หยุดจ่ายมาได้ 4 เดือนแล้วคะ ได้รับความสำเร็จจากยูแมะพลัส แล้ว มีเรื่องพรอมิสอยากปรึกษาคะ

สวัสดีคะ ติดตามกลุ่มมาได้หลายเดือนแล้วนะคะ และได้ทำตามคำแนะนำของกลุ่มจนตอนนี้ประสบความสำเร็จมาแล้ว 1 บ้ตร คือ บัตร ยูแมะพลัส จากยอด 52000 บาท ได้แฮร์คัท ที่ ยอด 10,000 บาท จ่ายครั้งเดียวระยะเวลาที่หยุด 4 เดือน แต่คือด้วยความที่มีค่อนข้างหลายบัตร สองคนกับสามี เลยมีเรื่องอยากจะสอบถามคะ
บัตรพรอมิส ยอด เงินต้น 58,368.99 บาท ดอกเบี้ยหลังจากที่หยุดมาได้ 3 เดือน 6,017 บาท ล่าสุด
ทางเจ้าหนี้โทรมาเสนอ การประนอมหนี้โดยให้แบ่งจ่าย เป็นงวด งวดละ 1,100 บาท 58 งวด โดยไม่มีดอกเบี้ย
ที่นี่มีเรื่องอยากสอบถามว่า เงื่อนไขนี้น่าสนใจมั้ยคะ เพราะว่าเท่าที่ศึกษามายังไม่เคยเห็นใครได้แฮร์คัทของ
พรอมิสเลย แล้วถ้าเรารอให้ฟ้องศาล แล้วเราตกลงจ่ายเราจะมีดอกเบี้ยมั้ยคะ เพราะตอนนี้กำลัง ลังเลคะว่าจะเอายังไงดี เคยถามทางพรอมิส เค้าแจ้งว่าไม่มีส่วนลดเงินต้นมีแต่ส่วนลดดอกเบี้ยครึ่งหนึ่งคะ

โชคดีไปอีกหนึ่งใบครับกับอีซี่บาย / ส่วนผมตอนนี้ กำลังรับมือกับ อีซี่บายอยู่ / มีวิธี รับมือเสนอไหมครับ

UMAY คนยอดหนี้เยอะๆได้ลดเยอะจัง อย่างผม 35000 ลดเต็มที่แค่ 10000 เดียวเอง แถมแบ่งจ่ายได้แค่ 3000 สองเดือน เดือนสุดท้ายจ่ายเต็ม ช่างมัน รอต่อไป


เป็นงวด งวดละ 1,100 บาท 58 งวด เท่ากับ 63800 คิดดีๆนะครับ ตั้ง 5 ปี

คะ ก็คิดว่าหนักเหมือนกันคะนานมาก แต่ถ้าจะจ่ายเยอะกว่านั้นเวลาก็สั่นลง แต่ก็กลัวส่งไม่ไหวอีก คือเลยไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไงดี
จะเล่าเรื่องของยูแมะนะคะ ช่วงแรกที่หยุดโทรมา สามถึงสี่เวลาเช้ากลางวันเย็นก่อนนอนกันเลยทีเดียว
พยามยามรับทุกสาย ยกเว้นไม่ไหวจริงๆ บอกว่าไม่มีคะ เงินไม่พอที่บ้านติดปัญหา ผลัดไปก่อนเรื่อยๆ ศึกษาข้อมูลจากเว็บเยอะๆคะช่วยเราได้มากเลย ในใจรับแบบไม่มีความกลัวอะคะ คิดแต่ว่าต้องสู้ๆ คนอื่นได้ เราก้อต้องได้คะแฮร์คัท มีวีนแตกใส่เหมือนกันนะคะบ้างครั้ง พอเราวีนไปครั้งหนึ่งนางจะเงียบไปเป็น อาทิตย์เลยคะ ได้ส่วนลดตั้งแต่เดือนที่สองที่หยุดแล้วคะ เสนอมาที่ 25,000 บาทแบ่งจ่าย 5 งวด แต่เราบอกว่าขอไปปรึกษาที่บ้านก่อน เพราะลำพังเงินเดือนตอนนี้ไม่พอจ่ายแน่นอนคะ เค้าเลยบอกว่าจะโทรมาฟังคำตอบถัดจากนั้นไปหนึ่งอาทิยต์พอโทรมาเราบอกว่าไม่ไหวคะ ที่บ้านจะช่วยได้ 15,000 บาท ทางบริษัทบอกว่าเยอะเกินไปให้ไม่ได้แล้ว แล้วเราจะไม่ได้ส่วนลดอีก เราก้อเลยบอกคะยอมรับสภาพคะ ผ่านไปอีกสองเดือนก้อรับสายกันมาเรื่อยๆ นางก้อโทรมาเสนอส่วนลดอีกรอบที่ โดยให้เราที่ 15,000 บาท แบ่งจ่าย 5 งวด ตอนนั้นนะคะ เราต้องบอกก่อนว่าเราหยุดของสามีด้วยยอดเท่าๆกัน แล้วเป็นโชคดีของเราที่สามีรับโทรศัพท์ตอนเช้า ต่อรองได้ ที่ 10,000 บาท แบ่งจ่าย 2 งวด เราเค้าโทรมาตอนเที่ยง เราเลยบอกว่าขอปรึกษาที่บ้านก่อน ให้โทรเข้ามาอีกที่ 4 โมงเย็น ตอนเย็น เราเลยขอต่อรองไปว่า ขอปิดงวดเดียว ด้วยยอด 10,000 บาทคะ นางบอกว่าขอเอาถามหัวหน้าให้ สรุปก้อเลยได้ปิดวันนั้นเลย 10,000 บาท งวดเดียว โดยให้เราไปเอาเอกสาร แฮร์คัท ที่สาขาเลย และทำจ่ายทันทีคะ

สุดยอดเลยครับ

ต่อไปต้องมีวินัยกับการใช้เงินให้มากขึ้น

จะได้ไม่ต้องกลับคืนสู่ วังวน แบบนี้อิก

เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ

ส่วนผมยังต้องสู้มันต่อไป

Noolek9828 เขียน: สวัสดีคะ ติดตามกลุ่มมาได้หลายเดือนแล้วนะคะ และได้ทำตามคำแนะนำของกลุ่มจนตอนนี้ประสบความสำเร็จมาแล้ว 1 บ้ตร คือ บัตร ยูแมะพลัส จากยอด 52000 บาท ได้แฮร์คัท ที่ ยอด 10,000 บาท จ่ายครั้งเดียวระยะเวลาที่หยุด 4 เดือน แต่คือด้วยความที่มีค่อนข้างหลายบัตร สองคนกับสามี เลยมีเรื่องอยากจะสอบถามคะ
บัตรพรอมิส ยอด เงินต้น 58,368.99 บาท ดอกเบี้ยหลังจากที่หยุดมาได้ 3 เดือน 6,017 บาท ล่าสุด
ทางเจ้าหนี้โทรมาเสนอ การประนอมหนี้โดยให้แบ่งจ่าย เป็นงวด งวดละ 1,100 บาท 58 งวด โดยไม่มีดอกเบี้ย
ที่นี่มีเรื่องอยากสอบถามว่า เงื่อนไขนี้น่าสนใจมั้ยคะ เพราะว่าเท่าที่ศึกษามายังไม่เคยเห็นใครได้แฮร์คัทของ
พรอมิสเลย แล้วถ้าเรารอให้ฟ้องศาล แล้วเราตกลงจ่ายเราจะมีดอกเบี้ยมั้ยคะ เพราะตอนนี้กำลัง ลังเลคะว่าจะเอายังไงดี เคยถามทางพรอมิส เค้าแจ้งว่าไม่มีส่วนลดเงินต้นมีแต่ส่วนลดดอกเบี้ยครึ่งหนึ่งคะ

58 เดือน คือ เกือบ 5 ปี ในชมรมนี้ เรียกว่า สัญญาทาสครับ เก็บเงินไว้ทำ H/C ดีกว่า

เพื่อเป็นข้อมูลศาลพิพากษาแล้วก็ยังมีดอกเบี้ย แต่เป็นดอกเบี้ยตามกฎหมายที่ไม่เกิน 15% ต่อปีครับ

ลองศึกษาจากกระทู้เก่าๆ เพิ่มเติมดู สู้ๆครับ (^_-)

พรอมิส หยุดเข้ารอบบิลที่2 ค่ะ ยอดหนี้18,XXX โทรมารับบ้างไม่รับบ้าง จะให้จ่ายขั้นต่ำตลอด ล่าสุดตอนนี้ส่งข้อความเข้ามาว่าจะหักเงินบัญชีแล้วค่ะ ใครเจอมาบ้างค่ะแชร์ได้ค่ะ แนบตัวอย่างมาด้านล่างให้ดูคะ

ยินดีด้วยครับ ยอดพอๆกับผมเลย แต่ผมหยุดมา 6 เดือนแล้ว
ลดได้เหลือ 20000 เองครับ แต่ผมยังไม่จ่ายครับ เพราะคิดว่าลดได้อีก

ยูแมะยังสามารถลดได้อีกคะ รอก่อนได้เลยคะ แต่ว่าต้องพยามพูดบ่อยๆว่าเราจะปิดบัญชี เค้าจะได้เสนอมาเรื่อยๆคะ
ตอนนี้ทางตัวเราเองก้อยังหนักอยู่คะ
บัตรกสิกร ยอด 96,000 บาท หยุดได้ 3 รอบบิลแล้ว วันนี้โทรมาเลยบอกว่าไม่มีคะ ถ้ามีจะเข้าไปจ่ายนะคะ
บัตรเอมันนี่ บอกว่าถ้าไม่จ่ายจะส่งเรื่องให้ทนาย ยอด 29600 เราเลยบอกว่าทำตามระบบได้เลยคะ ไม่รู้ว่ายอดเท่านี้ฟ้องได้มั้ยคะ
บัตรพรอมิส เงี่ยบไปเป็นอาทิตย์แล้วคะ คุยยังไงก้อไม่ยอมลดไม่ยอมอะไรเลย เรื่องที่หักเงินจากบัญชี
ตอนแรกที่ทำบัตรนี้ก้อหักจากบัญชีนะคะ หักอัตโนมัติ แต่ว่าพอเราตัดสินใจว่าจะไม่จ่าย เราก้อไปเปิดบัญชีเงินเดือนใหม่แบงค์เดิม เลิกใช้ที่เราเซ็นต์ยินยอดให้เค้าหักบัญชีอะคะ ก้อไม่มีปัญหานะคะ

สู้ต่อไปคะ บัตรนี้ลดเยอะคะ บัตรยูแมะนะคะ
บัตรอื่นก้อยังต้องสู้เหมือนกันคะ

สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
ยูเมะยอด 150,000 จ่ายขั่นต่ำแล้วกดออกทุกเดือน เป็นเวลา3-4ปีแล้วค่ะ
จะเริ่มหยุดเดือนหน้านี้ เพราะไม่ไหวแล้ว **เพิ่งเข้ามาผศึกษาข้อมูลในชมรมฯ ได้5วันแล้วค่ะ อ่านจนถึงตี2-3 กลางวันก็อ่านตลอด

ขั้นตอนต่อรอง Haircut เนี่ยคือเริ่มเจรจาได้ตอนไหนครับ หลังหยุดกี่เดือนหรือ ต้องรอไปศาลก่อนครับ สงสัย

ข้อ ๒. ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ข้อตกลงในสัญญาระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้า หรือในสัญญาสำเร็จรูป ที่ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ในกรณีที่มีข้อสงสัยให้ตีความสัญญาสำเร็จรูปไปในทางที่เป็นคุณแก่ฝ่ายซึ่งมิได้เป็นผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูปนั้น ข้อตกลงที่มีลักษณะ หรือมีผลให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ปฏิบัติหรือรับภาระเกินกว่าที่วิญญูชนจะพึงคาดหมายได้ตามปกติ เป็นข้อตกลงที่อาจถือได้ว่า ทำให้ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น (๒) ข้อตกลงให้ต้องรับผิดหรือรับภาระมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๔ ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละ ๑๕ ต่อปี ตามคำฟ้องข้อ ๒. โจทก์พิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้จำเลยรวม ๓ ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๔ จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ จำนวน ๑๑,๐๐๐ บาท ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๙ จำนรวน ๔๘,๐๐๐ บาท โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี รวมกันเป็นอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ซึ่งเป็นดอกเบี้ยตามพจนานุกรมทั้งสิ้น จึงเป็นข้อตกลงให้จำเลยต้องรับผิดหรือรับภาระมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๔ เป็นข้อตกลงที่ถือได้ว่า ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้าและผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบจำเลยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร จึงเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ข้อ ๓. ทำให้โจทก์ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร จึงจำเป็นต้องคำนวณดังนี้ ๓.๑ กู้เงินครั้งที่ ๑ จำเลยได้จัดทำตารางที่ ๑ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๑๓% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๕๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๓ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๕๐๐ บาท รวม ๑๑๗ เดือน และเดือนที่ ๑๑๘ เดือนสุดท้าย ชำระ ๒๐๕.๔๕ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๕๘,๗๐๕.๔๕ บาท (๒๙๓.๕๓% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๒๐,๗๓๕.๐๖ บาท (๑๐๓.๖๘% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๑๓ ต่อปี เป็นเงิน ๑๗,๙๗๐.๓๙ บาท (๘๙.๘๕% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินทั้งสิ้น ๓๘,๗๐๕.๔๕ บาท (๑๙๓.๕๓% ของเงินต้น) ๓.๒ กู้เงินครั้งที่ ๑ จำเลยได้จัดทำตารางที่ ๒ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๐% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๕๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๔ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๕๐๐ บาท รวม ๕๕ เดือน และเดือนที่ ๕๖ เดือนสุดท้าย ชำระ ๓๙๙.๓๒ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๒๗,๘๙๙.๓๒ บาท (๑๓๙.๕๐% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๗.๘๙๙.๓๒ บาท (๓๙.๕๐% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๐ ต่อปี เป็นเงิน ๐.๐๐ บาท (๐% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) เปรียบเทียบ ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๗,๘๙๙.๓๒ บาท (๑๐๐%) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินรวมกันร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๓๘,๗๐๕.๔๕ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๔๘๙.๙๘% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อตกลงที่ถือได้ว่า ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้าและผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบจำเลยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควรเป็นอันมากถึงอัตราร้อยละ ๔๘๙.๙๘% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ๓.๓ กู้เงินครั้งที่ ๒ จำเลยได้จัดทำตารางที่ ๓ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๑๑,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๑๓% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๓๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๕ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๓๐๐ บาท รวม ๘๓ เดือน และเดือนที่ ๘๔ เดือนสุดท้าย ชำระ ๒๖๖.๒๔ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๒๕,๑๖๖.๒๔ บาท (๒๒๘.๗๘% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๗,๕๘๙.๐๖ บาท (๖๘.๙๙% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๑๓ ต่อปี เป็นเงิน ๖,๕๗๗.๑๘ บาท (๕๙.๗๙% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๑๑,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินทั้งสิ้น ๑๔,๑๖๖.๒๔ บาท (๑๒๘.๗๘% ของเงินต้น) ๓.๔ กู้เงินครั้งที่ ๒ จำเลยได้จัดทำตารางที่ ๔ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๑๑,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๐% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๓๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๖ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๓๐๐ บาท รวม ๔๙ เดือน และเดือนที่ ๕๐ เดือนสุดท้าย ชำระ ๑๐๖.๗๑ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๑๔,๘๐๖.๗๑ บาท (๑๓๔.๖๑% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๓,๘๐๖.๗๑ บาท (๓๔.๖๑% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๐ ต่อปี เป็นเงิน ๐.๐๐ บาท (๐% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๑๑,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) เปรียบเทียบ ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๓,๘๐๖.๗๑ บาท (๑๐๐%) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินรวมกันร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๔,๑๖๖.๒๔ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๓๗๒.๑๔% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อตกลงที่ถือได้ว่า ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้าและผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบจำเลยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควรเป็นอันมากถึงอัตราร้อยละ ๓๗๒.๑๔% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ๓.๕ กู้เงินครั้งที่ ๓ จำเลยได้จัดทำตารางที่ ๕ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๔๘,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๑๓% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๗ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท รวม ๑๑๗ เดือน เดือนที่ ๑๑๘ เดือนสุดท้าย ชำระ ๔๙๓.๐๘ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๑๔๐,๘๙๓.๐๘ บาท (๒๙๓.๕๓% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๔๙,๗๖๔.๑๕ บาท (๑๐๓.๖๘% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๑๓ ต่อปี เป็นเงิน ๔๓,๑๒๘.๙๓ บาท (๘๙.๘๕% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๔๘,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินทั้งสิ้น ๙๒,๘๙๓.๐๘ บาท (๑๙๓.๕๓% ของเงินต้น) ๓.๖ กู้เงินครั้งที่ ๓ จำเลยได้จัดทำตารางที่ ๖ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๔๘,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๐% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๘ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท รวม ๕๕ เดือน และเดือนที่ ๕๖ เดือนสุดท้าย ชำระ ๙๕๘.๓๖ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๖๖,๙๕๘.๓๖ บาท (๑๓๙.๕๐% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๑๘,๙๕๘.๓๖ บาท (๓๙.๕๐% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๐ ต่อปี เป็นเงิน ๐.๐๐ บาท (๐% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๔๘,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) เปรียบเทียบ ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๘,๙๕๘.๓๖ บาท (๑๐๐%) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินรวมกันร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๙๒,๘๙๓.๐๘ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๔๘๙.๙๘% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อตกลงที่ถือได้ว่า ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้าและผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบจำเลยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควรเป็นอันมากถึงอัตราร้อยละ ๔๘๙.๙๘% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔

สวัสดีคะ มีเรื่องรบกวนสอบถามคะ
ืคือตอนนี้บัตร กสิกร ที่เราติดอยู่ 92000 ได้เสนอปรับโครงสร้างหนี้มา และเราได้ปฏิเสธไป เค้าบอกว่าหลังวันที่ 28 จะส่งเรื่องให้บริษัทติดตามหนี้แล้ว ที่นี้เราอยากขอข้อมูลให้การขอ แฮร์คัทบัตรกสิกร อะคะ ว่าต้องพูดประมาณไหน ถึงจะได้แฮร์คัทมา รบกวนขอคำแนะจะด้วยนะคะ

และก็บัตร เอ มันนี่ ยอด 33000 ก้อบอกว่าจะฟ้องแล้ว บริษัทไม่มีโครงการลดหย่อนหรือปรับโครงสร้างหนี้
เค้าแจ้งมาแบบนี้ เราต้องรอให้ฟ้องอย่่างเดียวเลยใช่มั้ยคะ

knd เขียน: สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
ยูเมะยอด 150,000 จ่ายขั่นต่ำแล้วกดออกทุกเดือน เป็นเวลา3-4ปีแล้วค่ะ
จะเริ่มหยุดเดือนหน้านี้ เพราะไม่ไหวแล้ว **เพิ่งเข้ามาผศึกษาข้อมูลในชมรมฯ ได้5วันแล้วค่ะ อ่านจนถึงตี2-3 กลางวันก็อ่านตลอด

เหมือนกันเลยค่ะ อ่านตลอดดึกๆดื่นๆ สองสามคืนแรกนอนไม่หลับเลยนี่ก็ดีขึ่นแล้วค่ะ สู้ๆค่ะ

ยูเมะทวงเกระหน่ำค่ะ ล่าสุดknd บอกเจ้าหน้าที่ไปว่าคุณโทรมาคุกคามเวลาทำงานมากๆหากดิฉันมีเงินจะขอเคลียร์กับคุณเป็นเจ้าแรกๆเลยเพราะไม่มีสมาธิทำงาน คุยแต่ละทีไม่ต่ำกว่า10นาที บอกไม่มีก็ไม่ได้ บอกจะพยายามหาอีกทีก็ให้ระบุวันอีก เจ้าหน้าที่ก็พอใจกับคำตอบที่บอกว่าจะเคลียร์ให้เค้าเป็นเจ้าแรกแล้วก็บอกkndว่าจะไม่โทรมากวนอีก นี่เงียบไป2วันแล้วค่ะ

มีเรื่องอยากปรึกษาคะ วันนี้ได้รับหมายศาลของ พรอมืส แล้ว ตื่นเต้นและกลัวมากคะ เราต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ ไม่มีความรู้ด้านนี้เลย เราต้องสู้คดีมั้ยคะ หรือจะต้องพูดยังไงดี ให้เค้าเห็นใจเรา แล้วเราต้องเสียค่าทนายกับค่าธรรมเนียมศาลด้วยใช่มั้ยคะ ยอดฟ้อง 67,774 บาท เงินต้น 58,000

ยูเมะผม 7 เดือนล่ะ เค้าบอกไว่ามีมีส่วนลด ให้จ่ายเต็ม เฮ้อ แล้วแต่

AlexanderErk เขียน: ยูเมะผม 7 เดือนล่ะ เค้าบอกไว่ามีมีส่วนลด ให้จ่ายเต็ม เฮ้อ แล้วแต่

สู้ต่อไปนะคะ ยูแมะส่วนลดดีมากคะ พยามรับสายตลอดๆ เดี๊ยวก้อได้คะส่วนลด

ตอนนี้เจ้าหนี้เงียบไปทุกรายเลย เงียบจนน่ากลัว พรอมิสก้อเงียบไปมาเมื่อวานมีหมายศาลมาแล้ว กสิกรก้อยังเงียบอยู่ เริ่มกลัวๆแล้วคะ ตอนนี้ เฮ้ออออออ