ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทางนี้ สุดท้ายก็หนีไม่พ้น หัวโตมาก 1.6 ล้าน รบกวนขอคำแยะนำหน่อยค่ะ

น้องใหม่หน้าใหม่สุดๆ แถมพกมาด้วยหนี้ก้อนโตสุดๆ ทำไงได้ทำตัวเองจริง คงโทษใครไม่ได้ โชคดีที่มาเจอคลับนี้เลยเข้ามาอ่านดู เปิดโลกให้เราจริงๆ ค่ะ จากนั้นก็ตะลุยอ่านกระทู้ข้ามวันข้ามคืนจนขอบตาดำคล้ำ ตอนนี้ชีวิตเหมือนโดนของมากค่ะ หดหู่ ซึมเศร้า กินข้าวไม่ลง เพราะหาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร ขอเข้ามาปรึกษาเพื่อนๆ พี่ๆ ในคลับนี้ก็แล้วกันนะคะ

ตอนนี้ทุกรายการเดือนนี้ยังจ่ายขั้นต่ำตามปกติ แต่เดือนหน้ายังไม่รู้ว่าจะมีปัญญาจ่ายไหม เงินเดือนที่ได้หลังจากหักทุกอย่างแล้วอยุ่ที่ 78,000 ค่าใช้จ่ายในบ้านรวมๆ ประมาณเดือนละ 32,000 จึงอยากจะขอคำแนะนำค่ะว่าควรจะเลือกทำแบบไหนดี


มีรายการหนี้สินดังนี้ค่ะ

1. บัตรเครดิต SCB/ ยอดตอนนี้ประมาณ 700,000 / จ่ายขั้นต่ำ 69,xxx
2. บัตรเครดิต T1 Card (หรือเซ็นทรัลการ์ด เดิม)/ ยอดตอนนี้ 31,000/ จ่ายขั้นต่ำ 3,100
3. สินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารกรุงศรีอยุธยา/ ยอดตอนนี้ 199,000/ จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 10,500
4. สินเชื่อส่วนบุคคล Personal Loan ของ General Card Services / ยอดตอนนี้ 133,000/ จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 5,000

จริงๆจากที่อ่านในกระทํต่างๆมา ตอนนี้เราผ่านวิธีที่ 1 คือการจ่ายขั้นต่ำมาแล้วแหละค่ะ ผ่านมาจนถึงจุดที่เราคงไม่ได้ไปต่อแล้ว สิ่งที่ควรทำตอนนี้น่าจะเป็นวิธีที่ 2 คือหยุดจ่ายทุกอย่างแล้วรอ H/C ถูกต้องไหมคะ
แต่ๆๆ พอดีว่าบัตรเครดิต SCB ที่เป็นหนี้ก้อนใหญ่สุดนี่ มันดันผูกอยู่กับบัญชีธนาคารที่บริษัทจ่ายเงินเดือนเข้า อยากถามว่าสิ่งที่ควรรีบเปลี่ยนคือเปลี่ยนให้เงินเดือนไปเข้าบช. ธนาคารอื่นที่เราไม่มีหนี้ใช่ไหมคะ (ถ้าไม่อยากโดนตัด/ อายัดเงิน)

บัตรเครดิตใบนี้เราให้น้องเราใช้วงเงินที่เหลือเป็นบัตรเสริม ถ้าเราหยุดจ่ายบัตรเราซึ่งเป็นบัตรหลัก หมายความว่าส่วนของน้องซึ่งเป็นบัตรเสริมก็จะใช้ไม่ได้ด้วยถูกไหมคะ? ตัวน้องเองใช้วงเงินเต็มเช่นกัน แบบนี้ถ้าปิดเราก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของน้องเราด้วยรึเปล่าคะ?

แต่เนื่องจากอ่านในกระทู้หลายๆกระทู้ มีคำแนะนำจากพี่ๆบางท่านว่าบัตรเครดิตที่เป็นธนาคารเดียวกันควรพยายามเลือกจ่ายขั้นต่ำ เพื่ออย่างน้อยจะได้ไม่โดนดูดเงินเดือนไป เราควรเลือกแบบไหนดีคะ?

หรือเราควรจะหยุดจ่ายยอดใหญ่สุดนี้ในเดือนหน้า แล้วเอาเงิน 31,000 ไปจ่ายบัตร T1 card ให้เรียบร้อย แล้วปิดบัตรไปเลยดีตะ ก็จะเหลือยอด 3 ตัว

คิดไม่ตกเลยค่ะ เพราะยอด scb นี่ถ้าหยุดจ่าย นอกจากจะมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะโดนดูดแล้ว ถึงสุดท้ายจะมี H/C มา offer เราก็ยังไม่มีเงินก้อนขนาดนั้นมาปิดอยู่ดี ตอนนี้มีของอะไรที่พอขายได้เช่นกระเป๋าแบรนด์เนม ก็เอามาปล่อยแล้วค่ะ แต่เศรษฐกิจก็ไม่ดีใครจะซื้อกันหนอ

พี่ๆ เพื่อนๆ ในห้องนี้ใครเข้ามาขอความเมตตาชี้ทางสว่างให้หน่อยนะคะ กราบล่ะค่ะ...

Dinee เขียน: พอดีว่าบัตรเครดิต SCB ที่เป็นหนี้ก้อนใหญ่สุดนี่ มันดันผูกอยู่กับบัญชีธนาคารที่บริษัทจ่ายเงินเดือนเข้า อยากถามว่าสิ่งที่ควรรีบเปลี่ยนคือเปลี่ยนให้เงินเดือนไปเข้าบช. ธนาคารอื่นที่เราไม่มีหนี้ใช่ไหมคะ (ถ้าไม่อยากโดนตัด/ อายัดเงิน)

ถะ ถะ ถะ ถ ถ ถ ถูกต้องนะคร๊าบบบบ

Dinee เขียน: บัตรเครดิตใบนี้เราให้น้องเราใช้วงเงินที่เหลือเป็นบัตรเสริม ถ้าเราหยุดจ่ายบัตรเราซึ่งเป็นบัตรหลัก หมายความว่าส่วนของน้องซึ่งเป็นบัตรเสริมก็จะใช้ไม่ได้ด้วยถูกไหมคะ?

Dinee เขียน: ตัวน้องเองใช้วงเงินเต็มเช่นกัน แบบนี้ถ้าปิดเราก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของน้องเราด้วยรึเปล่าคะ?

หากบัตรเสริมเป็นหนี้แล้วไม่ยอมชำระ ตามกฏหมายบังคับให้ผู้ที่เป็นบัตรหลัก จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในหนี้ของบัตรเสริมทั้งหมด


แล้วถ้าบัตรเสริมไม่ยอมชำระหนี้จนถึงขั้นฟ้องศาลแล้ว เจ้าหนี้มันมักจะฟ้องรวมครับ โดยฟ้องผู้ที่ถือบัตรหลักให้เป็นจำเลยที่ 1.
และฟ้องบัตรเสริม ให้เป็นจำเลยที่ 2. (ตามกฏหมายราชกิจจานุเบกษา ที่เป็นประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย เขียนกำหนดให้ผู้ที่ถือบัตรหลัก จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในหนี้ของบัตรเสริมทั้งหมดเพียงแต่ผู้เดียว)...ดังนั้น...ผู้ที่ถือบัตรหลัก จึงไม่สามารถสู้คดีในประเด็นนี้ได้เลยครับ


อ้างอิงข้อมูลจาก

ประกาศ ธปท. ที่ สนส. 16/2552
www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FPG/2552/ThaiPDF/25520176.pdf


หน้าที่ 2. ข้อ 5.1






หน้าที่ 3. ข้อ 5.2.1 (2)






ตัวอย่าง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง บัตรหลัก-บัตรเสริม

เค้าจะฟ้องใคร...พ่อผมเป็นบัตรหลักใช้วงเงินเดียวกันกับผม ผมเป็นบัตรเสริม
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42792&Itemid=64#67916


เป็นหนี้บัตรเครดิต มีหมายศาลมา จำเลยที่ 1 ไม่สามารถไป
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=4273&Itemid=64&view=topic


เล่าสู่กันฟังค่ะ ไปศาลมา 31 มค และรบกวนสอบถามค่ะ (อยู่ในด้านล่างๆของกระทู้)
www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=3027#3050

Dinee เขียน: มีคำแนะนำจากพี่ๆบางท่านว่าบัตรเครดิตที่เป็นธนาคารเดียวกันควรพยายามเลือกจ่ายขั้นต่ำ เพื่ออย่างน้อยจะได้ไม่โดนดูดเงินเดือนไป เราควรเลือกแบบไหนดีคะ?

ลูกหนี้สามารถหยุดจ่ายบัตรของเจ้าหนี้ ที่มีบัญชีเงินเดือนเข้าก็ได้

โดยวิธีแก้ก็คือ ลูกหนี้ต้องเล่นเกมส์กดให้ไวกว่าพนักงานของธนาคาร ที่มันทำหน้าที่กดคีย์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ เพื่อดูดเงินเดือนของลูกหนี้

เทคนิคการเล่นเกมส์กด

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=32017&Itemid=64#32017

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=30889&Itemid=64&view=topic

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=34173&Itemid=64&view=topic

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=32780&Itemid=64&view=topic#33296


และที่สำคัญก็คือ ต้องอย่าช้าด้วย เพราะถ้าพลาดไปเพียงแค่ครึ่งชัวโมง เงินเดือนของลูกหนี้ก็ไม่มีเหลือ

ตัวอย่าง
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40565&Itemid=64&limitstart=20#52645

เมื้อคืนตื่นมาโอนตังค์ ตี4 กลัวโดนดูดเงินเดือน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44144&Itemid=64&limitstart=20#83042

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41601&limitstart=20&Itemid=64#78962

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43476&Itemid=64#73096





เป็นไปได้มั้ยคะว่า...ถ้าธนาคารตั้งหักเงินในบช.อัตโนมัติ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=45224&Itemid=64#93605

ถ้าจ่ายขั้นต่ำได้ขนาดนี้
หยุดจ่ายSCBเดือนนึงก็เอาไปปิด T1 cardได้เลยอย่างที่คิดค่ะ

ที่เหลือสู้ๆนะคะ อ่านหาความรู้เยอะๆ

ขอขอบพระคุณคุณนกกระจอกเทศมาค่ะที่สละเวลาเข้ามาแนะนำและตอบคำถาม ฮืออออ... ในฐานะที่คุณนกกระจอกเทศเป็นผู้รู้ตัวจริง ขอคำแนะนำเพิ่มอีกนิดเถอะค่ะว่า เดือนหน้าเราควรจะเลือกทางไหนดีคะ ระหว่าง

1. หยุดจ่ายทุกใบทันที เปลี่ยนบช. เงินเดือนเข้า และเก็บเงินไว้รอ H/C

2. เอาเงิน 3 หมื่นไป clear T1 card ก่อนที่เหลือจ่าย SCB และหยุดจ่ายกรุงศรีกับ personal loan (แบบนี้มันจะเหมือนการจ่ายหยอด scb แล้วยังไงก็รอโดนฟ้องอยู่ดีรึเปล่าคะ?) หรืออย่างน้อยก็จะเป็นการชลอการทวงหนี้ไปได้บ้าง

3. เรามี LTF ที่ซื้อจะครบกำหนดมกราปีหน้า ยอด 80,000+/- ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ แต่บช. ที่ถ้าขายคืนแล้วเงินเข้าก็เป็นบช. ที่ scb อันเดียวกับที่ตอนนี้เงินเดือนเข้าเช่นกัน แบบนี้เราก็ไม่ควรขายสินะคะ เพราะขายกองทุนแบบนี้ มันกำหนดเวลาที่เงินจะเข้าแน่นอนไม่ได้ เราว่าเราเล่น "เกมส์กด" ไม่ทันแน่ๆ

@คุณ temtem ขอบคุณสำหรับคำตอบ และกำลังใจนะคะ มันเป็นสิ่งที่เราต้องการที่สุดในตอนนี้เลยค่ะ