ผ่านมาเกือบ10ปี อยู่ดีๆก็มีจดหมายจากบริษัทเชษ..ส่งมาให้ไกล่เกลี่ยหนี้โดยอ้างกรมบังคับคดี

ผมควรทำยังไงเพื่อขอลดหนี้เพิ่มครับ

เรื่องมีอยู่ว่า แม่ผมไปเซ็นค้ำให้เพื่อนคนนึงเเล้วโดนยึดบ้าน หมดคัวเหลือแต่เงินเดือนซึ่งตอนนั้นไม่พอใช้เลยต้องกดเงินสดอออกมาจากบัตรฮ่องกงอะไรสักอย่างตั้งเเต่ปี51-52 เเล้วขาดส่งหนี้ไปเป็นจำนวนประมาณ 1แสน แล้วก็ต้องย้ายบ้านหาที่อยู่ใหม่ ผ่านมาเกือบ 10 ปี จู่ๆก็มีจดหมายจากบริษัทนึงส่งมาตามที่อยู่แม่ที่ต่างจังหวัด ให้มาเข้าโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ จำนวน เกือบ2แสน คาดว่าบวกดอกมาจากเงินต้น1แสน โดยเจ้าหนี้เปลี่ยนเป็น ธนาคารกรุงศรี ซึ่งได้รับช่วงต่อมาจากบัตรเครดิตฮ่องกงอะไรสักอย่าง.. ผมก็ไล่โทรถามธนาคารฮ่องกง เขาก็ให้ผมโทรไปศาล ไปกรมบังคับคดี จนสุดท้ายได้เบอร์บริษัทนึงที่เขารับผิดชอบเเละส่งจดหมายมาที่ภูมิลำเนาเดิมของเเม่ผม อยากจะให้เเม่ผมเป็นคนใช้หนี้จำนวนเกือบ2แสนนี้ ซึ่งผมในฐานะลูกก็อยากจะช่วยแม่ เลยขอต่อรองให้ไม่เกิน5หมื่น แต่ทางบริษัทบอกว่าลดได้เหลืแเเค่ 8หมื่นกว่าบาท ซึ่งค่อนข้างหนักสำหรับผม ตอนนี้เเม่ผมเกษียณแล้ว มีเเต่เงินบำนาญ ส่วนตัวผมก็พนักงานบริษัทซึ่งก็มีภาระหนี้เป็นของตัวเองอยู่มากเหมือนกัน ผมขอเขาผ่อนจำนวน8หมื่นนั้นเขาก็ไม่ให้ บอกต้องจ่ายเป็นก้อน ซึ่งตอนนี้ผมพร้อมเป็นก้อนเเค่ไม่เกิน5หมื่น จึงอยากสอบถามผู้รู้ว่า เคสนี้ ผมควรติดต่อธนาคารกรุงศรีโดยตรงเพื่อขอลดหนี้ปิดบัญชี หรือว่าควรรอให้หาเงินครบ 8หมื่นกว่าบาทเเล้วค่อยติดต่อกลับไปจ่ายบริษัทครับ

.
หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

ลองอ่านเพิ่มเติมในหัวข้อ อายุความ ด้วยนะครับ
อยู่ใน link ที่ท่านนกกระจอกเทศแนบมาแล้วนะครับ
เผื่่อจะได้ไอเดียอะไรเพิ่มขึ้นครับ