บัตรเครดิตอิออน ปรับโครงสร้างปี57แต่ไม่จ่าย ล่าสุดโดนฟ้อง

สวัสดีค่ะทุกๆท่าน เป็นสมาชิกใหม่ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
พอดีได้ศึกษาอ่านข้อมูลมาระยะนึงแล้ว มารู้จักชมรมหลังจากที่ยินยอมปรับโครงสร้างหนี้อิออนไปแล้ว พลาดแล้ว แต่พอมาอ่านเจอเรื่องสัญญานรกปุ๊บ...จึงไม่จ่ายเงินงวดแรกเข้าไป

ขอเล่าย้อนไปนิดนึงนะคะ บัตรเครดิตอิออนเริ่มหยุดจ่ายไปประมาณต้นปี2557 ยอดหยุดอยู่ประมาณ 53,000-
เดือน 8/2557 ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้(ในสัญญาเป็นกู้เงินยอด 60,700) 24 งวด งวดละประมาณ2500 ดอกเบี้ย 15%/ปี ให้เริ่มจ่ายงวดแรก2/10/57........ แต่ไม่จ่ายเลยสักงวด รอเวลาฟ้องเพราะยังชำระขั้นต่ำไม่ไหว

ล่าสุดวันที่ 18/8/2561 เลิกงานกลับบ้าน เจอหมายศาลมาห้อยไว้หน้าบ้าน ตอนแรกตกใจมากๆค่ะ แต่ก็ตั้งสติได้อ่านเอกสาร สรุปคือ อิออนฟ้องโดยบริษัท JMT ให้ต้องจ่ายเงินทั้งหมดตามฟ้อง 87,000- ศาลมีนบุรีนัดขึ้นศาล8/10/2561
ดิฉันจึงอยากขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ดังนี้ค่ะ
1.สัญญาปรับโครงสร้างฉบับนั้นเป็นโมฆะ ใช่มั้ยคะ
2.แล้วแบบนี้จะมีผลยังไงกับสัญญาบัตรอันเก่า
3.ดิฉันต้องทำยังไงต่อไปคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

tawan53 เขียน: สวัสดีค่ะทุกๆท่าน เป็นสมาชิกใหม่ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
พอดีได้ศึกษาอ่านข้อมูลมาระยะนึงแล้ว มารู้จักชมรมหลังจากที่ยินยอมปรับโครงสร้างหนี้อิออนไปแล้ว พลาดแล้ว แต่พอมาอ่านเจอเรื่องสัญญานรกปุ๊บ...จึงไม่จ่ายเงินงวดแรกเข้าไป

ขอเล่าย้อนไปนิดนึงนะคะ บัตรเครดิตอิออนเริ่มหยุดจ่ายไปประมาณต้นปี2557 ยอดหยุดอยู่ประมาณ 53,000-
เดือน 8/2557 ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้(ในสัญญาเป็นกู้เงินยอด 60,700) 24 งวด งวดละประมาณ2500 ดอกเบี้ย 15%/ปี ให้เริ่มจ่ายงวดแรก2/10/57........ แต่ไม่จ่ายเลยสักงวด รอเวลาฟ้องเพราะยังชำระขั้นต่ำไม่ไหว

ล่าสุดวันที่ 18/8/2561 เลิกงานกลับบ้าน เจอหมายศาลมาห้อยไว้หน้าบ้าน ตอนแรกตกใจมากๆค่ะ แต่ก็ตั้งสติได้อ่านเอกสาร สรุปคือ อิออนฟ้องโดยบริษัท JMT ให้ต้องจ่ายเงินทั้งหมดตามฟ้อง 87,000- ศาลมีนบุรีนัดขึ้นศาล8/10/2561
ดิฉันจึงอยากขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ดังนี้ค่ะ
1.สัญญาปรับโครงสร้างฉบับนั้นเป็นโมฆะ ใช่มั้ยคะ
2.แล้วแบบนี้จะมีผลยังไงกับสัญญาบัตรอันเก่า
3.ดิฉันต้องทำยังไงต่อไปคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ตอบ
1. “สัญญา นรก”...คืออะไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6343&Itemid=64

2. อ่านคำตอบที่ 1 แล้ว ข้อนี้ คุณจะตอบตัวเองได้ครับ (สิ่งสำคัญรายละเอียด อยู่ในหมายศาลครับ อ่านครับ อ่าน)

3. ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

แนวทางรับมือเมื่อได้รับหมายศาลแบบบ้านๆ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=40205&Itemid=64

ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส. 18/2552 เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบัตรเครดิตสำหรับผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2552 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 ความว่า

5.2.5 การเปลี่ยนประเภทหนี้
ห้ามผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตโอนหนี้ หรือเปลี่ยนประเภทหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิต ไปเป็นหนี้ตามสัญญาสินเชื่อประเภทอื่น เว้นแต่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ถือบัตรหรือผู้บริโภคก่อน
(2) ต้องกำหนดให้มีการชำระหนี้ขั้นต่ำในแต่ละงวดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของยอดหนี้คงค้าง เว้นแต่เป็นการดำเนินการเพื่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือบัตร โดยเฉพาะในเรื่อง ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต่ำลง และผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตจะต้องจัดทำเอกสารหลักฐานสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้ครบถ้วน และมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย (3) การเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ต้องเป็นไปตามข้อ 5.2.3 ของประกาศฉบับนี้
(4) ต้องยกเลิกการใช้บัตร และบัญชีบัตรเครดิตของผู้ถือบัตรหรือผู้บริโภครายนั้นทันที

การมาฟ้องหนี้เงินกู้น่าจะไม่เป็นไปตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ต้องเูรายละเอียดในคำฟ้อง

ข้อ ๑. ตามเงื่อนไขสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑๑ ข้อ ๔ ตกลงไว้ว่า การปรับปรุงโครงสร้างหนี้และหรือการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆ ตามสัญญาฉบับนี้ ไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ และไม่มีผลทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบในบรรดาภาระหนี้ที่มีอยู่เดิม

จำเลยขอให้การว่า ตามเงื่อนไขสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ดังกล่าว ข้อ ๔ ตกลงไว้ว่า การปรับปรุงโครงสร้างหนี้และหรือการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่าง ๆ ตามสัญญาฉบับนี้ ไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ และไม่มีผลทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบในบรรดาภาระหนี้ที่มีอยู่เดิม เมื่อเงื่อนไขสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตกลงไว้ชัดแจ้งว่า การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่าง ๆ ตามสัญญาฉบับนี้ ไม่ใช่การแปลงหนี้ใหม่ และไม่มีผลทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบในบรรดาภาระหนี้ที่มีอยู่เดิม ดังนั้น โจทก์จึงต้องฟ้องจำเลยตามมูลหนี้เดิม ให้จำเลยรับผิดชอบ ในบรรดาภาระหนี้ที่มีอยู่เดิม ตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงขอประทานศาลได้โปรดยกฟ้องโจทก์ เพื่อให้โจทก์ไปฟ้องจำเลยตามมูลหนี้เดิม ให้จำเลยรับผิดชอบ ในบรรดาภาระหนี้ที่มีอยู่เดิม ตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้

ขอบคุณมากค่ะคุณ ReFreshZzz และคุณ Pheonix

ตอนนี้มีคำตอบให้ตัวเองแน่ๆแล้วค่ะว่าสํญญาปรับโครงสร้างที่ทำไปนั้นถือว่าเป็นโมฆะ เพราะเราไม่ได้จ่ายเงินเข้าไปสัญญาจึงไม่สมบูรณ์

ในหมายศาลโจทย์ฟ้อง เรื่อง "ผิดสัญญากู้ยืมเงิน และเรียกให้ชำระเงิน" ค่ะ

ดังนั้นด้วยเหตุนี้ วันที่ไปขึ้นศาลดิฉันควรต้องไปให้การสู้ว่าโจทย์ฟ้องว่าผิดสัญญากู้เงินนั้นไม่ถูกต้อง
แล้วเราจะร้องขอให้ศาลท่านยกฟ้อง ดิฉันคิดแบบนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดค่ะ แล้วถ้าสมมุติว่าเรื่องผิดสัญญานี้พ้นไป โจทย์จะกลับมาฟ้องเราในสัญญาบัตรเครดิตอันเดิมได้อีกมั้ยค่ะ เพราะจริงๆสัญญาบัตรเครดิตถ้านับจากปี57 ตอนนี้ก็เกิน2ปีไปแล้ว เราสามารถชี้แจงเรื่องนี้ในคราวเดียวกันเลยได้ไหม หรือว่าไม่ต้องเพราะไม่อยู่ในคำฟ้อง

ตอนนี้กลุ้มใจวันไปศาลนัดแรกค่ะ ไม่มีใครให้ปรึกษาเลย เรื่องทนายก็ไม่มีไม่รู้จักเลย แล้วถ้าเกิดต้องเขียนคำให้การต่างๆต้องเขียนล่วงหน้าหรือว่าเขียนอยู่ที่ศาลได้ค่ะ อีกอย่างคือถ้าเราไปเจอกับทนายฝ่ายโจทย์ก่อน เราจะคุยกับเขาเรื่องสัญญาที่เป็นโมฆะนะนั้นกับเขาเลยไหมหรือรอศาลท่านก่อนดี

tawan53 เขียน: ขอบคุณมากค่ะคุณ ReFreshZzz และคุณ Pheonix

ตอนนี้มีคำตอบให้ตัวเองแน่ๆแล้วค่ะว่าสํญญาปรับโครงสร้างที่ทำไปนั้นถือว่าเป็นโมฆะ เพราะเราไม่ได้จ่ายเงินเข้าไปสัญญาจึงไม่สมบูรณ์

ในหมายศาลโจทย์ฟ้อง เรื่อง "ผิดสัญญากู้ยืมเงิน และเรียกให้ชำระเงิน" ค่ะ

ดังนั้นด้วยเหตุนี้ วันที่ไปขึ้นศาลดิฉันควรต้องไปให้การสู้ว่าโจทย์ฟ้องว่าผิดสัญญากู้เงินนั้นไม่ถูกต้อง
แล้วเราจะร้องขอให้ศาลท่านยกฟ้อง ดิฉันคิดแบบนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดค่ะ แล้วถ้าสมมุติว่าเรื่องผิดสัญญานี้พ้นไป โจทย์จะกลับมาฟ้องเราในสัญญาบัตรเครดิตอันเดิมได้อีกมั้ยค่ะ เพราะจริงๆสัญญาบัตรเครดิตถ้านับจากปี57 ตอนนี้ก็เกิน2ปีไปแล้ว เราสามารถชี้แจงเรื่องนี้ในคราวเดียวกันเลยได้ไหม หรือว่าไม่ต้องเพราะไม่อยู่ในคำฟ้อง


ตอนนี้กลุ้มใจวันไปศาลนัดแรกค่ะ ไม่มีใครให้ปรึกษาเลย เรื่องทนายก็ไม่มีไม่รู้จักเลย แล้วถ้าเกิดต้องเขียนคำให้การต่างๆต้องเขียนล่วงหน้าหรือว่าเขียนอยู่ที่ศาลได้ค่ะ อีกอย่างคือถ้าเราไปเจอกับทนายฝ่ายโจทย์ก่อน เราจะคุยกับเขาเรื่องสัญญาที่เป็นโมฆะนะนั้นกับเขาเลยไหมหรือรอศาลท่านก่อนดี

จะสู้คดี ต้องใช้ทนาย ฉะนั้น จะทำอะไรคิดให้รอบคอบครับ

อ่านเพิ่มเติมด้านล่างครับ

ความหมายของ วันนัดไปศาล


debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6915&Itemid=64

ติดต่อสายด่วนคุณอาไพโรจน์เพื่อปรึกษาในเรื่องนี้ด่วนครับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=70:hotline-new&catid=4:2008-12-16-19-39-10&Itemid=21

ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยววันนี้จะโทรไปขอคำชี้แนะจากคุณอาไพโรจน์ก่อนค่ะ
ไม่เคยคิดหนีหนี้ อยากชดใช้ให้หมดไปสบายใจ แต่ในตอนนี้ยังไม่มีเงินเก็บเลยยังผ่อนจ่ายขั้นต่ำไม่ได้
เพราะยังส่งบ้าน ส่งรถอยู่รถก็ใกล้จะหมดแล้วด้วยอีกไม่ถึง10งวด บอกตัวเองสู้ๆๆ

เมื่อเช้า11โมงโทรไปปรึกษาคุณอาไพโรจน์มาแล้วค่ะ (ก่อนโทรไปแอบกลัวประหม่านิดๆ )
ทั้งกลัวว่าคุณอาจะไม่ว่างด้วย แต่ครั้งแรกคุณอารับเลย ขอบคุณมากๆค่ะ เราก็เล่าที่มาที่ไปให้ฟังคร่าวๆค่ะ
คุณอาก็ให้คำแนะนำดีมากๆค่ะ ขั้นตอนต่อไปกำลังจะส่งเอกสารหมายศาลสำนวณฟ้องไปให้คุณอาช่วยดูให้ค่ะ
โล่งใจ และมีกำลังใจขึ้นมาบ้างค่ะ....แต่นอนไม่ค่อยหลับเลยตั้งแต่ได้หมายศาล555 หัวเราะกลบเกลื่อน
เดี๋ยวถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะคะ

กำลังหาข้อมูลด้านการปรับโครงสร้างหนี้อยู่เลย อยากขอปรึกษาเพิ่มเติมเเพราะด้วยตัวเองตอนนี้มี 1 ใบที่ปรับโครงสร้างหนี้อยู่กับ ธนาคารยูโอบี เพราะเนื่องจากอยากตัดปัญหาการขึ้นศาลในตอนนั้นเพราะกลัวเลย ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ว่าขอปรับโครงสร้างหนี้แต่ทางธนาคารเองไม่ได้มีเอกสารอะไรมาให้เซ็นต์เลย ได้แต่บอกว่าให้จ่ายขั้นต่ำไปเดือนละ 1,200 บาท จากยอดหนี้ 40,000 บาท ซึ่งแอบ งง มากคือในงวดที่ 3 ได้มีการขอส่วนลดกับ เจ้าหน้าที่ไปว่าลดได้เท่าไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกลดให้ได้เหลือ 24,000 บาท ซึ่งในตอนนั้นหาไม่ได้จริงๆ เลยยอมจ่ายไปเรื่อยๆ จนงวดที่ 5 สอบถามอีกครั้งเพราะคิดว่าส่วนลดน่าจะลดลงไปอีกแต่กลบกลายเป็น ส่วนลดให้ 25,000 บาท ซึ่งมากกว่าครั้งแรกที่ถาม เจ้าหน้าที่บอกส่วนลดแต่ละครั้งให้ได้ไม่เท่ากัน คือประเด็นมันควรน้อยกว่าครั้งแรกที่ถามไหม(ส่วนลด) และตั้งคำถามต่อมาว่าแล้วอย่างนี้ถ้าจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆทางดิฉันจะทราบได้อย่างไรว่ามันหมดหนี้แล้วเพราะไม่เคยมีเอกสาร + แจ้งมาเลยว่าดิฉันต้องจ่ายไปกี่งวดถึงหมด.....ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะว่าควรปล่อยแล้วไปขึ้นศาลเอาหรือ จ่ายต่อไปดีค่ะ

voraluk เขียน: กำลังหาข้อมูลด้านการปรับโครงสร้างหนี้อยู่เลย อยากขอปรึกษาเพิ่มเติมเเพราะด้วยตัวเองตอนนี้มี 1 ใบที่ปรับโครงสร้างหนี้อยู่กับ ธนาคารยูโอบี เพราะเนื่องจากอยากตัดปัญหาการขึ้นศาลในตอนนั้นเพราะกลัวเลย ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ว่าขอปรับโครงสร้างหนี้แต่ทางธนาคารเองไม่ได้มีเอกสารอะไรมาให้เซ็นต์เลย ได้แต่บอกว่าให้จ่ายขั้นต่ำไปเดือนละ 1,200 บาท จากยอดหนี้ 40,000 บาท ซึ่งแอบ งง มากคือในงวดที่ 3 ได้มีการขอส่วนลดกับ เจ้าหน้าที่ไปว่าลดได้เท่าไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกลดให้ได้เหลือ 24,000 บาท ซึ่งในตอนนั้นหาไม่ได้จริงๆ เลยยอมจ่ายไปเรื่อยๆ จนงวดที่ 5 สอบถามอีกครั้งเพราะคิดว่าส่วนลดน่าจะลดลงไปอีกแต่กลบกลายเป็น ส่วนลดให้ 25,000 บาท ซึ่งมากกว่าครั้งแรกที่ถาม เจ้าหน้าที่บอกส่วนลดแต่ละครั้งให้ได้ไม่เท่ากัน คือประเด็นมันควรน้อยกว่าครั้งแรกที่ถามไหม(ส่วนลด) และตั้งคำถามต่อมาว่าแล้วอย่างนี้ถ้าจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆทางดิฉันจะทราบได้อย่างไรว่ามันหมดหนี้แล้วเพราะไม่เคยมีเอกสาร + แจ้งมาเลยว่าดิฉันต้องจ่ายไปกี่งวดถึงหมด.....ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะว่าควรปล่อยแล้วไปขึ้นศาลเอาหรือ จ่ายต่อไปดีค่ะ

ขอเล่าจากประสบการณ์ที่เราปรับโครงสร้างกับทางอิออนนะคะ ของธนาคารอื่นไม่เคยค่ะ คือเค้าจะมีเอกสารให้เราเซ็นยินยอมค่ะ(เหมือนเขียนสมัครใหม่) แจ้งยอดเงิน แจ้งดอกเบี้ยใหม่ จำนวนงวดที่ต้องชำระ เวลาถึงรอบจะชำระก็มีใบแจ้งหนี้ส่งมาให้ไปชำระปกติ แต่ว่าเราไม่จ่ายเลยตั้งแต่งวดแรก....แต่กรณีของคุณไม่มีใบเอกสารอะไรเลยหรอคะ มันแปลกๆเหมือนไม่ได้ปรับโครงสร้างใหม่ แต่ให้จ่ายขั้นต่ำไป
เรื่อยๆ

ขอมาเล่าและอัพเดทนิดนึงนะคะ หลังจากที่ไปศาลนัดแรกมา
เหมือนกับที่เพื่อนๆในชมรมหลายท่านบอกค่ะ ไปศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เวลานัด13.30 น. ไปถึงประมาณเที่ยง ไปดูรายชื่อของ JMT มีนัดประมาณ10คน แต่มาแค่4คนค่ะ

พอบ่ายโมงนิดๆเข้าไปนั่งรอในห้องพิจารณากับเพื่อนร่วมชะตากรรม .... เจ้าหน้าที่มาเช็ครายชื่อเสร็จเราขอยื่นคำให้การ (คนเดียว) พอมานั่งรอ เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ก็เริ่มพูดในทำนองว่าให้ทุกคนไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ ยอมทำประนีประนอมจ่ายเพราะเป็นหนี้เขาจริง.....มีพูดมาประโยคนึงค่ะว่า ตั้งแต่ทำงานมา20กว่าปีไม่เคยมีใครชนะคดีบัตรเครดิตบัตรกดเงินสด เหมือนสู้ไปยังไงก็แพ้อยู่ดี เรานี่ฟังแล้วกำลังใจหล่นวูบเลยค่ะ...ทุกคนก็ฟังๆไปได้แต่เงียบค่ะ สักพักทนายโจทย์ก็มา ไม่มีการพูดจากดดันอะไรค่ะ แค่เสนอของแต่ละคนว่าให้จ่ายขั้นต่ำเท่าไหร่ กี่งวด เค้าให้สูงสุดแค่24งวดค่ะ ของเราแปดหมืนกว่า ตอนแรกเสนอให้3600- 24 งวด ปิดจบงวดสุดท้าย เราบอกไม่ไหว ลดลงให้ 2000- ปิดจบงวดสุดท้าย เราก็ยังยืนยันว่ายังจ่ายไม่ไหว ขอยื่นคำให้การสู้ (เพื่ออยากขอยืดเวลา) ทางทนายโจทย์ก็ไม่ว่าอะไร
พอศาลมาถึง เป็นผู้หญิงค่ะท่าทางสุขุมใจดี ก็เรียกทนายโจทย์กับจำเลยคนอื่นที่ทำยอมไปคุยก่อน ตกลงว่ามีทำยอม1 และให้ศาลท่านตัดสินเลยอีก2 พอถึงคิวเราศาลอ่านคำให้การเสร็จก็นิ่งไปสักพัก บอกว่าเป็นหนี้เค้าจริงมั้ย เราบอกจริงค่ะ แล้วคุยกับทนายรึยัง? ตกลงกันได้มั้ย? เราก็บอกว่ายอดผ่อนสูงไป ยังไม่สามารถผ่อนไหวค่ะ ประเด็นที่เราสู้คือเปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้เงินกู้....ศาลพูดว่าการที่เราไปเซ็นต์ยินยอมในเอกสารปรับโครงสร้างแล้วถือว่ายอมรับในสัญญาแล้ว ถึงแม้จะไม่จ่ายเงินงวดแรกเข้าไปก็ไม่มีผลอะไร เพราะเราไม่มีปฏิเสธเป็นลายลักษณ์อักษรเข้าไป ถือว่ายอมรับแล้ว (จิตตกเข้าไปอีกกก...เฮ้อ).......... คือเพราะทำสัญญากันเรียบร้อยแล้ว เอาของเขาไปใช้แล้ว แล้วทุกคนไม่ยอมจ่ายงวดแรกเข้าไปเพื่อปฏิเสธสัญญาแบบนี้ไม่ได้ ยังไงก็ยังถือว่าเป็นหนี้ต้องรับผิดชอบเหมือนเดิม .....เราก็ได้แต่ค่ะ เข้าใจแต่ก็บอกศาลไปตรงๆว่าตอนนี้ภาระเยอะยังผ่อนจ่ายไม่ไหวยังยืนยันขอยื่นคำให้การ แล้วรอให้ศาลตัดสินอีกที ท่านก็ตกลงนัดวันให้สิบพยานในอีก2เดือน ได้ใบนัดกลับมาด้วยค่ะ

ที่เล่ามาก็อยากจะเตือนเพื่อนๆคนอื่นๆที่ยังไม่หลงกลไปทำปรับโครงสร้างหนี้ว่าอย่าไปทำเด็ดขาดถ้าไม่ไหวจริงๆ เพราะถ้าพลาดไปแล้ว พอโดนฟ้องเหตุผลที่ว่า ถึงแม้ไม่ได้จ่ายงวดแรกเข้าไปเลยเหมือนเรา ก็อาจฟังไม่ขึ้นค่ะ

ถึงตอนนี้ถือว่าเราทำเต็มที่แล้ว ผลตัดสินจะออกมายังเราก็ต้องยอมรับค่ะ เป็นหนี้ก็ต้องใช้ ก็หาทางแก้ปัญหาไว้รอด้วยเผื่อผลออกมาไม่เป็นอย่างที่เราหวัง
ขอบคุณชมรมนี้ และคุณอาไพโรจน์มากๆค่ะ