สอบถาม การผ่อนผัน citibank

สวัสดีครับ น้องใหม่หยุดจ่ายขอฝากตัวครับ
พอดีว่า หยุดจ่าย citibank มาสองเดือนแล้ว (กค 59) บัตรเครดิตและบัตรเรดดี้ ยอดแต่ละเดือน 20,000 บาท และตอนนี้ได้รับข้อเสนอ ลดดอกเบี้ย บัตรเครดิตเหลือ 6% และบัตรเรดดี้เหลือ 10% ต่อปี เหลือจ่ายรายเดือนๆ ละ 6300 บาท แต่ให้ได้แค่ 12 เดือนเท่านั้น ท่านอื่นๆ มีข้อแนะนำยังไงบ้างครับ ผมพยายามหากระทู้ก่อนหน้านี้ในหัวข้อคล้ายๆ กันแต่หาไม่เจอ
ขอบคุณมากครับ

.
“สัญญา นรก”...คืออะไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6343&Itemid=64




วิธีแก้หนี้

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64

.
ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

ขอบคณมากครับ ผมใช้เวลาอาทิตย์ทีผ่านมา อ่านกระทู้ต่างๆ ได้ความรู้เยอะเลยครับ สบายใจมากขึ้นครับ
วางแผนเก็บเงิน ปลดหนี้ล่ะครับ

เมื่อวานได้คุยกับพนักงานซีตี้แบงก์ครับ
ได้รับข้อเสนอ ปิดบัญชีแล้วได้ส่วนลด 35 % แต่ยอดปิดยังสูงมากเกือบสองแสน คือไม่มีเงินจ่ายแน่ๆ
พนักงานก็เลยเสนอต่อว่า ให้ทำสัญญาผ่อนจ่ายแบบหยุดดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยเหลือหกเปอร์เซ็นต์ เป็นเวลาหนึ่งปี แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยมาปิดจะได้ส่วนลด 35 % เหมือนเดิม

พนักงานแนะนำว่า การทำสัญญาแบบนี้จะไม่ต้องถูกฟ้องศาลและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 3800 บาทค่าทนายและค่ายื่นฟ้อง
หากอยากทำสัญญาให้ส่ง สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารภาระหนี้ของบริษัทอื่นๆ ไปทางอีเมล์

ทุกท่านคิดว่ายังไงบ้างครับ ผมหยุดจ่ายเข้าเดือนที่ห้าครับ
ปกติซีตี้แบงก์ฟ้องเร็วใช่ไหมครับ

อ่านข้อมูลในเว็บเยอะแต่เหมือนยังไม่เข้าใจนะครับ

ผมว่าเก็บเงินรอส่วนลดดีกว่าครับ หรือถ้าอยากปิดจริงๆ ต่อรองเค้าดูขอเป็นผ่อนกี่เดือนก็ว่าไปครับ

อย่าจ่ายหยอดครับ (ลองหาดูครับว่าข้อเสียของการจ่ายหยอดคืออะไร) และอย่าทำสัญญานรกครับ

เรารับข้อเสนอ6%ปีแรกไปใบนึงค่ะ หลังจากยื้อไปประมาณ4-5เดือนที่หยุดจ่าย เคยอ่านเจอในนี้แว้บๆว่าหลังจากทำแบบนี้แล้วก็ยังได้ส่วนลดปิดได้ถ้ามีเงิน แต่ต้องทำใจว่า1ปีนี่ยอดมันก็ไม่ลดเท่าไหร่นะคะ ของเราพอดีต่อเดือนมันน้อยก็เลยเอาไว้ งวดละพันกว่า

แต่สำหรับจขกท.ดูละเยอะไปหน่อย เก็บเงินรอปิดน่าจะดีกว่า

อันนี้พอดีมีอีกบัตร จนท.ชวนประนอมหนี้ เราบอกว่าเราทำอันนี้ไปแล้วเค้าเสียงแข็งบอกว่าอันนี้ไม่ใช่ เราก็เลยเอ้าเหรอ 55 เป็นความรู้ใหม่(แต่ไม่ได้พูดไปนะคะ) อีกบัตรเราคงรอปิดทีเดียว ยอดไม่เยอะ

วันก่อนได้รับหมายศาลแล้วครับจากซีตี้แบงก์ กำหนดไปขึ้นศาลไกล่เกลี่ยเดือนเมษา
แต่วันนี้เจ้าหน้าที่ซี้ตี้แบงก์โทรมาบอกส่วนลดยังให้เท่าเดิมถ้าสนใจจะทำเรื่องให้ คือได้ส่วนลด 35% แล้วผ่อนจ่ายได้ กำลังคิดอยู่ว่า ถ้าหลังจากไปศาลแล้ว ส่วนลดจะได้เพิ่มอีกไหมนะครับ

วันนี้ซีตีแบงก์โทรมาให้ประนอมหนี้ดีกว่า เพราะว่า จะได้รับส่วนลด 10 % แต่หากไปศาลยังไงก็ได้แค่ 15 %และต้องเสียค่าทนายโจทก์อีก
และยังบอกอีกว่า ไปศาลก็มีแต่เสียกับเสียนะ เพราะธนาคารรู้อยู่แล้วว่าได้เปรียบก็เลยฟ้อง ถ้าฟ้องแล้วเสียเปรียบคงไม่ฟ้องหรอก ยอมทำประนอมหนี้ดีกว่า....

แต่ผมบอกไปว่า ขอเวลาคิดอีกสองวัน.....

doithewin33 เขียน: วันนี้ซีตีแบงก์โทรมาให้ประนอมหนี้ดีกว่า เพราะว่า จะได้รับส่วนลด 10 % แต่หากไปศาลยังไงก็ได้แค่ 15 %และต้องเสียค่าทนายโจทก์อีก
และยังบอกอีกว่า ไปศาลก็มีแต่เสียกับเสียนะ เพราะธนาคารรู้อยู่แล้วว่าได้เปรียบก็เลยฟ้อง ถ้าฟ้องแล้วเสียเปรียบคงไม่ฟ้องหรอก ยอมทำประนอมหนี้ดีกว่า....

แต่ผมบอกไปว่า ขอเวลาคิดอีกสองวัน.....

กี่เดือนฟ้องคะ ลดให้น้อยจังค่ะเจ้านี้

ของผม citi bank ให้ทำเอกสารขอลด กับส่งสำเนาบัตรไปครับ จากยอด หยุด 24000 ขึ้นไป 32000 แล้ว
เค้าบอกจะทำเรื่องขอลดให้ครับ ให้ทำคำร้องเข้าไป
แต่ผมไม่ได้ทำ สองจิตสองใจครับ กลับจะเล่นตุกติ๊กอะครับ

ต้องไปศาลวันอังคารหน้าครับ
หนี บัตรสินเชื่อกรุงศรี สำนักงาน TCC

ใครมีคำแนะนำเรื่องการคุยกับศาลบ้างครับ

ขอบคุณมากครับ

ผ่านมาเกือบสามอาทิตย์ละ ไปศาลมา แต่ก็ยังมึนงงอยู่นะครับ

คือ เรื่องมันประมาณนี้นะครับ

พอได้รับหมายศาลก็ไปตามเวลาครับ เก้าโมงเช้า ไปถึงก็ ไปเจอเจ้าหน้าที่ศาล เจ้าหน้าเช็คชื่อ แล้วให้ไปห้องไกล่เกลี่ย เจ้าหน้าที่ในห้องไกล่เกลี่ยเชคชือและให้นั่งรอทนายความ
พอทนายมาก็พยามยามคุยเรื่องการผ่อนจ่าย แล้วก็ให้ผมโทรคุยกับ หัวหน้าสำนักงานกฏหมายที่กทม อีกคนหนึ่งทางโทรศัพท์
ปรากฎว่า การขอผ่อนสามปี อาจจะไม่ได้ และต้องเริ่มผ่อนสิ้นเดือนนี้ ดอกเบี้ย 7.5 ผมก็คิดว่าไม่พร้อม

ทางหัวหน้าสนงกฏหมาย เลยบอกให้ศาลตัดสินดีกว่า จะได้หยุดดอกเบี้ย แต่จ่ายปีเดียวและมีส่วนลดนิดหน่อย
และถ้าจ่ายไม่ไหวภายในหนึ่งปีค่อยมาต่อสัญญาใหม่แต่จะมีการคิดดอกเบี้ยหากสัญญาขยาย ผมก็เลยคิดว่า ให้ศาลตัดสินก็ได้ (เพราะคิดว่าไหนๆ ก็มาแล้ว เจอศาลก็ดี)

พอตกลแบบนั้นทางโทรศัพท์ หัวสนงกฏหมายโทรคุยกับทนายความ ทนายที่อยู่ที่นั้นก็ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ และบอกว่า ผมยังไม่มีงานทำ คงยังจ่ายอะไรไม่ได้ ให้ศาลพิพากษาดีกว่า

เจ้าหน้าทีห้องไกล่เกลี่ยดูเอกสารจากทนายความ แล้วก็บอกผมว่ากลับบ้านได้ ให้รอจดหมายอีกสองเดือนแล้วค่อยเอาไปติดต่อ ธนาคารกรุงศรี
ผมไม่ได้เจอศาลเลยวันนี้ ทำไมไม่เหมือนที่คนอื่นๆ บอกครับ คนที่บอกผมคือเจ้าหน้าทีครับ ไม่ใช่ทนาย
แต่ผมยังไม่ได้เซ็นเอกสารอะไรเลยนะครับ เขาบอกให้กลับก็กลับ