รู้ตัวอีกที เป็นหนี้เกือบล้าน .. คิดอยากจะหยุดจ่ายแล้วเริ่มสู้ใหม่

ขอสัก 50% ครับ บอกมีแค่นี้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ได้เมื่อไหร่ค่อยโทรมาบอกล่ะกัน
หรือถ้าลดไม่ได้ ขอผ่อนจ่ายนะ 3-6 เดือน ถ้าคนตามบอกไม่ได้ เราก็ค่อยถามต่อแล้วได้กี่เดือนล่ะ ( เอาแบบต่อเวลาซื้อของอ่ะครับ )
ก่อนวางหู ให้แจ้งคนตามหนี้ บอกขอระบุเวลาในการโทรหน่อย เวลาทำงานปกติที่ทำงานเค้าไม่ให้เอาโทรศัพท์ติดตัว ขอระบุเวลาโทรตามหนี้นะ ขอเป็น 5-6 โมงเย็น ย้ำขอเป็นไปตามเวลาที่แจ้งไว้นะคะ ( ถ้าโทรมาเวลาอื่น (ผมด่ากลับอ่ะครับ คุณไม่ได้บันทึก หรือคุณไม่ได้ดูบันทึกการตามหรอว่า ระบุเวลา 5-6 โมง )
ยอดหนี้เมื่อ 2 ปี 1 เดือนก่อนผมมีราวๆ 1.5 ล้าน เฉพาะบัตรนะครับ ตอนนี้ผมเหลือ 2 ใบเอง สิ้นเดือนนี้ก็ปิดอีกใบ มีคนเยอะว่าคุณอีกมากมาย สู้ๆนะครับ วางแผนดีๆ และอดทน กับมัน แล้วมันจะผ่านไปครับ เอาใจช่วยครับ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำและกำลังใจ
เจ้าหน้าที่คิดต่อมาแล้วค่ะ บอกว่ายังงัยก็ลดไม่ได้แล้ว ถ้าแบ่งจ่าย ยอดก็สูงขึ้น ส่วนลดน้อยลง
ก็ยังแอบคิดว่าน่าสนใจ 555 ใจเราก็อยากให้จบซักตัวก็ยังดี 555

แต่ตอนนี้เพิ่งได้จดหมายจาก ktc (ยอดรวม3ใบ : 12x,xxxx) และ tmb ( 118,xxx) ให้จ่ายภายใน20วัน ลงนามโดยทนาย เริ่มหวั่นๆว่าจะได้หมายศาลจาก2เจ้านี้ภายในเดือนหน้าละคะ

2แบงค์นี้ผมเจอมาถือว่าฟ้องไวนะครับ

23 ธ.ค.59 สำนักงานศาลยุติธรรม แถลงผลการดำเนินคดี
ของศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ประจำปี 2559
คดีแพ่ง ช่วง 10 เดือน แรก จำนวนคดี ถ้าทุนทรัพย์คดีละ รวมทุนทรัพย์
1 ของปี 2559 พบว่ามี 993,229 50,000 49,661,450,000
2 ส่วนปี 2558 อยู่ที่ 750,692 50,000 37,534,600,000
3 รวม 2 ปี จำนวน 1,743,921 50,000 87,196,050,000
แปดหมื่นเจ็ดพันล้าน
คดีแพ่ง ช่วง 10 เดือน แรก จำนวนคดี ถ้าทุนทรัพย์คดีละ รวมทุนทรัพย์
1 ของปี 2559 พบว่ามี 993,229 100,000 99,322,900,000
2 ส่วนปี 2558 อยู่ที่ 750,692 100,000 75,069,200,000
3 รวม 2 ปี จำนวน 1,743,921 100,000 174,392,100,000
หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นล้าน
คดีแพ่ง ช่วง 10 เดือน แรก จำนวนคดี ถ้าทุนทรัพย์คดีละ รวมทุนทรัพย์
1 ช่วง 10 เดือน แรก จำนวนคดี ถ้าทุนทรัพย์คดีละ รวมทุนทรัพย์
2 ของปี 2559 พบว่ามี 993,229 150,000 148,984,350,000
3 ส่วนปี 2558 อยู่ที่ 750,692 150,000 112,603,800,000
รวม 2 ปี จำนวน 1,743,921 150,000 261,588,150,000
สองแสนหกหมื่นล้าน
1 คดีแพ่ง จำนวนคดี ถ้าทุนทรัพย์คดีละ รวมทุนทรัพย์
2 ของปี 2559 พบว่ามี 993,229 200,000 198,645,800,000
3 ส่วนปี 2558 อยู่ที่ 750,692 200,000 150,138,400,000
รวม 2 ปี จำนวน 1,743,921 200,000 348,784,200,000
สามแสนสี่หมื่นล้าน

update ค๊า

ช่วงที่ไม่อยู่ ติดต่อไม่ได้2อาทิตย์
ที่บ้านบอกว่ามีเจ้าหน้าที่ TMB มาถึงบ้านเลย
ตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย

แต่มีเรื่องที่ดีใจคือ haircut ปิดไปแล้ว 1 ตัว
Krunsri Dreamloan ยอดปัจจุบันราวๆ 74,000 ปิดยอดเรียบร้อยแล้ว สิ้นเดือน ม.ค.60
ขอ HC ไป ได้ลดราวๆ 46% ปิดจบที่ยอด 40,000 งวดเดียว พอใจค่ะ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดีมาก
ตอนนี รอใบปิดบัญชี

เจอเรื่องดีไป ก็ได้เจอเรื่องที่เหมือนรอคอยมาซักพัก คือได้รับหมายศาล KTC มาแล้ว ยอดหยุดราวๆ 103,348 (3ใบ) ยอดฟ้องปาไป 120,000กว่าๆ ไปศาลต้นเดือนหน้าค่ะ แอบตื่นเต้น ระหว่างนี้ก็จะหาข้อมูลในเพจต่อไป
แต่พอจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว คิดว่าจะยอมความหน้าศาลแล้วขอผ่อนจ่ายแบบดอกเบี้ยขั้นบันได แบบที่ 2 ปีแรก เราจะได้เก็บเงินสำหรับจ่ายเจ้าอื่นไปด้วย

มีความตั้งใจจริงๆ อยากปิดหนี้ทุกตัวให้ได้ภายใน 2 ปีนี้
ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ

KimmyChan เขียน: update ค๊า

เจอเรื่องดีไป ก็ได้เจอเรื่องที่เหมือนรอคอยมาซักพัก คือได้รับหมายศาล KTC มาแล้ว ยอดหยุดราวๆ 103,348 (3ใบ) ยอดฟ้องปาไป 120,000กว่าๆ ไปศาลต้นเดือนหน้าค่ะ แอบตื่นเต้น ระหว่างนี้ก็จะหาข้อมูลในเพจต่อไป
แต่พอจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว คิดว่าจะยอมความหน้าศาลแล้วขอผ่อนจ่ายแบบดอกเบี้ยขั้นบันได แบบที่ 2 ปีแรก เราจะได้เก็บเงินสำหรับจ่ายเจ้าอื่นไปด้วย

มีความตั้งใจจริงๆ อยากปิดหนี้ทุกตัวให้ได้ภายใน 2 ปีนี้
ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ

มารอติดตามเรื่อง ktc เหมือนกันค่ะ ของเจ้าอื่นรู้สึกไม่กังวลเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะคุยกันจบทางโทรศัพท์ แต่ ktc ส่วนใหญ่จะขึ้นศาล แอบกังวลเหมือนกัน

KimmyChan เขียน: update ค๊า

ช่วงที่ไม่อยู่ ติดต่อไม่ได้2อาทิตย์
ที่บ้านบอกว่ามีเจ้าหน้าที่ TMB มาถึงบ้านเลย
ตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย

แต่มีเรื่องที่ดีใจคือ haircut ปิดไปแล้ว 1 ตัว
Krunsri Dreamloan ยอดปัจจุบันราวๆ 74,000 ปิดยอดเรียบร้อยแล้ว สิ้นเดือน ม.ค.60
ขอ HC ไป ได้ลดราวๆ 46% ปิดจบที่ยอด 40,000 งวดเดียว พอใจค่ะ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดีมาก
ตอนนี รอใบปิดบัญชี

เจอเรื่องดีไป ก็ได้เจอเรื่องที่เหมือนรอคอยมาซักพัก คือได้รับหมายศาล KTC มาแล้ว ยอดหยุดราวๆ 103,348 (3ใบ) ยอดฟ้องปาไป 120,000กว่าๆ ไปศาลต้นเดือนหน้าค่ะ แอบตื่นเต้น ระหว่างนี้ก็จะหาข้อมูลในเพจต่อไป
แต่พอจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว คิดว่าจะยอมความหน้าศาลแล้วขอผ่อนจ่ายแบบดอกเบี้ยขั้นบันได แบบที่ 2 ปีแรก เราจะได้เก็บเงินสำหรับจ่ายเจ้าอื่นไปด้วย

มีความตั้งใจจริงๆ อยากปิดหนี้ทุกตัวให้ได้ภายใน 2 ปีนี้
ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ

ลองอ่านเรื่อง ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

การทำสัญญาประนีประนอมยอมความ มีข้อจำกัด และข้อพึงระวังหลายอย่างนะครับ
ลองพิจารณาดู

สู้ๆนะครับ (^_-)

จอยสู้หนี้ เขียน:

KimmyChan เขียน: update ค๊า

เจอเรื่องดีไป ก็ได้เจอเรื่องที่เหมือนรอคอยมาซักพัก คือได้รับหมายศาล KTC มาแล้ว ยอดหยุดราวๆ 103,348 (3ใบ) ยอดฟ้องปาไป 120,000กว่าๆ ไปศาลต้นเดือนหน้าค่ะ แอบตื่นเต้น ระหว่างนี้ก็จะหาข้อมูลในเพจต่อไป
แต่พอจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว คิดว่าจะยอมความหน้าศาลแล้วขอผ่อนจ่ายแบบดอกเบี้ยขั้นบันได แบบที่ 2 ปีแรก เราจะได้เก็บเงินสำหรับจ่ายเจ้าอื่นไปด้วย

มีความตั้งใจจริงๆ อยากปิดหนี้ทุกตัวให้ได้ภายใน 2 ปีนี้
ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ

มารอติดตามเรื่อง ktc เหมือนกันค่ะ ของเจ้าอื่นรู้สึกไม่กังวลเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะคุยกันจบทางโทรศัพท์ แต่ ktc ส่วนใหญ่จะขึ้นศาล แอบกังวลเหมือนกัน

ตอนแรกๆ ก็กังวลค่ะ แต่จริงๆ รอหมายศาลมาซักพักแล้ว ทำใจได้ในระดับนึง ตอนนี้ก็ต้องศึกษาเรื่องขึ้นศาลเยอะๆ เพราะว่ามันต้องเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองและคิดว่ารับมือได้ดีที่สุด เท่าที่อ่านมา การขึ้นศาลไม่น่ากลัวแบบที่คิด พยายามคิดบวกว่า ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสอะไรแบบนี้ 5555 (แต่ไม่ต้องบ่อยละกัน ให้พอเป็นประสบการณ์ชีวิต ) เดี๋ยวถ้าไปศาลแล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังค๊า สู้ๆ ไปด้วยกันนะคะ

Hippocrite เขียน:

ลองอ่านเรื่อง ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

การทำสัญญาประนีประนอมยอมความ มีข้อจำกัด และข้อพึงระวังหลายอย่างนะครับ
ลองพิจารณาดู

สู้ๆนะครับ (^_-)

ขอบคุณมากค่ะ ที่เตือนสติ ทำให้ได้หยุดคิดเหมือนกัน เพราะว่าถ้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความ 1 ครั้ง ในการขึ้นศาลครั้งต่อไป มันไม่เวิร์คที่จะทำสัญญาตัวนี้อีกรอบกับเจ้าหนี้เจ้าอื่นใช่มั้ยคะ ..
ปกติแล้ว ถ้าเราขอความเมตตาจากศาล ในการลดหย่อนดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่ใช่เงินต้น และให้ศาลพิจารณาคดีไปเลย ศาลจะพิจารณาคดีจากตัวคำร้องของโจทย์ คือ ต้องการให้เราคืนเงินทั้งหมด รวมดอกเบี้ย และ ค่าฤชา ค่าทนายความโจทย์ แล้วเราต้องคุยกับโจทย์ในเรื่องการชำระเองใช่มั้ย แล้วข้อเสนอต่างๆเช่นการผ่อนชำระ 36 เดือน ยังมีอยู่หลังจากศาลพิจารณาคดีไปแล้วใช่มั้ยคะ

KimmyChan เขียน: ขอบคุณมากค่ะ ที่เตือนสติ ทำให้ได้หยุดคิดเหมือนกัน เพราะว่าถ้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความ 1 ครั้ง ในการขึ้นศาลครั้งต่อไป มันไม่เวิร์คที่จะทำสัญญาตัวนี้อีกรอบกับเจ้าหนี้เจ้าอื่นใช่มั้ยคะ ..
ปกติแล้ว ถ้าเราขอความเมตตาจากศาล ในการลดหย่อนดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่ใช่เงินต้น และให้ศาลพิจารณาคดีไปเลย ศาลจะพิจารณาคดีจากตัวคำร้องของโจทย์ คือ ต้องการให้เราคืนเงินทั้งหมด รวมดอกเบี้ย และ ค่าฤชา ค่าทนายความโจทย์ แล้วเราต้องคุยกับโจทย์ในเรื่องการชำระเองใช่มั้ย แล้วข้อเสนอต่างๆเช่นการผ่อนชำระ 36 เดือน ยังมีอยู่หลังจากศาลพิจารณาคดีไปแล้วใช่มั้ยคะ

ตามที่ผมเข้าใจคดีใครคดีมันนะครับ ผู้พิพากษาท่านพิจารณาจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนั้นๆเท่านั้น คงไม่เอาผลจากคดีอื่นเจ้าหนี้รายอื่นมาพิจารณา ในสำนวนจะบอกชัดเจนว่าบัญชีใดค้างเท่าไร เริ่มผิดชำระเมื่อไร

แต่สิ่งที่อยากให้หยุดคิดคือ หากเราทำสัญญาประนีประนอมยอมความไปแล้ว เราต้องดูว่าเราไหวตามสัญญาใหม่นี้มั้ย เพราะหากไม่ไหวก็ไม่ควรทำ เพราะเจ้าหนี้มันจะไม่ลดอะไรให้เลย จะใส่หนี้ทั้งหมดลงมา คุณจะได้ประโยชน์แค่ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ไม่เกินอัตราตามกฎหมายคือ 15% เท่านั้น จึงเหมาะกับคนที่มีภาระหนี้ก้อนสุดท้าย ซึ่งหากจ่ายไม่ไหวจริงๆ เราก็ใช้วิธีหักคอจ่าย แต่ก็ไม่รับประกันว่าเจ้าหนี้จะไม่ยื่นบังคับคดีนะครับ และหากคุณไปทำสัญญาประนีประนอมเยอะๆทก็ต้องผ่อนนานๆ หลายใบ สุดท้ายก็จะวนกลับมา loop เดิมอีกอยู่ดี อันนี้ต้องคิดให้ดีครับ

ส่วนการจะขอ H/C สามารถทำได้ทุกเวลา เป็นเรื่องระหว่างเรากับเจ้าหนี้ ศาลท่านไม่มาดูแล้วครับ อีกทีก็เป็นเรื่องการบังคับคดีเลย ดังนั้นการทำ H/C ก็สามารถทำได้หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลไปแล้วด้วย ถ้าจะมองว่าเราไม่ไหวแน่ๆ การหักคอจ่ายหลังทำสัญญาประนีประนอมฯก็เป็นการชะลอ ไม่ให้เจ้าหนี้บังคับคดีเท่านั้นเองครับ เหมือนการบังคับจ่ายหยอดทุกเดือนไม่ให้ขาด เพราะเงินต้นจะลดน้อยมาก แต่เราก็มีเวลาเก็บเงินก้อนเพื่อขอ H/C ได้เหมือนกัน ประมาณนี้น่ะครับ (^_-)

อันนี้เท่าที่ผมได้อ่านๆมา ลองศึกษาจากต้นแหล่ง ตามกระทู้ปักหมุด ตามห้องกฎหมายประกอบด้วยนะครับ
อย่างไรสู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ (^_-)

Hippocrite เขียน:

KimmyChan เขียน: ขอบคุณมากค่ะ ที่เตือนสติ ทำให้ได้หยุดคิดเหมือนกัน เพราะว่าถ้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความ 1 ครั้ง ในการขึ้นศาลครั้งต่อไป มันไม่เวิร์คที่จะทำสัญญาตัวนี้อีกรอบกับเจ้าหนี้เจ้าอื่นใช่มั้ยคะ ..
ปกติแล้ว ถ้าเราขอความเมตตาจากศาล ในการลดหย่อนดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่ใช่เงินต้น และให้ศาลพิจารณาคดีไปเลย ศาลจะพิจารณาคดีจากตัวคำร้องของโจทย์ คือ ต้องการให้เราคืนเงินทั้งหมด รวมดอกเบี้ย และ ค่าฤชา ค่าทนายความโจทย์ แล้วเราต้องคุยกับโจทย์ในเรื่องการชำระเองใช่มั้ย แล้วข้อเสนอต่างๆเช่นการผ่อนชำระ 36 เดือน ยังมีอยู่หลังจากศาลพิจารณาคดีไปแล้วใช่มั้ยคะ

ตามที่ผมเข้าใจคดีใครคดีมันนะครับ ผู้พิพากษาท่านพิจารณาจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนั้นๆเท่านั้น คงไม่เอาผลจากคดีอื่นเจ้าหนี้รายอื่นมาพิจารณา ในสำนวนจะบอกชัดเจนว่าบัญชีใดค้างเท่าไร เริ่มผิดชำระเมื่อไร

แต่สิ่งที่อยากให้หยุดคิดคือ หากเราทำสัญญาประนีประนอมยอมความไปแล้ว เราต้องดูว่าเราไหวตามสัญญาใหม่นี้มั้ย เพราะหากไม่ไหวก็ไม่ควรทำ เพราะเจ้าหนี้มันจะไม่ลดอะไรให้เลย จะใส่หนี้ทั้งหมดลงมา คุณจะได้ประโยชน์แค่ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ไม่เกินอัตราตามกฎหมายคือ 15% เท่านั้น จึงเหมาะกับคนที่มีภาระหนี้ก้อนสุดท้าย ซึ่งหากจ่ายไม่ไหวจริงๆ เราก็ใช้วิธีหักคอจ่าย แต่ก็ไม่รับประกันว่าเจ้าหนี้จะไม่ยื่นบังคับคดีนะครับ และหากคุณไปทำสัญญาประนีประนอมเยอะๆทก็ต้องผ่อนนานๆ หลายใบ สุดท้ายก็จะวนกลับมา loop เดิมอีกอยู่ดี อันนี้ต้องคิดให้ดีครับ

ส่วนการจะขอ H/C สามารถทำได้ทุกเวลา เป็นเรื่องระหว่างเรากับเจ้าหนี้ ศาลท่านไม่มาดูแล้วครับ อีกทีก็เป็นเรื่องการบังคับคดีเลย ดังนั้นการทำ H/C ก็สามารถทำได้หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลไปแล้วด้วย ถ้าจะมองว่าเราไม่ไหวแน่ๆ การหักคอจ่ายหลังทำสัญญาประนีประนอมฯก็เป็นการชะลอ ไม่ให้เจ้าหนี้บังคับคดีเท่านั้นเองครับ เหมือนการบังคับจ่ายหยอดทุกเดือนไม่ให้ขาด เพราะเงินต้นจะลดน้อยมาก แต่เราก็มีเวลาเก็บเงินก้อนเพื่อขอ H/C ได้เหมือนกัน ประมาณนี้น่ะครับ (^_-)

อันนี้เท่าที่ผมได้อ่านๆมา ลองศึกษาจากต้นแหล่ง ตามกระทู้ปักหมุด ตามห้องกฎหมายประกอบด้วยนะครับ
อย่างไรสู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ (^_-)

ขอบคุณมากๆ ค่ะสำหรับคำอธิบายที่ละเอียดและเข้าใจง่าย
ตอนนี้ก็พยายามอ่านและหาข้อมูลเยอะๆ จะได้เลือกทางที่ตัวเองรับมือได้ไหวและตลอดรอดฝั่งค่ะ

อัพเดทค่ะ

KTC : ขึ้นศาลเมื่อวานนี้ค่ะ ด้วยยอดฟ้องราวๆ 126,xxx (จากยอดหยุดทั้ง3ใบรวมกันแล้ว 107,xxx)
เจอมหกรรมไกล่เกลี่ย และคิดไว้แล้วว่ามีปัญญาจ่ายให้เจ้านี้แบบไหน
ยอมลดยอดเหลือ 120,000 (ลดแค่ดอกราวๆ 30%เท่านั้น)
จบที่ผ่อน 36เดือน ดอกเบี้ยปีละ 10% เดือนละ700บาทต่อบัญชี (3บช.)รวมจ่ายเดือนละ 2,100 บาท เริ่มจ่ายต้นเมษา59

CitiAdvance : คุยกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เดือนกุมภา ตกลงกันที่ 95,000บาท (จากยอดจริงณ.ปัจจุบันรวมดอกเบี้ยราวๆ 186,xxx) ค่อนข้างพอใจค่ะ แต่... สิ้นกุมภาไม่สามารถเริ่มจ่ายได้ทันที หาเงินไม่ทันจริงๆ
เจ้าหน้าที่เลยเสนอให้จ่ายเดือนกุมภาตามยอดบิลต่อเดือนคือ ห้าพันกว่าบาทก่อน แล้วเดือนมีนาค่อยh/c ขอที่90,000แทนยอดเดิม ซึ่งก็โอเคค่ะ เป็นไปตามที่คุยไว้ทุกอย่าง ได้ใบh/cมาแล้วค่ะ ความโหดอยู่ที่การผ่อนจ่ายได้สูงสุดแค่3เดือนเท่านั้น เลยขอแบบขี้นบันไดไปและเดือนสุดท้ายจ่ายก้อนใหญ่ ซึ่งตอนนี้ก็ภาวนา อย่าให้มีหมายฟ้องมาเพิ่มก่อน อยากให้พ้น3เดือนนี้ไปก่อนอ่าา

FC : ยอดราวๆจะ80,000แล้ว เสนอให้ส่วนลด 50% ยังไม่มีจ่ายเพราะตัดสินใจจ่ายก่อนใหญ่ที่มีแนวโน้มว่าจะโดนฟ้องก่อน

SCB : โทรมาอาทิตย์ละ1ครั้ง มีแต่เสนอปรับปรุงโครงสร้างหนี้

CIMB :โทรมาเดือนละครั้งได้

TMB : คุยกับเจ้าหน้าที่ครั้งล่าสุดปลายเดือนม.ค. เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากค่ะ เราบอกไปว่าอาจจะมีเงินก้อนกลางปี อยากปิดจริงๆ(ในใจบอกว่าอย่ารีบฟ้องเลยนะ) แล้วเค้าก็ไม่โทรมาอีกเลย กลัวละเนี้ย

มีคำถามค่ะ

SCB speedy loan ฟ้องเร็วสุดกี่เดือนคะ
พยายามหาข้อมูลแล้ว หาไม่เจอเลย
ตอนนี้ได้จดหมายสำนักงานกฎหมายระบุว่า
พยายามติดต่อแจ้งว่าเคสของเรากำลังถูกพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายแล้วแต่ติดต่อเราไม่ได้
ซึ่งจริงๆรับสายของเจ้านี่บ่อยสุดเลย 555 งงค่ะ

ผ่อน 3 บัตร 2100 x 36 เดือน = 75,600 แต่เราก็ต้องปิดยอดให้ครบ 120,000 ภายใน 3 ปี ใช่ไหมคะ

KTC : ขึ้นศาลเมื่อวานนี้ค่ะ ด้วยยอดฟ้องราวๆ 126,xxx (จากยอดหยุดทั้ง3ใบรวมกันแล้ว 107,xxx)
เจอมหกรรมไกล่เกลี่ย และคิดไว้แล้วว่ามีปัญญาจ่ายให้เจ้านี้แบบไหน
ยอมลดยอดเหลือ 120,000 (ลดแค่ดอกราวๆ 30%เท่านั้น)
จบที่ผ่อน 36เดือน ดอกเบี้ยปีละ 10% เดือนละ700บาทต่อบัญชี (3บช.)รวมจ่ายเดือนละ 2,100 บาท เริ่มจ่ายต้นเมษา59
อยากรบกวนสอบถามค่ะ


ที่ศาลตัดสินให้ผ่อน 3 บัตร 2100 x 36 เดือน = 75,600 แต่เราก็ต้องปิดยอดให้ครบ 120,000 ภายใน 3 ปี ใช่ไหมคะ[/quote]

thanji เขียน: ผ่อน 3 บัตร 2100 x 36 เดือน = 75,600 แต่เราก็ต้องปิดยอดให้ครบ 120,000 ภายใน 3 ปี ใช่ไหมคะ

ถูกต้องค่ะ

โดยระหว่างนี้ทางธนาคารมีหักดอกเบี้ย 10% ต่อปีออกจากยอดที่เราชำระทุกๆเดือนด้วย
ซึ่งเงินต้นน่าจะหายไปไม่ถึง 75,600
ที่เหลือจ่ายรอบบิลสุดท้ายค่ะ

หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ช่วงนี้
มีความรู้สึกว่าจะได้รับหมายศาลของ FC, SCB speedy อ่ะคะ ภายในเดือนหน้าละคะ
แต่ภายใน 3 เดือนนี้ จนถึงสิ้นเดือนพ.ค. 60 ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เพราะว่าทุ่มเงินปิดตัวเหนี้ก้อนที่ใหญ่ที่สุดแล้วได้ H/C ค่อนข้างเยอะก่อน
let it go ละคะ แล้วจะอัพเดทเป็นระยะๆ

KimmyChan เขียน: สวัสดีค่ะ

เพิ่งได้แวะเวียนมาอ่านกระทู้และเก็บข้อมูลเมื่อไม่นานนี้ค่ะ
เริ่มจากตัวเองมีบัครเครดิต 2-3 ใบ เมื่อ3-4ปีก่อน เงินเดือนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ใช้เยอะขึ้น ฟุ่มเฟื่อยและเกินตัวตลอด พอเริ่มรู้สึกต้องการเงินเยอะขึ้น ก็เริ่มไปกู้เงินพวก personal loan (เริ้มประมาณต้นปีที่แล้ว) เอาเงินไปโปีะบัตรบ้าง ลงทุนซื้อของมาขาย (ซึ่งขายไม่หมด จนเก็บเป้น stock จำนวนนึง) จนรู้สึกตัวอีกคือ ได้เงินเดือนมา ก็ต้องไปจ่ายหนี้ต่างๆ จนหมด (จ่ายบัตรขั้นต่ำ + จ่ายค่างวดสิ้นเชื่อ) แถมไม่พอจะจ่ายด้วยซ้ำ ก็เริ้มใช้บัตรกดเงินสุด จนตอนนี้ รู้สึกหนักอึ้ง พอกพูนแบบไม่จบสิ้น โดยที่พี่สาวและครอบครัวไม่มีใครรู้ (อยู่กับพี่สาวค่ะ ส่วนพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด) ปัญหาตอนนี้จะมีอยู่อีกเรื่อง เพราะเมื่อต้นปีรับปากไปเที่ยวเมืองนอกกับพี่สาวช่วงปลายปี ซึ่งค่าใช้จ่ายเราจ่ายไปแล้วมากกว่า 70% เหลืออีกประมาณ 40000ที่ต้องไปจ่ายหน้างาน เอาตรงๆ มีความรู้สึกไม่อยากไปแล้ว เพราะเราไม่อยากจ่ายเงินฟุ่มเฟื่อย แล้วก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายแล้ว ไม่แน่ใจว่าตอนนี้พร้อมหยุดจ่ายทุกสถาบันเลยหรือไม่ ถ้าเราไม่อยู่ไทย 2 อาทิตย์ ทางเจ้าหนี้อาจจะคิดว่าเราหนีหนี้หรือไม่ ไม่รู้จะทำยังงัยดี

ข้อมูลทั่วไป

เงินเดือน : 29,200 + OT 5000-10000
ค่าผ่อนรถ : 8000 บาท
ค่าใช้จ่ายทั่วไป : 6000 - 8000

---

รายการหนี้ทั้งหมด ณ.ปัจจุบัน (ที่เราทำใจรวบรววมเป็นครั้งแรก และช๊อคกับตัวเลขมากๆ )
*** ทุกยอดหยุดจ่ายพร้อมกันสิ้นเดือนก.ย.59 ***

KTC บัตรเครดิต 33, 962
KTC JCB บัตรเครดิตวงเงินเดียวกับบัตรบน 19,062
KTC Pround บัตรกดเงินสด 50,324

*** ของ KTC ขึ้นศาลแล้วต้นเดือน มีนาคม 2560 หลังจากที่หยุดจ่ายไป 5 เดือน ยอดฟ้องอยู่ที่ 126,xxx ลดเหลือ 120,000 ปิดจบที่จ่ายบัญชีละ 700 บาท/เดือน ระยะเวลา 36 เดือน ดอกเบี้ย 10% ต่อปี ***


SCB Credit 22,389
SCB Speedy Cash 90,000 (60งวดๆละ 2,670) ยอดปัจจุบัน 84,988

Krungsri บัตรเครดิต 40,587
1st choice (ผ่อนสินค้า่ +เงินสด งวดละ 3,315) ยอดปัจจุบัน 67,980
Krungsri personal loan 130000 (60งวดๆละ 3740 ) ยอดปัจจุบันประมาณ 107,000
Krunsri Dreamloan 60,000 (จ่ายงวดละ 1900) ยอดปัจจุบัน 74,000 +ดอกเบี้ย ปิดยอดเรียบร้อยแล้ว สินเดือน ม.ค.60 ด้วยยอด 40,000 งวดเดียวจบ
CitiBank สินเชื่อ 175,000 ยอดเงินต้น+ดอกเบี้ยปัจจุบัน 186,xxx[/strike] กำลัง H/C ยอดเหลือ 90,000 บาท ผ่อน 3 เดือน จบงวดสุดท้ายสิ้นเดือน พ.ค. 60
CitiBank บัตรเครดิต 23,200 ปิดยอดเรียบร้อยแล้ว
CiMB สินเชื่อ 120,000 ยอดเงินต้น+ดอกเบี้ยปัจจุบัน 158,077
TMB สินเชื่อ 150,00 ยอดเงินต้นปัจจุบัน 107,000
AEON สินเชื่อ 20,000 ปิดยอดเรียบร้อยแล้ว

**** มีความสงสัยเรื่องยอดปัจจุบัน ที่หลายๆคนลงในกระทู้เป้นยอดเงินต้น หรือ ยอดเงินที่บวกดอกเบี้ยแล้วอ่ะคะ ***


ตอนนี้ กำลังพยายามทำความเข้าใจว่า เมื่อเราพร้อมที่จะหยุดจ่าย เราต้องเจอกับอะไรบ้าง เราต้องสารภาพกับพี่สาวก่อนคนแรก ซึ่งอาจจะบ้านแตกเลยทีเดียว รวมถึงต้องเข้าไปพูดตรงๆ กับ HR หรือเพื่อนร่วมงานที่สนิท เรื่องทีอาจจะมีธนาคารโทรศัทพ์เข้ามาหาเราเยอะมาก เนื่องจากบ.เราค่อนข้างใหญ่พนักงานเยอะ ถามว่าเราอายมั้ย เราคงจะอาย แต่ก็ต้องยอมรับกับการกระทำของตัวเอง
เราควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีค่ะ เราควรจะหยุดจ่ายเมื่อไหร่
รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
ตอนนี้ เครียดมากๆ ค่ะ

เหมือนกันเลยค่ะ ทำใจรวบรวมตัวเลขแล้วก็ช็อกมากกก

สดๆร้อนๆ หมายศาลอันที่2 มาแล้วค่ะ
เป็นของ TMB ยอดฟ้องฟาดไป 14x,xxx สูงจนหน้าตกใจ
เพิ่งเคลียร์ของcitiหมดไปเกือบแสน ไม่มีเงินเก็บเลย T^T

แว่วๆจะมีหมายศาลมาอีก เป็นของ CIMB (ยอด 12x,xxx ) กับ บัตรเครดิตกรุงศรี (ยอด 49,xxx)
น้ำตาจะไหล เคลียร์ไม่ทันซักกะอย่าง

ต้องการคำแนะนำค่ะ

KimmyChan เขียน: สดๆร้อนๆ หมายศาลอันที่2 มาแล้วค่ะ
เป็นของ TMB ยอดฟ้องฟาดไป 14x,xxx สูงจนหน้าตกใจ
เพิ่งเคลียร์ของcitiหมดไปเกือบแสน ไม่มีเงินเก็บเลย T^T

แว่วๆจะมีหมายศาลมาอีก เป็นของ CIMB (ยอด 12x,xxx ) กับ บัตรเครดิตกรุงศรี (ยอด 49,xxx)
น้ำตาจะไหล เคลียร์ไม่ทันซักกะอย่าง

ต้องการคำแนะนำค่ะ

CIMB ก่อนฟ้องมีข้อเสนออะไรมั้ยครับ ? เจ้านี้ช่วงนี้เงียบๆบอกแต่จะฟ้องท่าเดียวเลย