กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
อดทนแล้วก็หนักแน่นไว้ค่ะ ถ้าเค้าขายหนี้ไปแล้วรอให้ติดต่อมาเอง อย่าง้อค่ะ เป็นผู้ถูกง้อจะดีกว่าrotsukhon เขียน: น้ำตาจะไหล ขอบคุณสำหรับคำตอบดี ๆ ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากขึ้น เพราะสิ่งที่กังวลอยุ่ คือ อยากให้ สถานะใน บูโร มันเคลียร์ ไว ที่สุด ไม่ได้ ตั้งใจจะเบี้ยวหนี้เรย แต่ อ่านแล้ว รู้สึก ว่าไหนๆ เค้าก็ ขายหนี้แล้ว อยากจ่ายเมื่อไร ก็ จ่ายได้ น่ะสิ๊แบบนี้ เจ้าหนี้ รายนี้เล่นตัวดีนัก ก็ ปล่อยไปก่อนแล้ว กัน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ยิ้มอ่อน เขียน:
อดทนแล้วก็หนักแน่นไว้ค่ะ ถ้าเค้าขายหนี้ไปแล้วรอให้ติดต่อมาเอง อย่าง้อค่ะ เป็นผู้ถูกง้อจะดีกว่าrotsukhon เขียน: น้ำตาจะไหล ขอบคุณสำหรับคำตอบดี ๆ ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากขึ้น เพราะสิ่งที่กังวลอยุ่ คือ อยากให้ สถานะใน บูโร มันเคลียร์ ไว ที่สุด ไม่ได้ ตั้งใจจะเบี้ยวหนี้เรย แต่ อ่านแล้ว รู้สึก ว่าไหนๆ เค้าก็ ขายหนี้แล้ว อยากจ่ายเมื่อไร ก็ จ่ายได้ น่ะสิ๊แบบนี้ เจ้าหนี้ รายนี้เล่นตัวดีนัก ก็ ปล่อยไปก่อนแล้ว กัน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
H/C สามารถทำได้ตลอดเลยค่ะ ก่อนฟ้อง ฟ้อง ก่อนขึ้นศาล หลังขึ้นศาล สามารถขอส่วนลดหนี้ได้ตลอด เก็บเงินรอเค้าโทรมาให้ส่วนลดดีกว่านะคะrotsukhon เขียน:
ยิ้มอ่อน เขียน:
อดทนแล้วก็หนักแน่นไว้ค่ะ ถ้าเค้าขายหนี้ไปแล้วรอให้ติดต่อมาเอง อย่าง้อค่ะ เป็นผู้ถูกง้อจะดีกว่าrotsukhon เขียน: น้ำตาจะไหล ขอบคุณสำหรับคำตอบดี ๆ ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากขึ้น เพราะสิ่งที่กังวลอยุ่ คือ อยากให้ สถานะใน บูโร มันเคลียร์ ไว ที่สุด ไม่ได้ ตั้งใจจะเบี้ยวหนี้เรย แต่ อ่านแล้ว รู้สึก ว่าไหนๆ เค้าก็ ขายหนี้แล้ว อยากจ่ายเมื่อไร ก็ จ่ายได้ น่ะสิ๊แบบนี้ เจ้าหนี้ รายนี้เล่นตัวดีนัก ก็ ปล่อยไปก่อนแล้ว กัน
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ขอบสอบถามนิดนึงค่ะ การเตรียมฟ้องของเค้า ถ้า สุดท้ายมีหมายศาลมาที่บ้านแล้ว เรายังสามารถ เจรจา ขอ ลดหนี้ได้อีกคร้งไหมคะ เพราะใจจริงๆ อยากปิดเพราะ ไม่อยากไป เสียเวลา ตอนไปศาล ค่ะ เพราะ ส่วนลดคงไม่ได้ มากมายอย่าง ที่คิด แน่ๆ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
......มีชะตาเดียวกันคือเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อหลายใบ....ไม่รู้จะตอบเช่นไร?...rotsukhon เขียน: อัพเดท สรุป JMT ลดหนี้ให้เหลือ 29000 บาท จากที่บอกว่า ทั้งหมด 32000 (ยอดหนี้ก่อนถูกขายหนี้ ค้างเงินต้นจริงๆจากธนชาติประมาณ 33000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย)
*** เหลือ หนี้กับ JMT อีก 2 รายการ คือบัตรกสิกรไทย และ แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ **
วันนี้มีจนท. โทรมาทวงถามเรื่องหนี้ของบัตรกสิกร ซึ่งเป็นบัตรเครดิต 2 ใบและ บัตรกดเงินสด
ยอดหนี้อัพเดท วันนี้ 8/8/2561
บัตรใบที่ 1 ประมาณ 47000 บาท (เป็นเงินต้น 30,017 ที่เหลือดอกเบี้ย หยุดจ่ายปี 2014)
บีตรกสิกร ใบที่ 2 ประมาณ 43000 บาท (เป็นเงินต้น 29.608 บาท หยดจ่าย ปี 2014)
บัตรกสิกร กดเงินสด ประมาณ 28000 บาท (เป็นเงินต้น 20,183 บาท หยุดจ่าย ปี 2014 )
จากการเจรจาวันนี้ แจ้งให้ปิดยอดหนี้ที่ 67000 บาท ก่อนหน้านี้เสนอยอดปิดมาที่ 70,500 บาท ซึ่งขอลดเพิ่ม สรุปให้ปิดที่ 67,000 บาท ต่อรองขอจ่ายก่อน 20000 บาท ที่เหลือขอผ่อนชำระให้ครบภายใน 31/12/2561 นี้ ไม่ยินยอม อ้างว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น หากจะ ผ่อนจ่าย จะเป็นอีกเงื่อนไขสรุปจึงไม่ปิดบัญชี จากกรณีสอบถามเรื่อง เงินต้นของแต่ละบัตร จึงได้สอบถาม จนท. ว่า หากทางเราปล่อยไว้ไม่ปิดบัญชี ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันนี้ ( 8/8/2561) จะคำนวณ 28% จากเงินต้นใช่หรือไม่
ทาง JMT แจ้งว่า หากละเลยปล่อยไว้ จนถึงวันฟ้อง ดอกเบี้ย จะถูกคิดจากยอดหนี้รวม ของวันนี้ แต่ จะคำนวณ ดอกเบี้ยย้อนหลัง ยกตัวอย่างบัตรใบที่ 1 ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้ 47000 บาท แล้วคำนวนดอกเบี้ย ย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ หยุดชำระ คือปี 2014 ถึงวันที่ ฟ้อง (สรุป ต้องโดนดอกเบี้ย ย้อนหลัง 4 ปี เต็ม ) จึงย้อนถาม จนท. ว่า มันจะคำนวณจาก 47000 ได้อย่างไร เพราะ
1. ยอด 47000 คือ เงินต้น+ดอกเบี้ย ปกติ ดอกเบี้ย ต้องคำนวณจากเงินต้น 30,017 บาทใช่หรือไม่
2. ทำไม JMT ถึงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ย ย้อนหลัง เพราะจริงๆ สถานะ ที่ JMT ได้เป็นเจ้าหนี้ของเรา น่าจะเริ่มเกิดขึ้น ณ วันที่ กสิกร ขายหนี้ ให้ JMT ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดดอกเบี้ยจากเงิน 47000 ดอกเบี้ยที่ สามารถคิดเพิ่มได้ น่าจะ เริ่มตั้งแต่ กสิกรขายหนี้ให้ ไม่น่ามีสิทธิ์มาคิดดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2014 มันเหมือน เป็นการเอาหนี้ที่มีการรวมดอกเบี้ย อยู่แล้ว มาคิดดอกเบี้ยใหม่ ดูซ่้ำซ้อน
วอนผู้รู้ช่วยตอบคำถาม 2 ข้อนี้หน่อยคร้าาา ว่า JMT สามารถทำได้จริงแบบที่ขู่ไว้ หรือ เปล่า ถ้าสามารถทำได้ นี่ คงตายแหงๆๆๆ 28% ต่อปี เป็นเวลาประมาณ 4 ปี
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
.......ลืมไปค่ะ.......รอขึ้นศาลแล้วสู้ด้วยเหตุที่ว่า......อายุการฟ้องบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อหมดอายุฟ้องร้องได้ค่ะ...โปรดศึกษาเรื่องอายุการฟ้องด้วยตัวเองนะคะrotsukhon เขียน: อัพเดท สรุป JMT ลดหนี้ให้เหลือ 29000 บาท จากที่บอกว่า ทั้งหมด 32000 (ยอดหนี้ก่อนถูกขายหนี้ ค้างเงินต้นจริงๆจากธนชาติประมาณ 33000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย)
*** เหลือ หนี้กับ JMT อีก 2 รายการ คือบัตรกสิกรไทย และ แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ **
วันนี้มีจนท. โทรมาทวงถามเรื่องหนี้ของบัตรกสิกร ซึ่งเป็นบัตรเครดิต 2 ใบและ บัตรกดเงินสด
ยอดหนี้อัพเดท วันนี้ 8/8/2561
บัตรใบที่ 1 ประมาณ 47000 บาท (เป็นเงินต้น 30,017 ที่เหลือดอกเบี้ย หยุดจ่ายปี 2014)
บีตรกสิกร ใบที่ 2 ประมาณ 43000 บาท (เป็นเงินต้น 29.608 บาท หยดจ่าย ปี 2014)
บัตรกสิกร กดเงินสด ประมาณ 28000 บาท (เป็นเงินต้น 20,183 บาท หยุดจ่าย ปี 2014 )
จากการเจรจาวันนี้ แจ้งให้ปิดยอดหนี้ที่ 67000 บาท ก่อนหน้านี้เสนอยอดปิดมาที่ 70,500 บาท ซึ่งขอลดเพิ่ม สรุปให้ปิดที่ 67,000 บาท ต่อรองขอจ่ายก่อน 20000 บาท ที่เหลือขอผ่อนชำระให้ครบภายใน 31/12/2561 นี้ ไม่ยินยอม อ้างว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น หากจะ ผ่อนจ่าย จะเป็นอีกเงื่อนไขสรุปจึงไม่ปิดบัญชี จากกรณีสอบถามเรื่อง เงินต้นของแต่ละบัตร จึงได้สอบถาม จนท. ว่า หากทางเราปล่อยไว้ไม่ปิดบัญชี ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันนี้ ( 8/8/2561) จะคำนวณ 28% จากเงินต้นใช่หรือไม่
ทาง JMT แจ้งว่า หากละเลยปล่อยไว้ จนถึงวันฟ้อง ดอกเบี้ย จะถูกคิดจากยอดหนี้รวม ของวันนี้ แต่ จะคำนวณ ดอกเบี้ยย้อนหลัง ยกตัวอย่างบัตรใบที่ 1 ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้ 47000 บาท แล้วคำนวนดอกเบี้ย ย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ หยุดชำระ คือปี 2014 ถึงวันที่ ฟ้อง (สรุป ต้องโดนดอกเบี้ย ย้อนหลัง 4 ปี เต็ม ) จึงย้อนถาม จนท. ว่า มันจะคำนวณจาก 47000 ได้อย่างไร เพราะ
1. ยอด 47000 คือ เงินต้น+ดอกเบี้ย ปกติ ดอกเบี้ย ต้องคำนวณจากเงินต้น 30,017 บาทใช่หรือไม่
2. ทำไม JMT ถึงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ย ย้อนหลัง เพราะจริงๆ สถานะ ที่ JMT ได้เป็นเจ้าหนี้ของเรา น่าจะเริ่มเกิดขึ้น ณ วันที่ กสิกร ขายหนี้ ให้ JMT ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดดอกเบี้ยจากเงิน 47000 ดอกเบี้ยที่ สามารถคิดเพิ่มได้ น่าจะ เริ่มตั้งแต่ กสิกรขายหนี้ให้ ไม่น่ามีสิทธิ์มาคิดดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2014 มันเหมือน เป็นการเอาหนี้ที่มีการรวมดอกเบี้ย อยู่แล้ว มาคิดดอกเบี้ยใหม่ ดูซ่้ำซ้อน
วอนผู้รู้ช่วยตอบคำถาม 2 ข้อนี้หน่อยคร้าาา ว่า JMT สามารถทำได้จริงแบบที่ขู่ไว้ หรือ เปล่า ถ้าสามารถทำได้ นี่ คงตายแหงๆๆๆ 28% ต่อปี เป็นเวลาประมาณ 4 ปี
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
thida28 เขียน:
.......ลืมไปค่ะ.......รอขึ้นศาลแล้วสู้ด้วยเหตุที่ว่า......อายุการฟ้องบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อหมดอายุฟ้องร้องได้ค่ะ...โปรดศึกษาเรื่องอายุการฟ้องด้วยตัวเองนะคะrotsukhon เขียน: อัพเดท สรุป JMT ลดหนี้ให้เหลือ 29000 บาท จากที่บอกว่า ทั้งหมด 32000 (ยอดหนี้ก่อนถูกขายหนี้ ค้างเงินต้นจริงๆจากธนชาติประมาณ 33000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย)
*** เหลือ หนี้กับ JMT อีก 2 รายการ คือบัตรกสิกรไทย และ แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ **
วันนี้มีจนท. โทรมาทวงถามเรื่องหนี้ของบัตรกสิกร ซึ่งเป็นบัตรเครดิต 2 ใบและ บัตรกดเงินสด
ยอดหนี้อัพเดท วันนี้ 8/8/2561
บัตรใบที่ 1 ประมาณ 47000 บาท (เป็นเงินต้น 30,017 ที่เหลือดอกเบี้ย หยุดจ่ายปี 2014)
บีตรกสิกร ใบที่ 2 ประมาณ 43000 บาท (เป็นเงินต้น 29.608 บาท หยดจ่าย ปี 2014)
บัตรกสิกร กดเงินสด ประมาณ 28000 บาท (เป็นเงินต้น 20,183 บาท หยุดจ่าย ปี 2014 )
จากการเจรจาวันนี้ แจ้งให้ปิดยอดหนี้ที่ 67000 บาท ก่อนหน้านี้เสนอยอดปิดมาที่ 70,500 บาท ซึ่งขอลดเพิ่ม สรุปให้ปิดที่ 67,000 บาท ต่อรองขอจ่ายก่อน 20000 บาท ที่เหลือขอผ่อนชำระให้ครบภายใน 31/12/2561 นี้ ไม่ยินยอม อ้างว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น หากจะ ผ่อนจ่าย จะเป็นอีกเงื่อนไขสรุปจึงไม่ปิดบัญชี จากกรณีสอบถามเรื่อง เงินต้นของแต่ละบัตร จึงได้สอบถาม จนท. ว่า หากทางเราปล่อยไว้ไม่ปิดบัญชี ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันนี้ ( 8/8/2561) จะคำนวณ 28% จากเงินต้นใช่หรือไม่
ทาง JMT แจ้งว่า หากละเลยปล่อยไว้ จนถึงวันฟ้อง ดอกเบี้ย จะถูกคิดจากยอดหนี้รวม ของวันนี้ แต่ จะคำนวณ ดอกเบี้ยย้อนหลัง ยกตัวอย่างบัตรใบที่ 1 ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้ 47000 บาท แล้วคำนวนดอกเบี้ย ย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ หยุดชำระ คือปี 2014 ถึงวันที่ ฟ้อง (สรุป ต้องโดนดอกเบี้ย ย้อนหลัง 4 ปี เต็ม ) จึงย้อนถาม จนท. ว่า มันจะคำนวณจาก 47000 ได้อย่างไร เพราะ
1. ยอด 47000 คือ เงินต้น+ดอกเบี้ย ปกติ ดอกเบี้ย ต้องคำนวณจากเงินต้น 30,017 บาทใช่หรือไม่
2. ทำไม JMT ถึงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ย ย้อนหลัง เพราะจริงๆ สถานะ ที่ JMT ได้เป็นเจ้าหนี้ของเรา น่าจะเริ่มเกิดขึ้น ณ วันที่ กสิกร ขายหนี้ ให้ JMT ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดดอกเบี้ยจากเงิน 47000 ดอกเบี้ยที่ สามารถคิดเพิ่มได้ น่าจะ เริ่มตั้งแต่ กสิกรขายหนี้ให้ ไม่น่ามีสิทธิ์มาคิดดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2014 มันเหมือน เป็นการเอาหนี้ที่มีการรวมดอกเบี้ย อยู่แล้ว มาคิดดอกเบี้ยใหม่ ดูซ่้ำซ้อน
วอนผู้รู้ช่วยตอบคำถาม 2 ข้อนี้หน่อยคร้าาา ว่า JMT สามารถทำได้จริงแบบที่ขู่ไว้ หรือ เปล่า ถ้าสามารถทำได้ นี่ คงตายแหงๆๆๆ 28% ต่อปี เป็นเวลาประมาณ 4 ปี
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
eakkachai เขียน: ของคุณ rotsukhon หยุดจ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ผมสังเกตุดูเจ้าหนี้คุณเหมือนจะบังคับให้จ่าย3000 เพื่อเดินบัญชี ไม่ใช่ของคุณมันหมดอายุความฟ้องแล้วเหรอ บัตรอะไรประเภทไหน คือโดยปรกตินะส่วนมากที่บริษัทตระกูลJ ตามทวงอยู่นะจะเป็นประเภทหมดอายุความแล้วเสียส่วนใหญ่ เพราะเขาซื้อหนี้เสียมา ถ้ามันยังไม่หมดอายุความนะเจ้าของหนี้ตัวจริงนะเขาจะฟองเอง ถ้าตระกูลJฟ้องนะส่วนมากหมดอายุความแต่เขาฟ้องเผื่อลูกหนี้ไม่ไปศาลตามฟ้อง ถ้าลูกหนี้ไม่ไปตามศาลนัดเขาก็จะชนะคดี คราวนี้เขาก็จะได้อำนาจบังคับคดีมาใหม่ตั้งแต่ศาลตัดสินไปอีก10ปี อย่าจ่ายไม่งั้นอายุความจะเริ่มนับหนึ่งใหม่ ลองดูว่าของเรานะหมดอายุความยังไม่ต้องไปสนใจ ถ้าหมดอายุความแล้วถ้าเขาฟ้องมาจ้างทนายเขียนคำให้การสู้ครับ เดี๋ยวศาลก็ยกฟ้อง (ถ้าบริษัทนี้ฟ้องอย่างแรกที่คุณจะต้องดูคือมันหมดอายุความยัง อย่างแรกที่คุณต้องรู้คือบัตรของคุณเป็นประเภทอะไร อายุความกี่ปี มันมีอยู่3ประเภท อายุความ2ปี 5ปี 10ปี ถ้าตอนนี้จำรายละเอียดอะไรไม่ได้ ถ้าได้หมายศาลมารายละเอียดที่คุณจำไม่ได้จะอยู่ในนั้นทั้งหมดหนี้จริงเท่าไหร่ผิดนัดเมื่อไหร่จ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ชนิดของบัตร ฟ้องเรื่ออะไร ไม่ต้องสนประนอมหนี้สนใจอายุความใว้ก่อน ถ้าดูไม่ออกไปปรึกษาทนายครับ ในเพจนี้ก็บอกอยู่ๆบ่อยๆว่าควรปรึกษาใคร ราคาค่าเขียนก็น่าจะยุธติธรรมกว่าข้างนอกครับ ผมเคยลองแล้ว) หมายเหตุ บัตรเคดิตคุณ ถ้าหยุดจ่ายตั้งแต่ปี2014 ไม่เคยจ่ายเพิ่มเข้าไปอีก หมดอายุความฟ้องแล้ว ถ้าฟ้องมาจ้างทนายสู้เลยครับเรื่องอายุความสู้นะครับให้ทนายเขียนคำให้การให้แล้วเราไปศาลเองก็ได้ บัตรกดเงินสดอายุความน่าจะ5ปีนับจากวันผิดนัด แต่ถ้าเขาฟ้องมา3อย่างรวมกันต้องให้ทนายเขียนให้ดีเพราะเท่าที่ดูบัตรกดเงินสดยังไม่หมดอายุความ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
eakkachai เขียน: - หนี้บัตรเครดิต...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี
- หนี้วงเงินเบิกเกินบัญชี...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 10 ปี
- หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล รวมทั้งบัตรกดเงินสด...อายุความ = 5 ปี (สัญญากู้ยืมที่มีการผ่อนต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ)
- หนี้เงินกู้...อายุความ = 10 ปี (สัญญากู้ยืมที่กำหนดชำระเงินต้นคืนทั้งหมดในครั้งเดียว)
- หนี้ที่เกิดจาก สัญญาเช่าซื้อ...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
eakkachai เขียน: ชำระหนี้ให้ บริษัท เจ ฯ ไปเมื่อ วันที่ 31/7/2561 เพื่อปิดหนี้บัตรธนชาต ในเอกสารบอกรอ เอกสารภายใน 45 วันจะได้รับหนังสือยืนยันการปิด นี่ ผ่านมา 70 กว่าวันแล้ว ไม่ได้รับ หนังสือยืนยันการปิดบัญชี เลย ยังไม่ได้ ไปทำเรื่องแก้ไข บูโร สักที โทรไปตามก็ บอกว่า อีก 7 วันจะ ส่งให้ทางอีเมลล์ก่อน นี่ ผ่านมา 10 วันแล้ว ยังไม่ได้ รับเมลล์ ทำไง กับ บริษัท นี้ได้บ้าง ร้องเรียนที่ไหนดี ให้มันโดนหนักๆ เห็น มีแต่คนมีปัญหากับ บริษัทนี้ เรื่องนี้ มากๆๆ เหลืออีก 2 รายการที่ต้องปิดกับมัน กังวลขึ้นมาเลย บริษัทนี้ ทำงานแย่สุดๆ ทำไง กับมันดีเนี้ย
จริงๆการจะปิดหนี้งวดเดียวจบคุณต้องได้เอกสารมาก่อนค่อยจ่ายเงิน ถ้าคุณจ่ายเงินแล้วมารอเอกสารปิดทีหลังเขาไม่ทำกัน เพราะต้องมาลำบากต้องกลายมาเป็นคนไปตามทวงเขาหล่ะคราวนี้ ดีไม่ดีเผลอๆไม่ได้อีกด้วยซ้ำ นี่หล่ะที่คุณนกกระจอกเทศชอบบอกบ่อยๆว่า ใครอยากเป็นเหยื่อก็ไม่ต้องรอเอกสารปิดก่อนก็ได้ เรื่องร้องเรียนลืมไปได้เลยไม่มีใครสนใจหรอกครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา