ขอคำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องการอายัติเงินเดือนค่ะ

แฟนเรารายได้ 50,000 บาท
เรารายได้ 30,000 บาท แต่ภาระก็บานตะไทเหมือนกันค่ะ

แฟนเราเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตอยู่หลายธนาคารค่ะ เรายังไม่ขอแจกแจงว่าเป็นหนี้อะไรบ้าง เพราะจำได้ไม่หมด แต่จดไว้อยู่ค่ะ เอาคร่าวๆ ทั้งหมดประมาณ 1 ล้านค่ะ

ตอนนี้มีส่งหมายศาลมาที่บ้าน 2 ธนาคารค่ะ
1. CIMB หนี้ประมาณเกือบ 2 แสน นัดไปศาลเดือนตุลาคม นี้ค่ะ
2. Central Credit Card หนี้ประมาณ 90,000 ค่ะ นัดไปศาลเดือนพฤศจิกายนนี้ค่ะ

เราอ่านเอกสารที่ต้องเตรียมไปศาลจากในเว็บแล้ว ว่าจะต้องเอาอะไรไปแจกแจงบ้าง
แต่ที่สงสัยก็คือ ให้แจกแจงค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อเรา คือเอาจริงๆ แฟนมีค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อแฟนแค่อย่างเดียวค่ะคือ ค่าโทรศัพท์ประมาณ 500 กว่าบาททุกเดือน (ถ้าไม่นับบิลหนี้ต่างๆ นะค่ะ) นอกนั้นเป็นชื่อเราหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าผ่อนคอนโด คอนโดนีซื้อตอนจดทะเบียนกันแล้วค่ะ เราเป็นผู้กู้หลัก แม่เป็นผู้กู้ร่วมค่ะ
สิ่งที่อยากรู้คือ

1. เอกสารค่าใช้จ่ายที่เอาไปแจกแจงนี่ จะต้องแจกแจงเฉพาะของสามี หรือต้องแจกแจงของภรรยาด้วยค่ะ เพราะเงินเราจะเอามารวมกันแล้วก็จ่ายออกไปทุกเดือนค่ะ เพราะจริงๆ ค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อเรา เอาจริงๆ เงินเดือนเราทั้งเดือนก็ไม่พอค่ะ อาศัยเอาเงินสามีไปจ่ายด้วย


2. แล้วในกรณีที่โดนอายัติเงินเดือนนี่....สมมุติว่าเราไกล่เกลี่ยกับ CIMB ลงตัว ผ่อนยอด เท่านี้ เท่านี้ว่ากันไป
แต่ Central ฟ้องมาอีก เราก็ไม่มีเงินจ่ายแน่นอนค่ะ เราจะโดน Central บังคับคดีอายัติเงินเดือนไหมค่ะ เพราะถ้าโดน คืออดตามค่ะ ทั้งพ่อ-แม่ ของทั้ง 2 ครอบครัว ไหนจะลูกอีก 2

3. หรือเราจะไม่ไกล่เกลี่ยกับ CIMB ปล่อยให้เค้าอายัติเงินเดือนไปเลยดีค่ะ เพราะถ้าเป็นอย่างงั้น Central ก็ไม่สามารถอายัติเงินเดือนเราได้อีก ต้องรออย่างเดียว และอาจจะลดยอดหนี้ให้เราเพื่อที่เราจะใช้หนี้ได้เร็วขึ้น เราคิดแบบนี้ถูกไหมค่ะ

4. ในกรณีที่โดนสั่งอายัติเงินเดือนแล้ว ถ้าแฟนเราหางานใหม่ได้เงินเดือนที่เยอะขึ้น เราจะโดนทางธนาคารเดิมที่สั่งอายัติ อายัติเงินเดือนเพิ่มไหมค่ะ

5. ในกรณีแบบนี้คอนโดที่เราซื้อไว้จะมีสิทธิ์โดนยึดไหมค่ะ แล้วสามารถทำยังไงไม่ให้โดนยึดได้บ้าง เดี๋ยวจะไม่มีที่ซุกหัวนอนค่ะ อันนี้กลัวที่สุด

6. แล้วถ้าจะหย่ากันตอนนี้ มันจะดูเป็นเหมือนการปกปิดทรัพย์สินไหมค่ะ ขอคำแนะนำว่าหย่า หรือไม่อย่าดีค่ะ แต่เราก็ว่ามันกระชั้นชิดเกินไปที่จะอย่าค่ะ

7. แล้วในกรณีที่เป็นหนี้ตั้ง 5-6 ที่แบบนี้ แล้วธนาคารอื่นเค้าจะได้เงินคืนจากเรายังไงค่ะ ในเมื่อเราจ่ายหนี้ธนาคารที่ฟ้องแรกไปแล้ว หรือเค้าก็แค่ต้องทวงต่อไปเรื่อยๆ หรือแฟนเราต้องไปขึ้นศาลหลายรอบ

รบกวนผู้รู้ตอบข้อสงสัยให้หน่อยค่ะ

iwel_ikamila เขียน: เราอ่านเอกสารที่ต้องเตรียมไปศาลจากในเว็บแล้ว ว่าจะต้องเอาอะไรไปแจกแจงบ้าง
แต่ที่สงสัยก็คือ ให้แจกแจงค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อเรา คือเอาจริงๆ แฟนมีค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อแฟนแค่อย่างเดียวค่ะคือ ค่าโทรศัพท์ประมาณ 500 กว่าบาททุกเดือน (ถ้าไม่นับบิลหนี้ต่างๆ นะค่ะ) นอกนั้นเป็นชื่อเราหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าผ่อนคอนโด คอนโดนีซื้อตอนจดทะเบียนกันแล้วค่ะ เราเป็นผู้กู้หลัก แม่เป็นผู้กู้ร่วมค่ะ
สิ่งที่อยากรู้คือ

1. เอกสารค่าใช้จ่ายที่เอาไปแจกแจงนี่ จะต้องแจกแจงเฉพาะของสามี หรือต้องแจกแจงของภรรยาด้วยค่ะ เพราะเงินเราจะเอามารวมกันแล้วก็จ่ายออกไปทุกเดือนค่ะ เพราะจริงๆ ค่าใช้จ่ายที่เป็นชื่อเรา เอาจริงๆ เงินเดือนเราทั้งเดือนก็ไม่พอค่ะ อาศัยเอาเงินสามีไปจ่ายด้วย

ถึงแจกแจงไป ศาลก็ไม่รับฟังหรอกครับ
เพราะศาลมีหน้าที่พิพากษาไปตามคดีความ และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพียงอย่างเดียว...เท่านั้น

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

iwel_ikamila เขียน: 2. แล้วในกรณีที่โดนอายัติเงินเดือนนี่....สมมุติว่าเราไกล่เกลี่ยกับ CIMB ลงตัว ผ่อนยอด เท่านี้ เท่านี้ว่ากันไป
แต่ Central ฟ้องมาอีก เราก็ไม่มีเงินจ่ายแน่นอนค่ะ เราจะโดน Central บังคับคดีอายัติเงินเดือนไหมค่ะ เพราะถ้าโดน คืออดตามค่ะ ทั้งพ่อ-แม่ ของทั้ง 2 ครอบครัว ไหนจะลูกอีก 2

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

iwel_ikamila เขียน: 3. หรือเราจะไม่ไกล่เกลี่ยกับ CIMB ปล่อยให้เค้าอายัติเงินเดือนไปเลยดีค่ะ เพราะถ้าเป็นอย่างงั้น Central ก็ไม่สามารถอายัติเงินเดือนเราได้อีก ต้องรออย่างเดียว และอาจจะลดยอดหนี้ให้เราเพื่อที่เราจะใช้หนี้ได้เร็วขึ้น เราคิดแบบนี้ถูกไหมค่ะ

เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของศาล สามารถทำเรื่องอายัดเงินเดือน และยึดทรัพย์ของลูกหนี้ ได้พร้อมๆกัน ทั้งสองอย่างเลยนะครับ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

iwel_ikamila เขียน: 4. ในกรณีที่โดนสั่งอายัติเงินเดือนแล้ว ถ้าแฟนเราหางานใหม่ได้เงินเดือนที่เยอะขึ้น เราจะโดนทางธนาคารเดิมที่สั่งอายัติ อายัติเงินเดือนเพิ่มไหมค่ะ

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

iwel_ikamila เขียน: 5. ในกรณีแบบนี้คอนโดที่เราซื้อไว้จะมีสิทธิ์โดนยึดไหมค่ะ แล้วสามารถทำยังไงไม่ให้โดนยึดได้บ้าง เดี๋ยวจะไม่มีที่ซุกหัวนอนค่ะ อันนี้กลัวที่สุด

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

iwel_ikamila เขียน: 6. แล้วถ้าจะหย่ากันตอนนี้ มันจะดูเป็นเหมือนการปกปิดทรัพย์สินไหมค่ะ ขอคำแนะนำว่าหย่า หรือไม่อย่าดีค่ะ แต่เราก็ว่ามันกระชั้นชิดเกินไปที่จะอย่าค่ะ

มาคิดจะหย่ากัน หลังจากที่ถูกฟ้องศาลแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ...มันช่วยอะไรไม่ได้หรอก

เป็นคู่สมรสแต่แยกกันแล้วต้องร่วมชดใช้ไหมครับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=45286&Itemid=64#94450

iwel_ikamila เขียน: 7. แล้วในกรณีที่เป็นหนี้ตั้ง 5-6 ที่แบบนี้ แล้วธนาคารอื่นเค้าจะได้เงินคืนจากเรายังไงค่ะ ในเมื่อเราจ่ายหนี้ธนาคารที่ฟ้องแรกไปแล้ว หรือเค้าก็แค่ต้องทวงต่อไปเรื่อยๆ หรือแฟนเราต้องไปขึ้นศาลหลายรอบ

ก็คงต้องโดนฟ้องจนหมดครบทุกคดี(ทุกเจ้าหนี้) นั่นแหละครับ


ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

พอดีได้โทรไปปรึกษาคุณอาไพโรจน์มาค่ะ คุณอาให้คำปรึกษาดีเลยทีเดียว


ประเด็นที่เราต้องการจะรู้จริงๆ คือเรื่องหย่าค่ะ

สรุปก็คือ เราจะหย่ากับสามีค่ะ ไม่เกี่ยวกับว่ากลัวเค้าจะมายึดทรัพย์อะไร เพราะเรารู้อยู่แล้วค่ะว่าสินสมรสยังไงก็โดนยึดถ้าเจ้าหนี้สืบทรัพย์เจอ เพียงแต่ตอนแรกเรากังวลว่าถ้าจะหย่าตอนนี้ เดี๋ยวเจ้าหนี้จะหาว่านี่ยูตั้งใจจะปกปิดทรัพย์สินยูใช่มั้ย และจะโดนข้อหาอะไรที่มันหนักกว่าเดิมค่ะ ก็เลยลังเลว่าจะหย่าดีมั้ย

เอาเป็นว่าหย่าค่ะ.....ถ้าเจ้าหนี้สืบทรัพย์เจอมามีคอนโดชื่อเรา แล้วจะยึดไปก็ตามนั้นค่ะ ให้มันเป็นไป เพียงแต่ว่า เราหย่าเผื่อไว้ในกรณีที่อยากจะมีทรัพย์สินอื่นๆ หลังจากนั้น เช่นจะซื้อบ้านให้แม่ จะซื้อรถให้แม่ อะไรพวกนี้ มันจะได้ไม่ถูกเหมารวมเป็นสินสมรส และโดนยึดไปด้วยเพราะหนี้สามีค่ะ เพราะหนี้ใครก่อ และใครเอาไปใช้ก็รับผิดชอบเอาเองค่ะ อย่าให้คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก จะต้องมาร่วมรับผิดชอบด้วยเลยค่ะ แค่ถ้าโดนยึดคอนโดมา แล้วต้องหาที่ซุกหัวนอนใหม่ก็สุดๆ แล้วค่ะ

แต่ก็แอบบหวังอยู่ว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ได้เร็วๆ ก่อนจะมีเจ้าหนี้มายึดคอนโดค่ะ


อ้อ...แล้วขอฝากไว้อย่างหนึ่งสำหรับคนหยุดจ่ายหนี้นะค่ะ บอกเลยให้รับโทรศัพท์ และพยายามติดต่อกลับเจ้าหนี้ตลอดค่ะ ถึงจะยังไม่มีเงินใช้เค้า ไม่งั้นเจ้าหนี้ฟ้องเร็วค่ะ เพราะติดต่อใครไม่ได้ เดี๋ยวเก็บเงินไม่ทันนะค่ะ

เรานี่บอกแฟนตลอด ว่าให้รับโทรศัพท์ทุกครั้ง ก็ไม่ฟังค่ะ บอกจนปากจะฉีกถึงหูค่ะ ก็ไม่ค่อยรับเลย เป็นไงล่ะ เจ้าหนี้ฟ้องเร็วมากเลย บอกอะไรไม่เคยฟังค่ะ เพราะถ้าฟังคงไม่มีหนี้ท่วมหัวขนาดนี้ค่ะ 555

เดี๋ยวแฟนไปขึ้นศาลแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะค่ะ