เชิญไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี

8 ปีก่อนเป็นหนี้อยู่ 5 แบ้งค์ เหตุเพราะหาเงินรักษาพ่อป่วยมะเร็ง แม่ก็ป่วยหลายโรค เราดูแลอยู่คนเดียว โชคร้ายตกงาน 2 รอบโดนบริษัทเลย์ออฟแต่ก็โชคดีได้งานใหม่เมื่อปี 53 เคลียร์หนี้จนหมดเหลือแบ้งค์สุดท้าย KTC มีหมายให้ไปขึ้นศาล มค. 58 มีทนายของ KTC มาสรุปให้ฟังและในคำพิพากษาให้ชำระ ตามที่ตกลงกับทนาย 36 งวด ยอดหนี้รวมดอกประมาณ 180,000 ก็เริ่มชำระเป็นขั้นบันไดมาตั้งแต่ กพ. 58 จนครบ 36 งวด จ่ายเกินไป 1 งวดด้วย รวมเป็น 37 ระหว่างนี้ไม่มีเอกสารใดๆ แจ้งมาจาก KTC เลย เราก็เออคิดว่าจ่ายครบหมดแล้ว ปรากฎไปบ้านวันนี้ มีหนังสือขอเชิญเข้าร่วมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี สอบถามไปที่ KTC เราก็แจ้งว่าที่ศาล ทนายสรุปมา 36 งวด ส่งครบแล้ว ทำไมมีหนังสือเชิญไกล่เกลี่ยมาอีก พนง.แบ้งค์บอกที่จ่ายไปแค่ต้น ดอกไม่เกี่ยว เพราะเราหยุดจ่าย ดอกเลยเด้งกลับมาที่ 15% รวม 2 บัตรเครดิตและกดเงินสด 120,700 เราก็บอกไปทำไม ทนายไม่บอกว่า 36 งวดเป็นต้น คุณต้องส่งดอกต่ออีก คิดไปเราก็พลาดเอง ที่ไม่ได้ถามรายละเอียดให้ครบ อีกอย่างแบ้งค์ก็ไม่มีเอกสารแจ้งอะไรเลยหลังจากจ่ายครบ 37 งวด
ปัญหาอยู่ที่ เราเกษียณมาแล้ว เอกชน 55 ให้เกษียณ เงินเกษียณไม่กี่ตังค์ก็หมดละ เพราะจ่ายรถกับค่าเช่าห้องพักที่อาศัยอยู่กับแฟน จะกลับไปอยู่บ้านก็ไกลมาก แฟนต้องเข้าเวรดึก ไม่สะดวกเดินทาง (เรามีบ้าน ซื้อไว้เราเป็นคนผ่อน ตอนซื้อใช้ชื่อแม่ แต่เมื่อ 5 ปีก่อน แม่เราเสียชิีวิต บ้านหลังนี้เราก็ผ่อนมาจนจบเดือนนี้แต่ยังไม่ได้โอน เพราะต้องไปร้องศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกก่อน) มีคำถาม ดังนี้ค่ะ
1. เราควรไปร่วมเงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีไหม
2. ตอนนี้ เราไม่มีงานประจำ เป็นแค่เซลส์ขายประกัน เงินไม่แน่นอน ทรัพย์สินมีรถ 1 คัน แต่ก็ยังติดไฟแนนซ์อยู่ ถ้าเราไม่จ่ายดอกเบี้ยนี้ บังคับคดีจะบังคับเอารถยนต์ได้หรือไม่
3. บ้านที่ผ่อนจบ เราคิดว่าจะโอนให้เป็นชื่อพี่สาวก่อน ไม่งั้นจะโดนยึดทรัพย์ใช่ไหมคะ ถ้าเราไม่ไปไกล่เกลี่ย เพราะเราไม่มีเงินเดือนให้ยึด ว่างงาน ถ้าไปไกล่เกลี่ย ก็ไม่รุจะมีเงินส่งตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า มีแค่เงินเกษียณรายเดือน ปก.สังคม สามพันกว่าบาทเอง

ท่านใดมีข้อแนะนำ รบกวนหน่อยนะคะ / ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

tukky54 เขียน: 8 ปีก่อนเป็นหนี้อยู่ 5 แบ้งค์ เหตุเพราะหาเงินรักษาพ่อป่วยมะเร็ง แม่ก็ป่วยหลายโรค เราดูแลอยู่คนเดียว โชคร้ายตกงาน 2 รอบโดนบริษัทเลย์ออฟแต่ก็โชคดีได้งานใหม่เมื่อปี 53 เคลียร์หนี้จนหมดเหลือแบ้งค์สุดท้าย KTC มีหมายให้ไปขึ้นศาล มค. 58 มีทนายของ KTC มาสรุปให้ฟังและในคำพิพากษาให้ชำระ ตามที่ตกลงกับทนาย 36 งวด ยอดหนี้รวมดอกประมาณ 180,000 ก็เริ่มชำระเป็นขั้นบันไดมาตั้งแต่ กพ. 58 จนครบ 36 งวด จ่ายเกินไป 1 งวดด้วย รวมเป็น 37 ระหว่างนี้ไม่มีเอกสารใดๆ แจ้งมาจาก KTC เลย เราก็เออคิดว่าจ่ายครบหมดแล้ว ปรากฎไปบ้านวันนี้ มีหนังสือขอเชิญเข้าร่วมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี สอบถามไปที่ KTC เราก็แจ้งว่าที่ศาล ทนายสรุปมา 36 งวด ส่งครบแล้ว ทำไมมีหนังสือเชิญไกล่เกลี่ยมาอีก พนง.แบ้งค์บอกที่จ่ายไปแค่ต้น ดอกไม่เกี่ยว เพราะเราหยุดจ่าย ดอกเลยเด้งกลับมาที่ 15% รวม 2 บัตรเครดิตและกดเงินสด 120,700 เราก็บอกไปทำไม ทนายไม่บอกว่า 36 งวดเป็นต้น คุณต้องส่งดอกต่ออีก คิดไปเราก็พลาดเอง ที่ไม่ได้ถามรายละเอียดให้ครบ อีกอย่างแบ้งค์ก็ไม่มีเอกสารแจ้งอะไรเลยหลังจากจ่ายครบ 37 งวด

คำถามแบบนี้ ในเว็ปฯนี้เขาตอบมาจนเบื่อแล้วครับ

เป็นหนี้บัตรเครดิตกรุงไทย ได้ประนีประนอมที่ศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44003&Itemid=64#80210


สอบถามครับ ผมได้หมายนัดขึ่นศาล ที่รัตนบุรี สุรินทร์ วันที่ 2 นี้แล้ว
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42084&limitstart=20&Itemid=64#63603


หยุดจ่ายหนี้สองล้านกว่าขอกำลัง​ใจด้วยค่ะ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40430&limitstart=120&Itemid=64#54345

tukky54 เขียน: ปัญหาอยู่ที่ เราเกษียณมาแล้ว เอกชน 55 ให้เกษียณ เงินเกษียณไม่กี่ตังค์ก็หมดละ เพราะจ่ายรถกับค่าเช่าห้องพักที่อาศัยอยู่กับแฟน จะกลับไปอยู่บ้านก็ไกลมาก แฟนต้องเข้าเวรดึก ไม่สะดวกเดินทาง (เรามีบ้าน ซื้อไว้เราเป็นคนผ่อน ตอนซื้อใช้ชื่อแม่ แต่เมื่อ 5 ปีก่อน แม่เราเสียชิีวิต บ้านหลังนี้เราก็ผ่อนมาจนจบเดือนนี้แต่ยังไม่ได้โอน เพราะต้องไปร้องศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกก่อน) มีคำถาม ดังนี้ค่ะ

1. เราควรไปร่วมเงานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีไหม

แล้วคุณมีเงินไปจ่ายใช้หนี้ ให้กับเขาหรือเปล่าล่ะครับ?
ถ้ามีเงินจ่าย...ก็ไป
ถ้าไม่มีเงินจ่ายหนี้...ก็ไม่ต้องไป

tukky54 เขียน: 2. ตอนนี้ เราไม่มีงานประจำ เป็นแค่เซลส์ขายประกัน เงินไม่แน่นอน ทรัพย์สินมีรถ 1 คัน แต่ก็ยังติดไฟแนนซ์อยู่ ถ้าเราไม่จ่ายดอกเบี้ยนี้ บังคับคดีจะบังคับเอารถยนต์ได้หรือไม่

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

ปล. ทำ Link ให้ดูแล้ว ก็กรุณาเข้าไปอ่านใน Link ดังกล่าวด้วยนะครับ

อย่าอ่านเฉพาะเพียงแค่ด้านบนๆของกระทู้เท่านั้น เพราะในด้านล่างๆของกระทู้
ผมได้เขียนอธิบายถึงการยึดทรัพย์"สินสมรส " ที่เป็นคู่สมรสของลูกหนี้เอาไว้ด้วย




ความรู้ต่างๆ


มีอยู่ในนี้หมดแล้ว


www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

tukky54 เขียน: 3. บ้านที่ผ่อนจบ เราคิดว่าจะโอนให้เป็นชื่อพี่สาวก่อน ไม่งั้นจะโดนยึดทรัพย์ใช่ไหมคะ ถ้าเราไม่ไปไกล่เกลี่ย เพราะเราไม่มีเงินเดือนให้ยึด ว่างงาน ถ้าไปไกล่เกลี่ย ก็ไม่รุจะมีเงินส่งตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า มีแค่เงินเกษียณรายเดือน ปก.สังคม สามพันกว่าบาทเอง

ไม่น่าจะทันแล้วน่ะสิครับ

เพราะคุณไม่รีบทำซะก่อน ตั้งแต่ทีแรก

ก่อนที่จะโดนเจ้าหนี้มันฟ้องศาล


การที่ลูกหนี้ไปโอนรถหรือทรัพย์สินอื่นใดให้กับผู้อืน ภายหลังจากที่ลูกหนี้มีคดีความแล้ว(ถูกหมายศาลฟ้องแล้ว) จะมีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 350 ฐานโกงเจ้าหนี้ โทษสูงสุดคือจำคุก 2ปี ปรับ 4,000 บาท โดยโทษนี้ ให้ลงโทษผิดทั้งผู้ที่โอนและผู้ที่รับโอน (ติดคุกด้วยกันทั้งคู่)

มาตรา ๓๕๐ ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
อ่านกระทู้ก่อนๆ แล้ว แต่คงดูไม่ทั่ว ต้องขออภัยที่ทำให้เสียเวลาค่ะ