ธ. แจ้งว่าถามไม่จ่ายต่อ จะไม่ได้ส่วนลด ทำยังไงดีคะ?

7 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #86029 โดย azuraelfs
สวัสดีค่ะ

ขอย้อนความก่อนนะคะ เราเป็นหนี้บัตรกับสินเชื่อหลายตัวมาก
1. กรุงศรี สินเชื่อ ประมาณ 90,000
2. กรุงศรี บัตรเครดิต ประมาณ 35,000
3. CIMB สินเชื่อ ประมาณ 60,000
4. Standard สินเชื่อ ประมาณ 75,000
5. City สินเชื่อ ประมาณ 160,000 update 160831 ปิดยอดที่ 70,000
6. KTC สินเชื่อ ประมาณ 60,000
7. KTC บัตรเครดิต ประมาณ 60,000
8. โลตัส บัตรเครดิต ประมาณ 42,000 update 160901 ปิดยอดที่ 23,500
9. กสิกร บัตรเครดิต ประมาณ 45,000

หยุดจ่ายเข้าเดือนที่ 4 แล้วค่ะ วันนี้มีเจ้าหน้าที่ของ City โทรมาบอกว่าต้องเดินรอบบัญชีให้ได้อย่างน้อย 9 เดือนไม่งั้นจะขอส่วนลดไม่ได้ คือต้องจ่ายอีก 2 รอบบัญชีก่อนเพื่อขอส่วนลด และถ้าหยุดจ่ายเกิน 4 เดือนจะไม่สามารถขอส่วนลดได้อีกเลย (เคยขอสินเชื่่อที่นี้ไปแล้ว 1 รอบ แต่รีสินเชื่อปิดตัวเก่า ตอนนั้นยังไม่เจอชมรมที่นี้ ตัวใหม่นี้พึ่งจ่ายไปได้แค่ 3 งวดก็หยุดจ่ายเลย)
คำถามคือ เราควรจ่ายอีก 2 รอบ แล้วไปขอส่วนลดหรือไม่คะ (ส่วนลด 40%)?
แล้วถ้าเราไม่จ่ายเกิน 4 เดือนจะยังสามารถขอส่วนลดได้อยู่ไหมคะ?
รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #86030 โดย jackTs

azuraelfs เขียน: หยุดจ่ายเข้าเดือนที่ 4 แล้วค่ะ วันนี้มีเจ้าหน้าที่ของ City โทรมาบอกว่าต้องเดินรอบบัญชีให้ได้อย่างน้อย 9 เดือนไม่งั้นจะขอส่วนลดไม่ได้ คือต้องจ่ายอีก 2 รอบบัญชีก่อนเพื่อขอส่วนลด และถ้าหยุดจ่ายเกิน 4 เดือนจะไม่สามารถขอส่วนลดได้อีกเลย (เคยขอสินเชื่่อที่นี้ไปแล้ว 1 รอบ แต่รีสินเชื่อปิดตัวเก่า ตอนนั้นยังไม่เจอชมรมที่นี้ ตัวใหม่นี้พึ่งจ่ายไปได้แค่ 3 งวดก็หยุดจ่ายเลย)
คำถามคือ เราควรจ่ายอีก 2 รอบ แล้วไปขอส่วนลดหรือไม่คะ (ส่วนลด 40%)?
แล้วถ้าเราไม่จ่ายเกิน 4 เดือนจะยังสามารถขอส่วนลดได้อยู่ไหมคะ?
รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ


มันตอแหลครับ อย่าไปเชื่อ

ในอดีต ไมว่าลูกหนี้จะเคยผ่อนจ่ายหนี้ไปกี่งวดก็ตาม
ลูกหนี้ทุกราย สามารถหยุดจ่ายเพื่อทำ Haircut ได้เหมือนกันหมดทุกราย...ไม่ได้แตกต่างกันเลย

มันจะหลอกให้คุณ"จ่ายหยอด"มากกว่าน่ะสิครับ

ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20


.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #86034 โดย azuraelfs
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
จริงๆแล้วกลัวหนี้ตัวนี้มากที่สุดเพราะพึ่งจ่ายได้แค่ 3 รอบ เลยกลัวว่าเราจะเสียเปรียบค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #87859 โดย azuraelfs
สวัสดีค่ะ

จากกระทู้คราวที่แล้ว ขอย้อนความก่อนนะคะ เราเป็นหนี้บัตรกับสินเชื่อหลายตัวมาก
1. กรุงศรี สินเชื่อ ประมาณ 80,000
2. กรุงศรี บัตรเครดิต ประมาณ 35,000
3. CIMB สินเชื่อ ประมาณ 60,000
4. Standard สินเชื่อ ประมาณ 75,000
5. City สินเชื่อ ประมาณ 150,000
6. KTC สินเชื่อ ประมาณ 60,000
7. KTC บัตรเครดิต ประมาณ 60,000
8. โลตัส บัตรเครดิต ประมาณ 35,000

หยุดจ่ายเข้าเดือนที่ 6 แล้วค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้รับหมายศาลจาก ธ. กรุงไทย ให้ไขึ้นศาล 07/09/2016
วันนี้ City โทรมาว่าหมายศาลพร้อมฟ้องแล้ว แต่จะโทรมาเจรจาก่อน เสนอส่วนลดมา 47%
มีข้อสอบถามค่ะ 1. City รับส่วนลดเลย รึรอขึ้นศาลจะได้ส่วนลดมากกว่านี้มัยคะ?
2. ธ. กรุงไทย ไม่ค่อยโทรทวง ฟ้องเร็วมาก มีโอการได้ส่วนลดมัยคะ?
รบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวชมรมด้วยค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #87862 โดย jackTs

azuraelfs เขียน: 1. City รับส่วนลดเลย รึรอขึ้นศาลจะได้ส่วนลดมากกว่านี้มัยคะ?


หากเจ้าหนี้มันทำเรื่องฟ้องต่อศาลแล้ว นั่นหมายความว่า ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันจะต้องมีการควักกระเป๋าจ่ายเงินต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น...อาทิเช่น

- ค่าจ้างทนายฝ่ายโจทก์ เพื่อเขียนสำนวนคดีคำฟ้องลูกหนี้ (ไม่ต่ำกว่าสามพันบาท ต่อหนึ่งคดี...ขึ้นอยู่กับทุนฟ้อง)

- การฟ้องลูกหนี้ให้เป็นคดีความในชั้นศาล ไม่มีคำว่า"ฟรี"นะครับ เจ้าหนี้จะต้องจ่ายเงินค่าฤชาธรรมเนียมให้กับศาล เพื่อใช้เป็นค่าฟ้องศาลอีกด้วย (ไม่ต่ำกว่าห้าพันบาท ต่อหนึ่งคดี...ขึ้นอยู่กับทุนฟ้อง)


ไอ้ค่าต้นทุนต่างๆที่เพิ่มขึ้นมาเหล่านี้แหละ ที่ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันจะเอาไปบวกเพิ่มเข้ากับราคา Haircut ที่มันจะเสนอส่วนลดให้กับลูกหนี้ด้วย เพราะมันถือว่ามันมีเงินต้นทุนที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น หลังจากที่มันทำเรื่องฟ้องศาลแล้ว

ดังนั้น ราคา Haircut ที่ลูกหนี้จะได้ จะไม่ได้ส่วนลดในราคาเท่าเดิม หากลูกหนี้ถูกหมายศาลฟ้องแล้ว



azuraelfs เขียน: 2. ธ. กรุงไทย ไม่ค่อยโทรทวง ฟ้องเร็วมาก มีโอการได้ส่วนลดมัยคะ?


ในปัจจุบัน KTC ไม่มีนโยบายลดหนี้เงินต้นให้แล้ว ลดได้แต่ดอกเบี้ยอย่างเดียว (ไม่เหมือนกับเจ้าหนี้รายอื่นๆ) ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต , หนี้บัตรกดเงินสด หรือหนี้สินเชื่อเงินกู้ก็ตาม
พูดง่ายๆก็คือ มันยอมเอาดอกเบี้ยออกไปให้ ขอเพียงเอาเงินต้นก่อนที่จะหยุดจ่ายกลับคืนมา
โดยการให้จ่ายเงินคืนแบบเต็มก้อนเดียว หรืออาจขอผ่อนต่อก็ได้ แต่ต้องเป็นการผ่อนระยะสั้นๆเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=41965&Itemid=64#58947

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41957&Itemid=64#58905

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41826&Itemid=64#57927

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=25879&limitstart=60&Itemid=64#56887

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41607&Itemid=64#55611

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41077&limitstart=40&Itemid=64#55324

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41554&Itemid=64#54911

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41540&Itemid=64#54826

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41410&Itemid=64#53330

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41330&Itemid=64#52508


หากลูกหนี้ไม่มีเงินก้อนจ่ายคืน แต่ต้องการจะผ่อนต่อแบบยาวๆอีกซัก 3ปี ก็ต้องไปทำ"ยอมความ"ที่ชั้นศาล โดยเอาตัวเลขตามยอดที่ฟ้อง มาผ่อนจ่ายใหม่ และอาจมีส่วนลดให้บ้างเพียงเล็กน้อย
และเจ้าหนี้(KTC)จะขอคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ผ่อน(3ปี) ในอัตราร้อยละ 10ต่อปี(10% ต่อปี)ด้วย

ไปขึ้นศาลที่โดน KTC ฟ้องมา มีไฟล์เสียงมาให้เพื่อนๆฟังครับ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=40967&Itemid=64&limitstart=0#49259


อยากหยุดหนี้เพื่อเริ่มต้นใหม่
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=42103&limitstart=80&Itemid=64#80933


เป็นหนี้บัตรเครดิตกรุงไทย ได้ประนีประนอมที่ศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44003&Itemid=64#80210


สอบถามครับ ผมได้หมายนัดขึ่นศาล ที่รัตนบุรี สุรินทร์ วันที่ 2 นี้แล้ว
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42084&limitstart=20&Itemid=64#63603


หยุดจ่ายหนี้สองล้านกว่าขอกำลัง​ใจด้วยค่ะ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40430&limitstart=120&Itemid=64#54345


โดนทนายโจทก์หลอกให้เซ็นต์จ่ายค่าฤชาธรรมเนียมศาล และค่าทนายโจทก์ด้วย
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42963&limitstart=40&Itemid=64#84166

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #88908 โดย azuraelfs
สอบถามเพิ่มเติมค่ะ
กรุงไทยส่งฟ้องแล้ว มีหมายศาลแล้ว ยอด 120,000 มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามว่าจะปิดยอดมัย แต่ตอนนั้นติดประชุมยังคุยไม่ได้ เลยให้ติดต่อกลับ แต่เค้ายังไม่โทรกลับมาเลย(ผ่านมาเป็นอาทิตแล้ว)
1. เราควรติดต่อกลับไปมัยค่?
2. ถ้าติดต่อกลับเบอร์ไหนได้ค่ะ (จำเบอร์ที่เค้าใช้โทรมาไม่ได้แล้ว)
รบกวนด้วยค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #89006 โดย azuraelfs

azuraelfs เขียน: สอบถามเพิ่มเติมค่ะ
กรุงไทยส่งฟ้องแล้ว มีหมายศาลแล้ว ยอด 120,000 มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามว่าจะปิดยอดมัย แต่ตอนนั้นติดประชุมยังคุยไม่ได้ เลยให้ติดต่อกลับ แต่เค้ายังไม่โทรกลับมาเลย(ผ่านมาเป็นอาทิตแล้ว)
1. เราควรติดต่อกลับไปมัยค่?
2. ถ้าติดต่อกลับเบอร์ไหนได้ค่ะ (จำเบอร์ที่เค้าใช้โทรมาไม่ได้แล้ว)
รบกวนด้วยค่ะ


รบกวนผู้รู้ช่วยด้วยค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #89010 โดย jackTs

azuraelfs เขียน: สอบถามเพิ่มเติมค่ะ
กรุงไทยส่งฟ้องแล้ว มีหมายศาลแล้ว ยอด 120,000 มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามว่าจะปิดยอดมัย แต่ตอนนั้นติดประชุมยังคุยไม่ได้ เลยให้ติดต่อกลับ แต่เค้ายังไม่โทรกลับมาเลย(ผ่านมาเป็นอาทิตแล้ว)

1. เราควรติดต่อกลับไปมัยค่?


ถ้าโทรติดต่อกลับไปแล้ว คุณจะมีเงินไปปิด Haircut กับมันไหมล่ะครับ?

ผมก็เคยตอบไปจนไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่า

ในปัจจุบัน KTC ไม่มีนโยบายลดหนี้เงินต้นให้แล้ว ลดได้แต่ดอกเบี้ยอย่างเดียว (ไม่เหมือนกับเจ้าหนี้รายอื่นๆ) ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต , หนี้บัตรกดเงินสด หรือหนี้สินเชื่อเงินกู้ก็ตาม

พูดง่ายๆก็คือ มันยอมเอาดอกเบี้ยออกไปให้ ขอเพียงเอาเงินต้นก่อนที่จะหยุดจ่ายกลับคืนมา
โดยการให้จ่ายเงินคืนแบบเต็มก้อนเดียว หรืออาจขอผ่อนต่อก็ได้ แต่ต้องเป็นการผ่อนระยะสั้นๆเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น



azuraelfs เขียน: 2. ถ้าติดต่อกลับเบอร์ไหนได้ค่ะ (จำเบอร์ที่เค้าใช้โทรมาไม่ได้แล้ว)


เคยแนะนำไปแล้ว อยู่ในกระทู้นี้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44824&Itemid=64#88727

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #89120 โดย yaowa3455
มาตามของ Cimb คะ หยุดเข้าเดือนที่ 6 แล้วคะ ของตัวเองโทรมาแจ้งส่วนลดบ้างยังคะ ของเค้าตอนนี้เหมือนส่งออกนอก ให้บริษัทกฎหมาย ตอนนี้สำนักงานกฎหมาย กรัณฑ์ รับเรื่องแล้ว เครียดมากคะ ตอนนี้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #89126 โดย jackTs

yaowa3455 เขียน: มาตามของ Cimb คะ หยุดเข้าเดือนที่ 6 แล้วคะ ของตัวเองโทรมาแจ้งส่วนลดบ้างยังคะ


เข้าไปอ่านในกระทู้ของคุณ IndyGirL ดูสิครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42247&Itemid=64&limitstart=440#86190

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42247&Itemid=64&limitstart=480#87534



yaowa3455 เขียน: ของเค้าตอนนี้เหมือนส่งออกนอก ให้บริษัทกฎหมาย ตอนนี้สำนักงานกฎหมาย กรัณฑ์ รับเรื่องแล้ว เครียดมากคะ ตอนนี้


ระยะเวลา และขั้นตอนในการทวงหนี้


1. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ (1-2 เดือนแรก) โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง

2. ทวงหนี้ทางโทรศัพท์ + จดหมายทวงหนี้ (ช่วงเดือนที่ 2-3) โดยเริ่มมีการเสนอให้ทำ"ประนอมหนี้" , "ปรับโครงสร้างหนี้" (ซึ่งสรุปก็คือหลอกให้ทำ"สัญญา_นรก"นั่นแหละ แต่เรียกชื่อให้มันดูไพเราะสักหน่อย ก็เท่านั้น) หรือ อาจโทรมาหลอกลวงให้ลูกหนี้ทำการ"จ่ายหยอด"เพื่อเดินบัญชี...เป็นต้น
ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64

3. ส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานกฏหมายข้างนอก ให้เป็นผู้ทำการทวงหนี้แทน ซึ่งเป็นบริษัททวงหนี้
ลำดับที่ 1
(ช่วงเดือนที่ 4-6) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 20-30% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนดราคา)
...ซึ่งการส่งเรื่องออกไปให้บริษัทรับจ้างทวงหนี้ข้างนอก ให้เป็นผู้ทำการทวงหนี้แทนตัวมันนี่แหละครับ ที่พวกมันชอบเรียกกันว่า"ส่งเรื่องไปตามระบบ"

4. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 1 ทวงหนี้ไม่ได้ ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ให้มาทวงหนี้ต่อ (เดือนที่ 7-9) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 30-40% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนดราคา)

5. ถ้าสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 2 ก็ยังทวงหนี้ไม่ได้อีก ก็เลิกจ้างมันทวง แล้วหันไปเปลี่ยนเป็นสำนักงานกฏหมาย ที่เป็นบริษัททวงหนี้ลำดับที่ 3 ให้มาทวงหนี้ต่ออีก (ช่วงเดือนที่ 10-12) พร้อมกับเสนอให้ส่วนลดในการ Hair cut ประมาณ 40-50% (แล้วแต่สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ จะเป็นผู้กำหนดราคา)

6. ถ้าเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายทวงหนี้ไปตั้งหลายบริษัทแล้ว ยังไงก็ทวงไม่ได้สักที ก็ส่งฟ้องศาล (เดือนที่ 12 เป็นต้นไป จนถึงปีครึ่ง) โดยยังคงมีข้อเสนอเรื่องส่วนลดในการ Hair cut ให้อยู่ แต่เป็นราคาช่วงที่งามที่สุด (หรือที่เรียกกันว่า "นาทีทอง" ในการทำ Hair cut โดยสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เป็นผู้กำหนดราคา)

ดังนั้น หากมีลูกหนี้บางราย ที่เจ้าหนี้มันทำเรื่องฟ้องศาลช้ากว่าปกติ (เกินกว่า 1ปีขึ้นไป)
ลูกหนี้อาจถูกทวงหนี้โดยสำนักงานกฏหมาย(บริษัททวงหนี้) ที่ต้องถูกเปลี่ยนบริษัททวงหนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ซ้ำหน้ากัน เกินกว่า 5บริษัททวงหนี้...หรือจนกว่าหมายศาลฟ้องจะมา




ข้อสังเกตุ : ณ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทรับจ้างทวงหนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ประมาณพันกว่าบริษัท

ซึ่งบริษัทรับจ้างทวงหนี้พวกนี้ ส่วนใหญ่มักตั้งชื่อที่ใช้จดทะเบียนในนามนิติบุคคลว่า "สำนักงานกฏหมาย" หรือ "สำนักงานทนายความ" เพื่อสร้างความตกใจต่อลูกหนี้...เพราะในชื่อของบริษัทดังกล่าว มีคำว่า "กฏหมาย" หรือ "ทนายความ" ปรากฏอยู่ด้วย

พอลูกหนี้ได้ยินหรือได้เห็นชื่อของบริษัททวงหนี้เหล่านี้ ก็มักเกิดความกลัวและคิดไปเองว่า "เรื่องหนี้ของฉัน ตกไปอยู่ในขั้นตอนของกฏหมายแล้วหรือนี่? , สงสัยจะโดนฟ้องแล้วแน่เลย?"...แต่โดยแท้จริงแล้ว บริษัทพวกนี้ มีอาชีพหรือรายได้หลักมาจากการ"รับจ้างทวงหนี้ "เท่านั้น

และถ้าหากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายแรก ไม่สามารถทวงหนี้ได้ตามที่ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ (ซึ่งส่วนมากทางสถาบันการเงิน จะกำหนดให้บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ ต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือนเท่านั้น) บริษัทที่รับจ้างทวงหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) ทำการ"ถีบหัวส่ง"ออกไป...เพราะถือว่า"ไร้ความสามารถ"ในการทวงหนี้ให้ได้ภายใน 2-3 เดือน ตามที่เจ้าหนี้ตัวจริงได้กำหนดเอาไว้

แล้วหลังจากนั้น...ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปทำการว่าจ้างบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายใหม่ ให้มาทำการทวงหนี้แทนบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายเดิมที่ถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไป โดยกำหนดว่าจะต้องทวงหนี้ให้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เช่นกัน

หากบริษัทรับจ้างทวงหนี้รายที่สองนี้ ก็ยังไม่สามารถทวงหนี้กับลูกหนี้ได้ภายใน 2-3 เดือนอีก ก็จะถูก"ถีบหัวส่ง"ออกไปอีก แล้วทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง)ก็จะไปว่าจ้างบริษัททวงหนี้รายที่ สาม , สี่ , ห้า ให้มาทำหน้าที่ทวงหนี้แทนเหมือนเดิม...เป็น"วัฏจักร"เช่นนี้เรื่อยไปตลอด จนกว่าจะทวงหนี้ได้สำเร็จ(Hair cut สำเร็จ) หรือจนกว่าจะฟ้องศาล ซึ่งอาจใช้ระยะเวลานานเป็นปี

ในเมื่อ"บริษัทรับจ้างทวงหนี้"ในประเทศไทย มันมีจำนวนมากมายนับพันบริษัท
ทางสถาบันการเงิน(เจ้าหนี้ตัวจริง) จึงสามารถใช้บริการว่าจ้างบริษัทไหนก็ได้ โดยเรียกมาใช้งานได้แบบง่ายๆ และก็สามารถ"ถีบหัวส่ง"เปลี่ยนให้ออกไปได้ง่ายๆเช่นกัน หากมันไร้น้ำยาในการทวงหนี้ได้สำเร็จ


แล้วอีกอย่างหนึ่ง บริษัทรับจ้างทวงหนี้เหล่านี้ ก็ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือน สำหรับค่าว่าจ้างในการทวงหนี้จากทางเจ้าหนี้ตัวจริง แต่จะได้รับเป็น"เงินค่าคอมมิชชั่น"ตามจำนวนเงินที่ทวงหนี้มาได้สำเร็จ (ก็คล้ายๆกับอาชีพ"เซลล์แมน"ขายของนั่นแหละ หากขายของได้ ถึงจะได้ค่าคอมมิชชั้น หากขายของไม่ได้ก็"อด")

ด้วยสาเหตุนี้...จึงเป็นบ่อเกิดแห่ง"การทวงหนี้ที่ไร้จริยธรรม"จากบริษัทที่รับจ้างทวงหนี้บางราย ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเลวๆ ในลักษณะของการข่มขู่และกดดันลูกหนี้ เพื่อให้ตัวเองได้เงินมาจากลูกหนี้ไห้ได้(ไม่งั้นจะโดน"ถีบหัวส่ง"และ"อด แdก ค่าคอมฯด้วย") จึงต้องใช้วิธีในการทวงหนี้แบบชั่วๆ หรืออ้างข้อกฏหมาย"มั่วๆ" เพื่อข่มขู่ลูกหนี้ต่างๆนาๆ

หากใครโดนการข่มขู่ทวงหนี้ด้วยวิธีการเลวๆแบบนี้ ก็อย่าไปตกใจ สามารถไปดูวิธีการรับมือการทวงหนี้และการใช้สิทธิ์ปกป้องตนเองได้จากในกระทู้นี้

รู้ทันการทวงหนี้ / เตรียมรับมือการทวงหนี้
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=18758&Itemid=64

โปรดเกล้าฯ ก.ม.ทวงหนี้ฉบับใหม่ ห้ามข่มขู่ ดูหมิ่น ก่อความรำคาญ (ชมคลิป)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42576&Itemid=64


อ้างอิงข้อมูลจาก
ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64#6235

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.634 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena