กำลังจะโดนฟ้อง

5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #109489 โดย Lucky often
กำลังจะโดนฟ้อง was created by Lucky often
กำลังจะได้หมายศาลของ Cimb ค่ะ ยอดรวมดอกประมาณ 162,000 อยากได้ส่วนลดแต่ติดต่อไปที่ สำนกงานกฎหมายที่ดูแลบอกว่าแบงค์ไม่ยอมลดให้ ขอได้แค่30% ถ้าไม่จ่ายจะฟ้อง หยุดชำระตั้งแต่ปี 2015 ค่ะ ตอนนี้ไม่มีรายได้ประจำค่ะ อีกอย่างตอนนี้ยังผ่อนจ่าย TMB อยู่ค่ะ ซึ่งฟ้องไปก่อนหน้าแล้วตอนนี้เครียดมากค่ะ ถ้าไปขึ้นศาลจะขอส่วนลดได้มากกว่านี้ไหมค่ะ ไม่รู้ต้องทำอย่างไร

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #109490 โดย aoraae09072530
Replied by aoraae09072530 on topic กำลังจะโดนฟ้อง
ติดของ cimb เหมือนกันค่ะ หยุดจ่ายนานหรือยังคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #109494 โดย Lucky often
Replied by Lucky often on topic กำลังจะโดนฟ้อง
ตั้งแต่ ปี 2015 ค่ะ ตอนนี้หาเงินได้บางส่วนค่ะ เขาไม่ยอมลดเพิ่มกำลังจะมีหมายค่ะ จะไปขอไกล่เกลี่ยลดเพิ่ม ไม่รู้จะได้หรือป่าว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #109512 โดย jackTs
Replied by jackTs on topic กำลังจะโดนฟ้อง

Lucky often เขียน: กำลังจะได้หมายศาลของ Cimb ค่ะ ยอดรวมดอกประมาณ 162,000 อยากได้ส่วนลดแต่ติดต่อไปที่ สำนกงานกฎหมายที่ดูแลบอกว่าแบงค์ไม่ยอมลดให้ ขอได้แค่30% ถ้าไม่จ่ายจะฟ้อง หยุดชำระตั้งแต่ปี 2015


อายุความในการฟ้องร้อง คดีแพ่ง (หนี้เงิน)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=813&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ


มีอยู่ในนี้หมดแล้ว



www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20


.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #109513 โดย jackTs
Replied by jackTs on topic กำลังจะโดนฟ้อง
.
ทำ Link ให้อ่านแล้ว ก็กรุณาไปอ่านด้วยนะครับ


กรุณาอ่านก่อนนะครับ

อ่านแล้วค่อยมาถาม

.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #109514 โดย jackTs
Replied by jackTs on topic กำลังจะโดนฟ้อง
.
คุณอย่าลืมนะครับครับว่า หนี้ทุกบาททุกสตางค์ของคุณ...คุณสร้างด้วยมือของตัวคุณเองทั้งนั้น
พวกเราในชมรมฯแห่งนี้ ไม่ได้เป็นผู้สร้างหนี้ให้กับคุณเลยแม้แต่สักบาทเดียว


แล้วจะให้พวกเรา ต้องมาใช้หนี้แทน ให้กับตัวคุณหรือไงครับ?


ถ้าเป็นหนี้ แต่ไม่ยอมรู้จักขวนขวายหาความรู้

เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาหนี้ ด้วยตัวเอง

มันก็เหมือนกับการผูกปมเชือกเอาไว้ ด้วยตัวเอง

แล้วก็มาพร่ำเรียกร้องให้คนอื่น

ต้องคอยมาช่วยแก้ปมเชือกให้กับคุณอยู่ตลอดเวลา

นั่นแหละครับ







.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #109517 โดย Pheonix
Replied by Pheonix on topic กำลังจะโดนฟ้อง
ข้อ ๑. ตามคำฟ้องข้อ 2. เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2557 จำเลยได้ขอวงเงินสินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช กับโจทก์ ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 โจทก์ได้อนุมัติในการให้สินเชื่อวงเงินจำนวน 100,000 บาท จำเลยยินยอมเสียดอกเบี้ยเดือนที่ 1 ถึงเดือนที่ 6 อัตราร้อยละ 25 ต่อปี เดือนที่ 7 ถึงเดือนที่ 12 อัตราร้อยละ 21 ต่อปี ตั้งแต่เดือนที่ 13 เป็นต้นไป อัตราร้อยละ 25 ต่อปี โดยตกลงผ่อนชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยคืนให้โจทก์เป็นรายงวดรายเดือน ๆ ละ 2,500 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระคืนจำนวน 84 งวด กำหนดชำระคืนทุกวันที่ 25 ของเดือน เริ่มผ่อนชำระงวดแรกวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป จำเลยตกลงว่า หากผิดนัดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ระบุใว้ในสัญญา จำเลยจะต้องชำระค่าติดตามทวงถามเป็นเงินจำนวน 267.50 บาท ต่อครั้ง สำหรับงวดการชำระล่าช้า พร้อมกับชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระในงวดนั้น ๆ และยินยอมให้โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดสูงสุดที่พึงเรียกเก็บได้ กับไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยก่อนครบกำหนดชำระตามสัญญา รายละเอียดปรากฏตามสำเนาใบสมัครสัญญาสินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช หนังสือแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อ แบบขอเสียภาษีอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน (อ.ส.4 ข.) เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 4 ถึง 6 จำเลยได้รับเงินกู้ยืมไปครบถ้วนแล้ว โดยโจทก์ได้โอนเงินให้จำเลย โดยนำเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของจำเลยที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขานิคมอุตสาหกรรมอีสเทอร์น ซีบอร์ด หมายเลขบัญชี 7030337088 ตามประสงค์ของจำเลย รายละเอียดปรากฏตามสำเนารายการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 7 นับแต่วันที่จำเลยมากู้เงินไปจากธนาคารโจทก์ ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ชำระเงินตามเงื่อนไขในสัญญา ถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาต่อโจทก์ กล่าวคือ จำเลยไม่ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้ธนาคารโจทก์ตรงตามจำนวนและกำหนดระยะเวลาที่ตกลงไว้ในสัญญา โดยจำเลยได้ชำระหนี้แก่โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2558 จำนวน 2,500 บาท โจทก์ได้นำไปจัดสรรหักดอกเบี้ยและต้นเงินได้เพียงบางส่วน หลังจากนั้น จำเลยมิได้ชำระเงินแก่โจทก์อีกเลย โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยเป็นหนี้โจทก์อีกต่อไป จึงได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ โดยส่งจดหมายไปยังภูมิลำเนาของจำเลย จำเลยได้รับหนังสือทวงถามแล้ว ปรากฏว่าจำเลยเพิกเฉยมิได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์แต่อย่างใด ปรากฏตามสำเนาหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ พร้อมใบตอบรับทางไปรณีย์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 8 และ 9 ตามคำฟ้องข้อ 4. การกระทำของจำเลยเป็นการผิดนัดผิดสัญญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายไม่ได้รับชำระเงินคืน จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินคืนให้แก่โจทก์ คิดถึงวันฟ้อง เป็นเงินต้นจำนวน 73,389.41 บาท ดอกเบี้ย 22,224.52 บาท ค่าปรับ/ค่าทวงถาม 300 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 95,913.93 บาท และยังต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ของต้นเงิน 95,913.93 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ รายละเอียดปรากฏตามสำเนารายการคำนวณภาระหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 10 ข้อ 2. ตามคำฟ้องข้อ 2 วรรค 3 จำเลยได้ชำระหนี้แก่โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2558 จำนวน 2,500 บาท หลังจากนั้น จำเลยมิได้ชำระเงินแก่โจทก์อีกเลย เพื่อพิสูจน์ความจริงในข้อนี้ ตามหนังสือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ข้อมูลของจำเลย วันที่สืบค้น วันที่ 17 สิงหาคม 2561 บัญชีที่ 6 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 ปรากฎว่า ประเภทสินเชื่อ สินเชื่อบุคคล ผู้ให้สินเชื่อ CIMBT-ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 เลขที่บัญชี 310022195130300000 วันที่เปิดบัญชี 22 เมษายน 2557 วันที่ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 29 มิถุนายน 2560 ประวัติการชำระหนี้ ข้อมูล ณ เดือน มิถุนายน 2560 ยอดหนี้คงเหลือ 73,540 บาท เดิมจำเลยทำงานเป็นวิศวกร ดูแลการผลิต ธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก เงินเดือนๆ ละ 24,519 บาทต่อมา จำเลยตกงาน ถูกเลิกจ้าง จึงใม่มีเงินไปชำระหนี้ให้โจทก์ในงวดวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ได้ ข้อ 3. ตามคำฟ้องข้อ 4. จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินคืนให้แก่โจทก์ คิดถึงวันฟ้อง เป็นเงินต้นจำนวน 73,389.41 บาท ดอกเบี้ย 22,224.52 บาท ค่าปรับ/ค่าทวงถาม 300 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 95,913.93 บาท และยังต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ของเงินต้น 92,627.23 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ จึงมีปัญหาว่า จำเลยค้างเงินต้นจำนวน 73,389.41 บาท กับ จำเลยยังต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ของต้นเงิน 92,627.23 บาท เงินต้นขัดแย้งกัน จำนวนใดถูกต้อง จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ว่าจำนวนใดถูกต้อง 1) ตามสำเนาหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 เรื่อง ขอให้ชำระหนี้ ถึงจำเลย เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 8 ปรากฏว่า จำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลง และยังคงมีภาระหนี้ค้างชำระกับโจทก์เพียง ณ วันที่ 17 เมษายน 2561 เป็นเงินดังนี้ เงินต้น 73,389.41 บาท ดอกเบี้ย 16,314.57 บาท ค่าธรรมเนียมติดตามทวงถาม 300.00 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 90,003.98 บาท 2) ตามรายการคำนวณหนี้ค้างชำระ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 10 ลูกหนี้ นายณัฐพล อุบลศรี ยอดค้างชำระ ณ วันที่ 30 เมษายน 2561 เงินต้น 73,389.41 บาท ดอกเบี้ยค้างชำระ 16,933.26 บาท ค่าปรับล่าช้า 300 บาท 3) ตามหนังสือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ข้อมูลจำเลย วันที่สืบค้น วันที่ 17 สิงหาคม 2561 บัญชีที่ 6 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 ดังกล่าว วันที่ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 29 มิถุนายน 2560 ประวัติการชำระหนี้ ข้อมูล ณ เดือน มิถุนายน 2560 ยอดหนี้คงเหลือ 73,540 บาท
4) ตามใบบันทึกรายการผ่อนชำระหนี้ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 10 ปรากฎว่า 22 เม.ย. 57 เบิกเงินกู้ 100,000 บาท (1) 26 พ.ค. 57 ชำระหนี้ 2,500 บาท หักดอกเบี้ย 2,260.27 บาท หักเงินต้น 239.73 บาท เงินต้นคงค้าง 99,760.27 บาท เดือนต่อมา รายการที่ (2) ถึง (12) ทำนองเดียวกัน (13) 24 พ.ค. 58 ชำระหนี้ 2,500 บาท เงินต้นคงค้าง 92,569.65 บาท โจทก์ส่งมาเพียง 1 หน้า หน้าต่อไป โจทก์ไม่ได้ส่ง โจทก์อ้างเงินต้นคงค้าง 92,627.23 บาท จึงไม่ถูกต้อง ใบบันทึกรายการผ่อนชำระหนี้ เป็นเอกสารสำคัญ ควรจะส่งมาให้ครบถ้วน เพื่อจะพิจารณาได้ถูกต้อง ข้อ 4. เนื่องจากโจทก์ส่งใบบันทึกรายการผ่อนชำระหนี้ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 10 มาเพียง 1 หน้า จำเลยไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลตามหนังสือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ข้อมูลจำเลย วันที่สืบค้น วันที่ 17 สิงหาคม 2561 บัญชีที่ 6 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 วันที่ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 29 มิถุนายน 2560 ประวัติการชำระหนี้ ข้อมูล ณ เดือน มิถุนายน 2560 ยอดหนี้คงเหลือ 73,540 บาท แยกเป็นเงินต้น 73,389.41 บาท ดอกเบี้ยค้างชำระ 150.59 บาท แต่ในงวดวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 จำเลยผิดนัดชำระหนี้ และไม่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์อีกเลย พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คู่สัญญามีเจตนาเลิกสัญญากันโดยปริยายแล้ว โดยถือว่าสัญญาที่มีต่อกันสิ้นสุดลงในวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว โจทก์จะอาศัยข้อตกลงในสัญญาผูกพันจำเลยอีกไม่ได้ การคิดดอกเบี้ย คิดดอกเบี้ยอัตราผิดนัดร้อยละ 28 ต่อปี และคิดค่าปรับ/ค่าทวงถาม หลังเลิกสัญญา เท่ากับเป็นการคิดค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ จำเลยขอประทานกราบเรียนศาลด้วยความเคารพว่า เดิมจำเลยทำงานเป็นวิศวกร ดูแลการผลิต ธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก เงินเดือนๆ ละ 24,519 บาท ต่อมา ในเดือนกรกฎาคม 2560 จำเลยตกงาน ถูกเลิกจ้าง จึงใม่มีเงินชำระหนี้ให้โจทก์ จำเลยกราบขอประทานศาลได้โปรดเมตตา เพื่อให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ และเจ้าหนี้รายอื่นได้ จักเป็นพระคุณแก่จำเลยเป็นอย่างยิ่ง เดิมจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ 100,000 บาท ผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ เดือนละ 2,500 บาท รวม 38 งวด เป็นเงิน 95,000 บาท ตามคำขอท้ายฟ้อง ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 95,970.22 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 28 ต่อปี ของต้นเงิน 73,389.41 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 28 ต่อปี จากต้นเงิน 73,389.41 บาท เป็นดอกเบี้ยปีละ 20,549.03 บาท อีก 5 ปี ดอกเบี้ยเป็นเงิน 102,745.15 บาท รวมยอดตามฟ้อง 95,970.22 บาท รวมเป็นเงิน 198,745.37 บาท ไม่รู้จะหาเงินทื่ไหนมาชำระหนี้ให้โจทก์ได้
ข้อ 5. ตามคำฟ้องข้อ 4. โจทก์อ้างว่า การกระทำของจำเลยเป็นการผิดนัดผิดสัญญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ 11 กันยายน 2561 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 2 ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย กำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ 1.55 ต่อปี ถ้าคิดดอกเบี้ยหลังสัญญาเลิกแล้ว อัตราร้อยละ 28 ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ 12 เดือน อัตราร้อยละ 1.55 ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ 26.45 ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำร้อยละ 1.55 ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ 1,706.45 ของต้นทุนเงินฝากประจำ เป็นกำไรขั้นต้นที่สูงมาก จึงไม่ใช่ค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 ข้อ 6. ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 3 สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ จำนวนบัญชีทั้งสิ้น 13,101,359 บัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง 365,092 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 28 ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยปีละ 102,225.76 ล้านบาท ถ้าระยะเวลาผ่านไปอีก 5 ปี ดอกเบี้ยสะสมจะเป็นเงินมากถึง 511,128.80 ล้านบาท ถึงวันนั้น ทุกอย่างคงจบ เพราะประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ หนี้ครัวเรือนของคนไทยสูงมาก เศรษฐกิจประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร

ปรึกษาคุณอาไพโรจน์ เพิ่มเติม

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.520 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena