ทยอยขึ้นศาล

สวัสดีครับ

เพื่อนผมบอกว่าเมื่อกี้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานกฎหมายโทรมาบอกว่าให้จ่ายให้ได้ภายในวันนี้ ถ้าเลยวันนี้ไปเรื่องจะไปอยู่อีกที่แผนกนึง เพราะเรื่องได้ถูกศาลตัดสินเรียบร้อยแล้ว และเค้าก็ได้ตกลงไว้แล้วว่าจะจ่ายภายใน2งวดแต่ไม่สามารถชำระได้ ถ้าเรื่องถูกส่งไปคราวนี้จะต้องจ่ายเต็มจำนวนหรือโดนอายัดเงินเดือน เค้ากังวลใจมากไม่อยากถูกอายัดเงินเดือนกลัวจะเสียชื่อ เงินตอนนี้เค้าก็ยังไม่มี ผมเลยบอกใจเย็นๆ สามารถแฮร์คัทได้ตลอด แต่ดูเค้าร้อนใจมาก

ผมควรแนะนำเค้ายังไงดีครับ

ขอบคุณค่ะ คุณ batk & คุณ นกกระจอกเทศ

จริงๆก็อ่าน ของเพื่อนๆ พี่ๆ มาประมาณ 5 เดือนแล้วนะคะ
แต่ยอมรับว่า เครียดมาก จนเบรอๆ ต่อจากนี้จะพยายามตั้งสติดูใหม่
และจะนำกระทู้ ที่คุณ batk & คุณ นกกระจอกเทศ แนบไว้ให้
มาอ่านใหม่ และ อ่านให้บ่อยขึ้นค่ะ จะได้เข้าใจ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

batk เขียน: คราวหน้าบอกไปเลยครับ....ไอ้ 500 - 600 น่ะ เงินไว้กินข้าวของผมนะ

จ่ายไปแล้วผมอดตาย ก็ไม่ได้ใช้หนี้คืนน่ะดิ......ไม่จ่ายหรอก............

ชอบประโยคนี้จัง....ขอยืมใช้บ้าง...

สวัสดีครับ

หายไปนานเลย วันนี้มาอัพเดทครับ

คราวนี้ธนาคารUOB มันโทรมาอีกช่วงก่อนสงกรานต์ ว่าตอนนี้ยอดหนี้อยู่ที่ประมาณ69,000

มันเสนอให้ปิดที่ 35,000 ผมก็ถ่วงเวลาไปบอกว่าหลังสงกราต์ค่อยติดต่อมาใหม่ได้ไหม ตอนนี้ยัง

ไม่มีเงิน ต้องรอดูหลังสงกรานต์ แล้วหลังสงกรานต์ไม่กี่วันมันก็โทรมา บอกว่าคราวนี้ลดให้อีกเหลือ

ที่30,000 พอดีผมติดพักร้อนเลยบอกว่าอีก2-3 วันโทรมาใหม่นะ ผมเลยลองรวบรวมเงินดูแล้วก็

พอที่จะปิดได้ จนถึงวันที่มันโทรมา ผมลองต่อไปที่27,000 ดู มันก็บอกขอปรึกษาทางแบงค์ดูก่อน

แล้วจะให้คำตอบ แล้วอีก 2 วันมันก็โทรมาบอกว่าได้แต่ต้องชำระภายในงวดเดียวในเดือนนี้เท่านั้น

ผมก็ตกลง รอให้มันทำหนังสือเงื่อนไขมาตรงตามที่ตกลง แล้วผมก็ไปชำระ แล้วรอหนังสือปิดบัญชี

อีก 2 อาทิตย์ ผมยังสงสัยอยู่ว่าทำไมมันลดให้เยอะจัง เงินต้นเกือบ50,000 ลดให้เหลือ27,000

แต่ดูแล้วมันก็ตรงกับในหนังสือเงื่อนไข

หมดอันนี้ไปแล้วก็ยังเหลืออีกไม่กี่ตัว และยังรอลุ้นให้ตัวนึงหมดอายุความอยู่ ใกล้แล้วครับ

GioGio เขียน: พอดีวันนี้ได้คุยกับเพื่อน เค้ามาปรึกษาเรื่องหนี้ของเค้า เค้าเป็นหนี้CITI loanอยู่ประมาณ150,000 ขึ้นศาลและศาลตัดสินแล้ว ตอนนั้นเค้าคิดว่าพอมีเงินเลยขอส่วนลดที่จะปิด ทางสำนักงานกฎหมายบอกได้ที่85,000 แบ่งได้ 2 งวด เค้าก็ตกลง และได้ทำหนังสือแจ้งข้อตกลงมา แต่ถึงเวลาจริงๆเค้าหาเงินมาจ่ายทั้ง 2งวดไม่ได้
จนถึงวันนี้เค้าบอกว่าสำนักงานกฎหมายโทรมาเตือนว่าถ้าไม่จ่ายภายในวันนี้สัญญาที่ตกลงกันเป็นอันยกเลิก และอาจจะต้องบังคับคดี
1. กรณีอย่างนี้ จะสามารถเจรจากันอีกได้ไหมครับ เพื่อจะได้ไม่โดนบังคับคดี
2. ยังจะได้ส่วนลดอีกไหม ถ้าปิดเป็นเงินก้อน ผมบอกเค้าไปว่าส่วนลดถ้าได้เจรจาอาจจะมีแต่คงได้ไม่เท่าเดิม ผมแนะนำเค้าถูกรึเปล่าครับ
3. เค้าควรจะทำอย่างไรบ้างครับ

สวัสดีครับ
เพื่อนผมบอกว่าเมื่อกี้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานกฎหมายโทรมาบอกว่าให้จ่ายให้ได้ภายในวันนี้ ถ้าเลยวันนี้ไปเรื่องจะไปอยู่อีกที่แผนกนึง เพราะเรื่องได้ถูกศาลตัดสินเรียบร้อยแล้ว และเค้าก็ได้ตกลงไว้แล้วว่าจะจ่ายภายใน2งวดแต่ไม่สามารถชำระได้ ถ้าเรื่องถูกส่งไปคราวนี้จะต้องจ่ายเต็มจำนวนหรือโดนอายัดเงินเดือน เค้ากังวลใจมากไม่อยากถูกอายัดเงินเดือนกลัวจะเสียชื่อ เงินตอนนี้เค้าก็ยังไม่มี ผมเลยบอกใจเย็นๆ สามารถแฮร์คัทได้ตลอด แต่ดูเค้าร้อนใจมาก

สองคำถาม กอบัวอาจจะตอบช้าไป แต่อยากตอบเพื่อเป็นความรู้กับสมาชิกคนอื่นๆ
ในกรณีของเพื่อนคุณ เจ้าหนี้ถือว่า "ถือแต้ม ถือไพ่" เหนือกว่า เพราะเขามี "คำพิพากษาในมือ"
การเจรจาส่วนลดอาจจะไม่งามเหมือนก่อนขึ้นศาล หรือตอนได้รับหมายศาลมาใหม่ๆ
แต่ไม่ใช่ว่า จะขอไม่ได้ เจ้าหนี้ก็อยากได้เงินคืนเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการเจรจาและ "เงินในมือมีหรือเปล่า" ถ้ามีเงินเสียงก็ดัง
เพื่อนคุณถามเอาแต่ได้...หยุดจ่าย จนฟ้อง เก็บเงินไม่ได้ ไปตกลงกับเขาโดยไม่ดูว่าตัวเองมีกำลังเท่าไหร่ รับปากส่งๆไป มันเลยมีผลเสียแบบนี้
คดีใดที่ศาลพิพากษาไปแล้ว หรือลูกหนี้(จำเลย) มีการไกล่เกลี่ยยอมความกับเจ้าหนี้ หากปฏิบัติไม่ได้ เจ้าหนี้สามารถถือคำพิพากษาไปบังคับคดีได้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำ
โดยเข้าสู่กระบวนการอายัดเงินเดือน อายัดทรัพย์ ป่านนี้แล้วไม่รู้เพื่อนคุณเป็นอย่างไร อันนั้นไม่เอา อันนี้ไม่ได้ ก็ต้องหาเงินมาใช้หนี้เขานั่นแหละ...
งานนี้...ต้องทำใจค่ะ ทำใจยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองทำมา

ส่วนคุณ...กอบัวดีใจด้วยค่ะ กับการปิดหนี้ของ UOB ได้อย่างสวยสดงดงาม...ส่วนลด...

UOB คงคอนเซปเดิมครับ

ทวงถ่อย ลดงาม ฟ้องแล้วอาจเคลียร์ยาก

อัพเดทเพิ่มเติมในส่วนของเพื่อนผม

พอดีได้มีโอกาสเจอกัน ผมก็เลยถามว่าเป็นอย่างไรบ้างเรื่องCITI

เพื่อนผมบอกว่าหลังจากที่จ่ายมันไม่ได้ตามที่ตกลง ก็มีพนักงานจากสำนักงานกฎหมายโทรมา

เพื่อนผมบอกว่าจำชื่อมันได้ขึ้นใจเลย น้ำเสียงการพูดจาของมันยียวนกวนส้นเท้ามาก

มันบอกประมาณว่า มาหลอกให้มันเสียเวลาเพื่อนผมมันก็โมโห บอกว่ามันไปว่าไม่ได้หลอก

อย่าใช้คำพูดนี้ ตอนนั้นมีเงินชำระจริงๆ แต่มีมีเรื่องต้องใช้เงินจำนวนนั้น มันก็บอกว่าไม่จ่ายก็ไม่

ต้องทำอะไรแล้วอยู่เฉยๆไปแล้วกัน ปล่อยไปตามขั้นตอนแล้วมันก็วางไป

พออีกวันเพื่อนผมก็โทรไปที่citi แล้วciti ก็บอกว่าจะให้เจ้าหน้าที่ดูแลบัญชีติดต่อกลับ

ซักพักก็มีเจ้าหน้าที่โทรมา จากสำนักงานกฎหมายเดิมแต่เป็นคนละคน เจ้าหน้าที่บอกว่าเมื่อวาน

ได้มีเจ้าหน้าที่โทรไปแล้ว เพื่อนผมก็บอกว่าเจ้าหน้าที่เมื่อวานพูดจาใช้น้ำเสียงไม่ดีเลย เจ้าหน้าที่

ที่โทรมาก็บอกขอโทษแทนลูกน้องเค้าด้วย ตัวเค้าเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่เมื่อวาน ต่อไปเค้าจะ

ดูแลบัญชีให้เอง ถ้ามีเงินปิดที่68,000 เมื่อไหร่ก็แจ้งได้เลย แล้วก็วางไป ผ่านไปอีก 2 เดือน

ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาบอกเพื่อนผมว่า เสนอให้ปิดที่58,000 ภายในเดือนนี้ถ้าไม่อย่างนั้นคงต้อง

ส่งเรื่องอายัดเงินเดือน พอดีเพื่อนผมมีเงินพอดี ก็เลยลองต่อไปที่55,000 ก็ได้มา เลยจบกันไป

ที่55,000 ผมก็เลยบอกว่าโชดดีแล้วมีเวลาหายใจเก็บเงินแถมได้ลดลงมาอีก เรื่องเพื่อนผมก็

จบลงด้วยดีครับ

แอร๊ย แอบอิจฉา...
หม่อนเป็นหนี้ UOB ยอด 66000 ต่อได้แค่ 33000 เองค่ะ
นี่ขนาดต่อกันตั้งสามเดือนเชียวนะคะ

GioGio เขียน: สวัสดีครับ

พอดียุ่งๆเลยไม่ได้มามาอัพเดทไปขึ้นศาลของกรุงไทยเมื่อวันที่26ที่ผ่านมา
เลยขอเป็นวันนี้นะครับ

ไปศาลวันนั้นก็ตั้งใจอยู่แล้วครับว่าไปเพื่อขอเลื่อนไปก่อน วันนั้นในห้องมีหลายคดี พอผมไปถึงสักพักทนายโจทย์ก็มา แล้วเรียกผมไปคุย ทนายโจทย์บอกว่า ยอดฟ้องทั้งหมดประมาณ180,000บาท เงินต้นประมาณ130,000บาท ดอกเบี้ยประมาณ50,000บาท ทางแบงค์ลดดอกให้30%เหลือดอกประมาณ35,000บาท รวมกับต้นเป็นประมาณ160,000บาท ให้ผ่อนชำระได้ 36 งวด ตกงวดละประมาณ4,000กว่าบาท แต่ถ้าเดือนไหนไม่มีจ่ายขั้นต่ำ 2,000บาทได้ แต่มันจะหนักตอนปลาย ผมเลยบอกทนายโจทย์ไปว่าขอคุยกับทางแบงค์ก่อนได้ไหมว่าจะมีส่วนลดอะไรได้อีกบ้าง ทนายโจทย์เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวขอเลื่อนไปก่อนก็ได้ ให้ผมโทรไปคุยตกลงกับแบงค์ก่อน ทนายโจทย์เลื่อนไปเกือบ2เดือน แต่ศาลท่านบอกให้เลื่อนได้แค่เดือนเดียว ก็เลยเลื่อนไปเป็นวันที่ 1/2/55 ได้เวลามาก็ยังดี

ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินเลย คิดว่านัดหน้าคงจะต้องทำยอมไปก่อน ผ่อนขั้นต่ำไปเดือนละ 2,000บาท เก็บเงินได้ค่อยขอส่วนลดน่าจะเป็นทางออกที่ผมคิดได้ตอนนี้นะครับ
ยังไงก็ขอคำแนะนำจากพี่ๆด้วยนะครับ

วันนี้ 31/12/54 ผมขอสวัสดีปีใหม่กับทุกๆท่านด้วยนะครับ ขอให้ปลดหนี้กันได้หมดถ้วนหน้าครับ im_here

สวัสดีค่ะ คุณ Gio Gio

รบกวนถามเรื่องบัตรกรุงไทยค่ะ ที่ทำยอมผ่อนชำระ 36 งวด ทางบัตรกรุงไทยมีคิดดอกเบี้ยไหมคะ หรือปลอดดอกเบี้ย
(พอดียอดเท่ากับของน้องค่ะ ผ่อน 36 งวดเหมือนกัน แต่คิดดอกเบี้ย 10% ของเงินต้น (ตอนแรกคิด 15% ลดให้เหลือ 10%)

สวัสดีครับ คุณkook

ของผมไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มจากยอดประมาณ165,000 (เงินต้น 130,000 + ดอกเบี้ย

35,000) ครับ

ของผมกรุงไทยมี 3 ยอดคือ

1. บัตรเครดิต ประมาณ 70,000

2. สินเชื่อบุคคล ประมาณ 30,000

3. cash revolve ประมาณ 30,000

ฟ้องทั้งหมดรวมกัน

ตอนนี้ก็ยังจ่ายขั้นต่ำ2,000 แยกเป็น บัตรเครดิต 1,000 สินเชื่อบุคคล 500 cash

revolve 500 ไปก่อนครับ กะว่ามีเงินก้อนจะขอปิดทีละตัวครับ

kook เขียน:
สวัสดีค่ะ คุณ Gio Gio

รบกวนถามเรื่องบัตรกรุงไทยค่ะ ที่ทำยอมผ่อนชำระ 36 งวด ทางบัตรกรุงไทยมีคิดดอกเบี้ยไหมคะ หรือปลอดดอกเบี้ย
(พอดียอดเท่ากับของน้องค่ะ ผ่อน 36 งวดเหมือนกัน แต่คิดดอกเบี้ย 10% ของเงินต้น (ตอนแรกคิด 15% ลดให้เหลือ 10%)

ก็กลับไปอ่านสัญญาประนอมยอมความสิครับ...เจ้าหนี้เขาต้องเขียนรายละเอียดแบบครบถ้วนนะครับ

batk เขียน:

kook เขียน:
สวัสดีค่ะ คุณ Gio Gio

รบกวนถามเรื่องบัตรกรุงไทยค่ะ ที่ทำยอมผ่อนชำระ 36 งวด ทางบัตรกรุงไทยมีคิดดอกเบี้ยไหมคะ หรือปลอดดอกเบี้ย
(พอดียอดเท่ากับของน้องค่ะ ผ่อน 36 งวดเหมือนกัน แต่คิดดอกเบี้ย 10% ของเงินต้น (ตอนแรกคิด 15% ลดให้เหลือ 10%)

ก็กลับไปอ่านสัญญาประนอมยอมความสิครับ...เจ้าหนี้เขาต้องเขียนรายละเอียดแบบครบถ้วนนะครับ

ผมคงเบลอๆไป...ขอโทษด้วยนะครับ....

สวัสดีครับ

หายไปนานเลย มัวแต่หาเงินใช้หนี้อยู่ แหะๆ

ช่วงที่หายไปผมก็ทยอยจ่ายหนี้ไปเรื่อยๆ ของกรุงไทยและเฟิร์สช๊อย จ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆก่อน ยังไม่

มีเงินก้อนไปปิด แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมก็ได้รับจดหมายจากสำนักงานกฎหมาย ใจความมีว่า

ผมมียอดหนี้ที่ต้องชำระอยู่ประมาณ 88,000 บาทของบัตรเครคิตกรุงศรี ให้ติดต่อกลับภายใน 7 วัน

ตอนแรกผมก็งงว่า ผมปิดบัตรเครดิตกรุงศรีไปเรียบร้อย ตั้งปีนึงมาแล้ว แล้วทำไมยังจะมาทวงอีก

พอดูที่ยอดเงินกับเลขที่สัญญา ทำให้รู้ว่าเป็นของบัตรเครดิตHSBC ที่ผมยังค้างอยู่ เพราะHSBC

ได้เป็นของกรุงศรีไปแล้ว ทีนี้หนี้บัตรเครดิตHSBCอันนี้ มันได้ขาดอายุความไปหลายเดือนแล้ว

ผมเลยมีเรื่องรบกวนปรึกษาพี่ๆด้วยครับ ว่าผมควรจะทำอย่างไรดี จะติดต่อกลับไปที่สำนักงาน

กฎหมายดีไหม หรือควรจะนิ่งๆไว้ รอให้ส่งหมายศาลมาแล้วไปสู้ในศาลดีครับ

ขอคำแนะนำด้วยครับ

GioGio เขียน: สวัสดีครับ

หายไปนานเลย มัวแต่หาเงินใช้หนี้อยู่ แหะๆ

ช่วงที่หายไปผมก็ทยอยจ่ายหนี้ไปเรื่อยๆ ของกรุงไทยและเฟิร์สช๊อย จ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆก่อน ยังไม่

มีเงินก้อนไปปิด แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมก็ได้รับจดหมายจากสำนักงานกฎหมาย ใจความมีว่า

ผมมียอดหนี้ที่ต้องชำระอยู่ประมาณ 88,000 บาทของบัตรเครคิตกรุงศรี ให้ติดต่อกลับภายใน 7 วัน

ตอนแรกผมก็งงว่า ผมปิดบัตรเครดิตกรุงศรีไปเรียบร้อย ตั้งปีนึงมาแล้ว แล้วทำไมยังจะมาทวงอีก

พอดูที่ยอดเงินกับเลขที่สัญญา ทำให้รู้ว่าเป็นของบัตรเครดิตHSBC ที่ผมยังค้างอยู่ เพราะHSBC

ได้เป็นของกรุงศรีไปแล้ว ทีนี้หนี้บัตรเครดิตHSBCอันนี้ มันได้ขาดอายุความไปหลายเดือนแล้ว

ผมเลยมีเรื่องรบกวนปรึกษาพี่ๆด้วยครับ ว่าผมควรจะทำอย่างไรดี จะติดต่อกลับไปที่สำนักงาน

กฎหมายดีไหม หรือควรจะนิ่งๆไว้ รอให้ส่งหมายศาลมาแล้วไปสู้ในศาลดีครับ

ขอความกรุณาพี่ๆทุกท่านช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ

เข้าไปที่ ห้องรู้ทันกฏหมายหนี้ มีหัวข้อเรื่องอายุความ โดยคุณนกกระจอกเทศ

อ่านแล้วจะเข้าใจค่ะ

ขอสอบถามเกี่ยวกับ

ขอรบกวนปรึกษาครับ

วันนี้ได้รับหนังสือจากกรมบังคับคดีแจ้งจะขออายัดเงินเดือน30% จากยอดหนี้ประมาณ180,000 บาท

ของธนาคารกรุงไทยเป็นบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล

โดยส่งไปที่บริษัทเก่าที่เคยทำงาน แต่ปัจจุบันกำลังรอจะเริ่มงานที่บริษัทใหม่ในวันที่16เดือนนี้ ที่บริษัท

ใหม่ได้เงินเดือน30,000+

ขอคำปรึกษาว่าควรจะติดต่อไปที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยตามเบอร์ที่ให้ไว้ในใบบังคับคดีเพื่อขอชำระเอง จะสามารถ

ทำได้หรือไม่ เพราะไม่อยากให้มีปัญหากับบริษัทที่กำลังจะไปเริ่มงาน

ขอบคุณครับ

น่าจะได้นะครับ เพราะมีพี่คนหนึ่งที่ทำงานเก่าเค้าโทรไปคุยแล้วจ่ายแค่ 10% ครับ ไม่งั้นเงินไม่พอใช้