beatles เขียน: สงสัยทำไมคนไทยหรือว่าพวกเราเพื่อน ๆ พี่ ๆ ชมรมหนี้บัตรเครดิต ถึงไม่ช่วนกันออกมาเรียกร้อง
หรือปกป้องสิทธิของคนไทยด้วยกัน เกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ยบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล
เพราะตามข้อกฏหมาย ทุกคนคงจะทราบดีว่า สามารถคิดดอกเบี้ยได้สูงสุด 15% แต่ไป ๆ มาๆ
กับมีค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินเข้ามาอีก 13% รวมแล้วเป็น 28% ต่อปี ซึ่งมันสูงมาก ๆ
สำหรับมนุษย์เงินเดือน หาเช้ากินค่ำ
อยากจะให้เพื่อนๆ หรือพี่ ๆ เข้ามาช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ
หรือว่าจะรวบรวมรายชื่อก็ตามอยากให้มีการแก้กฏหมายหรือว่าอะไรก็ตามแต่
ช่วยกันรวมพลังความคิดเห็น ช่วยกัน BrainStrom กันเข้ามานะครับ
คุณ beatles ครับ...คุณรู้ได้อย่างไรครับ ว่าตลอดระยะเวลา 10ปีที่ผ่านมา ตัวผมเอง , ชมรมหนี้ฯ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ไม่เคยเคลื่อนไหวต่อต้านเรื่องดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม หรือการทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรมเช่นนี้กันมาก่อนเลย?
ชมรมฯแห่งนี้ ก่อตัวกันขึ้นและประกาศจัดตั้งชมรมฯอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.2548 โดยร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ทำการผลักดันเรื่องการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยเรื่องดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรมและการทวงหนี้โหดกันมาโดยตลอด
พวกเราทำกันมาแล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(แบงก์ชาติ) นำเสนอข้อกฎหมายที่เป็นธรรมสำหรับผู้บริโภคเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ผมเคยเข้าร่วมประชุมและแสดงความคิดเห็นต่อรัฐสภาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมประกาศต่อสื่อมวลชนมาแล้วทุกแขนง โดยแฉถึงกลโกงและการคิดดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดของสถาบันการเงินต่างๆทั้งหลายแหล่
นโยบายของชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล (Vision)
ผลักดันแก้ไขกฎหมายที่เอารัดเอาเปรียบภาคประชาชน โดยสถาบันการเงิน
แผนการทำงาน (Objective)
1. ผลักดันแก้ไขกฎหมายคดีผู้บริโภคให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยผู้บริโภคโดยไม่เปิดโอกาสให้นายทุนใช้ช่องโหว่จากกฎหมายนี้ ฟ้องกลับมายังประชาชน
2. ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกประกาศ/คำสั่ง ไม่ให้สถาบันการเงินคิดดอกเบี้ย + ค่าธรรมเนียม เกินกว่าที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) กำหนด
3. สนับสนุนให้มี พ.ร.บ.ทวงหนี้อย่างเป็นธรรม
4. เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้
แต่ในกระทู้นี้ คุณกลับมากล่าวว่า"
ทำไมชมรมหนี้บัตรเครดิต ถึงไม่ชวนกันออกมาเรียกร้องหรือปกป้องสิทธิของคนไทยด้วยกัน เกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ยบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล"...ก็แสดงว่าคุณไม่เคยเข้าไปอ่านกระทู้นี้เลยสินะครับ
ตำนานมีชีวิต คนยิ้มสู้หนี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=31987&Itemid=64
ทั้งๆที่กระทูนี้ เป็นกระทู้ปักหมุดที่อยู่ในบรรทัดด้านบนของ"
ห้องเรื่องเล่าชาวหนี้"แต่ผมว่าคุณคงไม่เคยเข้าไปดูเลยสินะครับ...คุณถึงไม่รู้ว่าพวกเราเคยทำอะไรให้กับสังคมกันมาบ้าง
แล้วคุณอยากรู้บ้างไหมครับ?...ว่าผมเคยทำอะไรให้กับสังคมมาบ้าง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
คุณลองเข้าไปดูในไฟล์นี้สิครับ ชื่อไฟล์ History.pdf มันเป็นประวัติผลงานของผมที่ผ่านมาเพียงแค่”บางส่วน”เท่านั้น
ขอย้ำว่าเป็นแค่เพียง”
บางส่วน”จากการทำงานของผมเท่านั้นนะครับ เอามาให้ดูกันว่าแค่เพียงผมคนเดียว ผมได้ทำอะไรเอาไว้บ้าง...นี่ยังไม่รวมถึงผลงานของกรรมการคนอื่นๆ และผลงานของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่ช่วยกันทำไว้อีกเยอะแยะเลยนะครับ
ไฟล์ดาวน์โหลดชื่อ
History.pdf (กรุณารอเวลา 30 วินาที ก่อนทำการดาวน์โหลด)
www.zabzaa.com/upload/download.php?file=50History.pdf
ที่ผ่านมา...ผมออกมาวิจารณ์ยับ ถึงการทำงานของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยผ่านสื่อมวลชนมาก็เยอะ เดินทางไปที่ตึกธนาคารแห่งประเทศไทยพร้อมกับสื่อมวลชน เพื่อทำการยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าการแบงก์ชาติก็เคยทำมาแล้ว แต่ผลที่ได้ก็คือ...แบงก์ชาติเงียบกริบ!!!...ไม่เคยตอบกลับ , ไม่เคยรับรู้ , ไม่เคยพัฒนาแก้ไขอะไรทั้งสิ้น...เงียบเป็น“
เป่าสาก”มานานนับปีแล้ว
แล้วที่ผ่านมา...คุณเคยทำอะไรเพื่อสังคม
หรือทำเพื่อลูกหนี้คนอื่นโดยส่วนรวมบ้างหรือเปล่าล่ะครับ?
ขอขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณ beatles ที่ช่วยอุตส่าห์แสดงความคิดเห็นในการต่อสู้เพื่อคนโดยส่วนรวม ผ่านทางกระทู้นี้...
แต่ผมอยากถามคุณ beatles ว่า...คุณอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมของลูกหนี้อย่างจริงจังหรือเปล่าครับ?
คุณ beatles ทราบไหมครับ...จากการที่ผมไปแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนต่างๆที่ผ่านมา สื่อมวลชนต่างๆเขาต้องการให้ผู้ที่เป็นลูกหนี้จริงๆ
(ตัวจริง เสียงจริง)ไปออกรายการร่วมด้วย เพราะเขาอยากถามความรู้สึกจากลูกหนี้ตัวจริงด้วย ไม่ใช่ถามความคิดเห็นจากผมเพียงผู้เดียว เพราะผมไม่ใช่ผู้ที่เดือดร้อนตัวจริง ผมเป็นแค่เพียงผู้ที่ให้สัมภาษณ์แทนเหล่าลูกหนี้ โดยที่มิใช่ลูกหนี้ ณ ปัจจุบัน
ครั้นพอผมไปทาบทามถามกับลูกหนี้ตัวจริงต่างๆหลายคน ให้ไปช่วยสัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นออกสื่อฯด้วยกัน แต่ก็กลับได้รับการตอบปฏิเสธกันหมดเสียทุกคน โดยอ้างว่าอายที่เป็นหนี้แต่ไปออกสื่อฯ , บ้างก็อ้างว่ากลัวจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน , บ้างก็อ้างว่าอายชาวบ้านจะรู้ว่าตัวเองเป็นหนี้...สรุปแล้ว ก็ไม่มีลูกหนี้คนไหนที่ยอมไปสัมภาษณ์ออกสื่อฯเลยสักคน
การที่จะผลักดันกฎหมายใดๆให้สำเร็จได้โดยง่ายนั้น จะต้องอาศัยสื่อมวลชนจากแขนงต่างๆช่วยกันประโคมให้เป็นข่าวบ่อยๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะได้ให้ความสนใจขึ้นมาบ้าง ในการแก้ปัญหาหรือแก้ไขกฎหมายต่างๆเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน
เอาอย่างนี้ได้ไหมครับ...ไหนๆคุณ beatles ก็ออกมาแสดงเจตนารมณ์ ในการอาสาร่วมช่วยเหลือสังคมของลูกหนี้อยู่แล้ว
ในคราวหน้า ถ้าหากมีสื่อมวลชนแห่งใดติดต่อผ่านทางผมมา เพื่อขอให้ผมช่วยหาลูกหนี้
ตัวจริง-เสียงจริง-ที่เดือดร้อนจริงๆ ไปสัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อฯที่ติดต่อเข้ามา
ผมอยากจะขอให้คุณ beatles ช่วยไปออกสื่อฯด้วยได้ไหมครับ? ในฐานะที่คุณเป็นลูกหนี้ที่มีความเดือดร้อนตัวจริง
คุณสามารถเรียกร้อง ขอปกป้องสิทธ์ของลูกหนี้ผ่านสื่อฯต่างๆได้เต็มที่เลยครับ
คุณจะได้ถามผู้ใหญ่ของบ้านเมืองไปเลยว่า ทำไมถึงปล่อยให้มีการโกงดอกเบี้ย โดยการบวกค่าธรรมเนียมเข้าไปอีก 13%...แสดงความคิดเห็นของคุณให้เต็มที่ไปเลยครับ
หวังว่าคุณ beatles จะช่วยกรุณาเป็นตัวแทน ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวไทยและลูกหนี้คนอื่นๆ ในการออกมาร่วมกันผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยเรื่องดอกเบี้ย โดยผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆเพิ่มขึ้นอีก 1เสียงด้วยนะครับ
ที่ผ่านมา ผมเจอแต่คนที่ดีแต่พูดครับ
ยังไม่เคยเจอคนที่ กล้าพูดกล้าทำเลยสักที
.