ยอดระบุให้ Hair Cut ในเอกสารไม่ตรงกัน

ผมขอคำปรึกษาทีครับเกี่ยวกับยอดที่ควรชำระทีครับ กล่าวคือ ผมได้ตกลงกับธนาคาร UOB ที่จะ Hair Cut ทั้งหมด 3 บัญชี ดังนี้

1. VISA ยอดหนี้ 166,527.94 บาท ลดเหลือ 101,000 บาท
2. Cash Plus ยอดหนี้ 157,672.50 บาท ลดเหลือ 92,900 บาท
3. I-Cash ยอดหนี้ 189,020.11 บาท ลดเหลือ 140,000 บาท
รวมทั้งสิ้นยอดหนี้ 515,220.55 บาท ลดเหลือ 333,900 บาท

ประเด็นคือ ยอดรวมในบรรทัดสุดท้ายในเอกสารที่ UOB ให้เซ็นต์ชื่อ ระบุแค่ 252,900 บาท ผมจึงขอรบกวนผู้รู้หรือนักกฎหมายว่า ถ้าผมชำระแค่ยอด 252,900 บาท จะสามารถปิดทั้งสามบัญชีได้หรือไม่ เพราะ UOB เป็นคนออกเอกสารนี้เอง และหากสามารถทำได้ เจ้าหน้าที่ UOB ผู้ที่ประสานงาน จะต้องรับผิดชอบความผิดพลาดนี้ แทนผมหรือไม่

ปัจจุบัน ผมชำระรายการที่ 1 (101,000 บาท) และ 2 (92,900 บาท) ครบถ้วนแล้ว ส่วนรายการที่ 3 ชำระงวดแรกไป 40,000 บาท งวดที่สองต้องชำระภายในสิ้นเดือนนี้ ผมชำระไปเพียง 19,000 บาท เพื่อให้ยอดรวมเท่ากับ 252,900 บาท

หากผมต้องชำระให้ครบถ้วนตามที่ตกลงไว้ (333,900 บาท) ผมจะต้องชำระอีก 31,000 บาทภายในศุกร์นี้ และอีก 50,000 บาทภายในเดือนหน้า

ขอบคุณครับ
what-a-debt

what-a-debt เขียน: ผมขอคำปรึกษาทีครับเกี่ยวกับยอดที่ควรชำระทีครับ กล่าวคือ ผมได้ตกลงกับธนาคาร UOB ที่จะ Hair Cut ทั้งหมด 3 บัญชี ดังนี้

1. VISA ยอดหนี้ 166,527.94 บาท ลดเหลือ 101,000 บาท
2. Cash Plus ยอดหนี้ 157,672.50 บาท ลดเหลือ 92,900 บาท
3. I-Cash ยอดหนี้ 189,020.11 บาท ลดเหลือ 140,000 บาท
รวมทั้งสิ้นยอดหนี้ 515,220.55 บาท ลดเหลือ 333,900 บาท

ประเด็นคือ ยอดรวมในบรรทัดสุดท้ายในเอกสารที่ UOB ให้เซ็นต์ชื่อ ระบุแค่ 252,900 บาท ผมจึงขอรบกวนผู้รู้หรือนักกฎหมายว่า ถ้าผมชำระแค่ยอด 252,900 บาท จะสามารถปิดทั้งสามบัญชีได้หรือไม่ เพราะ UOB เป็นคนออกเอกสารนี้เอง และหากสามารถทำได้ เจ้าหน้าที่ UOB ผู้ที่ประสานงาน จะต้องรับผิดชอบความผิดพลาดนี้ แทนผมหรือไม่

ปัจจุบัน ผมชำระรายการที่ 1 (101,000 บาท) และ 2 (92,900 บาท) ครบถ้วนแล้ว ส่วนรายการที่ 3 ชำระงวดแรกไป 40,000 บาท งวดที่สองต้องชำระภายในสิ้นเดือนนี้ ผมชำระไปเพียง 19,000 บาท เพื่อให้ยอดรวมเท่ากับ 252,900 บาท

หากผมต้องชำระให้ครบถ้วนตามที่ตกลงไว้ (333,900 บาท) ผมจะต้องชำระอีก 31,000 บาทภายในศุกร์นี้ และอีก 50,000 บาทภายในเดือนหน้า

ขอบคุณครับ
what-a-debt

ได้ส่วนลดเยอะมาก นอกปะเด็นที่ถามนิดหนึ่งน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าหยุดกี่เดือนค่ะถึงได้ส่วนลดแล้ว uobส่งสำนักงานข้างนอกป่าวค่ะ ของเราเพิ่งเข้ารอบบิลที่4บอกจะส่งเรื่องตามกฎหมายล่ะ ได้ยินว่าuobฟ้องเร็วไม่ทราบมีวิธีคุยยังบ้างค่ะ ตอนนี้เคนียดมาก บอกให้ลดแค่ดอกเบี้ยเองค่ะ

รายละเอียดวิธีการปฏิบัติต่างๆ ผมก็ศึกษาจากในกระทู้ครับ ต้องขออภัยที่ไม่มีเวลารวบรวมให้

แต่ผมมีบางส่วนที่อยากแบ่งปันคือ ผมเข้าใจว่ากรณีที่เป็นบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงิน แม้จะอยู่ในการจัดการของธนาคารก็สามารถให้ส่วนลดได้พอสมควร แบบเดียวกับกรณีผมที่หยุดจ่าย 6-7 เดือน แล้วธนาคารให้ยอดแฮร์คัต ประมาณ 30%

แต่ในส่วนที่เป็นเงินกู้นั้น (รับเงินทั้งก้อนทีเดียว) ธนาคารมองว่า ขอแค่ได้เงินต้นคืนก็เพียงพอ ดังนั้นส่วนลดที่ธนาคารจะให้สำหรับเงินกู้ จะเป็นยอดเงินต้น - ยอดเงินที่เราชำระไปทั้งหมด ตามที่ธนาคารแจ้งคุณ Janenisa ว่าลดแค่ดอกเบี้ย ดังนั้นหากเราผ่อนเงินกู้ก้อนนี้มาซักระยะแล้ว จะดูเหมือนว่า ธนาคารให้ส่วนลดเยอะ เพราะยอดหนี้ที่แสดงเป็นยอดที่รวมดอกเบี้ย แต่จริงๆแล้วเราจ่ายเงินไปบางส่วนแล้ว นำมาหักเงินต้นที่ธนาคารตัดใจไม่คิดดอกเบี้ย

ในส่วนที่พ้นจากการจัดการธนาคาร คงไม่ใช่กรณีนี้นะครับ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

what-a-debt เขียน: รายละเอียดวิธีการปฏิบัติต่างๆ ผมก็ศึกษาจากในกระทู้ครับ ต้องขออภัยที่ไม่มีเวลารวบรวมให้

แต่ผมมีบางส่วนที่อยากแบ่งปันคือ ผมเข้าใจว่ากรณีที่เป็นบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงิน แม้จะอยู่ในการจัดการของธนาคารก็สามารถให้ส่วนลดได้พอสมควร แบบเดียวกับกรณีผมที่หยุดจ่าย 6-7 เดือน แล้วธนาคารให้ยอดแฮร์คัต ประมาณ 30%

แต่ในส่วนที่เป็นเงินกู้นั้น (รับเงินทั้งก้อนทีเดียว) ธนาคารมองว่า ขอแค่ได้เงินต้นคืนก็เพียงพอ ดังนั้นส่วนลดที่ธนาคารจะให้สำหรับเงินกู้ จะเป็นยอดเงินต้น - ยอดเงินที่เราชำระไปทั้งหมด ตามที่ธนาคารแจ้งคุณ Janenisa ว่าลดแค่ดอกเบี้ย ดังนั้นหากเราผ่อนเงินกู้ก้อนนี้มาซักระยะแล้ว จะดูเหมือนว่า ธนาคารให้ส่วนลดเยอะ เพราะยอดหนี้ที่แสดงเป็นยอดที่รวมดอกเบี้ย แต่จริงๆแล้วเราจ่ายเงินไปบางส่วนแล้ว นำมาหักเงินต้นที่ธนาคารตัดใจไม่คิดดอกเบี้ย

ในส่วนที่พ้นจากการจัดการธนาคาร คงไม่ใช่กรณีนี้นะครับ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

ขอบคุณมากน่ะค่ะ