ทยอยขึ้นศาล

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน

หลังจากที่เคยขอคำแนะนำจากพี่ๆเรื่องขึ้นศาลของบัตรเครดิตกรุงศรี และCITI advance ทำให้ผมมีกำลังใจและขอเลื่อนนัดออกไปทั้ง2แบงค์ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าโทรมาให้ส่วนลดอยู่ ของกรุงศรีลดให้40%เหลือ29,000 CITIลด50%เหลือ50,000 ตอนแรกผมคาดว่าจะปิดได้ทั้ง2 ภายในสิ้นปี เลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าปิดได้แต่หลังขึ้นศาลนัด2นะ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่างั้นให้ทำยอมไปก่อนตอนขึ้นศาล ผมว่าจะเข้ามาขอคำแนะนำจากพี่ๆ แต่เข้าบอร์ดไม่ไ้ด้ ผมใจหายวูบเลย!! มืดแปดด้านจะทำอย่างไรดี พอขึ้นศาลเลยทำยอมไปก่อน กำหนดจ่ายภายใน 1 ปีจากยอดเต็ม หลังจากนั้นก็มีเหตุอุทกภัย ทำให้เงินที่เตรียมไว้แฮร์คัทต้องใช้กับการซ่อมบ้านและรถ เงินไม่พอที่จะปิด!! เลยบอกเจ้าหน้าที่แบงค์ไป ของกรุงศรีแบ่งจ่ายได้2งวดๆละ15,000กับ14,000 แต่ของCITIถ้าแบ่งจ่าย2งวด ส่วนลดจะเหลืออยู่ที่68,000 งวดแรกเดือนธันวาคมจ่าย10,000 ที่เหลือจ่ายให้หมดภายในเดือนมกราคม
ผมอยากขอคำปรึกษาครับว่ามีวิธีเจรจาให้ขยายเวลาชำระเงินออกไปได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้ก็หนักเหมือนกันครับ
แล้ววันจันทร์ที่26นี้ ผมต้องขึ้นศาลของกรุงไทยอีก หนี้ของกรุงไทยหนักสุดเพราะรวมทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคลและcash revolve รวมแล้วยอดฟ้องอยู่ที่188,501บาท ผมขอกำลังใจและคำแนะนำจากพี่ๆด้วยนะครับ และคงมีทยอยๆตามมาอีกครับ
ดีใจครับที่บอร์ดกลับมา แต่ก็เสียดายกระทู้ดีๆหลายกระทู้ที่หายไป

ขอบพระคุณมากครับ sweat

ช่วยเล่ารายละเอียดของCiti ให้ฟังบ้างสิคะ หยุดจ่ายกี่เดือน ก่อนหยุดผ่อนไปกี่งวดคะ แล้วไปศาลครั้งแรกทำอย่างไรบ้างคะ ปรึกษาใครก่อนไปคะ แล้วไปแบบมีทนายหรือเปล่าคะ เป็นคดีแพ่งหรือผู้บริโภคคะ

ผมคิดว่าคุณGioGioอ่านมามากแล้วคงตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไร
เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว ขั้นตอนนี้คงเป็นช่องทางที่ลูกหนี้จะเลือกจ่ายหนี้ด้วยวิธีใด ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันบ้างตามรายละเอียดของลูกหนี้และทรัพย์สินของลูกหนี้
1กรณีลูกหนี้มีเงินเดือนสูง ควรจะเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอส่วนลดและปิดบัญชี เนื่องจากถ้าลูกหนี้ยอมให้เจ้าหนี้อายัดเงินเดือน ก็จะเป็นเงินจำนวนที่สูง เพราะเจ้าหนี้จะสามารถอายัดเงินเดือนได้ 30% จากเงินเดือน
2.กรณีลูกหนี้มีทรัพย์สินจำนวนมาก ลูกหนี้ควรจะเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอส่วนลดและปิดบัญชี เพราะถ้าไม่ดำเนินการตามนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะบังคับคดีจากทรัพย์สิน โดยทำการยึดทรัพย์และขายทอดตลาด
3.กรณีลูกหนี้ไม่มีเงินเดือนและไม่มีทรัพย์สิน ตรงนี้ลูกหนี้ก็จะได้รับประโยชน์ในการเจรจา เพราะเมื่อเจ้าหนี้ไปสืบทรัพย์แล้วพบว่าลูกหนี้ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สินอื่นๆ คาดว่าน่าจะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้แล้ว การเจรจาขอส่วนลดและปิดบัญชี ลูกหนี้น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ซึ่งการเจรจาในลักษณะนี้ อาจจะสามารถลดหนี้ได้มากกว่า 50% ส่วนถ้าลูกหนี้ไม่ดำเนินการอะไรก็จะไม่ถูกบังคับคดีเนื่องจากไม่มีทรัพย์สินใดๆ ให้ยึด แต่จะมีติดเพียงประวัติในเครดิตบูโร หรือที่เรียกว่า black list เท่านั้น
ตอบคุณnat1001คดีแพ่งหรือผู้บริโภคคะ สองอย่างนี้เรื่องเดียวกันเราเรียกคดีแพ่งที่ศาลเรียกว่าคดีผู้บริโภค

สวัสดีครับ คุณnat1001

citi advance ผมหยุดจ่ายประมาณ10เดือนครับก็มีหมายศาลมา
หลังจากผ่อนไปได้ 10 งวดครับ
ขึ้นศาลของ citi advanceนี่เป็นครั้งที่2 ครั้งแรกขึ้นของบัตรกรุงศรีครับ
คุณnat1001ไม่ต้องตื่นเต้นนะครับขึ้นศาลคิดว่าไปอำเภอ ไม่ได้ติดคุกติดตารางอะไร ผมก็ขอคำแนะนำจะพี่ๆในบอร์ดนี่ล่ะครับ พี่ๆหลายๆท่านสละเวลามาให้คำแนะนำได้ดีที่เดียว และมีกระทู้เก่าๆที่เป็นประโยชน์มากๆเลย แต่น่าเสียดายที่กระทู้เหล่านั้นได้หายไปหมด แต่ไม่เป็นไรครับ ยังมีพี่ๆใจดีมาให้คำแนะนำอยู่ ไปศาลผมก็ไปคนเดียวไม่ต้องจ้างทนายหรอกครับ พอไปถึงก็จะเจอทนายโจทย์เข้ามาคุยกับเราก่อนว่าเราจะทำอย่างไร ผมก็จะถามว่ามีข้อเสนออะไรให้ผมบ้าง ทนายโจทย์ก็จะโทรไปถามคนที่ดูแลบัญชีเรา แล้วก็จะได้ข้อเสนอมาว่าปิดครั้งเดียวเท่านี้ หรือผ่อนเป็นงวดๆ1ปี2ปี3ปีก็แล้วแต่ แต่ผมขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งรับข้อเสนอตรงนี้ ให้ขอศาลเลื่อนนัด แล้วขอเบอร์คนที่ดูแลบัญชีเราจากทนายโจทย์มา แต่ทนายบางคนจะพยายามพูดให้เราจบในวันนั้น ไม่ต้องไปสนใจครับ ทนายบังคับอะไรเราไม่ได้ เค้าอยากให้จบวันนั้นเพื่อที่เค้าจะได้จบงานเท่านั้นเอง ไปทั้ง2ครั้งผมก็ขอเลื่อนนัดไปก่อนเพื่อตั้งหลัก แล้วแต่ศาลท่านจะพิจารณาเต็มที่ไม่น่าเกิน2เดือน แต่ก็ไม่แน่ครับ ส่วนมากจะประมาณเดือนกว่าๆ ระหว่างนี้คุณก็คุยกับทางคนที่ดูแลบัญชีเรา ถ้าคุณมีเงินก้อนก็ถามส่วนลดไปเลย ของciti advanceนี่จะให้ส่วนลดกรณีปิดครั้งเดียวอยู่ที่50%ครับ ถ้าหลายงวดเงินก็จะมากขึ้นครับ กรณีของผมก็อย่างที่เล่าไปแล้วน่ะครับ

ของคุณnat1001นี่ ศาลนัดตั้งกลางเดือนกุมภาพันธ์นี่ครับมีเวลา2เดือนเลยทีเดียว ระหว่างนี้ถ้าคุณสามมารถเก็บเงินก้อนได้สักครึ่งนึงของยอดฟ้อง ลองคุยกับทางแบงค์เลยก็ได้ครับ ถ้าคุณปิดได้ก่อนวันนัด คุณก็ไม่ต้องไปศาลแล้ว

สู้ๆครับ ไปศาลไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ตกลงกันได้ยังไงมาแชร์กันด้วยนะครับ

ปล วันจันทร์ที่26นี้ ผมก็ต้องขึ้นศาลของกรุงไทย ผมก็คงใช้วิธีเดิมครับ "ขอเลื่อนเพื่อตั้งหลักก่อน" ยังไงก็ขอกำลังใจจากทุกท่านด้วยนะครับ

GioGio เขียน: สวัสดีครับ คุณnat1001

citi advance ผมหยุดจ่ายประมาณ10เดือนครับก็มีหมายศาลมา
หลังจากผ่อนไปได้ 10 งวดครับ
ขึ้นศาลของ citi advanceนี่เป็นครั้งที่2 ครั้งแรกขึ้นของบัตรกรุงศรีครับ
คุณnat1001ไม่ต้องตื่นเต้นนะครับขึ้นศาลคิดว่าไปอำเภอ ไม่ได้ติดคุกติดตารางอะไร ผมก็ขอคำแนะนำจะพี่ๆในบอร์ดนี่ล่ะครับ พี่ๆหลายๆท่านสละเวลามาให้คำแนะนำได้ดีที่เดียว และมีกระทู้เก่าๆที่เป็นประโยชน์มากๆเลย แต่น่าเสียดายที่กระทู้เหล่านั้นได้หายไปหมด แต่ไม่เป็นไรครับ ยังมีพี่ๆใจดีมาให้คำแนะนำอยู่ ไปศาลผมก็ไปคนเดียวไม่ต้องจ้างทนายหรอกครับ พอไปถึงก็จะเจอทนายโจทย์เข้ามาคุยกับเราก่อนว่าเราจะทำอย่างไร ผมก็จะถามว่ามีข้อเสนออะไรให้ผมบ้าง ทนายโจทย์ก็จะโทรไปถามคนที่ดูแลบัญชีเรา แล้วก็จะได้ข้อเสนอมาว่าปิดครั้งเดียวเท่านี้ หรือผ่อนเป็นงวดๆ1ปี2ปี3ปีก็แล้วแต่ แต่ผมขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งรับข้อเสนอตรงนี้ ให้ขอศาลเลื่อนนัด แล้วขอเบอร์คนที่ดูแลบัญชีเราจากทนายโจทย์มา แต่ทนายบางคนจะพยายามพูดให้เราจบในวันนั้น ไม่ต้องไปสนใจครับ ทนายบังคับอะไรเราไม่ได้ เค้าอยากให้จบวันนั้นเพื่อที่เค้าจะได้จบงานเท่านั้นเอง ไปทั้ง2ครั้งผมก็ขอเลื่อนนัดไปก่อนเพื่อตั้งหลัก แล้วแต่ศาลท่านจะพิจารณาเต็มที่ไม่น่าเกิน2เดือน แต่ก็ไม่แน่ครับ ส่วนมากจะประมาณเดือนกว่าๆ ระหว่างนี้คุณก็คุยกับทางคนที่ดูแลบัญชีเรา ถ้าคุณมีเงินก้อนก็ถามส่วนลดไปเลย ของciti advanceนี่จะให้ส่วนลดกรณีปิดครั้งเดียวอยู่ที่50%ครับ ถ้าหลายงวดเงินก็จะมากขึ้นครับ กรณีของผมก็อย่างที่เล่าไปแล้วน่ะครับ

ของคุณnat1001นี่ ศาลนัดตั้งกลางเดือนกุมภาพันธ์นี่ครับมีเวลา2เดือนเลยทีเดียว ระหว่างนี้ถ้าคุณสามมารถเก็บเงินก้อนได้สักครึ่งนึงของยอดฟ้อง ลองคุยกับทางแบงค์เลยก็ได้ครับ ถ้าคุณปิดได้ก่อนวันนัด คุณก็ไม่ต้องไปศาลแล้ว

สู้ๆครับ ไปศาลไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ตกลงกันได้ยังไงมาแชร์กันด้วยนะครับ

ปล วันจันทร์ที่26นี้ ผมก็ต้องขึ้นศาลของกรุงไทย ผมก็คงใช้วิธีเดิมครับ "ขอเลื่อนเพื่อตั้งหลักก่อน" ยังไงก็ขอกำลังใจจากทุกท่านด้วยนะครับ

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ แต่ระยะเวลาที่เหลือ 2 เดือน มีการตกลงกับทาง FC จาก 36000 เหลือ 18000ว่าจะผ่อนจ่าย 3 งวด ปิดจบ และก็ 2 งวดที่เหลือล่ะค่ะที่ต้องจ่ายให้ FC เลยกังวลอะค่ะที่ไม่มีเงินก้อนไปต่อรองกับเขา โบนัสสิ้นปีก็ไม่มีค่ะ คิดว่าเขาน่าจะหวังว่าเราจะได้โบนัส เพราะมีถามว่าสิ้นเดือนนี้ไม่มีเงินก้อนเลยเหรอคะ พอดีที่บ.เขาให้ตอนกลางปีค่ะ แนวทางน่าจะขอศาลท่านเลื่อนเพื่อไปต่อรองกับทางธนาคารก่อนค่ะ ตั้งใจว่าหลังปีใหม่จะถือหมายศาลไป ให้คุณอาของชมรมดูให้ค่ะ อยากติดต่อเป็นการส่วนตัวอะค่ะ แต่ทางชมรมห้ามโพสเบอร์ และ email ^_^ ยังไงเข้ามาคุยกันบ่อยๆนะคะ ดิฉันยังเหลืออีก 7 บัญชีที่ยังเงียบค่ะ มี
Citi : visa, ready รวม 67000 หยุด 4 เดือน (เงียบมาก ไม่เคยมีโทรมาทวงเลย น่ากลัว)
KTC : Cash, credit รวม 50000 หยุด 7 เดือน (เงียบ)
CIMB : สินเชื่อ รวม 30000 หยุด 7 เดือน (ทวงทุกเดือน เดือนละครั้ง)
นครหลวงไทย : สินเชื่อ รวม 20000 หยุด 7 เดือน ทวงดุค่ะอันนี้ (ทวงทุกเดือน เจ้าหน้าที่เครียดและใส่อารมณ์ทุกสายค่ะ ต่อว่า ด่าทอ ต่างๆ นาๆ)
กรุงศรี : smile cash (เงินเดือนเข้า) รวม 55000 หยุด 4 เดือน ส่งสำนักกฏหมายแล้ว (ทวงเดือนละครั้ง แต่พอติดต่อเข้าไปจะโยนกันไปมา ติดต่อเพื่อขอผ่อนจ่ายเหมือนเดิม และขอส่วนลดค่าธรรมเนียมไป ยังไม่ได้ข้อสรุปค่ะ เพราะธนาคารกับสำนักงาน โยนการตัดสินใจกันไปมา เลยตั้งใจว่ารอเขาติดต่อกลับ) แต่มีพี่ๆในชมรมบอกว่าไม่ดูดเงิน ก็พอโล่งอกค่ะ

สวัสดีครับ

พอดียุ่งๆเลยไม่ได้มามาอัพเดทไปขึ้นศาลของกรุงไทยเมื่อวันที่26ที่ผ่านมา
เลยขอเป็นวันนี้นะครับ

ไปศาลวันนั้นก็ตั้งใจอยู่แล้วครับว่าไปเพื่อขอเลื่อนไปก่อน วันนั้นในห้องมีหลายคดี พอผมไปถึงสักพักทนายโจทย์ก็มา แล้วเรียกผมไปคุย ทนายโจทย์บอกว่า ยอดฟ้องทั้งหมดประมาณ180,000บาท เงินต้นประมาณ130,000บาท ดอกเบี้ยประมาณ50,000บาท ทางแบงค์ลดดอกให้30%เหลือดอกประมาณ35,000บาท รวมกับต้นเป็นประมาณ160,000บาท ให้ผ่อนชำระได้ 36 งวด ตกงวดละประมาณ4,000กว่าบาท แต่ถ้าเดือนไหนไม่มีจ่ายขั้นต่ำ 2,000บาทได้ แต่มันจะหนักตอนปลาย ผมเลยบอกทนายโจทย์ไปว่าขอคุยกับทางแบงค์ก่อนได้ไหมว่าจะมีส่วนลดอะไรได้อีกบ้าง ทนายโจทย์เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวขอเลื่อนไปก่อนก็ได้ ให้ผมโทรไปคุยตกลงกับแบงค์ก่อน ทนายโจทย์เลื่อนไปเกือบ2เดือน แต่ศาลท่านบอกให้เลื่อนได้แค่เดือนเดียว ก็เลยเลื่อนไปเป็นวันที่ 1/2/55 ได้เวลามาก็ยังดี

ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินเลย คิดว่านัดหน้าคงจะต้องทำยอมไปก่อน ผ่อนขั้นต่ำไปเดือนละ 2,000บาท เก็บเงินได้ค่อยขอส่วนลดน่าจะเป็นทางออกที่ผมคิดได้ตอนนี้นะครับ
ยังไงก็ขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยนะครับ

วันนี้ 31/12/54 ผมขอสวัสดีปีใหม่กับทุกๆท่านด้วยนะครับ ขอให้ปลดหนี้กันได้หมดถ้วนหน้าครับ im_here

GioGio เขียน: สวัสดีครับ

พอดียุ่งๆเลยไม่ได้มามาอัพเดทไปขึ้นศาลของกรุงไทยเมื่อวันที่26ที่ผ่านมา
เลยขอเป็นวันนี้นะครับ

ไปศาลวันนั้นก็ตั้งใจอยู่แล้วครับว่าไปเพื่อขอเลื่อนไปก่อน วันนั้นในห้องมีหลายคดี พอผมไปถึงสักพักทนายโจทย์ก็มา แล้วเรียกผมไปคุย ทนายโจทย์บอกว่า ยอดฟ้องทั้งหมดประมาณ180,000บาท เงินต้นประมาณ130,000บาท ดอกเบี้ยประมาณ50,000บาท ทางแบงค์ลดดอกให้30%เหลือดอกประมาณ35,000บาท รวมกับต้นเป็นประมาณ160,000บาท ให้ผ่อนชำระได้ 36 งวด ตกงวดละประมาณ4,000กว่าบาท แต่ถ้าเดือนไหนไม่มีจ่ายขั้นต่ำ 2,000บาทได้ แต่มันจะหนักตอนปลาย ผมเลยบอกทนายโจทย์ไปว่าขอคุยกับทางแบงค์ก่อนได้ไหมว่าจะมีส่วนลดอะไรได้อีกบ้าง ทนายโจทย์เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวขอเลื่อนไปก่อนก็ได้ ให้ผมโทรไปคุยตกลงกับแบงค์ก่อน ทนายโจทย์เลื่อนไปเกือบ2เดือน แต่ศาลท่านบอกให้เลื่อนได้แค่เดือนเดียว ก็เลยเลื่อนไปเป็นวันที่ 1/2/55 ได้เวลามาก็ยังดี

ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินเลย คิดว่านัดหน้าคงจะต้องทำยอมไปก่อน ผ่อนขั้นต่ำไปเดือนละ 2,000บาท เก็บเงินได้ค่อยขอส่วนลดน่าจะเป็นทางออกที่ผมคิดได้ตอนนี้นะครับ
ยังไงก็ขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยนะครับ

วันนี้ 31/12/54 ผมขอสวัสดีปีใหม่กับทุกๆท่านด้วยนะครับ ขอให้ปลดหนี้กันได้หมดถ้วนหน้าครับ im_here

สวัสดีปีใหม่ 2555 ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตเหล่านี้ไปด้วยกันแบบสวยงามนะคะ
ได้เลื่อนประมาณ 1 เดือน ดิฉันก็คงใช้แนวทางเดียวกับคุณค่ะ ถ้าข้อเสนอทางเจ้าหนี้ไม่ไหว คงต้องขอเลื่อนไปตั้งหลักก่อน เพราะไม่มีเงินก้อน เสียงจึงเบาค่ะ แต่ถ้าได้ผ่อนจ่ายในจำนวนเงินที่กำลังดี และสามารถเก็บเงินไว้จ่ายเจ้าอื่น หรืออาจได้ส่วนลดกับทางเจ้าหนี้ที่่โดนฟ้องระหว่างทางก็ยังดีนะคะ แต่ส่วนลดมีแน่นอนล่ะค่ะ อยู่ที่วาจะมากหรือน้อย ไม่เหมือนนครหลวงค่ะ ส่วนลดไม่มีเลย ถ้ามีก็ลดจากดอกเบี้ยที่เดินหลังจากหยุด เต็มที่แค่ครึ่งหนึ่ง ส่วนค่าธรรมเนียมติดตามทวงหนี้ ก็ยังยืนยันว่าจะเก็บต่อไปในช่วงที่หยุดมา 3-4 เดือน พอดีว่าโทรเข้าไปขอผ่อนจ่ายใหม่มาค่ะ ก็เลยคิดว่าคงต้องปล่อยให้ฟ้องแล้วลองสู้เรื่องดอกเบี้ยดูค่ะ ไว้ถ้าไปนัดสองมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ สู้ๆกันไปนะคะ ^_^

สวัสดีครับ

วันนี้เข้ามาอัพเดท วันที่1ก.พ.ก็ต้องขึ้นศาลนัด2ของกรุงไทยแล้ว ยังไม่มีเงินเลย5555
คงต้องทำยอมน่ะครับ จ่ายขั้นต่ำไปก่อน แล้วก็มีตามมาอีกคือของเฟิสต์ช๊อย ยอดฟ้องอยู่ที่37,000
นัดวันที่16ก.พ. แล้วล่าสุดวันนี้UOB โทรเข้าไปที่ทำงานบอกให้ผมติดต่อกลับ ผมก็ติดต่อกลับไป เจ้าหน้าที่บอกว่าผมมียอดค้างอยู่67,000 ธนาคารมีส่วนลดให้เหลือ35,000ในงวดเดียว ถ้าผ่อนชำระได้3งวด แต่ยอดจะอยู่ที่38,000 ผมบอกว่าเดือนนี้ยังไม่มีเงินเลย เป็นเดือนหน้าได้ไหม เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าอย่างนั้นให้ชำระเข้ามาก่อนกี่บาทก็ได้ 500-600ก็ได้ เพื่อที่จะยังไม่ส่งเรื่องฟ้อง ผมก็เลยถ่วงเวลาไปบอกไม่มีใบแจ้งหนี้แล้ว ไม่มีบาร์โค๊ด ไปชำระที่ธนาคารก็ไม่สะดวก เจ้าหน้าที่เลยบอกว่าเดี๋ยวจะออกบาร์โค๊ดแล้วให้แมสเซนเจอร์เอาไปส่งให้ที่บ้าน ผมก็นิ่งๆไว้วางสายไป

ถ้ามารูปแบบนี้ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ ยังไม่ควรจ่ายไปก่อน500-600ไหมครับ เพราะไม่แน่เดือนหน้าผมอาจจะมีเงินเข้ามาก้อนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่พอปิดทั้งหมดน่ะครับ คงจะเลือกปิดยอดที่ไม่เยอะไปก่อน ส่วนที่ยอดเยอะๆคงทำยอม แล้วจ่ายขั้นต่ำไปก่อนรอจังหวะมีเงินแล้วค่อยข้อแฮร์คัต

ขอคำชี้แนะด้วยครับ

การจ่าย 500-600 มันคือการจ่ายหยอด และมันเกี่ยวข้องกับอายุความด้วย (เริ่มนับใหม่)...

ไม่ต้องจ่าย การจ่าย 500-600 มันคือการจ่ายหยอด และมันเกี่ยวข้องกับอายุความด้วย (เริ่มนับใหม่)...

Angsuu เขียน: การจ่าย 500-600 มันคือการจ่ายหยอด และมันเกี่ยวข้องกับอายุความด้วย (เริ่มนับใหม่)...

เรื่องจริงครับห้ามทำมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน

Angsuu เขียน: การจ่าย 500-600 มันคือการจ่ายหยอด และมันเกี่ยวข้องกับอายุความด้วย (เริ่มนับใหม่)...

เรื่องจริงครับห้ามทำ

คราวหน้าบอกไปเลยครับ....ไอ้ 500 - 600 น่ะ เงินไว้กินข้าวของผมนะ

จ่ายไปแล้วผมอดตาย ก็ไม่ได้ใช้หนี้คืนน่ะดิ......ไม่จ่ายหรอก............

แบงค์ชอบชวนให้จ่ายหยอด อย่าไปเชื่อลมปากเขานะครับ

ไอ้ที่บอกให้จ่าย500-600 มันเงียบไปเลยครับ ช่างมันรอมันติดต่อมาใหม่เอง
แต่วันที่1/2/12 ก็ขึ้นศาลนัด2 ของกรุงไทยแล้ว คงต้องทำยอมจ่ายขั้นต่ำไปก่อนครับ จนกว่าจะมีเงินก้อนมาปิดได้ ตอนนี้ก็ดันป่วยอีก เฮ้อ!!!

ขออนุญาตค่ะ คุณGioGio
อยากทราบว่า ถ้าเรายังไม่มีจ่าย ตอนไปศาลเราบอกว่ายังไม่มี ไม่ได้เหรอคะ
ถ้าเรามีบัตรหลายใบ แล้วทยอยจ่ายขั้นต่ำของแต่ละใบไปเรื่อยๆ
เราก็จะกลับไปสู่ขั้นตอน สมัยก่อนหยุดจ่ายหรือเปล่าคะ
คือ ดิฉันกังวลเรื่องของตัวเองเหมือนกัน ว่าถ้าต้องไปศาลขึ้นมาจริงๆสักวันนึง
นึกอยากจะให้ ศาลท่านสั่งอายัดเงินเดือนไปเลยดีไหม เพราะยังไงก็อายัดได้แค่เจ้าเดียว
มันจะดีกว่า ทยอยจ่ายไหมคะ

อ๋อ...แต่ถ้า คุณGioGio เงินเดือนสูงทางชมรมว่าไม่ควรทำวิธีนี้ แต่ดิฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาไงดีน้ออออ?

wikanmar เขียน: ขออนุญาตค่ะ คุณGioGio
อยากทราบว่า ถ้าเรายังไม่มีจ่าย ตอนไปศาลเราบอกว่ายังไม่มี ไม่ได้เหรอคะ

ก่อนไปศาล เราต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า ว่าเราจะไปเพื่ออะไร จะไปเพื่อให้ศาลพิพากษา หรือเลื่อนนัด หรือยอมความ หรือจะสู้คดี จะต้องคำนวนหนี้ที่มีอยู่ และวิธีการจัดการก่อนครับ....ไม่ใช่ไปแบบลอยๆ....

ถ้าเรามีบัตรหลายใบ แล้วทยอยจ่ายขั้นต่ำของแต่ละใบไปเรื่อยๆ
เราก็จะกลับไปสู่ขั้นตอน สมัยก่อนหยุดจ่ายหรือเปล่าคะ

ถ้าหมายถึง หนี้ทุกตัวให้ศาลพิพากษา หรือยอมความ แล้วผ่อนไปทุกเจ้า ต้องดูยอดรวมว่ามันเกิน 30% ของเงินเดือนหรือเปล่า ถ้าเกินจนจ่ายไม่ไหว ก็อาจต้องยอมให้บังคับคดีอายัดเงินเดือนจะดีกว่า และควรสำรวจทรัพย์สินของตัวเองไว้ก่อนที่จะส่งฟ้องด้วย มันจะไมเหมือนกับสมัยตอนหยุดจ่ายนะครับ เพราะครั้งนี้ถ้าไม่จ่าย เจ้าหนี้จะอาศัยอำนาจศาลยื่นบังคับคดีครับ.....

คือ ดิฉันกังวลเรื่องของตัวเองเหมือนกัน ว่าถ้าต้องไปศาลขึ้นมาจริงๆสักวันนึง
นึกอยากจะให้ ศาลท่านสั่งอายัดเงินเดือนไปเลยดีไหม เพราะยังไงก็อายัดได้แค่เจ้าเดียว
มันจะดีกว่า ทยอยจ่ายไหมคะ

ก็ต้อง plan ไว้ล่วงหน้านะครับ สำรวจภาระหนี้ รายรับ รายจ่าย และกำลังการใช้หนี้ครับ ศาลท่านจะไม่สั่งให้อายัด หรือยึดทรัพย์เลยหรอกครับ ศาลท่านเพียงตัดสินว่าคุณต้องใช้หนี้เท่าไหร่ และเสียดอกเบี้ยเท่าไหร่ มันต้องเป็นไปตามขั้นตอน

อ๋อ...แต่ถ้า คุณGioGio เงินเดือนสูงทางชมรมว่าไม่ควรทำวิธีนี้ แต่ดิฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาไงดีน้ออออ?

ต้องดูว่าคุณเก็บเงินได้มากน้อยเท่าไหร่ต่อเดือน คุณสามารถแฮร์คัทได้บ้างหรือไม่กี่เจ้า...คุณจะปล่อยให้ฟ้องกี่เจ้า ยอดประมาณเท่าไหร่ คุณสามารถจ่ายได้ไหมเมื่อศาลตัดสิน ถ้าไม่ไหวหรือเกิน 30% ของเงินเดือนจะทำอย่างไร ปล่อยให้บังคับคดีดีมั๊ย เป็นต้นครับ.....

ดูเหมือนว่าคุณ wikanmar ยังไม่ค่อยเข้าใจแนวทางแก้หนี้ของชมรมนะครับ.....

ผมเอง ตอนเข้าชมรมใหม่ๆ กังวลมาก กลัวว่าต้องไปศาล จะทำไงดี เอาเข้าจริงผมแฮร์คัทปิดหนี้เกือบหมดแล้วครับ เผลอๆ อาจไม่มีโอกาศได้ไปเยี่ยมศาลเลยก็ได้ อาจเป็นกรรมการท่านเดียวที่ไม่มีประสบการณ์ไปศาลก็ได้......

wikanmar เขียน: ขออนุญาตค่ะ คุณGioGio
อยากทราบว่า ถ้าเรายังไม่มีจ่าย ตอนไปศาลเราบอกว่ายังไม่มี ไม่ได้เหรอคะ

คุณอยากจะบอกอย่างนั้นต่อหน้าศาลก็ได้ครับ...ไม่ผิดกฏหมายหรอก
ศาลท่านจะได้พิพากษาภายในวันนั้นไปเลย

ถ้าเรามีบัตรหลายใบ แล้วทยอยจ่ายขั้นต่ำของแต่ละใบไปเรื่อยๆ
เราก็จะกลับไปสู่ขั้นตอน สมัยก่อนหยุดจ่ายหรือเปล่าคะ

มันจะเป็นการ"จ่ายหยอด"เพื่อต่ออายุความ
ซึ่งจะทำให้ลูกหนี้ ไม่สามารถหยิบยกเอาเรื่อง"อายุความ"มาสู้คดีในชั้นศาลได้เลย

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=53077

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=725&Itemid=29

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=33282&limitstart=6

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=1904&Itemid=29

ส่วนเงินที่จ่ายหยอดเข้าไปนี้ ก็จะถูกนำไปหักชำระเป็น ค่าปรับ , ค่าล่าช้า , ค่าทวงถาม เสียก่อนเป็นลำดับแรก
ถ้าหักแล้วยังเหลือเงินอีก ก็จะนำไปหักเป็นค่าดอกเบี้ยอีก เป็นลำดับที่สอง
แล้วถ้าหักค่าดอกเบี้ยแล้ว ยังมีเงินเหลืออยู่อีก ถึงจะนำไปหักเป็นค่าเงินต้นต่อไป เป็นลำดับสุดท้าย

มันคุ้มค่ากับการ"จ่ายหยอด"ไหมล่ะครับ?

คือ ดิฉันกังวลเรื่องของตัวเองเหมือนกัน ว่าถ้าต้องไปศาลขึ้นมาจริงๆสักวันนึง
นึกอยากจะให้ศาลท่านสั่งอายัดเงินเดือนไปเลยดีไหม เพราะยังไงก็อายัดได้แค่เจ้าเดียว

ไม่ใช่หน้าที่ของศาล

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=969

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=2082

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=4057

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=6303

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=2247&Itemid=29

สวัสดีครับ

ตอนนี้ก็ปิดไปได้ 2 เจ้าแล้ว คือเครดิตกรุงศรี กับCITI advance ยกภูเขาไปได้เปราะนึง ตัวเบาหวิวเลย (เบาเพราะจ่ายเงินไปก้อนใหญ่เลย )

พอดีวันนี้ได้คุยกับเพื่อน เค้ามาปรึกษาเรื่องหนี้ของเค้า เค้าเป็นหนี้CITI loanอยู่ประมาณ150,000 ขึ้นศาลและศาลตัดสินแล้ว ตอนนั้นเค้าคิดว่าพอมีเงินเลยขอส่วนลดที่จะปิด ทางสำนักงานกฎหมายบอกได้ที่85,000 แบ่งได้ 2 งวด เค้าก็ตกลง และได้ทำหนังสือแจ้งข้อตกลงมา แต่ถึงเวลาจริงๆเค้าหาเงินมาจ่ายทั้ง 2งวดไม่ได้ จนถึงวันนี้เค้าบอกว่าสำนักงานกฎหมายโทรมาเตือนว่าถ้าไม่จ่ายภายในวันนี้สัญญาที่ตกลงกันเป็นอันยกเลิก และอาจจะต้องบังคับคดี เค้าบอกว่าขอเลื่อนไปอีก 2 อาทิตย์เพราะเค้าจะได้เงินก้อนมา มันก็ไม่ยอม บอกวันนี้วันสุดท้ายเท่านั้น เค้าเห็นผมเพิ่งจะปิดของCITI advanceไป ก็เลยมาปรึกษา
ผมขอถามแทนเพื่อนนะครับ
1. กรณีอย่างนี้ จะสามารถเจรจากันอีกได้ไหมครับ เพื่อจะได้ไม่โดนบังคับคดี
2. ยังจะได้ส่วนลดอีกไหม ถ้าปิดเป็นเงินก้อน ผมบอกเค้าไปว่าส่วนลดถ้าได้เจรจาอาจจะมีแต่คงได้ไม่เท่าเดิม ผมแนะนำเค้าถูกรึเปล่าครับ
3. เค้าควรจะทำอย่างไรบ้างครับ

ขอบคุณแทนเพื่อนด้วยนะครับ

ปล พรุ่งนี้ตัวเองก็ต้องไปศาลนัด2 ของกรุงไทยแล้ว หุหุ

GioGio เขียน: สวัสดีครับ

ตอนนี้ก็ปิดไปได้ 2 เจ้าแล้ว คือเครดิตกรุงศรี กับCITI advance ยกภูเขาไปได้เปราะนึง ตัวเบาหวิวเลย (เบาเพราะจ่ายเงินไปก้อนใหญ่เลย )

พอดีวันนี้ได้คุยกับเพื่อน เค้ามาปรึกษาเรื่องหนี้ของเค้า เค้าเป็นหนี้CITI loanอยู่ประมาณ150,000 ขึ้นศาลและศาลตัดสินแล้ว ตอนนั้นเค้าคิดว่าพอมีเงินเลยขอส่วนลดที่จะปิด ทางสำนักงานกฎหมายบอกได้ที่85,000 แบ่งได้ 2 งวด เค้าก็ตกลง และได้ทำหนังสือแจ้งข้อตกลงมา แต่ถึงเวลาจริงๆเค้าหาเงินมาจ่ายทั้ง 2งวดไม่ได้ จนถึงวันนี้เค้าบอกว่าสำนักงานกฎหมายโทรมาเตือนว่าถ้าไม่จ่ายภายในวันนี้สัญญาที่ตกลงกันเป็นอันยกเลิก และอาจจะต้องบังคับคดี เค้าบอกว่าขอเลื่อนไปอีก 2 อาทิตย์เพราะเค้าจะได้เงินก้อนมา มันก็ไม่ยอม บอกวันนี้วันสุดท้ายเท่านั้น เค้าเห็นผมเพิ่งจะปิดของCITI advanceไป ก็เลยมาปรึกษา
ผมขอถามแทนเพื่อนนะครับ
1. กรณีอย่างนี้ จะสามารถเจรจากันอีกได้ไหมครับ เพื่อจะได้ไม่โดนบังคับคดี

เจรจาได้ครับ....หลังจากได้รับคำพิพากษาแล้วภายใน 15 วัน ถ้ายังหาเงินไม่ทันต้องจ่ายเงินเข้าไปก่อนนะครับ เจรจากับเจ้าหนี้ดูว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ( หมายถึงจ่ายกี่งวด งวดละเท่าไหร่ ยอดและดอกเบี้ยตามคำพิพากษา ) ที่เหลือค่อยเจรจาแฮร์คัท

2. ยังจะได้ส่วนลดอีกไหม ถ้าปิดเป็นเงินก้อน ผมบอกเค้าไปว่าส่วนลดถ้าได้เจรจาอาจจะมีแต่คงได้ไม่เท่าเดิม ผมแนะนำเค้าถูกรึเปล่าครับ

คุณแนะนำได้ถูกต้องแล้วครับ แต่คราวหน้าก่อนเจรจาถามเพื่อนด้วยว่ามีเงินพร้อมแค่ไหน ถ้ายังไม่พร้อมก็อย่าไปตกลงซี้ซั้วครับ....

3. เค้าควรจะทำอย่างไรบ้างครับ

ตามข้อ 1 และข้อ 2 ครับ

ขอบคุณแทนเพื่อนด้วยนะครับ

ปล พรุ่งนี้ตัวเองก็ต้องไปศาลนัด2 ของกรุงไทยแล้ว หุหุ