตตาเรื่องดอกเบี้ยได้รึเปล่าค่ะ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64