จะไปศาลแพ่งธนบุรีไกล่เกลี่ย วันศุกร์ที่ 15 มิย. 61

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103163 โดย noomdeknoi
เข้าประเด็นเลยนะครับ

ได้รับหมายศาล ให้ไปไกล่เกลี่ย ที่ศาลแพ่งธนบุรี โจทย์กสิกร
มูลฟ้องประมาณ 420,000
เงินต้นประมาณ 350,000

ก่อนหน้านี้ ศูนย์ไกล่เกลี่ยฯศาลแพ่งธนบุรี ได้ส่งอีเมล์มา เนื้อหาประมาณว่า

มีข้อเสนออะไรที่จะไกล่เกลี่ยกับโจทย์ ก่อนขึ้นศาลหรือไม่ จะเป็นสื่อกลางให้
ซึ่งผมก็แจ้งไปว่า มีความประสงค์จะขอประนอมข้อพิพาท โดยผมมีรถคันนึง น่าจะขายได้ประมาณ 140,000 และไม่สามารถผ่อนจ่ายรายเดือนได้
สรุปประมาณว่า ผมขอปิดบัญชีที่ยอด 140,000

*ผมเคยได้ข้อเสนอจากบริษัท ปิดบัญชีที่ยอด 125,000 แต่ตอนนั้นยังไม่ได้รถมา อยากจะรับข้อเสนอจะตายแต่ ไม่มีปัญญา


ซึ่งศูนย์ไกล่เกลี่ยฯศาลแพ่งธนบุรีก็ประสานให้ และทางโจทย์ก็ไม่ยอม ให้ไปไกล่เกลี่ยที่ศาลวันที่ 15 มิย เลย

วันไกล่เกลี่ย ผมคิดว่า(เดาเอา) ทางโจทย์น่าจะจัดทำ package มาไว้แล้วคือ
1. ผ่อนชำระรายเดือน (จากยอดมูลฟ้อง เผลอๆบวก ดอกเบี้ยระหว่างผ่อนอีก)
2. ปิดทั้งหมด ส่วนลดนิดหน่อย (งวดเดียว)
ซึ่งผมมองว่าผมคงมีเงินไม่ถึงแน่ๆ

คำถามคือ
ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยที่ศาล

1. ขอเลื่อนในห้องไกล่เกลี่ยด้วยปากเปล่า ได้เลยใช่ไหม??? โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเจรจากับโจทย์อีกครั้ง น่าจะยืดเวลาได้อีก 2-3 เดือน (เคยอ่านเจอในเว็บนี้แหละ) ซึ่งดูท่าทางโจทย์ก็จะไม่ยอม ท่าเดียว จากที่เคยโทรคุย หรือเจรจามาก่อนหน้านี้

2. ถ้าโจทย์ทำ package มาไว้แล้ว เราดูแล้วไม่ไหว ไม่ยอมเซ็นต์ สรุปคือไกล่เกลี่ย ไม่ได้
ผมต้องทำอย่างไรต่อครับ????

รบกวนขอคำปรึกษาด้วยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103164 โดย ReFreshZzz

noomdeknoi เขียน: เข้าประเด็นเลยนะครับ

ได้รับหมายศาล ให้ไปไกล่เกลี่ย ที่ศาลแพ่งธนบุรี โจทย์กสิกร
มูลฟ้องประมาณ 420,000
เงินต้นประมาณ 350,000

ก่อนหน้านี้ ศูนย์ไกล่เกลี่ยฯศาลแพ่งธนบุรี ได้ส่งอีเมล์มา เนื้อหาประมาณว่า

มีข้อเสนออะไรที่จะไกล่เกลี่ยกับโจทย์ ก่อนขึ้นศาลหรือไม่ จะเป็นสื่อกลางให้
ซึ่งผมก็แจ้งไปว่า มีความประสงค์จะขอประนอมข้อพิพาท โดยผมมีรถคันนึง น่าจะขายได้ประมาณ 140,000 และไม่สามารถผ่อนจ่ายรายเดือนได้
สรุปประมาณว่า ผมขอปิดบัญชีที่ยอด 140,000

*ผมเคยได้ข้อเสนอจากบริษัท ปิดบัญชีที่ยอด 125,000 แต่ตอนนั้นยังไม่ได้รถมา อยากจะรับข้อเสนอจะตายแต่ ไม่มีปัญญา


ซึ่งศูนย์ไกล่เกลี่ยฯศาลแพ่งธนบุรีก็ประสานให้ และทางโจทย์ก็ไม่ยอม ให้ไปไกล่เกลี่ยที่ศาลวันที่ 15 มิย เลย

วันไกล่เกลี่ย ผมคิดว่า(เดาเอา) ทางโจทย์น่าจะจัดทำ package มาไว้แล้วคือ
1. ผ่อนชำระรายเดือน (จากยอดมูลฟ้อง เผลอๆบวก ดอกเบี้ยระหว่างผ่อนอีก)
2. ปิดทั้งหมด ส่วนลดนิดหน่อย (งวดเดียว)
ซึ่งผมมองว่าผมคงมีเงินไม่ถึงแน่ๆ

คำถามคือ
ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยที่ศาล

1. ขอเลื่อนในห้องไกล่เกลี่ยด้วยปากเปล่า ได้เลยใช่ไหม??? โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเจรจากับโจทย์อีกครั้ง น่าจะยืดเวลาได้อีก 2-3 เดือน (เคยอ่านเจอในเว็บนี้แหละ) ซึ่งดูท่าทางโจทย์ก็จะไม่ยอม ท่าเดียว จากที่เคยโทรคุย หรือเจรจามาก่อนหน้านี้

2. ถ้าโจทย์ทำ package มาไว้แล้ว เราดูแล้วไม่ไหว ไม่ยอมเซ็นต์ สรุปคือไกล่เกลี่ย ไม่ได้
ผมต้องทำอย่างไรต่อครับ????

รบกวนขอคำปรึกษาด้วยครับ


ตอบ
1. คุณสามารถขอเลี่อนนัดได้ แต่ต้องมีเหตุผลที่มีน้ำหนักพอสมควร และทางโจทก์ยินยอม (ในเคสของคุณอย่างมาก เลื่อนได้ ไม่เกิน 1 เดือน)

2. คงต้องให้ศาลท่านช่วยตัดสินครับ

อ่านเพิ่มเติมด้านล่างครับ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

ความหมายของ วันนัดไปศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6915&Itemid=64

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

แจ้งเพื่อทราบ : ข่าวอายัดเงินเดือนตามกฏหมายฉบับใหม่ล่าสุด

ลูกหนี้เงินเดือนไม่เกิน2หมื่นอายัดเงินเดือนไม่ได้
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=45370&Itemid=64#95615


แต่...กฎหมายฉบับใหม่นี้ ให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4/ กันยายน / 2560 เป็นต้นไป

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103167 โดย noomdeknoi
รบกวนอีกครั้งครับ
คือผมอ่านหลายรอบแล้ว ตามหัวข้อที่ให้มา
พยายามทำความเข้าใจ
สรุปตามความเข้าใจคือ

ศาลไม่ได้ช่วยอะไร ท่านจะพิจารณาตามพยานหลักฐาน ซึ่งคงมีแต่โจทย์เท่านั้นที่ส่งหลักฐานไป และท่านก็คงตัดสินไปตามนั้น

แสดงว่าถ้าผมไม่อยากให้ถึงขึ้นตอนการ อายัดเงินเดือน อายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ซึ่งพอมีทรัพย์สินอยู่บ้างแต่ยังผ่อนกับแบงค์อยู่ และเงินเดือนเกิน 2หมื่น อาจเข้าข่าย อายัดได้

แสดงว่า ผมต้องยอมโจทย์ตามที่เค้าทำ package เสนอมาในวันที่นัดไกล่เกลี่ยใช่ไหมครับ
จะได้ส่วนลดหรือไม่ นั้น อยู่ที่โจทย์จะกรุณาให้หรือไม่ ใช่ไหมครับ???


มีทางเลือกอื่นบ้างไหมครับ??? กลัวว่าจะเข้าข่าย สัญญานรก!!!

ตอนนี้ผมคิดเอาเองว่า โจทย์เค้าคงจับไต๋ผมได้ว่า ผมเป็นฝ่ายง้อ ฟ้องเท่าไหร่ก็คงต้องยอมจ่าย

คำถามเพิ่มเติมอีกนิด
1. ถ้าในห้องไกล่เกลี่ย เราพยายามขอให้โจทย์ทนาย ลดหนี้ หรือขอผ่อนแบบปลอดดอกเบี้ย หรือลดต้นลดดอก แล้วโจทย์ทนายไม่ยอมท่าเดียว เพราะน่าจะทำเอกสารไว้รอแล้ว ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งดูแล้วเราก็จ่ายไม่ไหว

ผมจะต้องไปที่ห้องพิจารณาคดีต่อเลยใช่ไหม??? หรือว่าหนีกลับบ้านเลย???
ศาลจะพิจารณาตัดสิน ตามพยานหลักฐาน ให้เราจ่ายตามที่โจทย์เค้าร้องขอ ปกติ กี่วัน กี่เดือน ถึงจะต้องจ่าย???
นานแค่ไหนถึงจะขึ้นอายัดเงินเดือน อายัดทรัพย์สิน????

ถ้าเราพยายามติดต่อขอส่วนลด หรือขอ Hair cut ??? โจทย์เค้าจะมองว่าเราง้อ ???

ทำอย่างไรต่อดีครับ กังวลมากๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103168 โดย ReFreshZzz

noomdeknoi เขียน: รบกวนอีกครั้งครับ
คือผมอ่านหลายรอบแล้ว ตามหัวข้อที่ให้มา
พยายามทำความเข้าใจ
สรุปตามความเข้าใจคือ

ศาลไม่ได้ช่วยอะไร ท่านจะพิจารณาตามพยานหลักฐาน ซึ่งคงมีแต่โจทย์เท่านั้นที่ส่งหลักฐานไป และท่านก็คงตัดสินไปตามนั้น

แสดงว่าถ้าผมไม่อยากให้ถึงขึ้นตอนการ อายัดเงินเดือน อายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ซึ่งพอมีทรัพย์สินอยู่บ้างแต่ยังผ่อนกับแบงค์อยู่ และเงินเดือนเกิน 2หมื่น อาจเข้าข่าย อายัดได้

แสดงว่า ผมต้องยอมโจทย์ตามที่เค้าทำ package เสนอมาในวันที่นัดไกล่เกลี่ยใช่ไหมครับ
จะได้ส่วนลดหรือไม่ นั้น อยู่ที่โจทย์จะกรุณาให้หรือไม่ ใช่ไหมครับ???
<<< ถ้าถึงวันนั้นแล้ว ข้อตกลงจะเป็นไปตามเอกสาร ที่ทนายโจทก์ ได้ให้คุณได้ดูครับ คุณไม่สามารถต่อรองใด ๆ ได้ครับ

มีทางเลือกอื่นบ้างไหมครับ??? กลัวว่าจะเข้าข่าย สัญญานรก!!! <<< (ถ้าให้พูดกันตรง ๆ เอกสารทำยอม มันก็คือสัญญานรก ที่เป็นยิ่งกว่าสัญญานรกทั่ว ๆ ไป)

ตอนนี้ผมคิดเอาเองว่า โจทย์เค้าคงจับไต๋ผมได้ว่า ผมเป็นฝ่ายง้อ ฟ้องเท่าไหร่ก็คงต้องยอมจ่าย

คำถามเพิ่มเติมอีกนิด
1. ถ้าในห้องไกล่เกลี่ย เราพยายามขอให้โจทย์ทนาย ลดหนี้ หรือขอผ่อนแบบปลอดดอกเบี้ย หรือลดต้นลดดอก แล้วโจทย์ทนายไม่ยอมท่าเดียว เพราะน่าจะทำเอกสารไว้รอแล้ว ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งดูแล้วเราก็จ่ายไม่ไหว <<< ทนายโจทก์ ไม่มีอำนาจในการลดหนี้ครับ เขาแค่มาทำตามหน้าที่ของเขาเท่านั้นครับ

ผมจะต้องไปที่ห้องพิจารณาคดีต่อเลยใช่ไหม??? <<< คุณต้องไปที่ห้องพิจารณาคดีอยู่แล้วครับ
หรือว่าหนีกลับบ้านเลย??? <<< หนีทำไมครับ ไปศาลไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
ศาลจะพิจารณาตัดสิน ตามพยานหลักฐาน ให้เราจ่ายตามที่โจทย์เค้าร้องขอ ปกติ กี่วัน กี่เดือน ถึงจะต้องจ่าย??? <<< คำพิพากษา จะออกมาหลังจากวันที่คุณไปศาล 30-45 วันครับ
นานแค่ไหนถึงจะขึ้นอายัดเงินเดือน อายัดทรัพย์สิน???? <<< บางครั้งนานเป็นปี แต่บางครั้ง ก็ไม่เกิน 3 เดือน

ถ้าเราพยายามติดต่อขอส่วนลด หรือขอ Hair cut ??? <<< H/C ทำได้ตลอดชีวิต ครับ
โจทย์เค้าจะมองว่าเราง้อ ??? <<< งั้นผมขอถามกลับนะครับ ถ้าคุณมีเงินอยู่ในมือ คุณคิดว่า อำนาจการต่อรองจะเป็นของใครครับ ?

เราอย่างไรต่อดีครับ <<< คุณควรทำตัวให้ว่างเปล่าครับ



อ่านลิ้งค์ที่ผมให้ ประมาณ 5 รอบขึ้น ไปนะครับ คุณจะค่อย ๆ เข้าใจมากขึ้นครับ

แล้วถ้ามีอะไรสงสัย มาถามเพิ่มได้ตลอดครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103180 โดย noomdeknoi
งั้นขอสอบถามใหม่ดังนี้ครับ
พอผมไปถึงศาล ไปตรวจสอบข้อมูล จากป้ายที่แปะประกาศไว้
รอหน้าห้องไกล่เกลี่ย

ซึ่งระหว่างรอ น่าจะมีทนายของฝ่ายโจทย์เข้ามาเจรจา ต่อรอง พร้อมทั้งมีเอกสารเตรียมมาไว้แล้ว(สัญญาทาส) ควรอ่านให้รอบคอบ แต่ไม่ควรเซ็นต์ แต่ถ้าเป็นเงื่อนไขที่รับได้ ก็เซ็นต์ไป

สรุป การเจรจาที่ศาล
- ก่อนเข้าห้อง จะเป็นการไกล่เกลี่ยกันเอง ซึ่งไม่น่าได้อยู่แล้ว เพราะถ้าได้คงจบไปก่อนที่จะมาขึ้นศาล
- เข้าไปที่ห้อง จะเป็นการไกล่เกลี่ยโดยให้ศาลเป็นคนกลาง โจทย์เค้าก็ยื่น package ตามที่เค้าเตรียมมา เราก็ไม่น่าไหว

***ขั้นตอนนี้ ผมสามารถบอกศาลด้วยวาจา ว่า .....
- ขอเลื่อนการไกล่เกลี่ยออกไปก่อน เพื่อขอเจรจากับโจทย์อีกรอบได้ใช่ไหมครับ?????
- ซึ่งน่าจะยื้อได้อีก 1-2 เดือน แล้วถ้าทนายฝ่ายโจทย์เค้าแย้ง!!! คำตอบน่าจะไปทิศทางไหนครับ หมายถึงยึดเวลาออกไปได้นานแค่ไหน????

ระหว่างเวลายื้อ 1-2 เดือนนี้ เราก็ติดต่อเข้าไปเพื่อขอ Hair Cut หรือไม่ก็ ทำจิตใจให้ร่มๆ ทำตัวว่างเปล่า รอให้เค้าติดต่อมาเอง

แนวทางนี้น่าจะ OK ใช่ไหมครับ???

ขอบคุณครับ และขออภัยที่ถามเยอะไป กังวลจริงๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103191 โดย ReFreshZzz

noomdeknoi เขียน: งั้นขอสอบถามใหม่ดังนี้ครับ
พอผมไปถึงศาล ไปตรวจสอบข้อมูล จากป้ายที่แปะประกาศไว้
รอหน้าห้องไกล่เกลี่ย

ซึ่งระหว่างรอ น่าจะมีทนายของฝ่ายโจทย์เข้ามาเจรจา ต่อรอง พร้อมทั้งมีเอกสารเตรียมมาไว้แล้ว(สัญญาทาส) ควรอ่านให้รอบคอบ แต่ไม่ควรเซ็นต์ แต่ถ้าเป็นเงื่อนไขที่รับได้ ก็เซ็นต์ไป

สรุป การเจรจาที่ศาล
- ก่อนเข้าห้อง จะเป็นการไกล่เกลี่ยกันเอง ซึ่งไม่น่าได้อยู่แล้ว เพราะถ้าได้คงจบไปก่อนที่จะมาขึ้นศาล
- เข้าไปที่ห้อง จะเป็นการไกล่เกลี่ยโดยให้ศาลเป็นคนกลาง โจทย์เค้าก็ยื่น package ตามที่เค้าเตรียมมา เราก็ไม่น่าไหว

***ขั้นตอนนี้ ผมสามารถบอกศาลด้วยวาจา ว่า .....
- ขอเลื่อนการไกล่เกลี่ยออกไปก่อน เพื่อขอเจรจากับโจทย์อีกรอบได้ใช่ไหมครับ?????
- ซึ่งน่าจะยื้อได้อีก 1-2 เดือน แล้วถ้าทนายฝ่ายโจทย์เค้าแย้ง!!! คำตอบน่าจะไปทิศทางไหนครับ หมายถึงยึดเวลาออกไปได้นานแค่ไหน????

ระหว่างเวลายื้อ 1-2 เดือนนี้ เราก็ติดต่อเข้าไปเพื่อขอ Hair Cut หรือไม่ก็ ทำจิตใจให้ร่มๆ ทำตัวว่างเปล่า รอให้เค้าติดต่อมาเอง

แนวทางนี้น่าจะ OK ใช่ไหมครับ???

ขอบคุณครับ และขออภัยที่ถามเยอะไป กังวลจริงๆ


1. การขอเลื่อนนัด คุณต้องได้รับความเห็นชอบ 2 ใน 3 หมายถึง ศาล โจทก์ จำเลย
ถ้าคุณกับ โจทก์ตกลงกันว่าจะเลื่อนนัดก่อน ที่ศาลจะขึ้นบัลลังก์ ส่วนใหญ่ศาลท่านจะไม่มีปัญหาอะไร แค่คุณบอกเหตุผลอันสมควร

ทั้งนี้ อาจจะต้องคำนึงถึงวันทำงานว่า ศาลท่านว่างหรือไม่ ทนายโจทก์ว่างหรือไม่ วันเวลา อาจจะขยับเข้ามาเร็วขึ้นอีก (น้อยเคสมากที่จะขยับออก ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น)

2. คุณไม่สามารถจะเลื่อนได้เกิน 1-2 เดือน จริงๆ น่าจะเดือนเดียวด้วยซ้ำ เพราะโจทก์อาจจะแย้งมาว่า เคยไกล่เกลี่ยมาแล้ว รอบนึง (แล้วคุณจะตอบว่าอย่างไรหละครับ)

3. ทางที่ดีที่สุดในวันนั้น คุณต้องคุยกับทนายโจทก์ให้เคลียร์ก่อน ศาลท่านขึ้นบัลลังก์

4. รบกวนคราวหน้าถามเป็นข้อ ๆ นะครับ เพราะผมไม่ทราบว่า คำถามของคุณอยู่ตรงไหนบ้าง (ถึงแม้ว่าผมจะเข้าใจก็ตาม)

5. ที่คุณกังวล เพราะคุณไม่อ่านลิ้งค์กระทู้ที่ผมให้ไปอย่างละเอียดไงหละครับ (อ่านหลาย ๆ รอบ ไม่เข้าใจแล้วค่อยมาถาม)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103271 โดย noomdeknoi
มารายงานผล

มาถึง 8:30 รอหน้าห้องพิจารณาคดี ใกล้เวลาผมเดินเข้าไปรอในห้องเลย

9:00 ยังไม่มีใคร นอกจากผมกับเจ้าหน้าที่ศาล(เสมียน) ผมก็ชวนคุยก่อน
ผม : คุณครับปกติเราสามารถขอเลื่อนนัดได้ไหมครับ
เจ้าหน้าศาล(เสมียน) : คุณคุยกับทนายได้เลย

9:10 ทนายโจทย์มา (บทสนทนา ระหว่าง ผม กับ ทนาย)
เจ้าหน้าที่ศาล(เสมียน) : คดีของคุณ......ให้เจรจากับทนายได้เลย
ผม : คุณทนายครับ ปกติผมสามารถขอเลื่อนไกล่เกลี่ยได้ไหม
ทนาย : คุณจะขอเลื่อนด้วยเหตุผลอะไร
ผม : ผมคิดว่าจะขายรถมาเอาเงินมาใช้หนี้ ขอเวลาประกาศขายรถ ประมาณ 2 เดือน เพราะต้องโอนเปลี่ยนชื่อ เพราะรถยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเลย จากไฟแนนซ์เลยครับ
ทนาย : ผมคงให้คุณได้ 1 เดือนนะ แต่ผมแนะนำ ถ้าคุณจะขายรถ ผมว่าคุณทำเรื่องผ่อนไปก่อน แล้วค่อยไปเจรจา ขอปิดบัญชีอีกทีไม่ดีกว่าหรอ จะได้ไม่ต้องมาศาลหลายรอบ หรือถ้าปิดในเดือนนี้ได้ก็ยิ่งดี ผมเคยมีเคสปิดได้ในยอดครึ่งนึง ลองคุยกับแบงค์ดูซิ และปกติแบงค์...สีเขียว จะให้ผ่อน 12 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย แต่เป็นยอดเงินต้นเต็มๆ หรือ 24 เดือนด้วยยอดเงินต้น +ดอกเบี้ย15% ยังไงเดี๋ยวให้แบงค์โทรหาคุณ รอรับโทรศัพท์นะ
ผม : คือรายเดือน ผมไม่น่าจะได้ครับ ยอดฟ้อง 420,000 ผ่อนต่อเดือนต้องสูงแน่ๆ คุณทนายครับแล้ว ปกติเค้าขอเลื่อนกันได้กี่ครั้ง
ทนาย : ผมเคยเจอ ขอเลื่อน 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ สุดท้าย ก็ทิ้ง..... ผมรับทำคดีหลายธนาคารอยุ่แล้ว ปกติถ้าปิดบัญชีเร็ว ก็จะได้ลดเยอะ ประมาณครึ่งนึงเลย
เดี๋ยวผมให้คุยกับแบงค์เลย
ผม : ถ้างั้น ถ้าขอเลื่อน ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องจ่ายยอดฟ้องเต็มๆ ใช่ไหม

ไม่นานเกินรอ แบงค์ก็โทรมา ซึ่งก็คือบริษัททวงหนี้นั่นแหละ ที่คุยกันมาตลอด ก่อนที่จะฟ้อง ....คิดในใจ เค้าน่าจะซื้อหนี้เรามาอย่างน้อยๆ ก็น่าจะ 30-50% ถ้าเค้าต่อรองกับเราได้เท่าไหร่ มันก็คือรายได้ของเค้า

ผม : พอดีว่า ทนายแนะนำถ้าปิดในเดือนนี้ได้ จะได้ยอดครึ่งนึง หรอครับ
แบงค์ : ส่วนลดแต่ละเดือนไม่เหมือนกัน ของคุณได้ยอด 280,000 ยิ่งขึ้นศาลแล้ว ยิ่งได้ลดน้อย
ผม : โอย ใครจะมีเงินเยอะขนาดนั้นครับ ผมมีรถคันเดียว ขายเต๊นท์เค้าตีให้ประมาณ 140,000 - 150,000 เอง แต่ถ้าขายเอง น่าจะได้เกือบ 2 แสน แต่ต้องใช้เวลา ผมเลยขอเลื่อนไปอีก 2 เดือน แต่คุณทนาย บอกว่าได้แค่ 1 เดือน ถ้ายอด 200,000 พอจะรับได้ไหมครับ ผมจะลองรวบรวมเงิน ขอยืมจากญาติ พี่น้องดูว่าจะได้ไหม
แบงค์ : เราก็อยากจะช่วยนะ แต่ให้ไม่ได้จริงๆ ขอเป็นที่ยอด 230,000 ภายในวันที่ 28 มิย นี้ละกัน
ผม : งั้น เบื้องต้น ผมขอแจ้งทนายว่า ขอเลื่อนพิจารณาคดีไปก่อน นะครับ ตกลงกันที่ 1 เดือน เพื่อให้เวลาผมไปขายรถ และยืมญาติ ๆ เพื่อให้ครบ 230,000 จะลองดูว่าจะทำได้ไหม และก็เดินไปแจ้งทนายว่า สรุป เลื่อน 1 เดือนครับ คุณทนาย

9:40 ศาลเดินมา ทุกคนในห้อง ก็ต้องยืน พอศาลนั่งบันลังค์ ทุกคนก็นั่งตาม
พิจารณคดีผมก่อนเลย (บทสนทนา ระหว่าง ศาล ทนาย ผม)
ศาล : สรุป ตกลงกันได้แล้วใช่ไหม
ทนาย : ขอเลื่อนนัด 1 เดือนครับ
ศาล : แล้วจำเลยมาศาลไหม
ผม : มาครับ ผมก็รีบเดินปรี่ เข้าไปยืนคู่ทนายโจทย์เลย
ศาล : ยอดฟ้องเท่าไหร่ ท่านก็เปิดเอกสารดูไปด้วย
ผม : 420,000 ครับ
ศาล : จะทำเรื่องผ่อนหรืออย่างไร
ผม : (พยายามพูดแซง ทนายเลย) ผมขอเลื่อน 2 เดือนครับ แต่ทนายไม่ยอม เลยตกลงกันที่ 1 เดือน ที่ผมขอเวลา 2 เดือนเพราะว่า ผมจะขายรถมาใช้หนี้ครับ แต่คงได้เงินไม่ครบตามที่ แบงค์ขอไว้ 230,000 บาท
ศาล : แล้วจะขายรถอะไร และคิดว่าจะได้เงินเท่าไหร่
ผม : ผมจะขายรถนิสสันมาร์ชครับ ถ้าขายเต๊นท์เค้าให้ราคาประมาณ 140,000 - 150,000 บาทครับ
ศาล : แล้วส่วนที่เหลือจะมีจ่ายเค้าไหม
ผม : ผมจะลองไปขอยืมจากญาติ จะพยายามหามาให้ครบครับ แต่ทางแบงค์เค้าแจ้งว่า ต้องปิดภายใน วันที่ 28 มิย นี้ครับ ถ้าหลังจากนั้นยอดปิดอาจจะไม่ใช่ยอดนี้ครับ (ฟ้องศาลซะเลย)
ศาล : ศาลนัดอีกทีวันที่ 18 ก.ค. นะ ถ้าหาเงินไม่ครบ ก็กลับมาใหม่

และก็มีเอกสาร1ฉบับ ผมอ่านและพิจารณาดู เป็นแค่เนื้อหาการเลื่อน ไม่มีข้อผูกมัดใด เลยเซ็นต์ไป ต่อหน้าบันลังค์นั่นแหละ
และผมก็สอบถามทนาย(ดังๆ ให้ทุกคนได้ยินด้วย)
ผม : จบแล้วหรอครับ ผมต้องทำอย่างไรต่อบ้างครับ คุณทนาย ผมต้องได้รับเอกสารอะไรกลับไปบ้างไหม
ทนาย : ไม่ต้องครับ กลับบ้านได้เลย คุณก็รีบไปหาเงินให้ครบตามที่แบงค์แจ้ง แล้วก็ติดต่อชำระกัน ถ้าได้ครบ วันที่ 18 กค ก็ไม่ต้องมาศาล ผมก็จะทำเรื่องถอนฟ้องต่อไป

แล้วผมก็เดินออกจากห้องพิจารณาคดี.....
สิ่งที่ผมต้องทำต่อไปคือ หาเงินมาให้ครบ 230,000 บาทและชำระให้ภายในวันที่ 28 มิ.ย
ถ้าไม่มี หรือไม่ครบ ก็ต้องไปศาล วันที่ 18 กค

จบการไปศาล

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103424 โดย phatsita5454
ยังไงมาอัพเดทด้ยนะคะ จะรอติดตามค่ะ เป็นข้อมูลดีมากๆ ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103427 โดย winnerr

noomdeknoi เขียน: มารายงานผล

มาถึง 8:30 รอหน้าห้องพิจารณาคดี ใกล้เวลาผมเดินเข้าไปรอในห้องเลย

9:00 ยังไม่มีใคร นอกจากผมกับเจ้าหน้าที่ศาล(เสมียน) ผมก็ชวนคุยก่อน
ผม : คุณครับปกติเราสามารถขอเลื่อนนัดได้ไหมครับ
เจ้าหน้าศาล(เสมียน) : คุณคุยกับทนายได้เลย

9:10 ทนายโจทย์มา (บทสนทนา ระหว่าง ผม กับ ทนาย)
เจ้าหน้าที่ศาล(เสมียน) : คดีของคุณ......ให้เจรจากับทนายได้เลย
ผม : คุณทนายครับ ปกติผมสามารถขอเลื่อนไกล่เกลี่ยได้ไหม
ทนาย : คุณจะขอเลื่อนด้วยเหตุผลอะไร
ผม : ผมคิดว่าจะขายรถมาเอาเงินมาใช้หนี้ ขอเวลาประกาศขายรถ ประมาณ 2 เดือน เพราะต้องโอนเปลี่ยนชื่อ เพราะรถยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเลย จากไฟแนนซ์เลยครับ
ทนาย : ผมคงให้คุณได้ 1 เดือนนะ แต่ผมแนะนำ ถ้าคุณจะขายรถ ผมว่าคุณทำเรื่องผ่อนไปก่อน แล้วค่อยไปเจรจา ขอปิดบัญชีอีกทีไม่ดีกว่าหรอ จะได้ไม่ต้องมาศาลหลายรอบ หรือถ้าปิดในเดือนนี้ได้ก็ยิ่งดี ผมเคยมีเคสปิดได้ในยอดครึ่งนึง ลองคุยกับแบงค์ดูซิ และปกติแบงค์...สีเขียว จะให้ผ่อน 12 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย แต่เป็นยอดเงินต้นเต็มๆ หรือ 24 เดือนด้วยยอดเงินต้น +ดอกเบี้ย15% ยังไงเดี๋ยวให้แบงค์โทรหาคุณ รอรับโทรศัพท์นะ
ผม : คือรายเดือน ผมไม่น่าจะได้ครับ ยอดฟ้อง 420,000 ผ่อนต่อเดือนต้องสูงแน่ๆ คุณทนายครับแล้ว ปกติเค้าขอเลื่อนกันได้กี่ครั้ง
ทนาย : ผมเคยเจอ ขอเลื่อน 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ สุดท้าย ก็ทิ้ง..... ผมรับทำคดีหลายธนาคารอยุ่แล้ว ปกติถ้าปิดบัญชีเร็ว ก็จะได้ลดเยอะ ประมาณครึ่งนึงเลย
เดี๋ยวผมให้คุยกับแบงค์เลย
ผม : ถ้างั้น ถ้าขอเลื่อน ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องจ่ายยอดฟ้องเต็มๆ ใช่ไหม

ไม่นานเกินรอ แบงค์ก็โทรมา ซึ่งก็คือบริษัททวงหนี้นั่นแหละ ที่คุยกันมาตลอด ก่อนที่จะฟ้อง ....คิดในใจ เค้าน่าจะซื้อหนี้เรามาอย่างน้อยๆ ก็น่าจะ 30-50% ถ้าเค้าต่อรองกับเราได้เท่าไหร่ มันก็คือรายได้ของเค้า

ผม : พอดีว่า ทนายแนะนำถ้าปิดในเดือนนี้ได้ จะได้ยอดครึ่งนึง หรอครับ
แบงค์ : ส่วนลดแต่ละเดือนไม่เหมือนกัน ของคุณได้ยอด 280,000 ยิ่งขึ้นศาลแล้ว ยิ่งได้ลดน้อย
ผม : โอย ใครจะมีเงินเยอะขนาดนั้นครับ ผมมีรถคันเดียว ขายเต๊นท์เค้าตีให้ประมาณ 140,000 - 150,000 เอง แต่ถ้าขายเอง น่าจะได้เกือบ 2 แสน แต่ต้องใช้เวลา ผมเลยขอเลื่อนไปอีก 2 เดือน แต่คุณทนาย บอกว่าได้แค่ 1 เดือน ถ้ายอด 200,000 พอจะรับได้ไหมครับ ผมจะลองรวบรวมเงิน ขอยืมจากญาติ พี่น้องดูว่าจะได้ไหม
แบงค์ : เราก็อยากจะช่วยนะ แต่ให้ไม่ได้จริงๆ ขอเป็นที่ยอด 230,000 ภายในวันที่ 28 มิย นี้ละกัน
ผม : งั้น เบื้องต้น ผมขอแจ้งทนายว่า ขอเลื่อนพิจารณาคดีไปก่อน นะครับ ตกลงกันที่ 1 เดือน เพื่อให้เวลาผมไปขายรถ และยืมญาติ ๆ เพื่อให้ครบ 230,000 จะลองดูว่าจะทำได้ไหม และก็เดินไปแจ้งทนายว่า สรุป เลื่อน 1 เดือนครับ คุณทนาย

9:40 ศาลเดินมา ทุกคนในห้อง ก็ต้องยืน พอศาลนั่งบันลังค์ ทุกคนก็นั่งตาม
พิจารณคดีผมก่อนเลย (บทสนทนา ระหว่าง ศาล ทนาย ผม)
ศาล : สรุป ตกลงกันได้แล้วใช่ไหม
ทนาย : ขอเลื่อนนัด 1 เดือนครับ
ศาล : แล้วจำเลยมาศาลไหม
ผม : มาครับ ผมก็รีบเดินปรี่ เข้าไปยืนคู่ทนายโจทย์เลย
ศาล : ยอดฟ้องเท่าไหร่ ท่านก็เปิดเอกสารดูไปด้วย
ผม : 420,000 ครับ
ศาล : จะทำเรื่องผ่อนหรืออย่างไร
ผม : (พยายามพูดแซง ทนายเลย) ผมขอเลื่อน 2 เดือนครับ แต่ทนายไม่ยอม เลยตกลงกันที่ 1 เดือน ที่ผมขอเวลา 2 เดือนเพราะว่า ผมจะขายรถมาใช้หนี้ครับ แต่คงได้เงินไม่ครบตามที่ แบงค์ขอไว้ 230,000 บาท
ศาล : แล้วจะขายรถอะไร และคิดว่าจะได้เงินเท่าไหร่
ผม : ผมจะขายรถนิสสันมาร์ชครับ ถ้าขายเต๊นท์เค้าให้ราคาประมาณ 140,000 - 150,000 บาทครับ
ศาล : แล้วส่วนที่เหลือจะมีจ่ายเค้าไหม
ผม : ผมจะลองไปขอยืมจากญาติ จะพยายามหามาให้ครบครับ แต่ทางแบงค์เค้าแจ้งว่า ต้องปิดภายใน วันที่ 28 มิย นี้ครับ ถ้าหลังจากนั้นยอดปิดอาจจะไม่ใช่ยอดนี้ครับ (ฟ้องศาลซะเลย)
ศาล : ศาลนัดอีกทีวันที่ 18 ก.ค. นะ ถ้าหาเงินไม่ครบ ก็กลับมาใหม่

และก็มีเอกสาร1ฉบับ ผมอ่านและพิจารณาดู เป็นแค่เนื้อหาการเลื่อน ไม่มีข้อผูกมัดใด เลยเซ็นต์ไป ต่อหน้าบันลังค์นั่นแหละ
และผมก็สอบถามทนาย(ดังๆ ให้ทุกคนได้ยินด้วย)
ผม : จบแล้วหรอครับ ผมต้องทำอย่างไรต่อบ้างครับ คุณทนาย ผมต้องได้รับเอกสารอะไรกลับไปบ้างไหม
ทนาย : ไม่ต้องครับ กลับบ้านได้เลย คุณก็รีบไปหาเงินให้ครบตามที่แบงค์แจ้ง แล้วก็ติดต่อชำระกัน ถ้าได้ครบ วันที่ 18 กค ก็ไม่ต้องมาศาล ผมก็จะทำเรื่องถอนฟ้องต่อไป

แล้วผมก็เดินออกจากห้องพิจารณาคดี.....
สิ่งที่ผมต้องทำต่อไปคือ หาเงินมาให้ครบ 230,000 บาทและชำระให้ภายในวันที่ 28 มิ.ย
ถ้าไม่มี หรือไม่ครบ ก็ต้องไปศาล วันที่ 18 กค

จบการไปศาล


ขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ ได้แนวทางแนวคิดใหม่ๆเลยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #106285 โดย Kamikaze
ของผมเยอะมาก สามแสนบาท คงต้องขอเลื่อนไปก่อนดีกว่าสู้ไม่ใหวครับ ช่วยบอกขั้นตอนขอเลื่อนให้ด้วยนะครับ
1.เอกสารขอเลื่อน ?
2.การตกลงกับทนาย(2-3 เดือน)?
3.แล้วกลับมาใหม่?
4.ค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาลครั้งแรกใครเป็นคนจ่ายครับ หมายถึงเอกสาร?
5.แล้วรอหมายศาลนัดตามมาใหม่ใช่ใหมครับ?
6.รอหมายศาลอีกรอบที่บ้าน?
ขอบคุณมากครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.654 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena